23 มีนาคม 2548 15:33 น.
Pat_Big
มะลิหอบกุหลาบช่อโตผ่านประตูเข้าไปอย่าทุลักทุเลเล็กน้อย พลางสอดสายตาหาเจ้าของคำสั่ง ไม่นานนักมะลิก็พบเธอ บุณฑริกา หญิงสาวหน้าตาสะสวยหมดจด กำลังขะมักเขม้นอยู่กับการจัดดอกไม้ใส่กระเช้า สีหน้าและแววตาของเธอแลดูเปี่ยมสุข มะลิเดินเข้ามาอย่างเงียบ ๆ พลางจัดการวางกุหลาบไว้บนโต๊ะ
กุหลาบขาวมาแล้วค่ะคุณแบม มะลิส่งเสียงบอกหญิงสาวที่กำลังก้มหน้าก้มตาจัดดอกไม้
อ๋อ ขอบคุณมากค่ะพี่มะลิ เธอเอ่ยขอบคุณโดยไม่ได้เงยหน้าขึ้นมามองมะลิ
คุณแบมจัดกระเช้าให้ลูกค้าเหรอคะ มะลิมองดอกไม้ที่กระจัดกระจายอยู่ตรงหน้าหญิงสาว
เปล่าหรอกค่ะ จัดให้พี่บิ๊กน่ะ หญิงสาวตอบพร้อมรอยยิ้มน้อย ๆ บนมุมปาก
คุณบิ๊กเหรอคะ มะลิงุนงงเล็กน้อย
วันนี้วันเกิดพี่บิ๊กค่ะพี่มะลิ บุณฑริกาหันมาตอบพลางยิ้มสดใสให้กับมะลิ
ตายจริง พี่มะลิลืมได้ยังไงเนี่ย จริงด้วยวันนี้วันเกิดคุณบิ๊กนี่นา ว่าแต่คุณแบมเห็นคุณบิ๊กไหมคะ พอดีพี่ชิตแกอยากให้คุณบิ๊กลงไปดูอะไรในไร่หน่อยน่ะค่ะ
ไม่เห็นตั้งแต่เช้าแล้วนะคะ แบมก็ว่าจะถามพี่มะลิอยู่เหมือนกันว่าเห็นพี่บิ๊กไหม ไปไหนของเค้านะ วันนี้วันเกิดตัวเองแท้ ๆ กลับไม่อยู่บ้านซะได้ หญิงสาวมีสีหน้าหม่นลงเล็กน้อยเมื่อนึกถึงคนที่เธอตั้งใจจัดดอกไม้ให้ แต่เจ้าตัวกลับไม่รู้ไปอยู่ที่ไหน
ไม่ทันที่ทั้งคู่จะพูดอะไรต่อ ก็ได้ยินเสียงรถขับเข้ามาในบ้าน และคนที่ลงมาจากรถก็ไม่ใช่ใครอื่น
พี่บิ๊ก บุณฑริการีบวิ่งออกไป
ว่าไงแบม วิ่งออกมาทำไมกัน เดี๋ยวก็หกล้มไปหรอก ทำดีใจเป็นเด็ก ๆ ไปได้นะเรา ชายหนุ่มเอ็ดเบา ๆ แต่ก็ส่งรอยยิ้มมาให้
พี่บิ๊กล่ะก็ ชอบว่าแบมเรื่อยเลย แบมไม่ใช่เด็กแล้วนะคะ แล้วนี่พี่บิ๊กไปไหนมาคะ วันเกิดตัวเอง แต่กลับหายออกจากบ้านไปแต่เช้า หญิงสาวทำหน้ากระเง้ากระงอด
พี่ไปทำธุระน่ะ มีอะไรเหรอ
มะลิเดินเข้ามาในระหว่างบทสนทนาของทั้งคู่
คุณบิ๊กคะ พี่ชิตเชิญเข้าไปในไร่หน่อยค่ะ เห็นแกบอกว่าอยากให้คุณดูอะไรให้หน่อยน่ะค่ะ
งั้นเหรอครับ ได้สิครับ แต่เดี๋ยวขอผมเอาของนี่ขึ้นไปเก็บก่อนนะครับ บิ๊กตอบพลางถือถุงที่นำมาด้วยกระชับไว้แน่นขึ้นราวกับว่ากลัวว่ามันจะหลุดลอยไป
แบมเอาไปเก็บให้เองค่ะ หญิงสาวเสนอขึ้น
ไม่เป็นไรหรอก พี่ว่าพี่ไปเก็บเองดีกว่า ว่าแล้วชายหนุ่มก็เดินขึ้นไปบนห้องของตัวเองโดยไม่ได้สนใจหญิงสาวที่มีสีหน้าผิดหวังอยู่ตรงนี้
คนอะไรเย็นชา ไม่สนใจเราเลยสักนิด อุตส่าห์จัดดอกไม้แทบตาย ยังไม่ทันได้พูดอะไร ก็จะหนีไปทำงานอีกแล้ว หญิงสาวบ่นกระปอดกระแปด
คุณแบมคะ ไม่เป็นไรหรอกค่ะ คุณบิ๊กเธอคงมีธุระจริง ๆ น่ะค่ะ เดี๋ยวคุณแบมค่อยเอากระเช้าไปให้เธอก็ได้นี่คะ เธอคงดีใจมาก ตอนนี้คุณแบมยังจัดไม่เสร็จไม่ใช่เหรอคะ เดี๋ยวพี่ไปช่วยจัดนะคะ
มะลิพูดเป็นเชิงปลอบใจหญิงสาว บุณฑริกากับมะลิจึงเดินเข้าไปในบ้าน และจัดการกับกระเช้าดอกไม้ตรงหน้าต่อ อารมณ์ของบุณฑริกาขุ่นมัวเล็กน้อย แต่ไม่นานเธอก็ใจจดจ่ออยู่กับการจัดดอกไม้ จนลืมอารมณ์ขุ่นมัวไปสนิท
ภัคนนท์เดินลงมาจากข้างบนแล้ว เค้าก็เห็นทั้งบุณฑริกาและมะลิกำลังง่วนอยู่กับการจัดดอกไม้ เค้าจึงไม่ได้เดินมาทักทาย เค้าเดินออกไปในไร่เพื่อตามหาพิชิต เค้าเดินไปด้วยอาการใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เค้านึกถึงเรื่องที่เค้าไปทำมาเมื่อเช้าตรู่ของวันนี้ วันที่เป็นวันคล้ายวันเกิดของเค้า
สิ่งที่เค้าโหยหามาตลอดสองปีที่ผ่านมา นั่นคือการได้กลับไปยังบ้านเก่าของเค้าที่เคยอยู่กับแม่ นั่นหมายความว่า เค้าห่างกับพัชแค่เพียงไม่กี่ร้อยเมตร แต่ถึงอย่างนั้นเค้ากลับไปหาเธอ ไปเจอเธอไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่เค้าโหยหาเธอเหลือเกิน โหยหาเธอมากกว่าอะไรทั้งหมดในตอนนี้
เค้ากลับไปบ้านเก่าแล้วพบว่า สภาพของบ้านนั้น สะอาดเรียบร้อยเหมือนกับว่า มีใครคอยมาดูแลอยู่ตลอดระยะเวลาสองปีที่ผ่านมา เค้าแทบไม่ต้องเดาเลยว่าเป็นใคร จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากพัช เค้าพบว่าตัวเค้าเองต้องหักห้ามใจอย่างหนักเหลือเกิน ที่จะไม่ให้ทำผิดคำสัญญาที่ให้ไว้กับ
พีรวิชญ์
คุณภัคนนท์ครับ คุณภัคนนท์ นายชิตเรียกบิ๊กหลาย ๆ ครั้ง
ฮะ ครับ บิ๊กสะดุ้งตื่นจากภวังค์ เห็นนายชิตกำลังทำสีหน้างุนงงกับอาการของเค้าเล็กน้อย
เป็นอะไรหรือเปล่าครับนายน้อย นายชิตไม่วายเป็นห่วง
เปล่าหรอกครับ ผมไม่เป็นไร คิดอะไรเพลิน ๆ น่ะฮะ บิ๊กตอบแก้เก้อ เค้าเหม่อลอยขนาดนี้เชียวหรือ นายชิตยืนห่างจากตัวเค้าเพียงไม่กี่นิ้วเท่านั้นเอง แต่เค้ากลับมองไม่เห็น
ว่าแต่พี่มะลิบอกว่า นายชิตมีอะไรจะให้ผมดูเหรอครับ
อ๋อ ก็วันนี้น่ะครับ ผมได้รับจดหมายจากครอบครัว ๆ หนึ่งครับ ไม่ได้ระบุว่าส่งถึงใคร เขียนมายังไร่ของเรา แล้วผมก็ให้คุณชานนท์ดู คุณชานนท์แกบอกว่า เก็บไว้ให้คุณบิ๊กดูน่ะครับ ผมก็เลยยังไม่ได้แกะดู ไม่รู้ว่ามันคืออะไร นายชิตกล่าวพลางยื่นซองจดหมายสีขาวให้กับบิ๊ก
บิ๊กรับมาพิจารณาอยู่ครู่หนึ่งก็แกะออกมาอ่าน เนื้อความในจดหมายบอกมาว่า ครอบครัวนี้อยากมาเที่ยวและชมดอกกุหลาบที่ไร่ของเค้า เพื่อเป็นการพักผ่อน ไม่ทราบว่าที่ไร่นี้จะอนุญาตให้เข้ามาได้หรือไม่ หากมีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ พวกเค้าก็ยินดีที่จะจ่ายเต็มที่ แค่เพียงขอให้คนในครอบครัวของเค้าได้มาที่นี่ เพราะว่าลูกสาวของบ้านนี้เป็นคนที่รักดอกกุหลาบขาวมาก อยากได้มาเห็นไร่ที่เต็มไปด้วยกุหลาบขาวที่เธอรักสักครั้งหนึ่ง หากไม่เป็นการรบกวนจนเกินไป
บิ๊กอ่านจดหมายไปด้วยหัวใจที่เต้นระรัว ซึ่งเค้าเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไม เค้าต้องตื่นเต้นด้วย ในเมื่อเค้าเองก็ยังไม่รู้ว่าครอบครัวนี้เป็นใคร มาจากไหนกัน รู้เพียงแต่ว่าลูกสาวของครอบครัวนี้รักดอกกุหลาบขาว นั่นก็ทำให้บิ๊กใจเต้นแรงได้ เพราะเค้านึกถึงพัช พัชรักดอกกุหลาบขาวเช่นเดียวกับเค้า
แต่ไม่หรอกน่า คนที่รักดอกกุหลาบขาว ไม่ได้มีแค่เค้ากับพัชแค่สองคนนี่นา ว่าแล้วเค้าก็สลัดความคิดนี้ออกไป พลางยื่นจดหมายให้นายชิต
นายชิตจัดการตอบรับพวกเค้าไปเลยนะครับ ลองอ่านจดหมายดูและผมรู้สึกว่าผมเห็นเบอร์ติดต่อกลับอยู่นะ ยังไงก็ฝากนายชิตเป็นธุระเรื่องนี้ด้วยนะครับ บอกเค้าว่า ทางไร่ของเรายินดีต้อนรับครับ ตอนนี้ผมขอตัวไปดูกุหลาบก่อนนะครับ
ครับ ผมจะจัดการให้เรียบร้อยครับ นายชิตรับคำ
23 มีนาคม 2548 15:30 น.
