2 เมษายน 2556 11:48 น.

ขนมหวานไม่ง้อเตาอบ again

pebble



เริ่มจากทำเค้กป๊อปก่อน เอาเศษเค้กมาผสมกับน้ำตาลไอซิ่งปั้นเป็นก้อนแล้วแช่เย็นแล้วขังลืมไว้เลย มาต่อที่คาราเมล คัสตาร์ดที่รอคอย เริ่มจากทำน้ำตาลเคลือบหน้า โอ้โห ไม่คิดเลยว่าต้องใจเย็นขนาดนี้ ต้องรอน้ำตาลละลายในกระทะตั้งไฟอ่อน รอจนเริ่มเมื่อยนิดๆ ก็ได้ที่ แล้วรีบเอาใส่พิมพ์ จากนั้นมาทำตัวคัสตาร์ด ระหว่างทำไปคุณครูก็ชวนเม้าท์มอยไป คุณครูบอกว่าใครอยากทำคัสตาร์ดขายน่าจะรุ่ง เพราะต้นทุนส่วนวัตถุดิบของขนมชนิดนี้แค่ถ้วยลละ 3.50 บาท กรี๊ดสิคะ เวลาไปซื้อเค้ากินตั้ง 50-60 บาท คอยดูนะ ต่อไปนี้พวกนั้นจะไม่ได้กินเงินชั้นอีก!

                พอตัวคัสตาร์ดเสร็จปุ๊ปก็เอาใส่พิมพ์แล้วนึ่ง แป๊ปเดียวเอง 3-5 นาทีก็สุกละ เนื้อที่ได้จะเนียนๆ ดี คุณครูบอกว่าถ้าใช้เตาอบอาจจะเนื้อหยาบกว่านี้นิดส์นึง แต่อันนี้เหมือนไข่ตุ๋นเลย ชอบเนื้อนะ ส่วนรสชาติเราว่าหวานไปหน่อย (แต่เราเป็นคนไม่กินหวาน) ปรับลดน้ำตาลได้ไม่ต้องห่วง มาถึงพายเลมอน อันนี้ไม่เคยรู้มาก่อนว่าเป็นยังไง คุณครูก็เอาแครกเกอร์มาบดๆ แล้วก็ผสมกับเนยละลาย กรุใส่พิมพ์แล้วก็เอาไปแช่เย็นให้แข็งตัวไว้ก่อน มาทำตัวครีมบ้าง เอาวิปครีมผสมกับครีมชีสแล้วก็ใส่น้ำเลมอนลงไปปรุงรสหวานเปรี้ยวตามชอบ แล้วก็เอาไปใส่กับแครกเกอร์ที่ทำไว้ก่อนหน้านี้ พอลองชิมแล้วอร่อยเชียว เราชอบนะ กินแล้วหอมกลิ่นมะนาวสดชื่นดี

                กลับมาที่เค้กป๊อป เกือบลืมไปแล้ว ละลายช็อกโกแลตสำหรับเคลือบก่อน แล้วรอให้ช็อกโกแลตหายร้อนซักหน่อย ถึงเอาเค้กที่ปั้นไว้ออกมา เสียบไม้ จุ่มช็อกโกแลต แล้วก็เอาลูกกวาดสีๆ มาแต่งลายตามใจชอบ มันสนุกตอนแต่ง แต่รู้เลยว่าถ้าทำเองมันไม่สนุกตอนล้างจานแน่ๆ 555

                คลาสนี้จบลงด้วยได้เค้กป๊อปกลับไปคนละ 10 กว่าชิ้น พายเลมอนอีก 3-4 ถาดกลางแล้วก็คัสตาร์ดอีก 5-6 ชิ้น อิ่มหมีพีมันเลยทีเดียว  

2 เมษายน 2556 11:20 น.

