16 กรกฎาคม 2548 15:08 น.
Pat_Big
ตอนที่ 5 "เพื่อน"
ซุ้มริมแม่น้ำหลังคณะศิลปกรรมฯ เป็นที่ ๆ ต๊อบและเพื่อน ๆ ร่วมวงมักจะนัดมาพบปะสังสรรค์กันที่นี่ เพราะว่าบรรยากาศค่อนข้างเงียบสงบ เป็นส่วนตัวและก็ไม่ค่อยมีผู้คนพลุกพล่านมากนัก
เพราะเป็นที่ร่ำลือมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วว่า ที่แม่น้ำหลังคณะศิลปกรรมฯ มีนักศึกษาหญิงมากระโดดน้ำตายที่นี่ทำให้ไม่ค่อยมีใครกล้าย่างกรายเข้ามาใกล้ที่นี่มากนัก ต๊อบกับเพื่อน ๆ คิดว่ามัเป็นเรื่องตลก
เพราะตั้งแต่พวกเค้าเรียนที่นี่มา ก็ยังไม่เคยเจอ "วิญญาณนักศึกษาสาว" คนนั้นเลยสักครั้งเดียว ถึงจะมีคนคอยขู่อยู่บ่อย ๆ ว่าภารโรงประจำมหาวิทยาลัยเคยเจอวิญญาณของเธอซะจนจับไข้หัวโกร่น
แต่พวกหนุ่ม ๆ กลุ่มนี้ก็ยังยึดที่นี่เป็นที่ประจำการของพวกเค้ามาแต่แรกที่เข้ามาเรียนที่นี่เลยทีเดียว
ต๊อบพายูจังซึ่งเก้ ๆ กัง ๆ ด้วยความประหม่าเดินเข้ามาหาเพื่อน ๆ ซึ่งกำลังง่วนคุยอะไรสักอย่างกันอยู่ ต่างคนต่างขะมักเขม้นจนไม่ได้สังเกตเห็นผู้มาใหม่
"เฮ้ พวกนาย ทำอะไรกันอยู่"
ต๊อบทักทายขึ้นแต่ดูเหมือนว่าเพื่อน ๆ ของเค้าจะไม่มีใครได้ยินนะ
"เฮ้ เฮ้ พวกนาย ทำอะไรกันอยู่"
ต๊อบพยายามอีกครั้ง เค้ารู้ดีว่าเวลาที่เพื่อน ๆ เค้าตั้งใจ หรือ หมกหมุ่นอยู่กับอะไรสักอย่างก็มักจะเพิกเฉยต่อสิ่งรอบข้างแบบนี้แหละ
ในที่สุดต๊อบก็ต้องงัดไม้ตายมาใช้
"เฮ้ นี่พวกนาย พี่แยมมาโน่นแล้ว"
ต๊อบตะโกน และก็ได้ผล พวกหนุ่ม ๆ ทั้งสี่ต่างเงยหน้าขึ้นมาแล้วมองหา "พี่แยม" เป็นตาเดียวกัน
"ไอ้ต๊อบ!! ไอ้เพื่อนเวร แกอำพวกชั้นทำไมวะ"
"ไวน์" หนุ่มหล่อประจำกลุ่มว๊ากใส่ต๊อบ
"นั่นสิ เสียอารมณ์หมด"
"วอร์ม" เอ่ยขึ้นพลางทำหน้าเสียอารมณ์ให้ดูจริง ๆ
"เล่นของสูงนะแกไอ้ต๊อบ พี่แยมน่ะ ของสูงนะว้อย"
"โก้" หนุ่มที่หลงรักพี่แยมมากที่สุด เอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ
"พอเลยไอ้โก้ แกน่ะหมาเห่าเครื่องบิน"
"ไกด์" อีกหนุ่มที่เหลือเอ่ยขึ้น
ต๊อบขบขันกับอาการของเพื่อน ๆ เอ๊ะ! จะมีใครสังเกตมั้ยนะ ว่ายูจังยืนอยู่ตรงนี้ ยูจังยืนมองพวกเค้าอย่างเก้ ๆ กัง ๆ ไม่คุ้นกับบรรยากาศกลุ่มเพื่อนแบบนี้ เพราะยูจังไม่เคยมีเพื่อนสนิทเลย
"พวกนายทำอะไรกันอยู่ ชั้นเรียกพวกนาย พวกนายก็ไม่ได้ยินสักคน" ต๊อบเอ่ยถามหลังจากโดนเพื่อน ๆ รุมสวดเรียบร้อยแล้ว
"ปรึกษากันว่าจะกำจัดไอ้พี่อาร์ทยังไงดี ฆ่าหมกป่า รึว่าเผานั่งยาง" ไกด์ตอบหน้าตาเฉย
"ไอ้ไกด์ คุกนะมึง" โก้ปรามเพื่อนแต่ก็ร่วมหัวเราะไปกับทุกคนที่เหลือ ยกเว้นยูจัง ยูจังยังคงยืนประหม่าอยู่
"เออ ฉันเกือบลืม นี่ยูจังเพื่อนใหม่ของพวกเรา ยูจัง นี่ไงเพื่อน ๆ ของเรา ที่ฉันบอกนาย"
ยูจังโค้งคำนับให้ทุกคนพลางส่งยิ้มอย่างเป็นมิตร ซึ่งก็ได้รับรอยยิ้มตอบกลับมาเช่นกัน นาทีนั้นยูจังรู้สึกอุ่นวาบเล็ก ๆ ขึ้นมาในหัวใจ เค้ารู้สึกว่าคนกลุ่มนี้ยินดีจะต้อนรับเพื่อนใหม่อย่างเค้า
"หวัดดียูจัง ฉันชื่อไวน์"
"ฉันวอร์ม"
"ฉันไกด์"
"ส่วนฉันโก้นะ"
หนุ่มทั้ง 4 คนต่างเข้ามาทักทายยูจังด้วยการจับมือ ทุกคนไม่ได้แสดงท่าทีรังเกียจ หรือเขม่นเพื่อนใหม่ที่เป็นชาวต่างชาติอย่างยูจังเลย
"ต๊อบบอกกับฉันว่าพวกนายเล่นดนตรีด้วยกัน พวกนายเล่นอะไรกันบ้างเหรอ" ยูจังถาม
"ฉันมือกลอง" ไวน์ตอบ "ฉันชอบระบายอารมณ์กับกลองน่ะ เวลาโกรธใครฉันก็จะตีกลองอย่างบ้าระห่ำ มันหายแค้นดี"
"ฉันเล่นเบส" วอร์มเอ่ยขึ้น "ฉันว่าฉันใจเย็นกว่านายนั่น (วอร์มหมายถึงไวน์) ฉันไม่เคยระบายอารมณ์กับเบสสุดที่รักของฉันเลย"
"ฉันเล่นกีตาร์" ไกด์ตอบบ้าง "แต่ฉันว่าพักนี้ต๊อบชักจะพัฒนาฝีมือน่ากลัวเข้าไปทุกวันแล้ว เห็นทีฉันต้องปรับปรุงตัวเองบ้าง"
"ส่วนฉัน เป็นตัวแถมไม่ได้มีหน้าที่เล่นอะไร อยู่กวนประสาทพวกมันเฉย ๆ" โก้ตอบหน้าตาเฉย ยูจังยิ้มแหย ๆ ไม่รู้จะพูดอะไร ต๊อบตบหัวโก้ไปเบา ๆ
"ไอ้โก้ กวนประสาทมากไปแล้วนะ เดี๋ยวเหอะ เดี๋ยวก็ได้หลุดจากตำแหน่งจริง ๆ" ต๊อบพูดดุ ๆ
"โห ไอ้ต๊อบ มึงจะเอากูถึงตายเลยเหรอ ล้อเล่นนิดเดียวเอง" โก้ยิ้มยียวนพลางพูดเป็นการเป็นงานขึ้นกว่าเดิม
"ฉันเล่นคีย์บอร์ด ก็ไอ้พวกนี้มันแย่งฉันเล่นไปหมด ฉันก็เลยเสียสละเล่นคีย์บอร์ดให้พวกมัน ฉันเป็นคนดีเห็นมั้ยยูจัง ตำแหน่งนี้ไม่ค่อยมีใครอยากเล่นร๊อก" โก้พูดพลางยืดตัวอย่างวางท่าเป็นคนสำคัญ
"หืม กูหมั่นไส้มึงเหลือเกิน มาให้กูเตะรับขวัญมึงสักทีได้มั้ย"
วอร์มพูดพลางลุกขึ้นวิ่งไล่โก้ ทำท่าจะเตะจริง ๆ ทำให้ทั้งกลุ่มหัวเราะร่วนกันอีกครั้ง
"เลิกเล่นกันได้แล้วน่า ว่าแต่เมื่อกี้พวกนายทำอะไรกันอยู่" ต๊อบถามขึ้น
"อ๋อ ก็กำลังปรึกษากันเรื่องงานดนตรีอีก 3 เดือนข้างหน้านี่สิ คือไอ้พี่อาร์ทมันเรียกพวกเราไปคุย ได้เรื่องมาว่ามันจะไปร้องให้กับวงอื่น วงเราก็ขาดนักร้องนำสิทีนี้" ไวน์พูดเซ็ง ๆ
"ไอ้พี่อาร์ทมันรู้น่ะสิว่าวงพวกเราน่ะ เล่นดนตรีกันพอใช้ได้ก็จริง แต่ว่าเรื่องเสียงร้องเนี่ย ขนาดพวกเราพูดกันยังผิดคีย์เลย แล้วก็ไม่มีใครถนัดร้องเพลงด้วย ถ้าขาดไอ้พี่อาร์ทซะ โอกาสชนะงานดนตรีคราวนี้ของพวกเราก็มีหวังศูนย์แน่ ๆ"วอร์มอธิบาย
"มันแย่ขนาดนั้นเลยเหรอวะ พวกเราไม่มีใครร้องเพลงเพราะ ๆ ดี ๆ ไม่ผิดคีย์สักคนเลยเหรอ" ไกด์พูดหน้าเครียด
"โห ไอ้ไกด์ มึงก็เห็น พวกเราอยู่กันมาปีนึงแล้ว มีใครร้องเพลงได้เรื่องที่ไหน ร้องทีไรแม่งไล่คนดูทุกที มึงจำงานคราวที่แล้วไม่ได้รึไง ที่มึงไปร้องแทนไอ้พี่อาร์ทน่ะแค่ขึ้นท่อนแรกมาก็โดนโห่แทบตาย กูเนี่ยแทบจะเอาหน้าไปมุดดิน มึงเห็นหน้าไอ้พี่อาร์ทมั้ย มันจงใจแกล้งพวกเราไง มันคิดว่ามันหล่อ มันเป็นประธานชมรม มันแน่อยู่คนเดียวเพราะมันร้องให้วงไหน วงนั้นก็ชนะทุกที กูนะ อยากจะให้มีใครมาปราบเซียนสักทีเหอะ กูอยากจะดูหน้ามันนัก"โก้พูดอย่างเหลืออด
ยูจังฟังเรื่องที่พวกหนุ่ม ๆ ตรงหน้าคุยกันอย่างเข้าใจบ้าง ไม่เข้าใจบ้าง
"เอ่อ ขอโทษนะ คือฉันไม่ได้คิดว่าฉันเก่งอะไร แต่ฉันพอจะร้องเพลงได้ จริง ๆ ฉันอยากเล่นกีตาร์มากกว่า แต่ว่าในเมื่อพวกนายมีมือกีตาร์ดี ๆ อยู่แล้ว 2 คน ฉันก็เลยคิดว่า ฉันอยากจะร้องเพลงให้กับพวกนายน่ะ แต่ว่าถ้าพวกนาย เอ่อ ไม่สนใจ ก็ไม่เป็นไร" ยูจังกลั้นใจพูดด้วยความประหม่า
ทันทีที่ยูจังพูดจบ ต๊อบก็ตบมือดังฉาด ทำเอาทุกคนตกใจ
"อะไรของมึง ห๊า ไอ้ต๊อบ" ไกด์สบถ