Pat_Big
แม่ทำยังไงน่ะเหรอ...แม่ไม่ได้ทำอะไรเลยจ้ะ...แม่เพียงแต่คิดว่า มันเป็นโชคชะตาของแม่กับชานนท์ ที่ต้องดำเนินไปแบบนี้ แม่แก้ไขอะไรไม่ได้ เพียงแต่แม่ต้องไม่ยอมแพ้ และอดทนรอ หากเรามีวาสนาต่อกันจริง แม่คิดว่า ยังไงซะเราก็ต้องได้พบกันอีก และได้อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข หากแต่ว่า แม่กับชานนท์ทำบุญร่วมกันมาแค่นั้น แม่ได้มาเจอกับพ่อของลูก เพราะพรหมลิขิต ในตอนแรกแม่รู้สึกอย่างรุนแรงว่ามันไม่ยุติธรรม มันไม่สมควรเป็นแบบนี้ แต่เมื่อแม่พิจารณาดี ๆ แล้ว พ่อของลูกรักแม่มาก ที่ทำไปทุกอย่างก็เพราะอานุภาพแห่งรัก แม่ไม่ได้หมายความว่าสิ่งที่พ่อเค้าทำน่ะถูกต้องนะจ๊ะ แม่เพียงแต่เห็นในความพยายามของพ่อของลูก และเมื่อแม่มีหนู ลูกสาวคนแรกของแม่กับพ่อ แม่ถึงได้รู้ว่า แม่ไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดกับเรื่องชานนท์มานานแล้วสินะ
แล้วแม่ไม่คิดถึงคุณอาชานนท์เหรอคะ นั่นรักแรกของแม่ไม่ใช่เหรอคะ
คิดถึงสิจ๊ะ แต่จะทำยังไงได้ โลกแห่งความจริงน่ะอาจจะโหดร้ายกับเรานะจ๊ะลูก แต่ว่าธรรมชาติก็มักจะสร้างสิ่งทดแทนมาให้เราเสมอจ้ะ เมื่อแม่มีลูก แม่ก็ได้รู้ว่านี่แหละคือสิ่งที่มาทดแทนความอยุติธรรมทั้งหมด แม่รู้ตัวว่าแม่รักพ่อของลูกมากก็ตอนที่มีลูกนี่ล่ะจ้ะ แต่ความรักที่มีต่อชานนท์ก็ไม่ได้ลดลงนะจ๊ะ เพียงแต่ว่ามันแปรเปลี่ยนไปเป็นความรักแบบอื่นแทน แบบที่แม่ไม่ต้องเจ็บปวด และไม่รู้สึกผิดต่อพ่อของลูกไงล่ะจ๊ะ
พัชกอดภัทราแน่น เธอยิ้มให้กับแม่ของเธอ และภัทราก็ยิ่มตอบกลับไปอย่างยินดี...
แม่คะ...แม่ว่าตอนนี้บิ๊กเค้าอยู่ที่ไหนสักแห่งใช่ไหมคะ
ภัทราสะท้อนในหัวใจ เธอสงสารพัชเหลือเกิน เธอฝืนยิ้มให้ลูกสาวอย่างอ่อนโยน พลางบอกว่า...
จ้ะ และแม่ก็คิดว่า เค้าคิดถึงลูกสุดหัวใจเช่นกัน เค้าเหมือนชานนท์มากนะ
พัชมีน้ำตาเอ่อล้นขอบตา ภัทราซึ่งสังเกตเห็นรีบบอกกับพัชว่า
ปล่อยให้มันไหลออกมาเถอะจ้ะลูก ไม่ต้องเก็บมันเอาไว้คนเดียว รู้ไหมว่าแม่ทรมานแค่ไหน ที่ปล่อยให้ลูกร้องไห้คนเดียวมาแสนนาน แม่เข้าใจว่าหนูเจ็บปวดแค่ไหน แม่เองก็เคยพรากจากคนที่แม่รักมากที่สุด แม่เข้าใจ แม่หวังเพียงให้ลูกเชื่อในสิ่งที่ลูกคิดมาตลอด สิ่งที่ลูกบอกกับพวกเราว่า ลูกจะรอคอยบิ๊กอย่างมีความหวัง และเข้มแข็ง แม่เชื่อว่าบิ๊กเองก็เจ็บปวดไม่แพ้กัน แม่ไม่สามารถรู้ได้ว่าระหว่างหนูกับเค้าใครจะเจ็บปวดมากกว่า ในเมื่อหัวใจของหนูกับเค้าเป็นดวงเดียวกันแบบนี้
นาทีนั้นพัชรู้สึกว่าแม่ของเธอรักเธอมากเพียงใด...แม่รับรู้มาตลอดว่าเธอเจ็บปวดมากเพียงใด แม้แม่จะไม่ได้มองเห็นด้วยตาของแม่เอง...พัชคิดว่าภัทรา แม่ของเธอ คือคนที่เข้าใจเธอมากที่สุดในตอนนี้...เธอจึงกล้าที่จะบอกความรู้สึกของตัวเองที่เก็บเอาไว้ตลอดสองปีที่ผ่านมา...
แม่คะ พัชพูดพลางปล่อยน้ำตาไหลลงมาอาบแก้มช้า ๆ
ภัทราลูบศีรษะพัชไปมา เธอแสดงให้พัชรับรู้ว่าเธอกำลังตั้งใจฟังสิ่งที่พัชกำลังพูดอยู่ และที่พัชจะพูดต่อจากนี้ไป
พูดออกมาเถอะลูก
พัช พัชคิดว่าบิ๊ก บิ๊กเค้าคงไม่ คงไม่ ไม่กลับ กลับมาแล้วค่ะ พัชพูดตะกุกตะกัก น้ำเสียงของเธอปวดร้าวและขาดเป็นห้วง ๆ ภัทราไม่ได้แสดงทีท่าตระหนกตกใจกับความคิดนี้ของลูกสาว เธอยิ้มอย่างอ่อนโยนให้พัช
แต่แม่ไม่คิดแบบนั้นนะจ๊ะ แม่เชื่อว่า สักวันลูกกับบิ๊กต้องได้พบกันอีกแน่ มันเป็น ลิขิตสวรรค์ จ้ะ ตอนนี้คนบนฟ้าอาจจะแค่ทดสอบความมั่นคงและกล้าหาญของจิตใจของลูกกับเค้าเท่านั้นเอง การรอคอยมันเป็นเรื่องที่แสนทรมานและเจ็บปวด ใช่ แม่ไม่ปฏิเสธหรอก แต่ถ้าลูกมองดี ๆ ลูกก็จะเห็นว่า การรอคอยสอนอะไรให้ลูกบ้าง และแม่ก็เชื่อว่าลูกมองเห็นมันได้จ้ะ
แต่นี่สองปีผ่านไปแล้วนะคะ เรายังไม่ได้แม้แต่ข่าวที่บอกว่า บิ๊กยังมีชีวิตอยู่ แล้วพัชจะมั่นใจได้ยังไงคะว่าพัชจะได้เจอเค้าอีก พัชทราบค่ะว่าพัชสัญญากับเค้าไว้ว่าพัชจะเข้มแข็ง แต่แม่รู้ไหมคะว่า พัชเคยแอบคิดบ่อย ๆ ว่าเค้าคงไม่กลับมาแล้ว เราคงไม่ได้เจอกันอีกแล้ว จนกระทั่งนาทีนี้ พัชก็คิดแบบนั้น พัชคิดว่า พัช พัชกำลังจะยอมแพ้ น้ำตาอีกมากมายไหลเอ่อออกมาจากดวงตาแสนเศร้าของพัช
แม่รู้จ้ะ แม่รู้ แต่แม่อยากให้ลูกเชื่อในอะไรก็ตามที่บิ๊กบอกกับลูกไว้ก่อนที่จะจากกัน แม่เชื่อว่าเค้าต้องรักษาสัญญา
แต่เค้าไม่ได้สัญญากับพัชนี่คะ ว่าเค้าจะกลับมาหาพัช จริงๆตอนนั้นพัชไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเราจะต้องจากกันแบบนี้ เค้าเอาแต่พูดว่าให้พัชเข้มแข็ง ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม ขอให้พัชจำไว้ว่าเค้ารักพัช และเค้าขอให้พัชสัญญาว่าชาติหน้าให้เราเกิดมาคู่กัน ไม่พรากจากกันอีก อะไรทำนองนั้น มันหมายถึงอะไรได้ล่ะคะ มันไม่มีสัญญาณอะไรบ่งบอกเอาไว้เลยนี่คะว่าเค้าจะกลับมาหาพัช พัชพูดพลางเช็ดน้ำตา
ภัทราซึ่งฟังพัชพูดอย่างตั้งใจฟังทุกคำพูดนั้น มีสีหน้าซึ่งยากจะเดาได้ว่า เธอรู้สึกอย่างไรกับประโยคที่ได้ยินเมื่อครู่
บิ๊ก เค้าบอกกับลูกแบบนั้นเหรอจ๊ะ ภัทราถามย้ำ
ค่ะ เค้าบอกพัชแบบนั้น
พัชจ๊ะ แม่ว่าตอนนี้ลูกไปพักผ่อนหน่อยดีกว่านะจ๊ะ เราจะคุยเรื่องนี้กันอีกได้ทุกเวลาที่ลูกต้องการแม่จ้ะ สิ่งที่ลูกต้องการตอนนี้คือการนอนหลับนะจ๊ะ
แม่คะ พัชขออนุญาตไปทุ่งหญ้าค่ะ พัชไม่ต้องการนอนหลับค่ะ เอ่อ ขอโทษค่ะ พัชหมายความว่า พัชยังไม่อยากนอนค่ะ แม่เข้าใจพัชนะคะ
แน่นอนจ้ะ แม่เข้าใจ ดูแลตัวเองนะจ๊ะ ภัทราดึงพัชเข้ามากอด พัชหอมแก้มแม่ของเธอเบา ๆ ก่อนจะผละจากไป
ภัทรามองตามร่างของลูกสาวไปจนลับตา ความหวาดหวั่นหลั่งไหลเข้ามาโจมตีหัวใจของเธออย่างช่วยไม่ได้เลย เธอกำลังคิดถึงประโยคที่บิ๊กบอกกับพัช ที่พัชเพิ่งเล่าให้เธอได้ฟังก่อนออกไป ประโยคที่ว่า...ชาติหน้าขอให้เค้าทั้งสองได้เกิดมาคู่กันและอย่าได้พรากจากกันอีก...เด็กหนุ่มคนนั้น...บิ๊ก...เค้าคิดจะทำอะไรนะ ตอนนี้เค้ายังมีชีวิตอยู่ใช่ไหม เค้าคงไม่ได้...ไม่นะ...ถ้าเค้าทำแบบนั้น...ป่านนี้ต้องมีใครรู้แล้วสิ...แต่นี่มันหมายความว่ายังไง สองปีผ่านไปโดยไร้ข่าวคราวใด ๆ...ภัทรานั่งลงอย่างอ่อนแรง เธอถอนหายใจ คิดแค่ว่า ทำไมนะ เรื่องแบบนี้จึงต้องเกิดขึ้นกับลูกสาวของเธอ...ทำไมกัน...
พัชค่อย ๆ ลืมตาขึ้นช้า ๆ...ลืมตาจากความทรงจำ และ อดีต ที่ฝังอยู่หัวใจ...สองปีมาแล้ว สองปี ที่พัชรอเค้าอยู่ตรงนี้...ตรงที่ความทรงจำที่แสนดีมากมายเกิดขึ้น...และความทรงจำครั้งสุดท้ายที่เค้าตั้งใจให้เธอจดจำก็ยังฝังอยู่ ณ ที่นี้...จนถึงทุกวันนี้...เธอก็ยังมีแค่เค้าอยู่ในหัวใจ...แล้วเค้าล่ะ...จะเป็นเหมือนเธอบ้างไหมนะ...
พัชวางดอกกุหลาบขาวไว้ ณ ตรงที่ ๆ เธอฝังศพของเจ้าโมโม่เอาไว้...เธอเลือกที่จะฝังร่างไร้วิญญาณของเพื่อนคู่ใจ คู่ทุกข์ คู่ยาก ที่จากเธอไปอย่างไม่มีวันกลับไว้ตรงนี้...ทุ่งหญ้าแห่งนี้...
