19 มิถุนายน 2548 01:23 น.
pigstation
เด็กจำนวน 55 คนต่อห้องเรียน
แต่ละชั้นเรียน 9 ห้อง
จ่ายค่าเรียนพิเศษคนละ 300 ต่อเดือน
นับเงินจนมือหงิกกันเลย
ส่วนเด็กก็วิ่งชนกันเป็นหนอนหน้าแล้งแย่งสารอาหาร
ฉันจึงค่อยรู้ตัวว่า
ปณิธานที่คิดกำลังสวนทางทำมาหารับประทาน
สงสารตัวเองมากที่เห็นเด็กถูกป้อนโปรแกรม
การประกวดวาดรูปคือการที่ครูวาดเป็นแบบแล้วให้เด็กมาใกซ้อมตามหัวข้อ
ถึวจะรู้ว่า มีเด็กไทย 9 ขวบไปคว้ารางวัลที่ 1 ที่เอ็กโปญี่ปุ่น
ที่โตโยต้าพาวิลเลี่ยน
แต่ต้องไม่ใช่เด็กตามโรงเรียนตามหัวเมืองอย่างนี้
เด็กที่วาดรูปอย่างนั้น ภาพของแกจากจินตนาการแกเองแท้ๆฉันดูออก ฉันเก่งพอ แต่ภาพที่ครูแทบจะจับมือเด็กวาดประกวดแล้วมาภูมิใจในเหรียญรางวัล ส่วนเด็กก็ได้กะตังค์
มันสวนทางกัน
ฉันเป็นครูนะไม่ใช่ผู้ประกอบการ
แม้จะรู้ดีว่าเด็กแต่ละคนชอบใจที่เจอครูวาดเขียน
ที่ชักชวนให้พวกเขาวาดเซเว่น-อิเลฟเว่นสาขาหน้าบ้านตัวเอง
(ยังมีเด็กบางคนมาต่อรองจะวาดร้านขายผลไม้)
หรือการวาดยุงลายดอกไม้ ลายดวงดาว สารพัดลาย
10 วันกว่าสาหัสในความรู้สึกของการผลิตแบบจักรกล
ได้แต่ปลอบใจว่า ในเมื่อสังคมเป็นอย่างนี้
เราก็ควรยอมรับ
และผละออกมาเสียก่อนจะถูกกลืนกินอีกครั้ง
เลยตัดสินใจสมัครเป็นยาม
ที่บริษัทสยามคอร์ปเรชั่น
คอยดูความไม่ชอบมาพากล
คอยตรวจตราความไม่เข้าท่า
แต่พร้อมจะเปิดประตูให้อะไรที่เป็นสากลเข้ามายังสยามคอร์ปเรชั่นได้
ครับ ผมเป็นยามรักษาการณ์บริษัทสยามคอปเรชั่น
ที่สงสารเปรียบมากเพราะใครๆก็จ้องจะเอาเปรียบกันทั้งนั้น
ช่วยกันเก็บเปรียบให้ประเทศหน่อยสิครับ
ช่วยกันเก็บเปรียบให้พ้นนักการเมืองบางคนด้วยรับพี่น้อง
17 มิถุนายน 2548 03:14 น.
pigstation
เขาเท้าคางเพ่งมองความคิดตัวเองที่กำลังไหลวนอยู่ภายใต้ฝ่าเท้าตัวเอง เป็นระลอกคลื่นสีสันพร่าพราย แปลกตรงที่อาการกระฉอกของกระแสความคิดนั้น ไม่ได้ทำให้ชายกางเกงเขาเปียกซ่าน
ใครจะมองเห็นความคิดของตัวเองได้บ้าง มันไม่ต่างจากของเหลวในสภาพไหลวนรอบตัวเรา ต่างสีสันกันตามแต่สภาวะ หรืออารมณ์ภายในแห่งเราเป็นที่ตั้ง
เสียแต่ว่าเขาไม่ได้จัดอยู่ในประเภทของบุคคลผู้เปี่ยมความสามารถในการเพ่งมองความคิดทั้งตัวเอง และคนรอบข้างได้
แต่ยังดี เขายังมองเห็นความคิดส่วนตัวได้ ซึ่งบางคนนั้นไม่มีแม้โอกาสใด จะมองเห็นได้เลยแม้หยดหนึ่ง กระทั่งอณูโมเลกุลความคิดตัวเอง นอกจากเฝ้ากำหราบให้ความคิดที่มีอยู่จริงเป็นไปตามการชักนำของความคิดอันเชี่ยวกรากกว่า โหมพัดไหลวนอยู่ทั่วทุกหย่อมย่าน
ดังนั้นการนำเสนอความคิดของบุคคลบอดใบ้ไร้สัมผัสต่อความคิดตัวเอง มักหยิบยกเอาวัตถุมากำบังตัว เพื่อเสนอนำไปสู่การเป็นตัวแทนความคิดออกมาให้ใครต่อใครพบเห็น
วัตถุมากมายกำลังเพิ่มจำนวนขึ้นมา ตามแต่เสียงเรียกร้องจากฝูงชน
โลกใบเก่าอาจผุกร่อนลงไปทางกายภาพ หากแต่ปัญญาฌาณกลับแผ่ขยายออกไปสัมผัสแตะกับวงความคิดอันเริ่มกระจ่างขึ้น
เขาอิ่มเอิบขึ้นมาทีละน้อย ยิ้มให้ดวงใจตัวเองทีละนิด
กระเป๋าเขากำลังแฟบลงทีละนิด
สวนทางกับผู้ไร้โอกาสแลเห็นการกระเพื่อมไหวทางความคิดกำลังกอบโกยเงินตราเข้าไปเป็นโภคทรัพย์
เพื่อเพิ่มเติมวัตถุรอบตัวในนามความมั่นคง
การจับจ่ายล้วนเป็นไปเพื่อประโยชน์รอบข้าง
แล้ววันหนึ่งเขาก็ถูกอุทกภัยทางความคิดท่วมท้นกลืนร่างเลือนหายไป