"ฉันแน่ใจว่ายูจังจะทำให้วงของพวกเรามีภาษีไม่แพ้วงของไอ้พี่อาร์ทแน่ เมื่อกี้ฉันได้ฟังยูจังเล่นกีตาร์และก็ร้องเพลง พวกสาว ๆ แถวนั้นนะ เคลิ้มกันไปเลยเชียวแหละถ้าได้ยูจังมาอยู่กับพวกเรา โอกาสชนะของพวกเรามีมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์แน่ ๆ "
"เจ๋ง!!!" ทั้ง 4 หนุ่มอุทานขึ้นพร้อมกัน
"ยูจัง นายเป็นแสงสว่างท่ามกลางความมืดมิดของพวกเรา ขอยินดีต้อนรับ" ไวน์พูดเลี่ยน ๆ ทำให้ทุกคนหัวเราะ
"มึงไปจำประโยคสะเหร่อ ๆ นี่มาจากไหนวะไอ้ไวน์" โก้ถาม
"ก็จากการ์ดที่มึงเคยเขียนให้พี่แยมไง ลืมแล้วเหรอ "พี่แยมครับ พี่แยมเป็นแสงสว่างกลางใจที่มืดมิดของผมครับ" โห กูจะอ้วก" ไวน์ตอบพลางหัวเราะตัวงอ ทำเอาทุกคนหัวเราะไปด้วย โก้ส่งสายตาเคืองแค้นให้ทุกคนก่อนจะพูดต่อ
"เออ ต๊อบ แต่ว่าก่อนยูจังจะเข้าประจำวงของมหาลัย มันมีกฎอยู่ว่า จะต้องทดสอบก่อน แล้ว เอ่อ ยูจังร้องเพลงไทยได้รึเปล่า"
ทุกคนมีสีหน้ากังวลขึ้นมาทันที แม้แต่ยูจัง ยูจังร้องได้แต่เพลงภาษาญี่ปุ่น แล้วก็ไม่เคยฟังเพลงไทยด้วยซ้ำ อย่าว่าแต่ร้องเลย ยังไม่รู้จักด้วยซ้ำว่าเพลงไทยเป็นยังไง
"เอ่อ คือฉันจะพยายามฝึกร้องเพลงไทย" ยูจังบอกทุกคน
"ฉันรู้ว่านายจะพยายามเพื่อพวกเรา แต่การทดสอบมีวันพรุ่งนี้แล้ว นายจะเตรียมตัวทันเหรอ เออ แต่ว่าฉันได้ยินมาจากเนยว่า ไอ้พี่อาร์ทมันจะทดสอบยูจังด้วยเพลงญี่ปุ่นนี่นา ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรหรอก เอาเป็นว่าถ้ายูจังผ่านการทดสอบ เราค่อยมาสอนเรื่องเพลงไทยให้ยูจังก็แล้วกันนะ" ต๊อบบอกกับทุกคน
"ก็ไม่น่าจะมีปัญหานะ เว้นแต่ว่าไอ้พี่อาร์ทมันจะเล่นพิเรนทร์ เห็นว่ายูจังเป็นนักร้องใหม่ของวงเรา แล้วจะให้พวกเราเล่นเพลงญี่ปุ่น ชิบหายเลยนะมึง เพลงญี่ปุ่นกระดิกหูกูที่ไหน กูฟังแต่ร็อกฝรั่งกับไทย"ไกด์เอ่ย
"ร็อกสะเดิดน่ะสิมึงน่ะไอ้ไกด์" โก้พูด แต่ก่อนที่ทั้งไกด์กับโก้จะวางมวยกัน วอร์มก็พูดขัดขึ้นมาก่อนว่า
"ไม่น่าจะเป็นอย่างนั้นหรอก แบบนั้นมันดูจงใจเกินไป ถ้าไอ้พี่อาร์ทมันจะเล่นงานพวกเราน่ะ มันต้องแนบเนียนกว่านี้ ทำแบบนั้นอาจารย์จับได้กันพอดี ว่ามันจงใจแกล้งพวกเราแต่เรื่องที่จะรับยูจังเป็นนักร้องของวงน่ะ ต้องให้ผ่านพรุ่งนี้ก่อน ถ้าไอ้พี่อาร์ทมันไม่กะสกัดดาวรุ่งอย่างยูจัง พรุ่งนี้เราก็จะได้รับยูจังเป็นนักร้องนำคนใหม่อย่างเต็มตัว"
"ไอ้พี่อาร์ทมันโกงไม่ได้หรอกวอร์ม อาจารย์ทั้งคณะนั่งดูอยู่ด้วย ยังไงฉันว่ายูจังน่ะผ่านฉลุยอยู่แล้วล่ะ" ต๊อบบอก
"เอาเหอะ เอาเหอะ ยังไงก็ขอให้ถึงพรุ่งนี้ก่อนก็แล้วกัน ค่อยมาคิดเรื่องงานดนตรีอีก 3 เดือนข้างหน้า ตอนนี้ฉันหิวแล้ว พวกนายหิวกันมั้ย" ไวน์เอ่ยถาม
ทุกคนพยักหน้า
"งั้นพวกเราไปกินข้าวร้านป้าหน้ามหาลัยดีกว่า เป็นการเลี้ยงต้อนรับยูจังด้วยไง ดีมั้ย" โก้เอ่ยถามความเห็นของเพื่อน ๆ
"ดีเลย ว่าแต่ใครเสนอความเห็น คนนั้นเป็นเจ้ามือนะว้อย" ไกด์พูดหน้าตาเฉย ทำโก้หน้าเสีย
"ได้ทีเลยนะมึงไอ้ไกด์ ได้ไงวะ พวกเราทุกคนต้องช่วยกันเลี้ยงต้อนรับยูจังสิ" โก้โวย
"เอาแบบนี้ดีกว่ามั้ย ฉันไม่ได้จะทำตัวเป็นคนมีเงินอะไรหรอก แต่ว่ามื้อนี้ฉันเลี้ยงเองนะ เป็นการขอบคุณที่พวกนายดีกับฉันรู้มั้ย ฉันไม่เคยมีเพื่อนมาก่อนเลย" ยูจังพูดออกมา
ทุกคนอยากจะถามเหมือนกันว่า "ทำไม" แต่ก็รู้ด้วยสัญชาติญาณว่าไม่ควรจะเอ่ยถามอะไรในตอนนี้ ไวน์เดินมาตบบ่ายูจังเบา ๆ
"อย่าคิดมากน่ายูจัง ไม่ว่านายจะเจออะไรมานะ พวกเราก็ไม่สนหรอก ตอนนี้เราเป็นเพื่อนกันแล้ว มื้อนี้พวกเราเลี้ยงเอง ถ้านายได้เป็นนักร้องนำของวงเราแล้วตอนนั้นนายค่อยเลี้ยงพวกเรา โอเค๊" ไวน์พูดพลางส่งยิ้มจริงใจให้ยูจัง
"ใช่ ๆ เอาอย่างที่ไวน์ว่านั่นแหละดีที่สุด ยูจัง อยู่กับพวกเรา ไม่มีอะไรมาก ทำตัวตามสบาย" วอร์มเสริม
"อืม ถ้าไม่เข้าใจเรื่องภาษา หรือเรื่องอะไรก็ตาม ถามพวกเราได้ตลอดนะ ไม่ต้องเกรงใจ" ไกด์พูดด้วยอีกคน
"แล้วนายก็ไม่ต้องกังวลว่าพวกเราจะไม่ชอบนายนะ พวกเราไม่เกี่ยงอยู่แล้ว ขอให้เป็นคนดีก็พอ เรื่องเชื้อชาติน่ะ พวกเราไม่สน" โก้พูดบ้าง
"ขอบใจพวกนายทุกคนมากนะ" ยูจังเอ่ย พลางส่งยิ้ม
"ไม่เป็นไรยูจัง พวกเราเป็นเพื่อนกันนี่นะ" ต๊อบกล่าวปิดท้าย
แล้วหนุ่ม ๆ กลุ่มนี้พร้อมเพื่อนใหม่อย่างยูจังก็มุ่งหน้าไปร้านอาหารหน้ามหาวิทยาลัย มิตรภาพของพวกเค้าก่อตัวขึ้นจากสิ่งที่พวกเค้ารัก นั่นคือ "ดนตรี"
ในตอนนี้ยูจังอยากจะบอกกับพ่อกับแม่เหลือเกินว่า นอกจากดนตรีจะสอนให้เค้าเป็นคนมีจิตใจอ่อนโยนและละเอียดอ่อนแล้ว ดนตรียังทำให้เค้าได้รับสิ่งที่เค้าอยากได้มาตลอดชีวิต นั่นก็คือ "เพื่อน" นั่นเอง ตอนนี้ยูจังมีเพื่อนแล้ว แล้วก็สบายใจเกินกว่าจะมีอะไรให้กังวลใจในตอนนี้
หลังจากที่เค้กคุยกับมาดามฟูมิเอะเรียบร้อยแล้ว เธอก็มีสีหน้าสดชื่นแต่ก็แฝงไว้ด้วยความกังวลใจเล็กน้อย มันเล็กน้อยจนเธอไม่อยากจะใส่ใจในตอนนี้
เค้กเที่ยวถามใครต่อใครว่าเห็นวีนัสบ้างมั้ย เพราะตั้งแต่เธอเดินตามหาวีนัสมาร่วม 30 นาทีแล้วก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะเจอเลย เค้กคิดว่าคงจะอยู่กับยูจังกับต๊อบ แต่มีเพื่อนที่เรียนห้องเดียวกับต๊อบบอกว่า ต๊อบกับเพื่อน ๆ ทั้งกลุ่มรวมทั้งเด็กใหม่ที่เป็นคนญี่ปุ่นน่ะ ออกไปข้างนอกมหาวิทยาลัยได้สักพักแล้ว
เธอเลยไม่รู้จะไปตามหาวีนัสที่ไหนดี "เนยไปอยู่ที่ไหนของเค้านะ" เธอได้แต่นึกแบบนี้ในใจ ก็พอดีกับพี่อาร์ทประธานชมรมดนตรีเดินมาพอดี
"อ้าว น้องเค้ก ทำไมเดินคนเดียวล่ะครับ น้องเนยไปไหนซะล่ะ" อาร์ทถาม เพราะปกติเห็นเค้กที่ไหนก็มักจะเห็นเนยที่นั่นเสมอ
"เค้กกำลังตามหาเนยค่ะ พี่อาร์ทเห็นเนยบ้างมั้ยคะ" เค้กถามทั้ง ๆ ที่รู้คำตอบอยู่แล้วว่าคง "ไม่"
"เห็นจ้ะ เพิ่งแยกกันหลังจากคุยกับพี่เสร็จเมื่อสักพักนี่เอง พี่ก็นึกว่าน้องเนยไปหาน้องเค้กแล้วซะอีก ยังไม่เจอกันเหรอครับ"
อาร์ทตอบด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ แต่สำหรับเค้กมันเป็นเรื่องแปลก เพราะปกติแล้ววีนัสจะไม่ยอมคุยกับอาร์ท นอกจากจำเป็นจริง ๆ เท่านั้น เค้กอยากจะถามว่า คุยกันเรื่องอะไร แต่เธอคิดว่า เอาไว้ถามกับวีนัสจะเหมาะกว่า เธอจึงแยกกับอาร์ทไปโดยกล่าวขอบคุณ พลางนึกสงสัยเพิ่มขึ้นอีกเรื่อง ว่าวีนัสกับพี่อาร์ทนี่มีเรื่องอะไรต้องคุยกันนะ
16 กรกฎาคม 2548 15:07 น.