พัชกลับก่อนนะจ๊ะโมโม่...เอาไว้พรุ่งนี้พัชจะมาหาเหมือนเดิมนะ พัชวางกุลาบไว้แล้วค่อย ๆ ปาดน้ำตาที่รินไหล
โมโม่...อย่าคิดว่าพัชเหลวไหลเลยนะ...ถ้าโมโม่เจอบิ๊กที่นี่ละก็...ถ้าเผื่อบิ๊กหวนกลับมาที่นี่ล่ะก็...โมโม่ต้องรีบไปบอกพัชนะ...อย่าลืมนะ พัชพูดกับหลุมฝังศพของโมโม่อย่างเลื่อนลอย...
พัชนั่งสงบนิ่งอยู่กับหลุมศพโมโม่ครู่หนึ่ง...เธอก็ค่อย ๆ ลุกขึ้น และก็เดินลับหายไปจากทุ่งหญ้า พร้อม ๆ กับแสงอาทิตย์สุดท้ายที่เพิ่งลับหายไปจากขอบฟ้า...อีกไม่นาน แสงอาทิตย์ก็จะกลับมาทำให้โลกนี้สว่างสดใส...เติมพลังให้กับทุกชีวิตอีกครั้ง...อีกไม่นาน...
แสงสว่างแรกของวันนี้...โผล่พ้นจากขอบฟ้าได้ไม่นานนัก...เสียงผู้คนจ้อกแจ้กจอแจรับเช้าวันใหม่ดังก้องออกมาจากไร่...เป็นเสียงของคนงานที่คุ้นเคยกันดี...พวกเค้าเริ่มงานตั้งแต่เช้าตรู่...งานในไร่กุหลาบนี้ถือได้ว่าเป็นงานที่พวกเค้ารัก...เพราะเจ้าของไร่นั่นเอง...ที่ทำให้คนงานทุกคนรู้สึกรักเค้า รักไร่ของเค้า และทุ่มเทให้กับงานเหมือนกับว่า ทุกคนเป็นเจ้าของไร่ร่วมกัน...ทุกคนจึงเต็มใจอยู่ที่นี่ ที่ ๆ ห่างไกลจากแสงสี และความเจริญต่าง ๆ ที่พรากความงดงามออกไปจากจิตใจของคนเรามากขึ้นทุกวัน...
White Roses
ป้ายที่แขวนอยู่บอกเป็นความหมายได้ว่า...ไร่แห่งนี้...เป็นไร่กุหลาบขาว...มีหลายครั้งที่มีคนถามว่า ทำไมไม่ตั้งชื่อไร่ให้เป็นเรื่องเป็นราวล่ะ คนงานที่นี่ก็ได้แต่ยิ้ม...และได้แต่บอกว่า...เจ้าของไร่บอกว่า ไม่สามารถหาชื่อไร่ที่ถูกใจได้น่ะครับ...White Roses...จึงเป็นชื่อไร่แห่งนี้ที่ทุกคนเรียกขานกันไปโดยปริยาย...
นายชิต...วันนี้ตัดกุหลาบได้เยอะไหม เสียงชายวัยกลางคนถามขึ้น เค้าเดินมาทักทายคนงานทุก ๆ เช้า และก็ช่วยพวกคนงานตัดดอกกุหลาบเป็นกิจวัตร
เยอะครับคุณชานนท์...ตอนนี้ออกดอกงามมากครับ ไม่ทราบว่าคุณภัคนนท์ไปได้ปุ๋ยดีอะไรมาเหรอครับ นายชิตตอบพลางยิ้มอย่างอยากรู้
ชานนท์หัวเราะเล็กน้อย ไม่ใช่เพราะปุ๋ยดีอะไรหรอกนายชิต เพราะคนงานทุกคนที่นี่ช่วยกันดูแลเอาใจใส่ต่างหาก และอีกอย่าง พักนี้ฉันรู้สึกว่า ไอ้เจ้าลูกชายฉันเนี่ยขยันเหลือเกิน รู้สึกว่าจะทำงานหนักเกินไปแล้วด้วยซ้ำ
นั่นน่ะสิครับคุณชานนท์ ผมเห็นคุณภัคนนท์ไม่เคยหยุดทำงานเลย ไม่ว่าจะฝนตก แดดออก เอ...แบบนี้อาจจะทำให้ไม่สบายได้นะครับ นายชิตเห็นด้วยกับชานนท์ พลางออกปากด้วยความเป็นห่วงนายน้อยของเค้า...
นั่นน่ะสินะ พักหลังนี่เจ้าบิ๊กดูทุ่มเทกับงานมาก มากจนเกินความจำเป็นนะฉันว่า ชานนท์เริ่มกังวลว่าลูกชายของเค้าอาจจะคิดอะไรขึ้นมาอีกแล้ว...
เพราะเรื่องนั้นหรือเปล่าครับ นายชิตแย้มถาม
เรื่องอะไร อ้อ...เรื่องหนูพัชสินะ...ฉันว่าก็อาจจะมีส่วนนะ ไม่หรอก มีส่วนอย่างมาก และก็คงเป็นเรื่องเดียวที่ทำให้จิตใจของลูกชายฉันหวั่นไหวได้น่ะนะ
คุณชานนท์คิดว่า คุณพัชเธอเป็นลูกสาวของคุณจริงหรือเปล่าครับ นายชิตเอ่ยเกรง ๆ
ไม่เป็นไร ฉันไม่ว่าอะไรหรอกชิต ถ้านายจะพูดถึงเรื่องนี้ ฉันก็ไม่รู้หรอกนะว่าจริงไหม ภัทราคนเดียวเท่านั้นแหละที่รู้ดีกว่าใคร ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ๆ ก็นับว่า เด็กสองคนนี้น่าสงสารมากทีเดียว ฉันหวังว่าคงจะไม่ใช่นะ ฉันอยากให้ลูกชายของฉันไม่ต้องทนทุกข์ทรมานมากไปกว่านี้แล้ว
แล้วคุณชานนท์ไม่คิดจะกลับไปถามความจริงจากคุณภัทราเหรอครับ
จริงด้วยสินะ ทำไมฉันไม่เคยคิดได้มาก่อน ขอบใจมากนะชิต พูดจบแล้วชานนท์ก็เดินออกไปจากไร่ทันที ทำเอานายชิตมองตามอย่างมึนงงเล็กน้อย
บทจะใจร้อน ก็เหมือนกันเลยแฮะ ทั้งพ่อทั้งลูก นายชิตเอ่ยยิ้ม ๆ เค้าอยู่กับชานนท์และภัคนนท์มาเป็นระยะเวลานาน เค้าจึงซื่อสัตย์และจงรักภักดีกับครอบครัวนี้มาก...
อ้าวพี่ชิต คุณชานนท์เธอออกไปไหนน่ะ มะลิน้องสาวของพิชิตถามขึ้น เธอถือดอกกุหลาบช่อโตที่เพิ่งตัดมา
ไปตามล่าหาความจริงล่ะมั้ง นังมะลิ เอ็งจะรู้ไปทำไมวะ ทำงานของเอ็งไปเถอะน่า
แหม พี่ก็ ฉันก็แค่ถามไปอย่างนั้นแหละ ไม่ได้ตั้งใจจะสอดรู้เรื่องเจ้านายสักหน่อย ทำเป็นบ่นไปได้
เออ ๆ ว่าแต่เอ็งตัดดอกกุหลาบไปให้ใครวะ เยอะขนาดนี้น่ะ นายชิตถามด้วยความสงสัย
อ๋อ ก็คุณแบมน่ะสิพี่ ปกติฉันไม่เห็นเธอจะชอบกุหลาบขาวนะ แต่วันนี้บอกให้ฉันตัดไปให้เยอะ ๆ แปลกดี เธอคิดจะทำอะไรของเธอนะ
เอาน่า คุณเค้าบอกให้ตัดไปก็ตัดไปเถอะ จะเอาไปทำอะไรก็เรื่องของคุณเค้า เออ ว่าแต่ถ้าเอ็งเสร็จเรื่องคุณแบมแล้วก็ตามคุณภัคนนท์มาให้พี่หน่อยนา พี่จะให้คุณเค้ามาดูอะไรนี่หน่อย
ได้ ๆ จ้ะพี่ ฉันเอาดอกกุหลาบไปให้คุณแบมก่อนนะ
23 มีนาคม 2548 15:26 น.
Pat_Big
ผ่านมาสองปีแล้วสินะ...ที่บิ๊กจากเธอไป...และเธอก็ไม่เคยได้แม้แต่การได้รู้ว่า...เค้าสบายดี...หลังจากที่บิ๊กจากไปแล้วเพียงแค่สองอาทิตย์...เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นกับครอบครัวของพัช...ในตอนที่พัชคาดคั้นอย่างเอาเป็นเอาตายกับป้านิ่มและพีรวิชญ์ว่าทราบเรื่องที่เกิดขึ้นกับบิ๊กใช่ไหม...และในที่สุด พีรวิชญ์กับป้านิ่มก็ต้องสารภาพออกมาตามความจริงที่ได้ทำลงไป...
ภัทราโกรธพีรวิชญ์กับป้านิ่มมาก...เธอจึงได้ระเบิดอารมณ์ใส่เค้า...และก็บอกเรื่องจริงที่เค้าไม่เคยรับรู้ว่า...พัชเป็นลูกสาวของเค้าอย่างแท้จริง...ไม่ใช่ลูกสาวของชานนท์อย่างที่เค้ายัดเหยียดให้ตัวเองและคนอื่น ๆ เข้าใจแบบนั้น...ภัทราตบหน้าพีรวิชญ์ด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ...ที่เค้าคิดว่าเธอไม่ซื่อสัตย์ต่อชานนท์และเค้า...หากพัชเป็นลูกสาวของชานนท์จริงๆ...มีหรือ...เธอจะไม่บอกพีรวิชญ์...แต่ในเมื่อเธอไม่ได้เอ่ยปากสักแอะว่าพัชเป็นลูกของชานนท์...นั่นมันยังไม่เพียงพออีกหรือที่จะทำให้พีรวิชญ์เข้าใจว่าพัชเป็นลูกสาวของเค้าจริง ๆ...
ป้านิ่มประสาทเสียกับเรื่องนี้มากที่สุด...ภัทราล้มป่วยลงอีกครั้ง...พัชซึ่งทั้งเสียใจ ตกใจ จนช็อกนั้น...ก็กลายเป็นคนเงียบขรึมและเก็บตัว...หลังจากที่รู้เรื่องจากพีรวิชญ์กับป้านิ่ม...พัชทำได้เพียงน้ำตาไหลเงียบ ๆ และก็ไม่ขอเจอหน้าพีรวิชญ์กับป้านิ่มหากไม่จำเป็น...พัชไปเฝ้าไข้ภัทราทุกวันกับน้องแพท...ป้านิ่มละอายใจและรู้สึกทุกข์อย่างหนัก เธอไม่สามารถมองหน้าภัทรากับพัชได้อย่างสนิทใจ...ความรู้สึกผิดกระตุกวูบอย่างรุนแรงขึ้นมาในจิตใจทุกครั้งที่เห็นหน้าที่เคยเต็มไปด้วยรอยยิ้มสดใสของพัช แต่บัดนี้กลายเป็นใบหน้าที่เรียบเฉย อยากจะหยั่งความรู้สึกใดๆ..แต่ป้านิ่มสัมผัสความรู้สึกเจ็บปวดและทุกข์อย่างแสนสาหัสในแววตาของพัช...