พาสต้าจ้า

pebble



ว่างจัด เราเลยกลับมาเรียนกับ Cooking Monster อีกแล้ว คราวนี้ลองของคาวมั่ง เป็นของโปรดเราเอง ลาซานญ่ากับพาสต้า วันนี้คุณครูสอนทำเส้นสดด้วย

                ก่อนอื่นเลยเราเริ่มทำเส้น ก็ใช้แป้งสาลีอเนกประสงค์มาผสมกับน้ำมัน เกลือ ไข่ นวดไปนวดมาแล้วพักแป้งไว้ก่อน แล้วมาทำซอส เราเริ่มทำซอสโบโลเนสก่อน อันนี้เป็นซอสแดงสูตรเบสิคเลย แล้วก็ถึงหันมาทำซอสขาวคาร์โบนาร่ามั่ง โอ้ววว เห็นคุณครูโรยชีสแล้วแอบซีดเล็กน้อย มิน่าล่ะพอกินบ่อยๆ แล้วรอบเอวเพิ่มขึ้น เสร็จแล้วก็มานวดแป้ง กล้ามขึ้นกันเลยทีเดียว เราลองนวดแป้งลาซานญ่า แบบไม่ใช้เครื่องดู โอววว เหงื่อตก พอนวดแป้งเสร็จก็หันมาทำแป้งรูวซ์ที่เอาไว้ใส่บาซานญ่า เราว่าแป้งรูวซ์ที่นี่เข้มข้นได้ใจไปเลย พอเสร็จแล้วก็เอามาประกอบชั้นลาซานญ่า ชีสอีกแล้วครับท่าน ไม่อ้วนไม่กลับ สู้เว้ยงานนี้ เพื่อชีสที่รัก แล้วเอาเข้าอบ ระหว่างอบก็มาลวกเส้นเตรียมกินกับซอสคาร์โบนาร่า ลาซานญ่าสุกพอดีกับที่ลวกเส้นเสร็จพอดี ออกมาลองกินพร้อมกัน 2 อย่าง อืมมม จบคลาสแบบอิ่มตื้อๆ ไปเลย

                สรุปแล้วคลาสนี้เราว่าเหมาะสำหรับคนที่ชอบอาหารอิตาเลียนจริงๆ นะ เพราะถ้าใครที่ไม่ชอบชีส นม ไข่ อาจจะเลี่ยนไปเลย 

 

 

2 เมษายน 2556 11:14 น.

คอร์สคัพเค้ก

pebble



หลังจากที่ครั้งก่อนไปเรียนขนมไม่ง้อเตาอบมาแล้ว เราเลยลองมาเรียนทำขนมแบบอบดูมั่ง เพราะเตาอบที่บ้านถ้าปล่อยไว้จนหยากไย่จะขึ้นอยู่ละ เลยขอมาเรียนประดับความรู้เตรียมเจิมเตาอบซธหน่อย

                พอมาถึงที่เรียนเพิ่งรู้ว่าถ้าเคยเรียนกับ Cooking Monster ครั้งนึงแล้ว ครั้งต่อๆ ไปได้ลด 5 % ด้วย ^^ แอบดีใจ มาถึงปุ๊ป เจ้าหน้าที่เอาตังค์ส่วน 5 % มาคืนให้ด้วย

                วันนี้ที่เรียนมีรสเบสิค อย่างวานิลลา ช็อกโกแลตแล้วก็ เรดเวลเวทที่เป็นเค้กสีแดงๆ เริ่มทำจากวานิลลาก่อนเลย ที่เรียนวันนี้เป็นเนื้อบัตเตอร์ เนื้อที่ออกมาเลยแน่นขาดใจ เพราะรู้สึกจะหนักเนยเหมือนกัน ใครที่ชอบกินเค้กเนื้อแน่น เราว่าน่าจะชอบอันนี้นะ ตอนอบอยู่นี่หอมมากมาย มาถึงช็อกโกแลต ผงโกโก้ที่ใช้ผสมนี่ทุ่มทุนสร้างมากเพราะใช้ของ Van Houten ในสูตรใส่ประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ ถ้าเรากลับมาทำที่บ้านเองอาจจะแอบใส่เยอะกว่านั้น อิอิอิ มาถึงเรด เวลเวท ที่อันนี้แอบยุ่งยากกว่ารสอื่นหน่อย แต่โดยรวมแล้วโอเค