Pat_Big
ตอนที่ 4 "อย่าเกลียดผมเลยนะ"
"คุณพูดแบบนั้นทำไม" วีนัสทำหน้ายักษ์ใส่ยูจัง
"แบบนั้น? อะไร?" ยูจังเกาศีรษะ
"ฟังภาษาไทยไม่รู้เรื่องรึไง" วีนัสแหวใส่
"คุณสิพูดไม่รู้เรื่อง ผมฟังรู้เรื่องนะ" ยูจังตอกกลับซะวีนัสอ้าปากค้าง
"เอ๊ะ! คุณอย่ามากวนประสาทฉันนะ"
"กวนประสาท? แปลว่าอะไร" ยูจังไม่เข้าใจคำนี้จริง ๆ
"โอ๊ย! ฉันอยากจะบ้า ฉันอยากรู้ว่าคุณบอกกับมาดามฟูมิเอะว่ายินดีให้ฉันเป็นพี่เลี้ยงทั้ง ๆ ที่ตอนแรกคุณค้านหัวชนฝา ไม่ยอมรับฉัน คุณพูดแบบนั้นทำไม"
"หัวชนฝา? แปลว่าอะไรอีกเนี่ย คุณอย่าพูดอะไรที่มันเข้าใจยากได้มั้ย"
"ไม่ต้องเข้าใจหรอกน่า ให้หัวชนฝาอะไรเนี่ย ตอบฉันมาก็พอว่าพูดแบบนั้นทำไม โดนมาดามบังคับเหรอ"
"lie (อิเยะ=เปล่า)"
"เชื่อตาย!!" วีนัสกลอกตาไปมาอย่างหงุดหงิดใจ
"ตายเหรอ ตายภาษาญี่ปุ่นว่าอะไร ผมไม่เข้าใจ"
"โอ๊ย! ไม่ต้องเข้าใจสักคำได้มั้ย ตามฉันมาก็แล้วกัน"
การรบกันระหว่างวีนัสกับยูจังจบลงด้วยการต่างคนต่างเงียบและก็เดินไปดี ๆ ระหว่างทางยูจังชวนวีนัสคุย ทำให้วีนัสแปลกใจมากที่เค้าเปลี่ยนเป็นคนละคน
"Kyowa iitenki desu ne (เคียววะ อี้เทงกิ เดสเนะ=วันนี้ท้องฟ้าแจ่มใสดีนะ)" ยูจังพูดพลางมองฟ้าด้วยรอยยิ้ม
ถึงวีนัสจะแปลกใจในความเปลี่ยนไปของยูจัง แต่เธอก็ตอบเค้าไป
"e soraniwa mattaku kumomonaishi (เอ้ โซเระนิวะ มัตตะขุ ขุโมโมะไนชิ= อืม ใช่ บนท้องฟ้าเฆมก็ไม่มีเลย)"วีนัสตอบพลางเงยหน้ามองท้องฟ้า
"คุณชอบดูท้องฟ้าเหมือนกันเหรอ" ยูจังเปลี่ยนมาพูดภาษาไทยด้วยสำเนียงญี่ปุ่น วีนัสแอบอมยิ้มในสำเนียงอันน่ารักของยูจัง แต่แกล้งทำสีหน้าขึงขังและหันมาถาม
"ตกลงคุณจะคุยภาษาอะไร"
"ก็สองภาษาไง คุณช่วยสอนภาษาไทยให้ผมด้วยสิ นะ ผมอยากเรียนภาษาไทย"
"แล้วทำไมเรียนเอกดนตรี ไม่เรียนเอกภาษาไทยล่ะ"
"ผมอยากเป็นนักดนตรีเหมือนแม่ผม"
"แม่คุณน่ะนะ เป็นนักดนตรี"
"เอ่อ ผมพูดผิด ผมหมายถึง หมายถึงพ่อผมน่ะ พ่อผมเป็นนักดนตรี"
"เอาให้แน่ พ่อหรือแม่ คุณคงงงสินะ ภาษาไทยน่ะ พ่อก็คือผู้ชาย แม่คือผู้หญิง ภาษาญี่ปุ่นเรียกแม่ของตัวเองว่า Kasan หรือ Haha ใช่มั้ย แต่ภาษาไทยเรียก"แม่" ส่วน Otoosan ของคุณน่ะ ภาษาไทยเรียกว่า พ่อ"
วีนัสได้ทีสอนภาษาไทยด้วยนึกว่ายูจังไม่เข้าใจคำเรียกตามภาษาไทย ยูจังเข้าใจดี แต่ว่าพ่อกับแม่ยูจังเหมือนใครที่ไหนล่ะ!!!
เมื่อเดินถึงหน้าคณะศิลปกรรมฯ วีนัสก็เห็นต๊อบนั่งอยู่คนเดียวกับกีตาร์ตัวโปรด
"ต๊อบๆๆ" วีนัสส่งเสียงเรียกพลางโบกไม้โบกมือ
ต๊อบซึ่งกำลังง่วนกับการตั้งสายกีตาร์เงยหน้าขึ้นมา เมื่อเห็นว่าใครมาก็ยิ้มแป้นให้ทั้งสองคน
"ไงยูจัง เจอกันอีกแล้วนะ" ต๊อบทักทายยูจังเหมือนคนรู้จักทำเอาวีนัสมองทำตาปริบ ๆ
"ทำอะไร" ยูจังถามพลางมองกีตาร์
"ตั้งสายกีตาร์ เสียงมันเพี้ยนน่ะ"
"ให้ฉันช่วยนายนะ" ยูจังเสนอตัว
"ได้เลย ขอบคุณมากยูจัง ฉันตั้งจนเมื่อยมือแล้ว" ต๊อบส่งกีตาร์ให้ยูจัง ก่อนจะถูกเพื่อนสาวลากตัวไปคุยส่วนตัว
"โอย พอๆๆ เนยจะลากต๊อบไปถึงญี่ปุ่นเลยรึไง"
"ต๊อบ!บอกเนยมานะ ไปรู้จักกับนายนั่นได้ยังไง"
"นึกว่าอะไร ยูจังน่ะเหรอ ก็เมื่อเช้าตอนแยกกับเนย ต๊อบเห็นเค้ายืนเก้ ๆ กัง ๆ ก็เลยเข้าไปคุยด้วย เค้าก็อัธยาศัยดีนะ ต๊อบพาเค้าไปหามาดามฟูมิเอะน่ะ"
"รู้มั้ยว่านายคนนั้นเป็นหลานชายมาดามน่ะ"
"รู้" ต๊อบตอบหน้าตาเฉย
"หา!! รู้ได้ไง เนยยังไม่รู้เลย"
"จำนามสกุลมาดามก่อนแต่งงานกับอธิการไม่ได้เหรอเนย"
"ซากุระบะ ฟูมิเอะ"
"ถูกต้องนะคร๊าบบ!" ต๊อบพูดพลางชี้นิ้วทำท่าเลียนแบบประโยคฮิตของคุณปัญญา นิรันดร์กุล
"โอย!! เนยจะบ้าตาย นี่นายนั่นก็เกิดนอะไรขึ้นมาก็ไม่รู้ บอกมาดามว่ายอมให้เนยเป็นพี่เลี้ยงเฉยเลย"
"เอ๊ะ รึว่ายูจังเค้าจะปิ๊งสาวไทยเข้าแล้ว" ต๊อบทำเสียง ทำหน้าล้อเลียนเพื่อนสาวอย่างอารมณ์ดี
"ใคร?"