แล้วภัทรายังกลับมาป่วยอีกครั้ง...พีรวิชญ์เองก็ประสาทเสียพอๆกัน...เค้าเองก็จับต้นชนปลายไม่ถูกว่าจะแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างไรดี...ตอนนี้เค้ารู้แล้วว่า...พัชเข้มแข็งกว่าที่เค้าคิดว่ามากเหลือเกิน...พัชไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ไม่โวยวาย ไม่ร้องไห้อย่างเอาเป็นเอาตาย...เค้าเห็นเพียงแววตาเจ็บปวดสุดหัวใจจากลูกสาวของเค้าเท่านั้น...ซึ่งนั่นทำให้เค้ารู้สึกว่า...ชาตินี้เค้าคงไม่สามารถชดใช้ความผิดครั้งนี้ได้หมด...
เมื่อภัทราหายจากอาการป่วย...เค้าก็พยายามติดต่อ ติดตามหาตัวบิ๊ก...พัชเองก็ไปที่ทุ่งหญ้ากับโมโม่ทุกวัน...นำดอกกุหลาบสีขาวไปด้วย...ไม่มีใครกล้าพอที่จะถาม หรือห้ามปราบใดๆ...ทุกคนรู้ว่าตอนนี้พัชเจ็บปวดมากเพียงใด...แต่เธอเองก็พยายามไม่แสดงออกเวลาอยู่ต่อหน้าใคร ๆ...
พัชไปบ้านบิ๊กทุกวัน...ซึ่งตอนนี้มีเพียงความเงียบเหงาและปวดร้าวให้เธอไปเจอ...เธอพบดอกกุหลาบขาวแห้งๆมากมาย...เพราะว่าบ้านของบิ๊กจะถูกตกแต่งด้วยดอกกุหลาบสีขาวไปทั่วทั้งบ้าน...บิ๊กรักดอกกุหลาบสีขาว...พัชร้องไห้อย่างหนักและดูเหมือนว่าเธอจะปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาจากหัวใจจนแทบจะหมดแล้วแค่เพียงในวันแรกที่เธอกลับไปบ้านของบิ๊ก...ข้าวของทุกอย่างในบ้านของบิ๊กยังคงวางอยู่ที่เดิม....เหมือนกับว่าบิ๊กไม่ได้จากไปไหน...ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ทีเดิม...รูปที่บีกเคยวาด...รูปถ่ายของครอบครัวเค้า...รูปที่หายไปมีเพียงรูปของพัชเท่านั้น...เค้าเก็บรูปของพัชทุกรูปติดตัวไปด้วย...
เมื่อเธอได้สติ...เธอก็จัดการดูแลทุกอย่างในบ้าน...ทำความสะอาดบ้าน...ตัดดอกกุหลาบขาวในสวนมาประดับบ้านใหม่แทนของเก่า...รดน้ำต้นไม้...เธอเหนื่อยจนแทบหมดแรงเมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จ...เธอมองบ้านด้วยน้ำตานองหน้าอีกครั้ง...เธอคิดถึงบิ๊กเหลือเกิน...ตอนนี้เค้าเป็นยังไงบ้างนะ...เค้าอยู่ทีไหนนะ...แล้วเค้าจะคิดถึงเธอบ้างไหม
บิ๊ก...พัชสัญญาว่าจะเข้มแข็ง...และรอวันที่เราจะได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง แม้ว่าจะหวังพึ่งได้แค่เพียงปาฏิหาริย์เท่านั้น...แต่พัชก็จะรอ รอปาฏิหาริย์นั้น...พัชยังจำสิ่งที่บิ๊กบอกกับพัชได้ทุกอย่างนะ...จากนี้พัชไม่สามารถรักใครได้อีกแล้วเช่นกัน...บิ๊ก...พัชรักคุณค่ะ
เธอยังคงมาที่บ้านบิ๊กและจัดการทำความสะอาด รดน้ำต้นไม้ ดูแลสวนให้ทุกวัน...และก็ยังคงไปที่ทุ่งหญ้าพร้อมดอกกุหลาบขาวทุกวัน...บางครั้งเธอก็จะนอนค้างที่บ้านของบิ๊ก...ทุกคนเจ็บปวดมากที่เรื่องกลายเป็นแบบนี้...ภัทรานั้นสงสารพัชจับหัวใจ...และเธอยังคงไม่ให้อภัยพีรวิชญ์กับป้านิ่มในเรื่องนี้...เมื่อไหร่ที่พูดถึงเรื่องของพัชกับบิ๊ก...เป็นอันว่าภัทราจะแสดงออกอย่างชัดเจนว่ายังไม่ยกโทษให้คนทั้งคู่...แต่กับเรื่องอื่น ๆ ภัทราก็ยังเป็นปกติกับทั้งสองคนดีเหมือนเดิม....
พีรวิชญ์ยังคงไม่ได้ข่าวคราวของบิ๊กว่าเค้าไปอยู่ที่ไหน...เค้าสืบเสาะหาบิ๊กทุกวิถีทาง...แต่ดูเหมือนว่ายิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่...เค้าก็ยิ่งล้มเหลวมากเท่านั้น...เค้าไม่ได้แม้เพียงข่าวคราวจากใครสักคนว่า...บิ๊กยังมีชีวิตอยู่...เหมือนกับว่าบิ๊กหายสาบสูญไปแล้วแบบนั้น...
บ่อยครั้งที่ทุกคนเห็นพัชเหม่อลอยอยู่กับโมโม่เพียงลำพัง...เมื่อเห็นว่าเธอเป็นแบบนั้น...จะไม่มีใครกล้ารบกวนเธอ เพราะภัทราขอร้องเอาไว้...พัชจึงสามารถล่องลอยและจมดิ่งอยู่กับความรู้สึกของเธอในขณะนั้นได้จนพอใจ...ระยะหลัง ๆ โมโม่เริ่มแก่ลงตามกาลเวลา...มันจึงดูไม่สดใสร่าเริง กระฉับกระเฉงเหมือนแต่ก่อน...แต่ในความคิดของพัช...พัชคิดว่ามันคงเสียใจเรื่องบิ๊กเช่นเดียวกับเธอ...เพราะโมโม่เป็นเพื่อนคนเดียวของเธอมาตลอด...
โมโม่เริ่มไม่สบายบ่อย ๆ พัชกระวนกระวายและทุกข์หนักมากเข้าไปอีก...ภัทราพาโมโม่ไปหาหมอ หมอบอกว่ามันป่วยและไม่แข็งแรงตามวัยที่มากขึ้น...พัชกลัวจับใจว่ามันจะอยู่กับเธอได้อีกไม่นาน...ตอนนี้เธอจึงอยู่กับมันตลอดเวลา ไม่ให้มันคลาดสายตาเลย...ไม่ว่าเธอจะไปไหน เธอก็จะพามันไปด้วยตลอด...แม้แต่ตอนนอน เธอก็จะพามันไปนอนกับเธอด้วย...สถานการณ์เริ่มตึงเครียดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง...เมื่อพัชเริ่มรู้สึกว่าเธอคงกำลังจะสูญเสียสิ่งที่เธอรักที่สุดไปอีกครั้งแล้ว...
และก็เป็นจริงอย่างที่เธอกลัว...หลังจากนั้นหกเดือน...โมโม่ก็จากเธอและทุกคนๆไปเพราะอายุขัยที่หมดลงแล้ว...พัชร้องไห้ปิ่มจะขาดใจ...เธอรู้สึกอ้างว้างอย่างบอกไม่ถูก...ต่อไปนี้ เธอต้องไปบ้านบิ๊ก ไปทุ่งหญ้า และไปที่ไหน ๆ โดยปราศจากเพื่อนที่ซื่อสัตย์และแสนดีอย่างโมโม่ เธอต้องไปไหนมาไหนคนเดียว...เธอรู้สึกเป็นครั้งแรกว่า คนบนฟ้าไม่ยุติธรรมกับเธอเลย พรากบิ๊กไปจากเธอยังไม่พอ ยังพรากเพื่อนคนเดียวที่อยู่กับเธอมาตลอดไปอีก...
พัชเก็บตัวเงียบเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์หลังจากโมโม่เสียไป เธอไม่ยอมกลับบ้าน ขลุกตัวอยู่ที่บ้านบิ๊กแทน...ภัทราถึงกับกินไม่ได้ นอนไม่หลับด้วยความเป็นห่วงลูกสาว...พัชไม่ยอมออกมาพบหน้าใคร ๆ แม้แต่แม่ของเธอเอง...น้องแพทเองก็เริ่มเข้าหน้าพี่สาวไม่ติด...พีรวิชญ์กับป้านิ่มประสาทเสียกันอีกครั้ง...พวกเค้ารู้ดีว่า...ต้นเหตุของเรื่องเกิดจากพวกเค้าเอง...
พีรวิชญ์กดดันกับสถานการณ์นี้อย่างหนัก...เค้าพยายามหาทางคลี่คลายปัญหานี้อยู่...ถึงแม้ว่าตอนนี้เค้าจะทำอะไรไม่ได้มากไปกว่า...การสืบหาตัวบิ๊กอย่างเอาเป็นเอาตาย เหมือนที่ผ่านมา...ตอนนี้ผ่านไปหนึ่งปีแล้ว...ยังไม่มีอะไรคืบหน้า...เค้าสงสัยเหลือเกินว่าครอบครัวเค้าจะกลับมามีความสุขได้เหมือนเดิมหรือไม่...แล้วความรู้สึกผิดก็จู่โจมหัวใจเค้าอย่างรุนแรงเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้...มันทำให้เค้าแทบคลั่ง...แต่เค้าสัญญากับตัวเองไว้ว่า...เค้าเป็นคนสร้างปัญหาขึ้นมา...เค้าจะแก้ปัญหาที่เค้าก่อให้คลี่คลายให้จงได้...ไม่เช่นนั้นเค้าคงนอนตายตาไม่หลับแน่...
สถานการณ์หนึ่งปีหลังจากที่บิ๊กจากไป...นับได้ว่าเลวร้ายมากที่สุด...ครอบครัวที่ได้มาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันในที่สุดกลับดูไม่มีความสุขเอาซะเลย...พัชพยายามทำตัวให้ทุกคนรู้สึกว่าเธอมีความสุขดี...แต่ก็ไม่มีใครเลือดเย็นพอจะไม่สังเกตเห็นความปวดร้าวที่ซ่อนอยู่ในแววตาคู่นั้นของพัช...แม้แต่น้องแพทเองก็รับรู้ว่าพี่สาวของเธอเสียใจมากเพียงใดเรื่องพี่ชายคนนั้น...แม้จะไม่ได้รู้เรื่องราวอะไรเพราะยังเด็กมากนัก...แต่น้องแพทเองก็รู้สึกว่าอยากให้พี่สาวของเธอกับพี่ชายคนนั้นอยู่กับเธอ...อยากให้พวกเค้าได้อยู่ด้วยกัน...
เมื่อย่างเข้าปีที่สองของการจากไปของบิ๊ก...ทุกคนสังเกตเห็นว่าพัชเริ่มทำตัวร่าเริงสดใสให้กับคนในครอบครัวเห็นมากขึ้น เธอทำเหมือนกับว่า เธอจะกลับมาเป็นพัชคนเดิมได้แล้ว...เธอจะหาเวลานั่งเหม่อลอยเฉพาะตอนอยู่คนเดียวเท่านั้น...แต่เมื่อเธออยู่ต่อหน้าทุกคน...เธอแสดงให้เห็นว่าเธอปกติดี...กลับมาเป็นพี่สาวที่ใจดีของน้องแพทเหมือนเดิม...เป็นพัชที่อบอุ่น อ่อนโยน อ่อนหวาน กับทุกคน...แต่ทุกคนก็ไม่ลืมเลยว่า แผลจากความเจ็บปวดของเธอยังไม่หายดีแน่นอน...และแน่นอนว่าไม่มีใครพูดถึงเรื่องบิ๊กต่อหน้าเธออีกนับจากวันนั้น...วันที่ภัทราบอกความจริงกับพีรวิชญ์ให้ทุกคนได้เข้าใจ...