                ที่ชอบที่สุดคือตอนทำครีมแต่งหน้า คุณครูสอน 2 แบบคือแบบครีมเนยกับครีมที่ใช้วิปครีม โดยส่วนตัวเราชอบกินแบบวิปครีมมากกว่านะ บีบง่ายกว่าด้วย แต่ละลายง่ายมาก โดยเฉพาะวันอากาศร้อน แต่ครีมเนยนี่ถ้าตีไม่เนียนแล้วเราว่าบีบยากมากมาย

                พอเรียนเสร็จได้คัพเค้กกลับคนละ 10 กว่าถ้วยแน่ะ ทั้งอิ่มทั้งเปรม

 

2 เมษายน 2556 11:09 น.

มูส พานาคอตต้า ทีรามิสุ

pebble



เราก็เป็นคนนึงที่ชอบทำขนมนะ อยู่ว่างๆ ไม่มีไรทำ ไปป๊ะกับคอร์สสอนทำอาหารแบบสั้นๆ วันเดียวจบของ Cooking monster ที่มีสอนขนมไม่ง้อเตาอบ ซึ่งเราว่าก็โอนะ เพราะเราว่าตอนนี้หลายๆ บ้านก็ไม่ค่อยซื้อเตาอบติดไว้กันเท่าไหร่ เลยลองไปเรียนดู

                หลักสูตรที่สมัครไปผ่านเว็บไซต์ www.cooking-monster.com เป็นขนมหวานไม่ง้อเตาอบหลักสูตร 1 เราอยากเรียนอันนี้เพราะเห็นมีทีรามิสุด้วยเลยลองสมัครดู

                วันที่ไปเรียนก็เริ่มจากคุณครูแนะนำส่วนผสมกับอุปกรณ์ก่อน แล้วมาเริ่มทำพานาคอตต้ากับซอสสตรอเบอร์รี่ สูตรวันนี้ที่ทำเราชอบนะ เพราะไม่หวานมาก ทำง่ายดีด้วย แป๊ปเดียวเองก็เสร็จแล้ว (แต่ตอนแช่รอเซ็ตตัวนานมากอ่ะ) ซอสสตรอเบอร์รี่ที่ราดหวานไปหน่อยสำหรับเรา ถ้าทำเองคงลดน้ำตาลได้ ต่อด้วยช็อกโกแลตมูส อันนี้ชอบมากอย่างแรง เนื้อเนียนๆ ฟูๆ ดี มาถึงทีรามิสุที่รอคอย อั่ยย่ะ! ไม่คิดว่าส่วนผสมหลายตัวจะอลังการขนาดนี้ คุณครูเอาชีสมาสคาโปเน่มีตีกับวิปครีมก่อน ๖ชีสอันนี้แหละขาดไม่ได้ ไม่งั้นไม่ได้รสชาติมันๆ ) เสร็จแล้วก็เอาขนมเลดี้ฟิงเกอร์ที่มีขายทั่วไปมาชุบกับกาแฟเอสเปรสโซแล้วใส่แก้วสลับชั้นกับครีมที่ตี ตบท้ายด้วยผงโกโก้โรย โอ้ เริ่ดอยู่อะไรอยู่

                สรุปโดยรวมแล้วเราว่ามาเรียนอันนี้ก็ดีเพราะเป็นขนมที่ทำให้เรารู้สึกว่าไม่ขี้เกียจถ้าจะไปซ้อของมาทำ เพราะมันง่ายแล้วก็สะดวกดี ที่สำคัญทำออกมาแล้วรสชาติโอเค หน้าตาเก๋ไก๋เอาไปอวดเพื่อนๆ ได้ด้วย

1 เมษายน 2556 12:09 น.