"ก็นางสาววีนัส พัฒนเวคินน่ะสิครับ"
"บ้าสิ!! นายนั่นไม่มีรสนิยมประหลาดขนาดนั้นหรอก"
"รู้ด้วยเหรอว่าตัวเองเป็นผู้หญิงแปลกๆ"
"นี่ ต๊อบ แหม!! ได้ทีแซวใหญ่เลยนะยะ ใช่สิ เนยไม่น่ารัก อ่อนหวาน เหมือนเค้กนี่นา กิ๊วๆๆ อารมณ์เสียเมื่อเช้าเพราะเห็นเค้กอยู่กับพี่อาร์ทใช่มั้ยล่ะ"
"เค้กไปทำอะไรห้องชมรมฯน่ะเนย อยู่กับพี่อาร์ทสองคนด้วย"
"อ๊ะ ๆ อยากรู้อ่ะเด่ะ"
"ถ้าไม่บอกก็จะไปไหนก็ไป"
"โอ๋ๆๆ แค่นี้ทำหงุดหงิด เค้กเค้าไปช่วยพี่อาร์ทแต่งเนื้อภาษาญี่ปุ่นทดสอบนักร้องใหม่ของชมรม อะไรยะอยู่ชมรมประสาอะไรไม่รู้เรื่องกับเค้าเลยเหรอ"
"อ๋อ! ยูจังน่ะเหรอ ดีๆๆ ขอให้ยูจังได้ร้องแทนอีตาพี่อาร์ทด้วยเหอะ สาธุ" ต๊อบทำท่าไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทำเอาวีนัสหัวเราะก๊าก
"ทำอะไรน่ะต๊อบ อิจฉาพี่อาร์ทขนาดนั้นเลยเหรอ"
"ไม่ได้อิจฉาว้อย แต่ไม่ชอบ เนยก็เห็นว่านายนั่นเจ้าชู้จะตาย นี่ก็ทำท่าจะสนใจเค้ก"
"ไม่หรอกมั้ง ถึงสนเค้กก็ไม่สนใจหรอก เค้กเค้ารู้น่าว่าอะไรเป็นอะไร อีกอย่างเค้กไม่สนหนุ่มไทยหรอกจ้ะ ลืมแล้วเหรอ"
"จริงด้วยสินะ" ต๊อบหน้าจ๋อยไปเลยเมื่อนึกถึงข้อนี้
"ไม่ต้องทำหน้าเสียขนาดนั้นหรอกน่า เนยช่วยเอามั้ยเรื่องเค้กน่ะ"
"จริงเหรอ"
"จริง แต่ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนนะ ต๊อบต้องช่วยเนยแลกกัน ตกลงป่ะ"
"ช่วยอะไร" ต๊อบงุนงง
"เอาเถอะ ตอนนี้ยังไม่ให้ช่วยหรอก เอาเป็นว่าเนยจะช่วยเชียร์ต๊อบเรื่องเค้ก แล้วถ้าเนยให้ต๊อบช่วยอะไร ต๊อบต้องช่วยนะ"
"เอ้ย!! ให้ไปทำอะไรผิด ๆ เนี่ยไม่เอานะ"
"จะบ้ารึไง ไม่ใช่เรื่องไม่ดีหรอกน่า นะ ตกลงนะ"
ต๊อบมองหน้าเพื่อนสาวอย่างชั่งใจ ในที่สุดเค้าก็ตอบตกลง
เมื่อทั้งสองเพื่อนรักคุยกันจบแล้วก็เดินไปหายูจังที่ตอนนี้ตั้งสายกีตาร์เสร็จเรียบร้อยและนั่งเล่นกีตาร์พลางร้องเพลงญี่ปุ่นอยู่อย่างเพลิดเพลินเหมือนกับว่าอยู่คนเดียว อยู่ในโลกส่วนตัว ยูจังไม่ได้สังเกตเห็นเลยว่ามีคนตั้งใจฟังเพลงและเสียงกีตาร์ที่เค้าเล่นมากมายตรงหน้าคณะฯนี้ ทุกคนเหมือนตกอยู่ในภวังค์ สาว ๆ หลายคนทำหน้าเพ้อฝันอย่างเห็นได้ชัด ก็ไม่แปลกอะไรเพราะยูจังเสียงดีมาก และร้องเพลงได้น่าฟังที่สุด(แทตจังบอกแบบนี้มาตั้งแต่ยูจังพูดได้คำแรก "ยูจังเสียงเพราะที่สุดเลยลูก")
ต๊อบประทับใจกับการเล่นดนตรีและเสียงร้องที่เปล่งออกมาของยูจังมาก วีนัสเองก็ถึงกับตกตะลึงไปชั่วขณะ พลางรู้สึกในใจว่า "นายนี่ร้องเพลงเพราะแฮะ"
เมื่อยูจังร้องเพลงจบ เสียงปรบมือก็ดังขึ้นทั่วบริเวณนั้น ยูจังได้สติกลับมาอยู่ในโลกความจริงแล้ว และเห็นแล้ว รู้สึกแล้วว่ามีคนมองเค้าอยู่มากทีเดียว เค้าได้แต่โค้งรับเสียงปรบมืออย่างขัดเขิน แล้วเดินมาหาวีนัสกับต๊อบอย่างรวดเร็วพร้อมกับส่งกีตาร์คืนให้ต๊อบ
"นายร้องเพลงเพราะมาก เล่นดนตรีก็ดีมาก" ต๊อบชมจากใจจริง
"แหวะ! ไม่เห็นจะดีเลย" วีนัสบ่นอุบอิบไม่ตรงกับใจตัวเอง
"นานะจังเป็นอะไร" ยูจังถาม
"เปล่าหรอก ว่าแต่นายเกิดนึกอะไรขึ้นมาเนี่ย มานั่งร้องเพลงตรงนี้ เรียกเรตติ้งจากสาว ๆ เหรอ"
"ผมแค่คิดถึงบ้าน ไม่ได้ต้องการเรียกร้องความสนใจ" ว่าแล้วยูจังก็เดินออกไป ต๊อบรีบเดินตามไปหลังจากหันมาทำหน้ายักษ์ใส่วีนัสพลางพูดว่า
"เนย นึกถึงจิตใจยูจังบ้าง อย่าเอาแต่ความรู้สึกตัวเอง"
วีนัสรู้สึกผิดเป็นครั้งแรก จริงสินะ เธอนึกถึงจิตใจเค้าบ้างหรือเปล่า เค้ามาอยู่ในที่ ๆ ไม่คุ้นเคย ไม่ใช่บ้านเกิดเค้า เค้าคงรู้สึกคิดถึงบ้าน รู้สึกเหงา แล้วเธอยังจะทำไม่ดี พูดไม่ดีกับเค้าอีก เธอตั้งใจว่า เดี๋ยวจะไปขอโทษเค้า!
ต๊อบเดินตามยูจังมาทันพอดี
"ยูจัง อย่าไปถือเนยเลยนะ เนยก็เป็นแบบนี้แหละ ไม่ค่อยเหมือนผู้หญิงคนอื่นหรอก"
"นานะจังเค้าคงเกลียดผม" ยูจังพูดจริงจัง
"เอ้ย!!คิดมากน่ายูจัง"
"ผมทำไม่ดี พูดไม่ดีกับเค้าก่อนเอง ผมผิดเอง"
"ยูจัง เป็นอะไรรึป่าว มีอะไรบอกผมได้นะ"
"ขอบใจนายมากต๊อบ นายเป็นเพื่อนคนแรกของผมที่นี่ ปกติผมไม่มีเพื่อนหรอก"
ต๊อบอยากจะถามว่า "ทำไม" แต่เค้าหยุดคำพูดเอาไว้ทัน เค้ารู้สึกยินดีที่ยูจังเห็นเค้าเป็นเพื่อน
"ขอบใจนะยูจัง เอางี้ ต่อไปนี้ผมกับยูจังเป็นเพื่อนกันนะ"
"ตกลง" ยูจังยิ้มออกแล้ว
"ต้องทดสอบเข้าชมรมตอนไหนเหรอยูจัง"
"พรุ่งนี้"
"กังวลรึป่าว"
"นิดหน่อย"
"ผมว่ายูจังไม่ต้องกังวลหรอก ฝีมืออย่างยูจังเข้าชมรมได้สบาย ผมจะแนะนำเพื่อนที่อยู่ชมรมให้รู้จักนะ เรามีกัน 5 คน รวมยูจังด้วยก็เป็น 6"
"ต๊อบ"
"ว่าไง"
"อืม! เพื่อนที่สนิทกัน คนไทยจะเรียกแทนตัวเองว่าอะไร"
"ก็แล้วแต่นะยูจัง แล้วแต่คนน่ะ แต่ผมกับเพื่อนก็จะแทนตัวเองว่า ฉัน เรียกเพื่อนว่า นาย น่ะ"
"งั้นฉันเป็นเพื่อนนาย ฝากตัวด้วยนะ"
"อ่อๆ ได้เลย" ต๊อบยิ้มให้กับความพยายามเข้าใจภาษาไทยของยูจัง
"นายพาฉันไปทะเลได้มั้ย ฉันชอบทะเล ฉันอยากไป"
ที่มหาวิทยาลัยนี้อยู่ใกล้ทะเล นั่งรถไปนิดเดียวก็ถึงแล้ว
"ได้สิ ยูจังรู้มั้ย เนยก็ชอบทะเลมาก ๆ เลยแหละ เอาเป็นว่าไว้เราชวนเนยไปด้วยกันนะ"
"นานะจะยอมไปด้วยเหรอ"
"ยอม เชื่อฉันสิ เอาทะเลมาล่อ เนยน่ะ ยอมอยู่แล้ว"
"นายว่าฉันจะทำได้มั้ยต๊อบ" ยูจังหันมาถาม
"ทำอะไร"
"ทำให้นานะเลิกเกลียดฉัน"
"ยูจัง นายคิดมากไปแล้ว เชื่อฉันสิ เนยไม่ได้เกลียดนาย เอาไว้ฉันค่อยคุยกับนายเรื่องนี้ ตอนนี้ฉันว่าฉันพานายไปรู้จักเพื่อน ๆ ฉันดีกว่านะ"
"ก็ดี ไปกันเถอะ"
มาดามฟูมิเอะทำให้ยูจังยอมรับให้วีนัสมาคอยดูแลเค้าได้ มาดามมีเหตุผลที่ให้วีนัสมาดูแลยูจัง เป็นเหตุผลที่ใครก็ไม่อาจรู้ได้ นอกจาก มาดามฟูมิเอะ ท่านอธิการ ยูจัง และก็พ่อแม่ของยูจังเท่านั้น เหตุผลนี้นี่เองที่ทำให้ยูจังไม่สร้าง กำแพง กับวีนัส เหมือนกับที่สร้างกับผู้หญิงทั่ว ๆ ไป
"นานะจัง อย่าเกลียดผมเลยนะ" ยูจังได้แต่ภาวนาแบบนี้ในใจโดยไม่มีใครได้ยินแม้แต่ตัวยูจังเอง เพราะยูจังไม่รู้ตัวเลยว่าได้สนใจผู้หญิงไทยแปลก ๆ อย่างวีนัสเข้าแล้ว
11 กรกฎาคม 2548 14:32 น.