เพราะทุกคนรู้ดีว่า...พูดเรื่องนี้ต่อหน้าพัชก็เท่ากับตอกย้ำความเจ็บปวด ความอยุติธรรมที่คนอื่นยัดเหยียดให้กับเธอ...เธอกับบีกไม่มีความผิดอะไรเลย...ทั้งสองคนบริสุทธิ์...แต่ทำไมเรื่องแบบนี้จึงเกิดขึ้นกับทั้งคู่...พัชบอกทุกคนเพียงครั้งเดียวว่า...มันเป็นลิขิตของสวรรค์ค่ะ พัชกับบิ๊กสัญญากันไว้แล้ว ว่าพัชจะเข้มแข็ง และก็รอวันที่ปาฏิหาริย์จะพาบิ๊กกลับมาหาพัชอีกครั้ง เธอพูดด้วยน้ำตานองหน้า...และหลังจากนั้นพัชก็ไม่เคยพูดอะไรแบบนี้ หรือร้องไห้ให้ใครเห็นอีก...เว้นซะแต่ตอนที่โมโม่เสียไปเท่านั้น...ภัทราคิดว่าพัชเสียน้ำตาในช่วงหนึ่งปีนี้มากมายเหลือเกิน มากจนเธอคิดว่า น้ำในตัวลูกสาวของเธอจะมีหลงเหลืออยู่ไหมนะ...
แม่คะ...แม่เชื่อเรื่องพรหมลิขิตไหมคะ พัชถามภัทราเบา ๆ หลังจากเงยหน้าขึ้นจากเข็มที่เธอถักไหมพรมอยู่
ภัทรายิ้มน้อย ๆ พลางเดินเข้าไปนั่งข้าง ๆ ลูกสาว และกอดพัชเอาไว้หลวม ๆ และลูบศีรษะเธอเบา ๆ
เชื่อสิจ๊ะลูก แม่เชื่อจ้ะ และแม่ก็เชื่อว่าลูกเองก็เชื่อ ใช่ไหมจ๊ะ ภัทรารู้ดีว่าพัชหมายถึงอะไร
แม่คะ แล้วแม่ทำยังไงคะ ถึงได้หายเจ็บปวดจากเรื่องคุณอาชานนท์ พัชถามต่อด้วยอาการเหม่อลอย
ภัทรานิ่งไปสักหลายวินาที เธอนึกหาคำพูดที่จะทำให้ลูกสาวของเธอรู้สึกดีขึ้นกว่านี้...
23 มีนาคม 2548 15:24 น.
Pat_Big
ปลายสายวางโทรศัพท์ลงกับแป้น แล้วยกขึ้นมา ทำท่าจะกดเบอร์ แต่ก็ตัดสินใจวางโทรศัพท์ลงอีกครั้ง
มีปัญหาอะไรหรือเปล่าลูก ผู้เป็นป้าถามขึ้น
เปล่าหรอกค่ะป้า แต่ว่า แบม ไม่กล้าพูด ผู้หญิงรับสายค่ะ พี่เค้าไม่ได้อยู่คนเดียวเหรอคะ สาววัย 18 ตอบ
เห็นว่าอยู่คนเดียวนะ ไม่เป็นไร ป้าจะลองโทรเอง
หญิงวัยกลางคนจึงกดเบอร์โทรศัพท์ไปยังบ้านบิ๊กอีกครั้งหนึ่ง
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้ง พัชวิ่งออกมาจากในครัว กำลังจะรับสาย บิ๊กเดินลงมาพอดี เค้าจึงบอกเธอว่า เค้าจะรับสายเอง เธอจึงกลับเข้าครัวไป
สวัสดีครับ ภัคนนท์พูดสายครับ
บิ๊ก นี่ป้าเองนะ จำได้ไหม
เอ่อ ป้าเรไร จำได้ครับ
บิ๊กตัดสินใจยังไงลูก เรื่องที่คุยกันไว้น่ะ
ผมตัดสินใจแล้วครับ ผมตกลงครับ
หญิงวัยกลางคนยิ้มอย่างพึงพอใจให้กับสาวน้อยที่รอฟังอย่างใจจดใจจ่อ เธอคุยกับบิ๊กอีกเล็กน้อยจึงวางสาย
ดีใจล่ะสิเรา เรไรหันไปถามหลานสาว
ดีใจสิคะ ป้าคะ ป้าว่าพี่เค้าจะรังเกียจแบมไหมคะ สาวน้อยมีสีหน้ากังวลใจ
ไม่หรอกลูก พี่บิ๊กน่ะ เค้าเป็นคนน่ารักจะตาย เหมือนชานนท์พ่อของเค้าไง เรไรลูบผมหลานสาวอย่างเอ็นดู
ว่าแต่คุณอาชานนท์จะจำพี่เค้าได้เหรอคะ
ป้าว่าพักนี้ ชานนท์เริ่มฟื้นความทรงจำได้บ้างแล้วนะ แล้วถ้าได้เห็นหน้าลูกชาย ป้าว่าอะไรๆต้องดีขึ้นอย่างแน่นอน ป้ามีความรู้สึกแบบนั้น
แล้วพี่เค้าจะไม่โกรธพวกเราเหรอคะ ที่ไม่ยอมบอกเรื่องคุณอาชานนท์ตั้งแต่แรก
ไม่หรอกน่า แบม อย่าคิดมากเลยลูก เรื่องนี้เป็นการตัดสินใจของรินลดาแม่ของเค้า เค้าเข้าใจแม่เค้าแน่ๆ ว่าแต่เราเถอะ ตื่นเต้นน่าดูเลยนะเนี่ย เรไรแซวหลานสาว
แหม คุณป้าก็ แบมก็แค่ดีใจที่จะมีพี่ชายเท่านั้นเองค่ะ สาวน้อยตอบพลางเก็บอาการเขินอาย
บิ๊กขอร้องให้พัชไปที่ทุ่งหญ้ากับเค้าอีกครั้ง ก่อนที่จะส่งเธอกลับบ้าน
พัช ดูแลตัวเองดี ๆ นะ และก็ขอให้พัชเข้มแข็งเสมอไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น
บิ๊ก พูดอะไรแปลก ๆ อีกแล้วนะ พูดเหมือนกับว่า จะไปไหน ไม่ได้เจอกันแล้วแบบนั้นแหละ
พัช สัญญากับบิ๊กนะ ว่า ขอให้ชาติหน้าและชาติต่อ ๆ ไป เราเกิดมาเป็นคู่กัน พัชห้ามเกิดมาเป็นอย่างอื่น ต้องเกิดมาเป็นภรรยาของบิ๊กเท่านั้น สัญญานะ น้ำเสียงและแววตาของเค้าวิงวอนอย่างปวดร้าวหัวใจ
บิ๊ก พัชเอ่ยเรียกชื่อเค้าออกมาเบา ๆ เธอไม่รู้ว่านี่มันเรื่องอะไรกัน ทำไม เค้าเป็นอะไรไป
สัญญากับผมนะ เค้าดึงเธอเข้ามากอดไว้
ค่ะ พัชสัญญา
ถ้าคิดถึงบิ๊กก็มาที่นี่นะพัช มาที่นี่ ความรักของเราอยู่ตรงนี้ กุหลาบขาวเป็นสัญลักษณ์แทนความรักของเรา พัชอย่าลืมนะ
บิ๊กเป็นอะไรไปคะ พูดจาอะไรแปลก ๆ พัชถามอะไรก็ไม่บอก มีเรื่องอะไรที่พัชไม่รู้เหรอ
เค้านิ่งงัน ไม่สามารถหาคำใดๆ มาพูดกับเธอได้ เธอจึงได้แต่มองหน้าเค้าด้วยหัวใจที่ปวดร้าวเช่นกัน
นี่มันเรื่องอะไรกันน่ะบิ๊ก ทุกคนเป็นอะไรกัน พัชสังเกตว่าพักนี้ทุกคนดูแปลก ๆ บิ๊ก ป้านิ่ม คุณพ่อ ทุกคนมีอะไรปิดบังพัชใช่ไหม ใช่ไหม
พัช ใจเย็น ๆ สิ พัชไม่เคยเป็นแบบนี้นี่นา ทำไมดื้อแบบนี้ บอกอะไรต้องฟังสิ
งั้นเหรอ เห็นพัชเป็นอะไรล่ะ พัชไม่มีสิทธิ์รู้เรื่องราวอะไรงั้นเหรอ บิ๊กเห็นพัชเป็นอะไร
พัช บิ๊กเรียกเธอเสียงแผ่วด้วยความตกใจ เค้าไม่คิดว่าจะทำให้เธอรู้สึกไม่ดีแบบนี้
ถ้าบิ๊กไม่บอกว่ามันเรื่องอะไรกัน พัชจะกลับบ้านล่ะ
พัช เป็นอะไรไป วันนี้เราควรจะมีความสุขให้มากที่สุดนะ
งั้นเหรอ เพื่ออะไรล่ะ
ก็เพื่อ เพื่อ เค้าพูดไม่ออก นิ่งงันไปเฉย ๆ เค้าอยากอธิบายให้เธอเข้าใจเหลือเกิน แต่เค้าทำไม่ได้ เค้าเจ็บใจที่เค้าบอกอะไรเธอไม่ได้
พัชเริ่มโกรธ และก็พยายามที่จะเดินหนีเค้าไป เค้ากอดเธอไว้จากด้านหลัง
ได้โปรด อย่าเพิ่งไปนะ ขอร้องล่ะ บิ๊กบอกเธอด้วยความปวดร้าว
พัชพยายามแกะมือเค้าที่เกาะกุมเธออยู่ออก เธอน้ำตาไหล ทั้งไม่เข้าใจ สับสน และก็น้อยใจ
นะ พัช ขอเวลาแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น จากนั้นพัชจะโกรธจะเกลียดบิ๊ก บิ๊กก็ไม่ว่าอะไร
พัชค่อย ๆ หันหน้ามาหาเค้า เธอพบว่า เค้าเองก็น้ำตาไหลออกมาเช่นกัน
พัช บิ๊กขอโทษที่ไม่สามารถบอกอะไรพัชได้เลย หลังจากวันนี้ไป พัชก็จะเข้าใจเองนะ แค่วันนี้ ขอแค่วันนี้เท่านั้น ได้โปรดอย่าหายไปตอนนี้ อย่าทิ้งบิ๊กไปตอนนี้
ทำไมทุกคนทำเหมือนพัชเป็นตุ๊กตาแก้วอะไรทำนองนั้น ที่อาจจะแตกหักได้ตลอดเวลาถ้ามีอะไรกระทบกระเทือนนิดๆหน่อยๆ ทำไมไม่คิดบ้างว่าพัชเองก็อยากจะรับรู้ถึงปัญหา ถึงเรื่องราวทีเกิดขึ้น ถึงพัชจะช่วยอะไรไม่ได้ พัชก็ควรจะได้รู้ พัชไม่ใช่คนอื่นนะบิ๊ก พัชเป็นของบิ๊ก บิ๊กเป็นของพัช เราเป็นของกันและกัน แล้วทำไมพัชถึงไม่สมควรจะรู้ล่ะ ทำไมล่ะ เธอใช้กำปั้นน้อยๆ ของเธอทุบรัวที่หน้าอกของเค้า
เค้าปล่อยให้เธอทำแบบนั้น ต่อให้เธอฆ่าเค้าให้ตายตอนนี้ เค้าก็ยินยอม ความตายมันเทียบไม่ได้กับความเจ็บปวดที่เค้ารู้สึกอยู่ตอนนี้
เมื่อพัชได้สติกลับคืนมา เธอก็หยุดมือของเธอ แล้วก็ซบกับอกของเค้า พลางร้องไห้อย่างหนัก เค้าเองก็เช่นกัน เค้าและเธอ กอดกระชับกันและกันแนบแน่น เจ้าโมโม่มองคนทั้งคู่ด้วยอาการซึม ๆ คล้ายกับรับรู้เรื่องราว
บิ๊ก พัชขอโทษนะ เธอพูดด้วยเสียงสะอื้น
เค้าปาดน้ำตาตัวเอง แล้วยิ้มให้เธอ พลางบอกว่า
บิ๊กให้อภัยพัชหมดแล้ว ให้อภัยทุกสิ่งทุกอย่าง จากนี้บิ๊กไม่สามารถรักใครได้อีกแล้ว เพราะหัวใจของบิ๊กอยู่ที่พัช พัชเก็บรักษามันเอาไว้ให้ดีนะ ถ้าวันไหนพัชไม่ต้องการ ก็อย่าเอาความรักของบิ๊กทิ้งไปไหนนะ ให้มันฝังอยู่ในนั้นตลอดไปด้วยนะ
พัชยิ้มให้เค้า ก่อนที่เค้าจะพูดอะไรต่อ เธอก็จูบเค้า เค้าตกตะลึงเล็กน้อย เมื่อถอนริมฝีปากออกจากกัน พัชก็ยิ้มเขิน ๆ แล้วบอกกับเค้าโดยไม่กล้ามองหน้าว่า
ขอโทษนะ ก็บิ๊กอยากน่ารักทำไมล่ะ เธอพยายามเดินหนีเค้า เพราะความเขินอายกับสิ่งที่เธอทำไปเมื่อครู่
เฮ้ นี่ อะไรกัน มาขโมยจูบเค้าแล้วก็จะเดินหนีเหรอ บิ๊กตะโกนไล่หลังมา เค้ารีบตามเธอมาจนทัน แล้วคว้าข้อมือเธอไว้ เธอหันหน้ามาหาเค้า และเค้าก็พบว่า เธอเขินจนหน้าแดง เค้าจึงหัวเราะเบา ๆ
อะไรกัน หน้าแดงขนาดนี้เชียว เค้าบิดแก้มเธอเบา ๆ
พัช อย่าลืมสัญญานะ เราสัญญากันแล้ว บิ๊กเอ่ย
ค่ะ พัชไม่มีวันลืม บิ๊กก็เหมือนกันนะคะ
เค้าเอานิ้วก้อยของเค้ามาเกี่ยวกับนิ้วก้อยของเธอเอาไว้
เราสัญญากันแล้วนะ ทั้งคู่เอ่ยขึ้นพร้อมกัน
เค้ากอดเธอเอาไว้อีกครั้ง และรู้สึกว่าไม่อยากปล่อยเธอเลย อยากให้เวลาหยุดลงตรงนี้ ไม่ได้หรือ เป็นไปไม่ได้หรือ ทำไมเค้าต้องพรากจากเธอด้วย ทำไมเค้ากับเธอถึงรักกันไม่ได้ ทำไมเธอต้องเป็นน้องสาวของเค้า ถึงแม้จะคนละแม่กันก็ตาม แต่เค้าก็เข้าใจว่า เค้าทำแบบนั้นไม่ได้ ถึงแม้ในใจเค้าจะไม่เคยยอมรับว่าเธอเป็นน้องสาวของเค้าก็ตาม แต่ก็ต้องจากกันด้วยหรือ ไม่ยุติธรรมเลย...