อาหารไทย อะไรดัง

pebble

พูดถึงอาหารไทยเมื่อไหร่เป็นน้ำลายสอเมื่อนั้น เพราะรสชาติที่จัดจ้าน  ทั้งเปรี้ยวจี๊ด เผ็ดจ๊าดจนได้เป่าปากกันเป็นแถว เพราะฉะนั้นหากใครที่อยู่ในประเทศไทย หรือมาเยี่ยมประเทศไทยแล้วไม่มากินอาหารเหล่านี้ เดี๋ยวจะเหมือนมาไม่ถึงนะ

1.     ส้มตำ ของคู่ชาติคู่เมือง กับมะละกอฝานเป็นเส้น คลุกเคล้ากับเครื่องอย่างกระเทียม พริก ปรุงรสให้จี๊ดๆ ด้วยน้ำมะนาว น้ำปลาเสียหน่อยให้พอกลมกล่อม รับรองว่าเมนูนี้หาได้ทั่วไปตั้งแต่ท้องถนนไปจนถึงร้านอาหารสุดหรูในประเทศไทยแน่นอน หรือใมครอยากมากินร้านนี้ ส้มตำบางกอกที่รวบรวมเอาส้มตำหลากหลายชนิดมาไว้ด้วยกันก็ได้นะ (http://www.twosave.com/th/restaurants/som-tum-bangkok/)

2.     แกงกะทิต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแกงเขียวหวาน พะแนง มัสมั่น เพราะเสน่ห์ที่ไม่เคยจางหายของกลิ่นเครื่องเทศหอมแรง พร้อมด้วยรสเข้มข้นของกะทิ เข้ากันดีกับเนื้อสัตว์ อืมมม ลองมาที่ห้องอาหารริมน้ำ ณ โรงแรม อนันตรา หัวหิน ดู (http://www.twosave.com/th/restaurants/rim-nam/) ขอบอกว่าแกงปูใส่ใบชะพลูเด็ดอย่าบอกใคร

3.     ผัดไท ก็แหมๆๆ ชื่อบอกซะขนาดนั้น เส้นก๋วยเตี๋ยวเหนียวนุ่มไปรัดพันใจกันได้ไม่ยาก จานนี้มาพร้อมเป็นแพคเกจกับรสอมเปรี้ยวจากมะขามเปียก ตัดกับความเค็มของกุ้งแห้งและมีความหวานนิดๆ ของหัวไชโป้ว ทำเอาฝรั่งมังค่าคลั่งกันไปนักต่อนักแล้ว ใครอยากลองกินแบบเริ่ดๆ บ้างมาลองที่นี่เลยห้องอาหารชามไทย http://www.twosave.com/th/restaurants/charm-thai/

4.     ต้มยำกุ้ง ดังจนถึงขั้นเอาไปตั้งเป็นชื่อภาพยนตร์มาแล้ว ที่สำคัญจานนี้เหมาะที่สุดกับสาวๆ ที่อยากรักษาหุ่น เพราะมีสมุนไพรต่างๆ มากมายบวกกับรสแซบๆ ทำให้หลายคนติดใจมากนักต่อนักแล้ว

5.     ข้าวเหนียวมะม่วง กินของคาวเสร็จแล้วก็อย่าลืมต่อด้วยของหวาน เมนูนี้มีข้าวเหนียวที่มูลมาเค็มนิดๆ จากน้ำกะทิและกินคู่กับมะม่วงสุกรสหวานตัดกันดีทีเดียว 

Calendar
Lovers  0 คน เลิฟpebble
Lovings  pebble เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟpebble
Lovings  pebble เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟpebble
Lovings  pebble เลิฟ 0 คน
  pebble
ไม่มีข้อความส่งถึงpebble