Pat_Big
ตอนที่ 3 "มาดามฟูมิเอะ"
อ้าว น้องเนย ชมรมดนตรีสากลยินดีต้อนรับครับ มาทำอะไรเอ่ย อาร์ท ประธานชมรมรูปหล่อซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องของความเจ้าชู้เอ่ยทักทายด้วยรอยยิ้มตามปกติ
เนยมาหาเค้กค่ะพี่อาร์ท เค้ก เนยขอคุยด้วยหน่อยสิ พี่อาร์ทเนยขอยืมตัวเค้กสักครู่นะคะ
วีนัสรีบดึงมือเพื่อนสาวออกมาจากห้องเพื่อคุยธุระ
มีอะไรเหรอเนย เค้กเกาศีรษะด้วยความมึนงงกับอาการของเพื่อน
เค้กมาทำอะไรที่นี่น่ะ เค้กก็รู้นี่นาว่าพี่อาร์ทน่ะเจ้าชู้จะตาย วีนัสทำหน้าดุใส่
ใจเย็น ๆ สิเนย เค้กแค่มาช่วยงานพี่อาร์ทนะ คิดมากไปได้ เค้กสั่นหัวพร้อมหัวเราะเบา ๆ
ช่วยงาน ช่วยงานอะไร วีนัสมีสีหน้าอ่อนลงกลายเป็นมึนงงไม่แพ้กัน
เค้กมาช่วยแต่งเนื้อเพลงเป็นภาษาญี่ปุ่นให้พี่อารท์ทดสอบนักร้องใหม่น่ะจ้ะ
นักร้องใหม่ ใครเหรอ? แล้วทำไมต้องร้องเพลงญี่ปุ่นด้วยล่ะ
ก็เค้าร้องเพลงไทยไม่ได้น่ะสิจ๊ะ
อย่าบอกนะว่าเป็น เป็นอีตาญี่ปุ่นบ้านั่น วีนัสนึกในใจ
ซากุระบะ ยูอิจิโร่ เค้กตอบเสียงใส เหมือนหยั่งรู้ความคิดเพื่อนสาว
ห๊า!! อีตาบ้านั่นจริง ๆ ด้วย
เอ๊ะ เนยพูดเหมือนกับรู้จักเค้าอย่างนั้นแหละ
อืม! เจอกันเมื่อเช้า อีตานั่นหยิ่งชะมัด ไม่น่ารักอย่างที่เค้กคิดหรอก
อ้าว! แต่เนยต้องเป็นคนคอยดูแลเค้าตามคำสั่งของมาดามฟูมิเอะไม่ใช่เหรอ แล้วแบบนี้ไม่แย่เหรอ
เค้กพูดด้วยความเป็นห่วงวีนัสมากกว่าจะห่วงหนุ่มญี่ปุ่นที่เธอใฝ่ฝัน เพราะเค้กเป็นสาวไทยที่มีใจรักภักดี นิยมชมชอบหนุ่มญี่ปุ่นมาแต่ไหนแต่ไร เรื่องนี้ทำให้วีนัสล้อเลียนเธอเสมอมา
แย่สิ แย่มาก ๆ ซะด้วย เนยไม่อยากเป็นคนรับผิดชอบดูแลอีตานั่นสักนิด พอเจอกันครั้งแรกก็ไม่ประทับใจแถมยังกวนประสาทอีก แบบนี้ไปไม่รอดหรอก ขืนให้อยู่ด้วยกัน ได้ตายกันไปข้างแน่
โห! แย่มากขนาดนั้นเลยเหรอเนย เออ! ว่าแต่เนยตามหาเค้กทำไม
อืม! เกือบลืมแน่ะ เนยจะมาชวนเค้กไปหามาดามฟูมิเอะน่ะจ้ะ
ไปหามาดามฟูมิเอะ? ไปหาทำไม ไปหาเรื่องอะไร
ขอเปลี่ยนคนดูแลอีตาญี่ปุ่นนั่นน่ะสิ
เนยหาคนแทนได้แล้วเหรอ
หาได้แล้วจ้ะ วีนัสยิ้มเจ้าเล่ห์ มองหน้าเพื่อนสาวด้วยตาเป็นประกาย
เอ๊ะ ๆ ๆ อย่ามามองเค้กแบบนี้นะ อย่าบอกนะว่าเนยจะ เอ้ย! ไม่ได้นะเนย มาดามฟูมิเอะบอกว่าต้องเป็นเนยเท่านั้น
กฎบางกฎย่อมมีการยกเว้นจ้ะ วีนัสเลียนเสียงและคำพูดที่อาจารย์เพลงพิณชอบพูดได้เหมือนเปี๊ยบ
แต่ว่ามาดามฟูมิเอะและก็คุณซากุระบะเค้าจะยอมเหรอ
โธ่! นะเค้กนะ นะจ๊ะ นะๆๆ ไม่สงสารเพื่อนเหรอ ไม่เห็นใจเพื่อนเหรอ เพื่อนน่ารัก น่าสงสารออกนะ นะๆๆ นะจ๊ะ ไปขอร้องมาดามฟูมิเอะกับเนยนะจ๊ะ
วีนัสอ้อน ทำหน้าให้น่าเห็นใจที่สุด ทำตาเป็นประกายใส่เพื่อน และออดอ้อนเหมือนลูกแมว ทำให้เค้กลำบากใจ แต่ก็ใจอ่อนตามประสาเค้กในที่สุด
ก็ได้ ๆ บีบคอขอกันชัด ๆ นะเนยเนี่ย เค้กมองเพื่อนอย่างอ่อนใจ
วีนัสส่งยิ้มหวานมาให้ พร้อมกับกระโดดกอดเพื่อนอย่างยินดีที่สุด
เย้! เค้กน่ารัก ใจดีที่สุดเลย รีบไปหามาดามฟูมิเอะกันเถอะ
วีนัสเปิดประตูห้องชมรมดนตรีสากล แล้วตะโกนบอกอาร์ทอย่างไม่รักษามารยาทความเป็นกุลสตรี
พี่อาร์ท เนยขอฉกตัวผู้ช่วยพี่ไปก่อนนะคะ
วีนัสตะโกนเข้ามาโดยโผล่หน้าเข้ามาในห้องแค่นิดเดียวแล้วปิดประตูดังปัง ทำเอาอารท์บ่นไล่ตามหลัง
โอย! ผู้หญิงอะไรเนี่ย ไม่น่ารัก ไม่รักษากิริยาเอาซะเลย เนยเอ๊ย! แล้วแบบนี้หนุ่มที่ไหนจะมาจีบเนี่ย
อาร์ทวิจารณ์ตามประสาหนุ่มเจ้าชู้ซึ่งสันทัดเรื่องผู้หญิง
ห้องของมาดามฟูมิเอะ ไม่ค่อยมีใครกล้าเข้ามาหานัก เพราะทุกคนทราบดีว่ามาดามไม่ชอบให้ใครเข้ามาวุ่นวายในที่ส่วนตัวของเธอ แต่วีนัสกับเพื่อนของเธอสามารถเข้านอกออกในได้ตามสบาย เพราะมาดามฟูมิเอะโปรดปรานวีนัสมาก เรื่องนี้ใคร ๆ ก็รู้ดี ซึ่งทำให้วีนัสถูกเรียกจากพวกที่ขี้อิจฉาและไม่หวังดีว่าเป็น เด็กมาดาม ซึ่งวีนัสก็ไม่สนใจคนพวกนั้นให้รกสมองหรอก ก็เธอมีเรื่องอื่นให้สนใจอีกตั้งมากมาย ดีกว่าเรื่องนี้เป็นไหน ๆ นี่นา
"เซนเซย์คะ ขออนุญาตค่ะ" (เซนเซย์=อาจารย์)
วีนัสกด Intercom ที่อยู่หน้าห้องของมาดามฟูมิเอะแล้วกรอกเสียงลงไป ซึ่งมาดามก็ส่งเสียงตอบมาทันที
"เข้ามาจ้ะ นานะ เคโกะ"
เมื่อทั้งสองคนเดินเข้ามาในห้อง มาดามฟูมิเอะก็ยิ้มแล้วก็บอกว่า
"นึกแล้วว่านานะต้องมาหาฉัน"
มาดามฟูมิเอะมักจะเรียกชื่อลูกศิษย์ที่เรียนเอกญี่ปุ่นด้วยชื่อญี่ปุ่นของแต่ละคนที่ถูกตั้งขึ้นมา (โดยมาดามฟูมิเอะนั่นแหละ)
มาดามฟูมิเอะเป็นหญิงวัยกลางคน รูปร่างสูงโปร่ง แต่งตัวภูมิฐาน ดูน่าเกรงขาม ส่วนมากนักศึกษาจะเกรง และกลัวเธอซะส่วนใหญ่
"มีปัญหากับยูจังรึ นานะจัง" มาดามฟูมิเอะชงชาให้สองสาวแล้วถามขึ้นด้วยรอยยิ้มที่มุมปาก
"ยูจัง?" สองสาวเรียกชื่อนี้ด้วยความงงพอ ๆ กัน
"ซากุระบะ ยูอิจิโร่น่ะ" มาดามฟูมิเอะแก้ข้อสงสัยให้ทันที
"เซนเซย์ทราบว่าหนู เอ่อ หนูมีปัญหากับเค้าเหรอคะ"
มาดามฟูมิเอะไม่ได้ตอบคำถามของวีนัส แต่กลับพูดกับคนที่อยู่ข้างในห้องเล็ก ๆ ที่กั้นผ้าม่านไว้แทนประตู
"ยูจังออกมาได้แล้ว อายูมิน่ะ ป้าให้อาหารไปครั้งนึงแล้ว เธอให้มันอีกแล้วเหรอ ชักจะอ้วนมากไปแล้วนะอายูมิจัง"
ซากุระบะ ยูอิจิโร่เดินออกมาพร้อมกับอุ้มแมวน้อยสีขาว ตัวอ้วนกลมออกมาด้วย แมวน้อยดูท่าทางมีความสุขที่ยูจังลูบขนมันไปมา มันหลับตาพริ้มในอ้อมแขนของเค้า
เมื่อเห็นยูจัง วีนัสก็หันไปมองหน้าเพื่อนสาวด้วยอาการงงสุดขีด แต่เค้กน่ะเหรอ ตาลอย ใจลอยไปแล้ว เค้กปลื้มยูจังตั้งแต่แรกเห็นเลยล่ะ!