เค้าพาเธอไปส่งที่บ้าน เมื่อถึงหน้าบ้าน เธอก็เอ่ยชวนให้เค้าเข้าบ้าน ไปพบกับแม่ของเธอ เค้าเกรงว่าพีรวิชญ์กับป้านิ่มจะไม่สบายใจ เค้าจึงลังเล แต่ก็ทนสีหน้าอ้อนวอนของพัชไม่ไหวอีกตามเคย เค้าจึงยอมตามเธอเข้าไปในบ้าน ด้วยความรู้สึกที่หนักหนาสาหัสที่รุมเร้าอยู่ในหัวใจ
แม่คะ พ่อคะ ป้านิ่ม น้องแพท พัชกลับมาแล้วค่ะ พัชร้องบอกเสียงใส
ป้านิ่มกับพีรวิชญ์หันไปมองหน้ากันเล็กน้อยเมื่อเห็นบิ๊ก
บิ๊กยกมือไหว้พีรวิชญ์ ภัทราและป้านิ่ม ดูเหมือนจะมีภัทราคนเดียวที่ยิ้มให้เค้าด้วยความยินดีและดีใจ
น้องแพทยกมือไหว้ทักทายบิ๊ก พลางวิ่งเข้าไปกอดพัชไว้
พี่พัช พี่พัช น้องแพทคิดถึงพี่พัชที่สุดเลย พี่ชายคนนี้ คนที่ช่วยน้องแพทไว้ น้องแพทจำได้คุณพ่อคุณแม่ขา พี่ชายคนนั้นไงคะ
จำพี่ได้ด้วยเหรอสาวน้อย เก่งจัง ความจำดีมากนะเรา บิ๊กเอ่ยทักทายน้องแพท
น้องแพทเดินเข้าไปหาบิ๊ก บิ๊กนั่งลง น้องแพทจับมือบิ๊กอย่างดีใจ
พี่ชายคะ นางฟ้ามีจริงๆนะ น้องแพทบอกกับบิ๊ก
จ้ะ พี่รู้ว่ามีจริง ๆ ก็ยืนอยู่ตรงนี้ไง บิ๊กมองไปทางพัช ทำให้พัชหน้าแดงด้วยความเขินอาย ภัทราอดอมยิ้มไม่ได้ แม้แต่พีรวิชญ์กับป้านิ่มเองก็ตาม
พี่ชายคะ พี่ชายเป็นแฟนกับพี่พัชเหรอคะ น้องแพทดีใจมากที่สุดเลยค่ะ น้องแพทรักพี่พัช และน้องแพทก็ชอบพี่ชายมากด้วยค่ะ น้องแพทพูดเจื้อยแจ้วตามประสาเด็ก
น้องแพท พูดอะไรแก่นเซี้ยวเกินเด็กนะคะลูก ภัทราปรามน้องแพทเบา ๆ แต่ก็ไม่ได้แสดงว่าไม่พอใจ พัชยังคงเขินจนหน้าแดงไม่พูดอะไร
ไม่เป็นไรหรอกครับ น้องเค้าดูเป็นเด็กฉลาดมีความคิดนะครับ โตขึ้นมาต้องเป็นผู้ใหญ่ที่ดีแน่ครับ บิ๊กยิ้มและตอบ
ภัทราห้ามตัวเองไม่ให้ถามบิ๊กเกี่ยวกับเรื่องชานนท์ได้ทันการ เพราะเธอเกือบจะหลุดปากถามออกมาแล้ว ถ้าไม่ทันได้ยั้งคิดว่า คำถามนั้นจะส่งผลอย่างไรต่อจิตใจของบิ๊ก เธอจึงไม่ได้ถามอะไร แต่ก็คิดเหมือนกับทุกคนว่า...เค้าคล้ายชานนท์มาก หรืออาจจะเรียกได้ว่า...เหมือนชานนท์เลยทีเดียว...
เมื่อภัทรา พัช ป้านิ่ม และน้องแพทเข้าครัวไปเพื่อช่วยกันเตรียมอาหารแล้ว...พีรวิชญ์ก็ถือโอกาสนี้พูดคุยกับบิ๊กเกี่ยวกับเรื่องที่ได้คุยกันเอาไว้....
อาขอบใจเธอมากนะที่เธอรักษาสัญญา พีรวิชญ์กล่าวนำเรื่อง
ผมไม่ได้เต็มใจนักหรอกครับสำหรับเรื่องนี้ บิ๊กตอบเสียงค่อนข้างเย็นชา
อาทราบดีบิ๊ก อาทราบ แต่เธอก็คงเข้าใจเหตุผลนะ อาแปลกใจอยู่นิดหน่อยว่าทำไมภัทราถึงไม่พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย คิ้วของพีรวิชญ์ขมวดเข้าหากันโดยอัตโนมัติ
บิ๊กเองก็ฉุกคิดเรื่องนี้ขึ้นมาได้ตอนนี้นั่นเอง...นั่นสินะ...ทำไม...ทำไมแม่ของพัชถึงได้ไม่พูดอะไรเลย...แต่เค้าก็คงไม่อาจถามอะไรภัทราได้...ในเมื่อทุกอย่างจะต้องจบสิ้นลงในวันนี้แล้ว...แล้วเค้าจะต้องอยากรู้เรื่องอื่นไปทำไมกัน...ในเมื่อแค่นี้เค้าเองก็เจ็บปวดจนแทบขาดใจ...
ผมมาส่งพัชแล้วผมคงขอตัวกลับก่อนนะครับ บิ๊กกล่าวลาทั้งๆที่ในใจปฏิเสธอย่างหนักหน่วง
เธอไม่รอกินข้าวด้วยกันก่อนเหรอ พีรวิชญ์มีท่าทีตกใจเล็กน้อย ไม่คิดว่าเค้าจะลาไปดื้อ ๆ โดยไม่เจอหน้าพัช
ไม่หรอกครับ ผมเกรงว่าผมคงจะทนอะไรมากไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว ผมเกรงว่าหากผมเห็นหน้าพัชอีกครั้ง ผมจะไม่อยากจากเธอไป แล้วผมก็คงผิดกับสัญญากับคุณอาอย่างร้ายกาจ ฝากลาเธออีกครั้งนะครับ คุณอาครับ ขอให้คุณอาโปรดรับรู้ไว้นะครับว่า ผมกับพัชจะไม่มีวันหยุดรักกัน และเราก็รักกันแบบพี่น้องไม่ได้เด็ดขาด ไม่ว่าจะยังไงผมก็ยังยืนยันอยู่คำเดิมว่าผมรักเธอได้ในฐานะคู่รักของผมเท่านั้น และผมก็ทราบดีว่า เธอเองก็รู้สึกแบบนั้นเช่นกัน อย่าห้ามความรู้สึกนี้ของเราสองคนเลยนะครับ ในเมื่อผมยอมทำตามสัญญา คุณอาก็ได้โปรดรับรู้ไว้ด้วยว่าผมจะไม่มีวันรักใครได้อีก นอกจากพัชเท่านั้น ตลอดชีวิตของผม ผมลานะครับ
บิ๊กพูดอย่างเด็ดเดี่ยวและเดินออกไปจากบ้านด้วยหัวใจที่เค้าอยากให้มันหยุดเต้นซะเดี๋ยวนั้น...เค้าจะได้ไม่ต้องทนรับกับความเจ็บปวดนี้อีกต่อไป...
พีรวิชญ์มองร่างของบิ๊กค่อย ๆ เดินห่างไปจากบ้านทีละนิดๆ อย่างหมดเรี่ยวแรง...เค้าทำผิดบาปมากมายถึงเพียงไหนหนอ...เค้าทำให้คนสองคนที่รักกันอย่างที่สุดต้องพรากจากกัน...แต่เค้าก็ทิ้งความคิดนั้นไปได้ในนาทีที่ความคิดที่ว่า...สิ่งที่เค้าทำไปนั้นถูกต้องที่สุดแล้ว...เค้าถอนหายใจเฮือกใหญ่...จากนี้...พัชจะต้องรับกับความเจ็บปวดสินะ
เมื่ออาหารเตรียมเสร็จแล้ว...ทุกคนที่เหลือนอกจากพีรวิชญ์ก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นว่า...บิ๊กกลับไปแล้ว...คิ้วของพัชขมวดเข้าหากันน้อยๆ...พีรวิชญ์บอกเธอว่า...บิ๊กมีธุระด่วนจึงรีบลากลับไป...พร้อมกับฝากลาทุกคนและบอกว่าเสียใจที่อยู่กินข้าวด้วยไม่ได้...หัวใจของพัชสั่นน้อย ๆ เธอเริ่มรู้สึกอีกแล้วว่า...เกิดเรื่องอะไรบางอย่างขึ้นกับบิ๊ก...