"นี่เนย หรือ นานะจัง นี่เค้ก หรือ เคโกะจัง สองคนนี้เรียนเอกญี่ปุ่นกับป้า" มาดามฟูมิเอะแนะนำให้ยูจังรู้จักสองสาว
"นานะ เคโกะ นี่ยูจังหลานชายคนเดียวของฉันจ้ะ"
"หลานชายเซนเซย์!!" ทั้งสองสาวอุทานพร้อมกัน
มาดามฟูมิเอะไม่สนใจสีหน้าตกใจสุดขีดของวีนัส ทั้ง ๆ ที่มาดามก็สังเกตเห็น
"ว่าแต่นานะจังมีอะไรหรือเปล่า ที่มาหาฉันน่ะ"
"คือว่า คือว่าหนูจะ คือ" วีนัสตะกุกตะกัก สีหน้ากระอักกระอ่วน
"พูดมาเถอะนานะจัง มีแต่คนกันเองทั้งนั้น"
วีนัสยิ้มแห้ง ๆ พลางคิดในใจ "คนกันเองเหรอเนี่ย"
"คือหนูจะมาบอกเซนเซย์ว่า หนูจะขอเปลี่ยนให้เคโกะดูแลคุณซากุระบะแทนดีกว่าค่ะ" ในที่สุดวีนัสก็กล้าพูดออกมา
"ทำไมล่ะจ๊ะ ยูจังทำอะไรให้เธอไม่พอใจหรือเปล่า" มาดามฟูมิเอะถามยิ้ม ๆ เธอไม่ได้รู้สึกไม่พอใจที่วีนัสพูดตรง ๆ
"เปล่าค่ะ คุณซากุระบะต่างหากที่ไม่พอใจ"
"อ้อ! อย่างนั้นรึ ว่าไงยูจัง" มาดามหันไปถามหลานชาย
"ผมไม่ขัดข้องที่นานะจังจะมาคอยเป็นพี่เลี้ยงผมฮะ" ยูจังตอบหน้าตาเฉย ไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ
"ห๊า!" วีนัสร้องอุทาน พลางคิดในใจ "นานะจัง" "พี่เลี้ยง" "ไม่ขัดข้อง" มันอะไรกันนะ ทำไมนายนี่ถึงได้กลับตาลปัตรแบบนี้ล่ะ
"ได้ยินยูจังแล้วนะจ๊ะนานะ หวังว่าเธอคงไม่ขัดข้องนะ"
"เอ่อ! แต่ว่าเซนเซย์คะ"
"เธอไม่เต็มใจรึนานะจัง"
"ปะ เปล่าค่ะ" วีนัสตอบอย่างหมดทางปฏิเสธ โธ่! จะให้บอกว่าไม่เต็มใจได้ยังไงเล่า!!
"ดี ถ้าอย่างนั้น ตอนนี้นานะจังช่วยพายูจังไปคณะศิลปกรรมฯ ภาคดนตรีสากลด้วยนะจ๊ะ ฝากเธอแนะนำยูจังเรื่องมหาลัย เรื่องการเรียน เรื่องชมรม เรื่องกิจกรรมด้วยจ้ะ ฝากด้วยนะนานะจัง"
"ค่ะ เซนเซย์"
"ดีมากจ้ะ อ้อ! เคโกะจัง เดี๋ยวฉันอยากคุยอะไรกับเธอหน่อยนะจ๊ะ นานะพายูจังไปได้แล้วจ้ะ ยูจังส่งอายูมิมาให้ป้า โชคดีนะหลานรัก พยายามเข้าล่ะ"
ทั้งสองสาวงงพอ ๆ กัน แต่ก็ยอมทำตามโดยดี เมื่อพ้นมาจากห้องมาดามฟูมิเอะ วีนัสก็ตั้งคำถามใส่ยูจังทันที
11 กรกฎาคม 2548 14:29 น.
Pat_Big
ตอนที่ 2 "ผู้พิทักษ์ยูอิจิโร่"
รถติดจังเลยนะเมืองไทยนี่ มายูริจังบ่น
แทตจังซึ่งเป็นคนขับรถในวันนี้ร้องเพลงคลอไปด้วยอย่างอารมณ์ดี มีอยู่ครั้งเดียวที่ยูจังเห็นแทตจังโมโห ตอนนั้น ตอนที่ยูจังถูกเด็กผู้ชายในหมู่บ้านรุมรังแก และก็แย่งเอาของเล่นของยูจังไป พวกนั้น 5 คน ยูจังคนเดียว แต่แทตจังไม่เข้าไปวุ่นวาย ได้แต่ดูอยู่ห่าง ๆ ปล่อยให้ยูจังสู้กับพวกนั้น จนเห็นว่ายูจังสู้ไม่ไหวแล้ว แทตจังจึงได้เข้าไปตะเพิดพวกนั้นให้ไปเสีย
ยูจังรู้ว่าแทตจังมีเหตุผลที่ปล่อยให้ยูจังสู้กับพวกนั้น พ่อกับแม่ไม่เคยเลี้ยงยูจังอย่างโอ๋ หรือตามใจทุกอย่าง แต่ปล่อยให้ยูจังได้คิด และเข้มแข็งด้วยตัวเอง พ่อกับแม่มีวิธีสอนที่บางครั้งยูจังก็นึกไม่ถึงและก็ชื่นชมพ่อแม่เสมอในข้อนี้ แทตจังปล่อยให้ยูจังสู้ อย่างน้อยยูจังก็ไม่ได้วิ่งหนี ยูจังสู้กับพวกนั้นเพราะปกป้องตัวเอง
ยูจังไม่ใช่ อันธพาลที่มีพ่อแม่เป็นคนผิดประเภท เหมือนที่ใคร ๆ มอง แทตจังบอกให้ยูจังมองแผลที่ได้มาจากพวกนั้น และอย่ามองว่ามันเป็นแค่แผล แต่มันเป็นเครื่องหมายที่บอกให้ยูจังรู้ว่า ยูจังไม่ได้หนี แต่เผชิญหน้ากับพวกนั้น พวกหมาหมู่ หมาลอบกัด
ถึงยูจังจะสู้พวกนั้นไม่ได้ (1 คน ต่อ 5 คนเชียวนะ) แต่อย่างน้อยยูจังก็ได้ปกป้องตัวเอง และก็ได้ของเล่นคืนมาด้วย ของเล่นอันนั้น พ่อกับแม่ซื้อให้ในวันเกิด ยูจังไม่ยอมเสียมันไปแน่ ๆ การปกป้องตัวเองและของเล่นได้ในครั้งนั้นโดยมีแทตจังมองอยู่ห่าง ๆ ทำให้ยูจังรู้สึกว่า เขาโชคดีที่สุดที่ได้เกิดมาเป็นลูกของพ่อกับแม่สองคนนี้
ยูจังมองบรรยากาศสองข้างทางไประหว่างรอรถติด เป็นเวลาสองชั่วโมงกว่าพวกเขาจะเดินทางมาถึงมหาวิทยาลัยใหม่ของยูจังได้ มายูริจังย้ำเป็นครั้งที่สิบสองแล้วว่า
ห้ามเรียกพ่อว่าพ่อ ต้องเรียกว่าแม่ เข้าใจไหม อ้อ แทตจัง คุณก็ห้ามเผลอล่ะ ยูจังวันนี้พ่ออนุญาตให้ลูกเรียกพ่อว่า มายูริจัง ได้หนึ่งวัน
สองข้างทางที่พ่อแม่และยูจังเดินไปตึกอำนวยการ เพื่อไปพบอธิการตามระเบียบการนั้น ยูจังตกเป็นเป้าสายตาเป็นพิเศษ ก็แน่ละ เขาเป็นหนุ่มญี่ปุ่นคนแรกที่มาเรียนที่นี่ แล้วที่นี่ก็มีแต่คนไทยทั้งนั้น ยูจังเป็นคนต่างชาติคนแรกที่มาเรียนที่นี่ ก็ต้องเป็นที่สนใจ (ของสาว ๆ ) เป็นธรรมดา ก็ยูจังหน้าตาดีขนาดนั้น
สงสัยลูกจะหาเพื่อนไม่อยากหรอกยูจัง ดูสาว ๆ พวกนั้นสิ แทตจังแอบแซวลูกชาย
ยูจังได้แต่ส่งสายตาขอร้องให้แทตจังเลิกแซวเขาซะที แค่ที่ผู้หญิงเหล่านั้นมองเขาตาไม่กระพริบ เขาก็อึดอัด ขัดเขินจะแย่ แทตจังยังจะมาแซวเขาอีก
แทตสึยะ อย่าแซวยูจังน่า มายูริจังปราบแทตจังให้ยูจังสำเร็จ เพราะหลังจากนั้นแทตจังก็หันไประมัดระวังท่าทางการเดินของตัวเอง และเอาศอกถองมายูริจังไปหนึ่งครั้ง เพราะเธอเผลอเดินเหมือนผู้ชายเข้าไปทุกที
ยูจังเองรู้สึกลำบากใจที่เห็นพ่อกับแม่ทำอะไรที่ขัดกับความเป็นตัวของตัวเองมากแบบนั้น เพราะเขาคนเดียว เขาได้แต่รู้สึกไม่ดีอยู่แต่ในใจ
เมื่อยูจังกับพ่อแม่ไปพบอธิการบดีของมหาวิทยาลัย ซึ่งในห้องนั้นมีอธิการ อาจารย์สาวท่าทางใจดี และนักศึกษาอยู่ด้วยหนึ่งคน อธิการดูจะยินดีกับการต้อนรับครั้งนี้มากทีเดียว
อา ครอบครัวซากุระบะ ผมยินดีมาก ๆ เลยที่ยูจังมาเรียนที่นี่ ยินดีต้อนรับนะยูจัง ผมขอแนะนำอาจารย์เพลงพิณ ซึ่งจะเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาของยูจังนะ
อธิการบดีเป็นชายร่างท้วม แต่ดูภูมิฐานและใจดี ส่วนอาจารย์เพลงพิณก็ท่าทางเป็นมิตร ไม่ได้วางตัวเป็นอาจารย์ผู้คงแก่เรียน ให้นักศึกษาหวาดผวาแต่อย่างใด
ยูจังยกมือไหว้บุคคลทั้งสองตามธรรมเนียมไทยได้อย่างสวยงาม ทำให้อาจารย์สาวถึงกับประหลาดใจและก็ประทับใจมากอยู่ในที
อา คุณซากุระบะไหว้สวยมาก ครูขอแนะนำนักศึกษาซึ่งจะช่วยเป็นคนคอยดูแล แนะนำเกี่ยวกับการเรียนที่นี่ และก็ทุก ๆ อย่างที่คุณซากุระบะอยากจะให้ช่วย ไม่ว่าจะเรื่องการเรียนหรือกิจกรรมต่าง ๆ นี่ วีนัส พัฒนเวคิน วีนัส นี่ ซากุระบะ ยูอิจิโร่ กับครอบครัวจ้ะ
หญิงสาวที่ถูกแนะนำว่าชื่อ วีนัส ไหว้แทตจัง กับมายูริจังอย่างสวยงาม แล้วหันไปโค้งทักทายยูจัง
แทตจังกับมายูริจังแอบสบตากันอย่างมีความหมายพร้อมรอยยิ้มน้อย ๆ ที่มุมปาก เมื่อเสร็จสิ้นการฝากฝังยูจังกับทางมหาวิทยาลัยแล้ว ยูจังก็เดินไปส่งพ่อกับแม่ที่รถ
พยายามเข้านะยูจัง มายูริจังตบบ่าลูกชายเบา ๆ
แม่ฮะ กอดผมหน่อย แทตจังเตรียมจะเอื้อมไปกอดลูกชาย แต่ยูจังขัดขึ้น
โธ่ พ่อฮะ ผมหมายถึงมายูริจังน่ะฮะ มายูริจังที่ทำตาเขียวใส่แทตจังหันมากอดลูกชายอย่างว่าง่าย
คราวนี้ตาพ่อฮะ แทตจังยิ้มเก้อ ๆ พลางกอดลูกชายซะแน่น
สู้เขานะยูจังลูกรัก แทตจังพูดเสียงหนักแน่น
ขอบคุณมากนะฮะพ่อ แม่ ขับรถดี ๆ นะฮะ ที่นี่รถเยอะมากแล้วก็ขับรถเร็ว ๆ กันทั้งนั้นเลย แทตจังอย่าแกล้งมายูริจังตอนขับรถนะฮะ แล้วเจอกันฮะ ผมรักพ่อกับแม่นะฮะ
พ่อกับแม่ก็รักลูกนะ แทตจังกับมายูริจังพูดขึ้นพร้อมกัน
ยูจังโบกมือให้พ่อกับแม่จนรถแล่นลับสายตาไป เมื่อเขาหันหลังจะเดินกลับ เขาก็เกือบจะชนกับ วีนัส ยูจังรู้สึกกังวลว่าผู้หญิงคนนี้จะรู้ระแคะระคายอะไรเกี่ยวกับพ่อแม่ของเขาไหมนะ
ยูจังโค้งคำนับเป็นการขอโทษ ก่อนจะรีบเดินเลี่ยงไป ทำเอาหญิงสาวกระหืดกระหอบวิ่งตาม
เดี๋ยวสิคุณ คุณซากุระบะ หยุดก่อนได้ไหม
ยูจังไม่ฟังเสียง กลับยิ่งเร่งฝีเท้าหนีจากการติดตามมากขึ้นอีก
คุณหยุดก่อนสิ ว๊าย!!!
เสียงร้องของวีนัสทำให้ยูจังชะงักและหันหลังไปมอง วีนัสอยู่ในสภาพล้มลงไปกองกับพื้น หน้าตาเหยเก ยูจังรีบเดินไปช่วยพยุงเธอให้ลุกขึ้นมา พลางเก็บหนังสือส่งคืนให้เธอ
ขอบคุณมากค่ะ วีนัสส่งยิ้มอาย ๆ
คุณตามผมมาทำไม
อ้าว!! ก็อาจารย์ก็บอกคุณให้รู้แล้วไม่ใช่เหรอคะว่าฉันจะคอยดูแลคุณระหว่างนี้
ผมรู้ แต่ผมไม่เข้าใจ ผมไม่ต้องการคนดูแล ผมดูแลตัวเองได้ ขอบคุณมาก คุณจะไปทำอะไรก็ไป ไม่ต้องมาตามผม เข้าใจนะ
แต่ว่า ทุกคนหวังดีกับคุณนะ คุณเป็นชาวต่างชาติ ยังไม่คุ้นกับที่นี่หรอก ให้ฉันทำตัวเป็นเจ้าบ้านที่ดีหน่อยไม่ได้หรือไง
ผมบอกแล้วไง ผมดูแลตัวเองได้ ไม่ได้ยินเหรอ ผมพูดภาษาไทยได้ คุณยังฟังรู้เรื่องเลย หรือคุณฟังไม่รู้เรื่อง ไม่มีอะไรต้องห่วง โอเค
ไม่โอเคหรอก คิดว่าฉันอยากตามคุณแบบนี้รึไง เอาเป็นว่าช่วงเดือนแรกระหว่างคุณปรับตัว ให้ฉันคอยเป็นเพื่อนคุณไปก่อน ถ้าคุณคุ้นกับที่นี่แล้ว ฉันจะไม่วุ่นวายกับคุณอีก นะๆๆ ถือว่าเห็นแก่สาวไทยตาตี่ ๆ อย่างฉันเถอะ วีนัสทำหน้าตาให้หน้าเห็นใจที่สุด
คุณเรียนเอกอะไร
ภาษาญี่ปุ่น วีนัสตอบด้วยความภูมิใจ
อ๋อ มิน่าล่ะ แล้วคุณอยู่ชมรมอะไร
ภาษาญี่ปุ่นอีกนั่นแหละ
เยี่ยมมาก งั้นคุณก็หมดภาระต้องดูแลผมแล้ว ผมเรียนเอกดนตรีสากล และก็จะเข้าชมรมดนตรีสากล ไม่มีอะไรเกี่ยวกับญี่ปุ่นสักนิด ลาก่อนวีนัสซัง
ยูจังปล่อยให้วีนัสอ้าปากค้าง ทำอะไรไม่ถูก แล้วยูจังก็เดิน ฉับ ๆ ๆ หายลับตาไป
อีตาญี่ปุ่นบ้าเอ๊ย!! หยิ่งชะมัด หมดกัน ตายแน่ วีนัส มาดามฟูมิเอะเอาฉันตายแน่
บ่นเป็นหมีกินผึ้งอะไรอยู่คนเดียวจ๊ะผู้พิทักษ์ยูอิจิโร่ เสียงทักทายดังขึ้นจากด้านหลัง
ฮือ!! ต๊อบ ช่วยเนยด้วย
ทันทีที่เห็นเพื่อนสนิท เธอก็ระบายความในใจให้เขาฟังทันที
อ้าว! เนยไปทำอะไรให้เค้าไม่พอใจรึป่าว ต๊อบแสดงความเห็นหลังจากฟังเรื่องจบ
ทำอะไรเล่า ยังไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย อีตานั่นน่ะหัวดื้อ ไม่ยอมเป็นมิตรกับใครง่าย ๆ หรอก ท่าทางหยิ่งด้วย คงไม่ไว้ใจใครง่าย ๆ น่ะ
มันก็เป็นธรรมดาของคนญี่ปุ่นไม่ใช่เหรอเนย ที่จะไม่เป็นมิตรกับใคร และไม่ไว้ใจใคร ง่าย ๆ น่ะ เนยน่าจะรู้นะ เรียนกับมาดามฟูมิเอะอยู่ทุกวัน
เอาน่า เนย ยังไง ยูอิจิโร่ก็คงยังไม่ไว้ใจใครง่าย ๆ หรอก เนยต้องพยายามทำให้เค้ายอมรับเนยให้ได้สิ
ทำไมเนยต้องทำแบบนั้นด้วยล่ะ วีนัสย่นจมูกอย่างเซ็ง ๆ
ก็ ผู้พิทักษ์ยูอิจิโร่ ต้องเป็น นางสาววีนัส พัฒนเวคิน คนเดียวเท่านั้น เป็นประกาศิตจากมาดามฟูมิเอะภรรยาท่านอธิการไม่ใช่เหรอ
ต๊อบบ้า! เลิกแซวว่าเนยเป็นผู้พิทักษ์ยูอิจิโร่ บ้าบออะไรนั่นได้แล้วน่า
สีหน้าหงุดหงิดของเพื่อนสาว ทำให้ชายหนุ่มยิ้มอย่างพอใจ
เอาน่า ลองมาดามฟูมิเอะจอมเฮี๊ยบบัญชาการเองแบบนี้ ต๊อบเชื่อว่าต้องมีเหตุผล
เหตุผลอะไรเล่า ที่ต้องให้เนยฟาดฟันกับอีตาญี่ปุ่นนั่นน่ะ
อันนี้ก็เป็นเรื่องที่เนยต้องค้นหาต่อไปเองนะ ต๊อบก็ไม่รู้เหมือนกัน
ช่างเหอะ เนยว่าเนยไปตามหาเค้กดีกว่า ต๊อบเห็นเค้กมั้ย
อืม เห็น อยู่ห้องชมรมดนตรีสากลแน่ะ
พูดถึงตรงนี้ชายหนุ่มก็มีสีหน้าหงุดหงิดขึ้นมา
ห้องชมรมดนตรีสากล เค้กไปทำอะไรที่นั่นน่ะ
ไม่รู้เว้ย ไปดูแลแฟนเค้ามั้ง อยากรู้ เนยก็ไปดูเองสิ ไปดีกว่า หงุดหงิดว้อย
แล้วต๊อบก็เดินหัวเสียออกไป ปล่อยให้วีนัสงงเป็นไก่ตาแตก
เออ อะไรของเค้าเนี่ย เมื่อกี้ยังคุยกันอยู่ดี ๆ เลย
วีนัสเดินอย่างรีบร้อนตรงไปยังห้องชมรมดนตรีสากล เมื่อเปิดประตูเข้าไป เธอก็พอจะเข้าใจว่าทำไมต๊อบถึงได้ดูหงุดหงิดใจนัก
11 กรกฎาคม 2548 14:26 น.