เธอเป็นห่วงเค้าสุดหัวใจ...แต่ด้วยแรงเกลี้ยกล่อมของทุกคนในบ้าน...จังทำให้เธอหยุดความคิดที่จะตามไปหาเค้าลงได้...แต่เธอก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่า...ทำไมเค้าถึงไม่บอกลาเธอเลยแม้แต่น้อย...
เธอไม่รู้ว่าจากนี้เค้ากับเธอ...จะไม่มีทางได้เป็นเหมือนเดิมอีกแล้ว...เพราะชะตาชีวิตเล่นตลกกับเค้าและเธอ...หวังเพียงปาฏิหาริย์เท่านั้นจากนี้...ปาฏิหาริย์จะพาเค้าคืนกลับมาหาเธอ...
17 มีนาคม 2548 16:25 น.
Pat_Big
รุ่งเช้า ที่บ้านของพัช...
เมื่อภัทราตื่นขึ้นมา ก็ถามหาพัชแต่เช้า ป้านิ่มบอกว่าพัชยังไม่กลับจากบ้านบิ๊ก ทำให้เธอตกใจเล็กน้อย
"เอ๊ะ...ปล่อยให้อยู่ด้วยกันแบบนี้จะดีเหรอคะพี ยังไงทั้งสองคนก็เป็นชายหนุ่มและหญิงสาวนะคะ แล้วอีกอย่างพวกเราก็รู้นี่คะว่าทั้งสองคนรู้สึกยังไงต่อกัน" ภัทราหันไปถามสามีซึ่งกำลังนั่งจิบกาแฟ
พีรวิชญ์แปลกใจมากที่ภัทราถามแบบนี้ ทั้งๆที่เธอก็เป็นคนเดียวที่กำความลับว่าพัชเป็นลูกของชานนท์ แต่ทำไมเธอถึงได้ทำเหมือนกับว่า บิ๊กกับพัชจะรักกันแบบอื่นได้นอกจากแบบพี่น้องอย่างนั้นแหละ
"ทำไมเหรอภัทรา คุณจะกังวลอะไรล่ะ ก็ในเมื่อสองคนนั้นเค้าเป็น" พีรวิชญ์ข่มคำพูดประโยคสุดท้ายเอาไว้ได้ทันก่อนที่จะหลุดออกมา ทำให้ป้านิ่มใจหายใจคว่ำ
"ผมหมายถึงว่า เค้าสองคนเป็นเพื่อนกันน่ะ แล้วอีกอย่างบิ๊กก็กำลังไม่สบาย ไม่มีใครดูแล ผมว่าถูกแล้วที่ลูกพัชมีน้ำใจไปดูแล หรือคุณจะปล่อยให้เด็กคนนั้นนอนซมอยู่คนเดียว" พีรวิชญ์บอกภัทราเมื่อคืนนี้ว่า เพราะบิ๊กไม่สบายพัชถึงต้องค้างที่บ้านเค้า ทำให้ภัทราไม่ได้ร้อนใจอะไรมากนัก ป้านิ่มแอบถอนหายใจที่พีรวิชญ์แก้สถานการณ์เอาไว้ได้
"เปล่าหรอกค่ะพี ฉันแค่เป็นห่วงลูกพัชเท่านั้น ยังไงซะแกก็เป็นผู้หญิง เอาล่ะค่ะ เอาเป็นว่าฉันจะรอลูกอยู่เงียบๆก็แล้วกัน ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้ทุกคนเป็นห่วงหรอกนะคะ ฉันจะไปดูลูกแพทหน่อย ป่านนี้ยังไม่ตื่นเลย ไม่รู้ไม่สบายรึเปล่านะ" ภัทราพูดจบก็เดินกลับขึ้นข้างบน ไปยังห้องนอนลูกสาวคนเล็ก เมื่อภัทราเดินไปแล้ว ป้านิ่มก็ถามพีรวิชญ์อย่างร้อนใจว่า
"คุณพีคิดว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างหนูพัชกับบิ๊กจริง ๆ เหรอคะ" ป้านิ่มถามลังเล
"อะไรของนิ่มน่ะหมายถึงอะไรล่ะ ถ้าหมายถึงเรื่องธรรมชาติของหนุ่มสาวล่ะก็ นิ่มก็น่าจะรู้จักบิ๊กดีกว่าฉันนะ ไม่มีผู้ชายที่ไหนหรอก ที่จะทำอะไรน้องสาวของตัวเอง เค้ารู้แล้วนี่นาว่าพัชเป็นน้องสาวของเค้า แล้วอีกอย่างเค้ารักพัชมาก เค้าไม่ทำอะไรแบบนั้นแน่ เพราะเค้าก็รู้ตัวอยู่แล้ว ว่าวันนี้เค้าจะต้องเดินจากชีวิตของพัชไป" พีรวิชญ์ตอบหนักแน่นแต่ก็เจือความปวดร้าว
"ดิฉันทราบค่ะว่าเด็กสองคนนี้รักกันมาก มากซะจนดิฉันอดหวั่นใจไม่ได้ว่า ทั้งคู่จะรับเรื่องที่ว่า เป็นพี่น้องกันไม่ได้ แล้วอะไรมันจะเกิดขึ้นละคะ หากว่าวันนี้บิ๊กไปจากหนูพัช แล้วหนูพัชเธอเจ็บปวดจนทนไม่ได้ แล้วหนูพัชเธอจะทำยังไงคะ เด็กคนนั้น บิ๊กน่ะค่ะ เค้ายังพูดออกมาเองว่า ขนาดเค้าเป็นผู้ชายเค้ายังไม่รู้ว่าจะลืมหนูพัชได้ยังไง แล้วหนูพัช" ป้านิ่มเอ่ยความในใจออกมาอย่างยากเย็น และถึงตรงนี้ก็ไม่อาจเอื้อนเอ่ยอะไรออกมาได้อีก มีเพียงน้ำตาใสๆ ไหลออกมาเท่านั้น พีรวิชญ์ถอนหายใจ และหลับตาพิงกับโซฟา
"อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิดนิ่ม ฉันตัดสินใจไปแล้ว"
"แต่คุณก็ยังเปลี่ยนใจทันนะคะ ตอนนี้หนูพัชเธอคงยังไม่ออกมาจากบ้านบิ๊กแน่ๆค่ะ แค่คุณโทรไปบอกบิ๊กว่า คุณไม่ต้องการให้เค้าไปจากชีวิตหนูพัชแล้ว แล้วให้เด็กสองคนนี้ทำเหมือนเดิม เหมือนครั้งที่ยังไม่รู้ว่าเป็นพี่น้องกัน คุณภัทราเธอรู้ดีที่สุด เธอยังไม่เอ่ยปากบอกอะไร ทำไมคุณไม่รอให้คุณภัทราเป็นคนบอกล่ะคะ" ป้านิ่มพรั่งพรูออกมาอย่างสุดทน
พีรวิชญ์ก็สงสัยอยู่อย่างมากทีเดียว เรื่องที่ภัทราไม่เอ่ยปากอะไร ทั้งๆที่เธอก็น่าจะรู้อยู่แก่ใจว่าอะไรเป็นอะไร แต่เธอทำเหมือนกับว่า ยินดีให้เด็กทั้งสองคนรักกันมากกว่าความเป็นพี่น้อง
"นิ่ม...ฉันรู้ว่านิ่มสงสารทั้งสองคน แล้วคิดว่าฉันเองดีใจรึไง ที่เรื่องมันเป็นแบบนี้ แต่จะให้ฉันทำยังไง ฉันตัดสินใจไปแล้ว บอกเด็กคนนั้นไปแล้ว จะให้ฉันบอกเค้าว่าไง บอกว่า เรื่องที่ฉันบอกเค้าเป็นเรื่องล้อเล่น เรื่องตลกงั้นเหรอ แล้วก็บอกให้เค้าลืมๆมันไปซะ แล้วก็ให้เค้าสองคนกลับมารักกันอย่างที่พวกเค้าต้องการ แล้วมันจะเกิดอะไรขึ้นนิ่ม นิ่มคิดเหรอ ว่าบิ๊กน่ะ เค้าจะไม่โกรธ วันนึงฉันบอกกับเค้าว่าเค้ากำลังรักน้องสาวตัวเองอยู่ อีกวันฉันก็บอกกับเค้าว่ามันไม่ใช่ ฉันเข้าใจผิด งั้นสิ เค้าคงจะชกหน้าฉันจริงๆแน่คราวนี้ ฉันตัดสินใจไปแล้วนะนิ่ม และฉันก็คิดว่านี่เป็นหนทางเดียวที่จะหยุดเรื่องราวทุกอย่าง"
ป้านิ่มได้แต่เงียบงัน ทั้งคู่คุยกันเบาๆอยู่อีกสักครู่ ป้านิ่มจึงเข้าไปทำครัวต่อไป
ที่บ้านของบิ๊ก
พัชปลุกบิ๊กด้วยผ้าเช็ดหน้าขนนุ่มชุบด้วยน้ำเย็นผสมน้ำหอมอ่อนๆ...เธอบรรจงเช็ดหน้าให้เค้าและกระซิบเค้าที่ข้างหูว่า
"อรุณสวัสดิ์ ตื่นได้แล้วค่ะ"
บิ๊กแกล้งหลับต่อไป พัชเช็ดหน้าและเช็ดลำคอให้เค้า เค้าก็ยังไม่ยอมตื่น เธอจึงเช็ดแขนและมือเค้าด้วย
"เอ๊ะ...บิ๊กเป็นอะไรรึเปล่านะ ปลุกก็ไม่ตื่น สงสัยยังนอนไม่เต็มอิ่ม งั้นนอนต่อเถอะนะคะ" พัชเก็บผ้าเช็ดหน้าใส่กะละมังเล็กๆที่เธอเตรียมมา และกำลังจะลุกขึ้น
"ว๊ายยยยยยยยยยยยย" เธอร้องด้วยความตกใจ บิ๊กนั่นเอง...อยู่ดีๆ ก็ลุกมาคว้าเอวเธอหมับ...และก็ล้มลงไปอยู่บนเตียงทั้งคู่ แรงฉุดของเค้าทำให้พัชทับอยู่บนตัวเค้า ทั้งคู่อยู่ในลักษณะหันหน้าเข้าหากัน
"บ้าจริงเชียวบิ๊ก เล่นอะไรคะนี่ ปล่อยพัชนะ" เธอดิ้นรนขลุกขลักในอ้อมกอดเค้า
"ม่ายปล่อยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย" เค้าทำเสียงยานคางยียวนเธอ และก็เอียงหน้ามาหอมแก้มเธอฟอดใหญ่ ตอนนี้หน้าเธอแดงด้วยความเขินอาย
"อรุณสวัสดิ์ครับที่รัก หอมจังเลย อ้าว...หน้าแดงด้วย เขินอะไรครับ ไม่เห็นต้องเขินเลยนี่นา" เค้าแกล้งแซวเธอ
"ก็พัชไม่ได้เฉยชาเหมือนบิ๊กนี่นา ชิ" เธอกระเง้ากระงอด
"อ้าว...เข้าตัวซะอย่างงั้น...เปล่านะ ถ้าเฉยชาน่ะ จะอดใจไม่ไหวเหรอครับ" เค้าทำสายตาเป็นประกายแบบนี้อีกแล้ว พัชตีแขนเค้าเบาๆ
"บ้า...บิ๊กเนี่ย...ปล่อยพัชได้แล้วล่ะคะ นะ..."