Pat_Big
ตอนที่ 1 "ชีวิตใหม่ IN THAILAND"
ยูจัง ยูจัง ตื่นได้แล้ว ยูจัง วันนี้ลูกต้องไปรายงานตัวกับทางมหาลัยนะ
ยูจัง ยูจัง ยูจัง ยูจัง
เสียงเรียก บวกกับน้ำหนักตัวที่ทับลงมาบนร่างที่คลุมด้วยผ้าห่มของเจ้าของชื่อ ยูจัง ทำให้เขาแกล้งทำเป็นหลับต่อโดยไม่สนใจเหมือนทุกครั้งอีกไม่ได้แล้ว นั่นเป็นเพราะว่าวันนี้เขาต้องไปมหาวิทยาลัยใหม่ ในประเทศใหม่ เป็นการเปลี่ยนแปลงแปลกใหม่ สำหรับหนุ่มลูกครึ่งไทยญี่ปุ่นอย่าง ยูจัง
ยูจังลุกขึ้นมา งัวเงีย ขยี้ตา พลางหาวหวอด ๆ เจ้าของร่างที่ทับเขาอยู่เมื่อครู่ยืนขึ้น รอยยิ้มน้อย ๆ ผุดขึ้นบนริมฝีปาก ยูจังหันไปมองแล้วก็ส่งเสียงออกมาด้วยความประหลาดใจ
มายูริจัง!! ยูจังเพิ่งจะสังเกตความเปลี่ยนแปลงที่ไม่ปกตินักของผู้ที่เข้ามาเรียกตนถึงในห้องนอน เป็นเพราะว่าวันนี้ มายูริจัง ของ ยูจัง นั้นดูแปลกไปกว่าทุก ๆ วัน แปลกไปมาก มากจน ยูจัง ตกใจและประหลาดใจว่าเกิดอะไรขึ้น
วันนี้มายูริจัง แต่งตัวผิดปกติ ผิดปกติจากที่เคยเป็นเอามาก ๆ ทั้งเสื้อไหมพรมสีหวาน กระโปรงลายดอกไม้น่ารัก แล้วยังผมยาวสลวยนี่อีก (มายูริจังไว้ผมสั้นมาก ๆ เสมอ)
อะไรกันยูจัง อย่ามองแบบนั้นสิ แค่บางโอกาสเท่านั้นน่า มายูริจังพูดพลางสำรวจตัวเองอย่างขัดเขิน
ความจริง ไม่ต้องทำเพื่อผมขนาดนี้หรอกฮะ แล้วนี่ก็แสดงว่า แทตจังก็คงร่วมมือด้วยใช่ไหมฮะ
ก็เรามีลูกคนเดียวนี่นา แล้วที่ทำแบบนี้ก็เพราะไม่อยากให้คนที่นี่สังเกตเห็นว่า บ้านเรามันผิดปกติ คงไม่อยากเป็นเหมือนตอนอยู่ที่ญี่ปุ่นใช่ไหม พูดถึงตรงนี้มายูริจังก็มีสีหน้าเคร่งขรึมขึ้นมาทันที
ก๊อก ก๊อก ก๊อก ยูจัง ลูกรัก ยูจัง ลูกรัก
แทตสึยะ หรือ แทตจัง ของยูจังนั่นเอง เดินพูดประกอบทำนองที่แต่งขึ้นมาเอง ตามอารมณ์ตอนนั้นเสมอ ๆ แทตจัง อารมณ์ดีอยู่ตลอดเวลา
แทตจัง เดินเข้ามาในห้อง พลางส่งยิ้มร่าเริงให้กับทั้งสองคน แทตจังก็ผิดปกติไปจากทุกวันเช่นกันในเรื่องการแต่งตัว วันนี้แทตจังใส่เสื้อเชิตสีฟ้าสดใส และกางเกงสีดำดูเรียบร้อย
ตื่นแล้วเหรอ ยูจังลูกรัก แทตจังทักทายลูกชาย
ไม่อึดอัดเหรอฮะ ไม่ต้องทำแบบนี้ก็ได้ ความจริงผมก็ไม่มีเพื่อนอยู่แล้ว ไม่ต้องกลัวใครรู้หรอกฮะ
นี่ยูอิจิโร่ ไปอาบน้ำแต่งตัวและก็ไปมหาวิทยาลัยกันได้แล้ว
ยูจังรู้ว่าเมื่อไหร่ที่มายูริจังเรียกชื่อเต็มของเขาแล้วละก็ แสดงว่าเป็นสัญญาณอันตรายแล้ว เขาจึงพูดเดินเข้าไปกอดพ่อกับแม่คนละครั้ง มายูริจัง กับ แทตจังตบบ่าลูกชายเบา ๆ
ยูจัง ที่นี่เมืองไทยนะลูก ไม่เหมือนที่ญี่ปุ่น แล้วอีกอย่างที่นี่ก็คงจะยังรับไม่ค่อยได้นักกับเรื่องผิดปกติแบบนี้ มายูริจังเสียงอ่อนลงแล้ว
พ่อกับแม่ก็ไม่ผิดปกตินี่ฮะ เพียงแค่ว่า
สลับหัวใจกัน มายูริจังเป็นผู้หญิง แต่ยูจังต้องเรียกว่าพ่อ ส่วนแม่ เป็นผู้ชายแต่ลูกต้องเรียกว่าแม่ แทตจังต่อให้ก่อนที่ยูจังจะพูดจบ พลางยักไหล่
มายูริจังฮะ ยูจังเริ่มต้นจะพูด
นี่ เลิกเรียกว่ามายูริจังได้แล้วน่า
ก็ได้ฮะ พ่อฮะ วันนี้พ่อกับแม่ไม่ต้องไปกับผมก็ได้นะฮะ
ไปอาบน้ำยูจัง ก่อนที่พ่อจะจับแกไปอาบซะเอง
สิ้นคำของมายูริจัง แทตจังก็หัวเราะคิกคัก ยูจังเข้าไปอาบน้ำ ส่วนพ่อกับแม่ก็ออกไปเตรียมอาหาร
จะว่าไปแล้วครอบครัวนี้ นับว่าน่าอิจฉามาก เพราะเป็นครอบครัวที่อบอุ่นและรักใคร่ปรองดองกันมากที่สุดเท่าที่ครอบครัวจะรักกันได้ทีเดียว
เป็นเพราะว่า มายูริจัง กับ แทตจัง เป็นคนพิเศษ ยูจังมักจะคิดแบบนี้เสมอ ถึงแม้ว่าใคร ๆ จะมองว่าพ่อแม่ของเขาแปลกประหลาดผิดมนุษย์แค่ไหน แต่เขาก็ยังเห็นเพียงแค่คนสองคนที่รักกันด้วยหัวใจจนเกิดเป็นเขาขึ้นมา เขาภูมิใจในตัวพ่อกับแม่มากที่สุด และยึดพ่อกับแม่เป็นแบบอย่างที่ดี ถึงแม้ว่าเพื่อน ๆ เขา (ซึ่งก็ไม่ค่อยจะมีนักหรอก) เรียกพ่อกับแม่ของยูจังว่า พวกผิดประเภท
แต่มันก็ไม่เห็นแปลกอะไร สำหรับตัวยูจัง ตั้งแต่เขาเกิดมาจำความได้ ก็เห็นมายูริจัง ผู้ซึ่งอุ้มท้องคลอดเขาออกมา แต่งตัวเป็นผู้ชาย ไว้ผมสั้น น้ำเสียง กริยา ท่าทางก็ทำให้เหมือนผู้ชายไปซะหมด แถมยังให้ยูจังเรียกว่า พ่อ อีกต่างหาก
ส่วน แทตจัง ซึ่งเป็นผู้ชาย ก็มีอาการกระตุ้งกระติ้ง ชอบแต่งตัวสวย ๆ งาม ๆ (แน่นอนว่าต้องแต่งแบบผู้หญิง) แต่งหน้า ทำผม กริยาท่าทาง เหมือนผู้หญิงไม่มีผิด แล้วยูจังก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องเรียก แทตจังว่า แม่
แต่เมื่อเขาโตขึ้น เขาถึงได้ค่อย ๆ เข้าใจและยอมรับในสิ่งที่พ่อกับแม่ของเขาเป็นได้ในที่สุด เมื่อตอนประถม ยูจังมักจะถูกเพื่อน ๆ ผู้ชายด้วยกันกลั่นแกล้ง และก็ล้อเลียน เพราะรู้ว่าพ่อกับแม่ของยูจังแปลกประหลาด
เมื่อตอนมัธยม ยูจังมีเรื่องชกต่อยกับเพื่อนนักเรียนชาย จนถูกทางโรงเรียนทำทัณฑ์บน เพราะว่านายคนนั้น เรียกพ่อกับแม่ของยูจังว่า ไอ้คนวิปริต และหลายต่อหลายครั้งที่เขาต้องห้ามตัวเองไม่ให้ไปชกปากคนปากพล่อยหลาย ๆ คน ที่มองแต่เพียงสิ่งที่เห็น ไม่ได้สัมผัสด้วยหัวใจว่าจริง ๆ แล้ว มายูริจัง กับ แทตจัง เป็นพ่อแม่ที่ดีที่สุดสำหรับเขาแล้วละนะ
อ๊า..ยูจัง อาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้ว อย่าลืมไปกินข้าวก่อนนะลูก แทตจังเปิดประตูโผล่หน้าเข้ามาในห้อง
ฮะแม่ ยูจังรับคำ
ยูจังสำรวจตัวเองในกระจก เขาเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งมองตอบกลับมา คนที่มีแววตามุ่งมั่น ตอนนี้เขาย้ายมาอยู่เมืองไทยแล้ว เป็นประเทศที่เขาไม่คุ้นเคย จะว่าไปแล้ว เขาก็ไม่รู้ว่าที่นี่จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่สิ่งที่เขาตั้งใจเอาไว้ ก็คือ เรียนที่นี่ โดยไม่สนใจอะไร นอกไปซะจาก ตั้งใจเรียน และเข้าชมรมดนตรีสากล ยูจังรักการร้องเพลง (ได้รับการปลูกฝังจากแทตจัง) และเสียงกลอง เสียงเบส เสียงกีตาร์ มากที่สุด เขาหวังว่าที่นี่จะทำให้เขารู้สึกดีได้มากกว่าตอนที่เรียนที่ญี่ปุ่น
เขาหยิบเครื่องแบบของมหาวิทยาลัยขึ้นมาพิจารณา ก็ต่างจากที่ญี่ปุ่นนิดหน่อยนะ ยูจังคิดในใจ เมื่อเขาแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว จึงออกมาพบพ่อกับแม่
นี่มายะคุง ฉันบอกคุณแล้วนี่นาว่าถุงน่องยี่ห้อนี้มันเปราะบางจะตายไป ขืนใส่แล้วไม่ระวัง ก็ขาดง่าย ๆ น่ะสิ แทตจังกำลังง่วนกับการสำรวจความเสียหายของถุงน่องบนเรียวขาของมายูริจัง
โธ่ แทตจัง ฉันน่ะอึดอัดจะแย่ ไอ้ถุงน่องบ้าเนี่ย ฉันว่าฉันไม่ใส่ดีกว่า
ยูจังยืนมองมายูริจังรูดถุงน่องออกจากขาอย่างทุลักทุเล
นี่ แทตจัง ถามจริง ๆ เหอะ คุณทนใส่ไอ้ถุงน่องงี่เง่านี่ได้ยังไงนะ มายูริจังทำหน้าเหยเก
หลังจากรบกับถุงน่องของมายูริจังเรียบร้อยแล้ว พวกเขาก็ออกเดินทางไปยังมหาวิทยาลัยของยูจังซึ่งอยู่ห่างจากบ้านพอสมควร