"ยังไม่อยากปล่อยนี่นา อยู่แบบนี้อีกสักพักไม่ได้เหรอ" เค้าอ้อน พลางทำหน้าตาให้น่าเห็นใจที่สุด
"นี่ ไม่ต้องมาอ้อน ไม่ต้องมาทำหน้าแบบนี้ พัชไม่ใจอ่อนหรอกนะ" เธอขึงขังใส่
"ใจร้าย...คนอะไรน่ารักแต่ใจร้าย...งอนแล้วล่ะ" เค้าทำท่ากระเง้ากระงอด ริมฝีปากบนของเค้าเชิดขึ้นเล็กน้อย พัชมองเค้าพลางรู้สึกว่า เค้าน่ารักที่สุดในโลกเลย...
"น่ารักแย่เลยนะ" พัชแซว เค้าไม่ตอบโต้ ทำท่าเหมือนงอนจริงๆ ในที่สุดพัชก็หลงกลเค้าอีกจนได้
"โอ๋ ๆ ๆ พัชขอโทษค่า ดีกันนะ นะนะนะ" เธอทำเสียงอ้อนเค้าพลางบิดแก้มเค้าไปมา
เค้ายิ้มจนแก้มแทบปริ แต่ก็ยอมปล่อยเธอให้เป็นอิสระ เธอลุกขึ้นจะเอากะละมังไปเก็บแต่เค้าก็เข้ามากอดเธอไว้จากทางด้านหลัง
"อย่าเพิ่งไปไหนสิครับ นะ อยู่ตรงนี้ก่อน นะ" ประโยคนี้เค้าขอร้องเธอจากหัวใจของเค้าจริงๆน้ำเสียงเค้าเป็นแบบนี้อีกแล้ว เค้าเป็นอะไร มีอะไรในใจกันแน่นะ พัชคิด...เธอจึงวางกะละมังลงที่เดิม และหันหน้ามาหาเค้า เค้าคลายอ้อมกอด รวบมือเธอมาจับไว้ และประสานสายตามองเธออยู่อย่างนั้น
"จะมองให้พัชละลายไปเลยรึไง ทำยังกับว่าจะไม่ได้เจอกันอีกแล้ว จ้องเอาจ้องเอาน่ะ" เธอพูดยิ้มๆ
"อยากเก็บภาพพัชไว้ให้ได้มากที่สุดน่ะ เห็นพัชผ่านดวงตามาหลายปีแล้วสินะ และก็เห็นพัชในหัวใจมานานแล้วเหมือนกัน บิ๊กไม่รู้นะว่าบิ๊กรักพัชตั้งแต่เมื่อไหร่ มันอาจจะเป็นเพราะว่า มันค่อยๆรู้สึกทีละนิดๆ จนบิ๊กไม่ทันสังเกต พอรู้ตัวอีกที ก็รู้ว่ารักพัชเข้าซะแล้ว ภาพของพัชจะอยู่ตรงนี้ ในหัวใจ ตลอดไป เชื่อบิ๊กนะ แล้วบิ๊กก็รู้นะว่าพัชรู้สึกยังไงกับบิ๊ก แต่ช่วยบอกคำๆนั้นให้ฟังหน่อยได้ไหม"
พัชนิ่งงัน เธอซาบซึ้งกับความรู้สึกที่เค้าแสดงออก เค้าเปลี่ยนไปมาก เมื่อก่อนเค้าเป็นคนที่ไม่ค่อยยอมแสดงออกอะไรง่ายๆ ยิ่งด้วยคำพูดด้วยแล้ว ยากเหลือเกิน แต่มาวันนี้เค้าอยู่ตรงนี้ เค้าบอกว่ารักเธอ และเธอก็รับรู้ว่ามันออกมาจากหัวใจของเค้าจริง ๆ ตอนนี้กลับกลายเป็นว่า เป็นเธอ เป็นเธอที่อ้ำอึ้ง และรู้สึกว่าเธอไม่สามารถพูดความรู้สึกที่อยู่ในใจออกมาได้ซะเอง เค้าเห็นเธอเงียบงันเค้าจึงพูดต่อว่า
"ไม่เป็นไรนะพัช ถ้าพัชพูดออกมาไม่ได้ ไม่เป็นไร"เค้าดึงตัวเธอมากอด ศีรษะของเธอซบอยู่กับอกอุ่นๆของเค้า เค้าลูบผมเธอแผ่วเบา เธอยังคงเงียบงัน เธอเองก็แปลกใจว่าทำไมถึงได้กลายเป็นเธอนะ ที่ไม่กล้าแสดงออก ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ เธอพยายามบอกกับเค้าว่าการแสดงออกด้วยคำพูดเป็นเรื่องที่ดีมาตลอดนี่นา
"พัชอยากกลับบ้านหรือยัง" เมื่อเค้าเห็นเธอเงียบไปนาน เค้าจึงถามขึ้น
"ยังนะ ยังไม่อยากกลับ" เธอหลับตา พยายามกลั้นไม่ให้น้ำตาไหลออกมา ทำไมนะ ทำไมถึงเธอพูดคำๆนั้นไม่ได้ ทำไมพูดให้เค้าฟังไม่ได้
"ขอบคุณมากนะ" เค้าเอ่ยเบาๆ
ความเศร้าแผ่ซ่านไปทั่วห้องที่เต็มไปด้วยหัวใจที่เปี่ยมรักของเค้าและเธอ ความเศร้าค่อยๆคืบคลานเข้าสู่หัวใจของทั้งคู่ ซึ่งทั้งเค้าและเธอรับรู้ได้ว่า มันคือความเศร้า แต่ทำไมถึงต้องเศร้าด้วยล่ะ
"ทำไมเราถึงได้หดหู่จังเลยล่ะวันนี้น่ะ" พัชเอ่ยขึ้นหลังจากเงียบไปนาน
"นั่นน่ะสินะ" เค้าเอ่ยตอบเธอได้เพียงเท่านี้
"หรือว่า บิ๊กเสียใจกับเรื่องเมื่อคืนนี้หรือเปล่า" เสียงเธอเริ่มสั่น
เค้ากอดเธอไว้แน่น ราวกับกลัวว่าเธอจะหายวับไปกับตา
"พัชได้โปรดอย่าพูดแบบนี้เลย...ถ้าเสียใจจะทำไปทำไม ถ้าเสียใจ เมื่อคืนนี้ก็คงไม่ปล่อยให้มันเกิดขึ้น เด็กบ้า อย่าคิดอะไรแบบนี้อีกนะ รู้ไหม" เค้าใช้สองมือจับใบหน้าเธออย่างทะนุถนอม เค้าประสานสายตากับเธอลึกซึ้ง เธอยิ้มให้เค้า แล้วก็โผสู่อ้อมกอดเค้าอีกครั้ง เธอไม่เคยนึกเบื่อที่จะอยู่ในอ้อมกอดของเค้า
"บิ๊กไปอาบน้ำเถอะค่ะ เดี๋ยวพัชเตรียมอาหารเช้าไว้ให้นะ"
"อยู่กินข้าวเช้าด้วยกันก่อนสิ นะ เดี๋ยวบิ๊กไปส่งที่บ้าน"
"ไม่ชวนก็อยู่ อยู่แล้วล่ะ" เธอยิ้มหวานให้เค้า
"ชื่นใจจังเลย งั้นบิ๊กไปอาบน้ำก่อนนะ"
"นี่...จะไปอาบน้ำก็ปล่อยพัชสิคะ" เธอเอ่ยเมื่อเค้าเริ่มเกเรไม่ยอมปล่อยเธออีกแล้ว
"จะไม่ตามไปอาบน้ำให้เหรอ" เค้าอ้อนเธออีกแล้ว ว่าไปแล้วก็เหมือนลูกแมวเลยนะเนี่ย
"ไม่ต้องมาทำหน้าแบบนี้ รู้นะคิดอะไรอยู่ ไปอาบน้ำเลยไป"
"ใจร้าย มีไล่กันด้วย ใจร้ายๆๆ ฮือๆๆ" เค้าแกล้งเอามือปิดหน้าแล้วร้องไห้เหมือนเด็กๆ
เธออดขำ และอดเอ็นดูกับความน่ารักของเค้าไม่ได้สักที
"นี่...ไปอาบน้ำเถอะค่ะ" เธอจูงมือเค้าเข้าไปในห้องน้ำ
"ส่งแค่นี้นะคะ อาบน้ำนะ นะคะ" เธอเอ่ยเสียงอ่อนโยน และ อ่อนหวาน
"พัช" เค้าเรียกเมื่อเธอหันหลังไปแล้ว ทำให้เธอต้องหันหน้ากลับมาอีกครั้ง
"คะ" เธอเอ่ยตอบ
"ขอหอมแก้มหน่อยสิ" เค้าเอ่ยขอดื้อๆ
เธอรู้สึกเขินอีกแล้ว แต่ก็พยักหน้ายิ้มๆ เค้าทำท่าจะหอมแก้มเธอ เมื่อลมหายใจของเค้าใกล้เข้ามา ใกล้เข้ามา เค้าก็ขโมยจุมพิตริมฝีปากเธอ ทำให้เธอตีเค้าดังเพี๊ยะ
"บิ๊ก...ขี้โกงนี่"
"งั้นบิ๊กให้พัชจูบคืน" เค้าตีหน้าทะเล้น หลบฝ่ามือน้อยของเธอวูบ
"นี่คุณภัคนนท์ เชิญอาบน้ำตามสบาย อาบให้เป็นหวัดไปเลยก็ได้ พัชไม่สนใจแล้ว เชอะ" เธองอนเค้าจริงๆ
"ทำไมชอบแกล้งพัชแบบนี้ สนุกหรือไง"
เค้าเห็นว่าเธอเริ่มจะงอนจริงๆ จึงกลับมาทำสีหน้าปกติ ดึงเธอเข้ามากอดไว้หลวมๆ ถึงเธอจะขัดขืน แต่ก็ยอมให้เค้าพามาอยู่ในวงแขน
"คิดอะไรขึ้นมาอีกล่ะ เด็กคนนี้นี่ มันน่านักนะ นี่...ไม่ได้นึกสนุกหรอกนะ แล้วที่ทำไปทุกอย่างน่ะ ก็เพราะว่าอยากทำ หัวใจมันบอกให้ทำ ไม่ได้แค่นึกสนุกอะไรเลย เข้าใจผิดแบบนี้มันน่าเสียใจไหมเนี่ย หา"
พัชทำท่าจะพูดอะไรออกมา แต่เค้าชิงพูดก่อน
"ไม่ต้องขอโทษหรอกนะ พัชไม่ได้ทำผิดอะไร ทีคำที่อยากฟัง ไม่เห็นพูดเลย ล้อเล่นน่า ไม่เอา ไม่คิดมากแล้วนะครับ บิ๊กอยากให้แต่ละนาทีจากนี้เป็นเวลาที่สวยงามที่สุด"
เค้าเอาจมูกชนกับจมูกเธอ แล้วบิดจมูกเธอเบาๆ ด้วยความเอ็นดู เธอยิ้มออกมา เค้าก็ยิ้มด้วย
"แล้วบิ๊กจะลงไปช่วยทำกับข้าวนะ"
เธอพยักหน้าแทนคำตอบ และก็ออกจากห้องน้ำไป เพื่อลงไปทำกับข้าวต่อ
แล้วเสียงโทรศัพท์บ้านบิ๊กก็ดังขึ้น พัชวิ่งออกมารับสาย
"สวัสดีค่ะ" พัชกรอกเสียงลงไป
ปลายสายไม่มีเสียงอะไรเล็ดลอดออกมาในตอนแรก
"สวัสดีค่ะ บ้านบิ๊กค่ะ" เธอกรอกเสียงลงไปอีกครั้ง
"เอ่อ........" ปลายสายพูดแค่นี้ แล้วก็วางสายไป
"แปลกจัง ใครนะ โทรมาก็ไม่พูด" พัชวางสาย แล้วก็คิด เป็นเสียงผู้หญิงนี่นะ ใครกัน แต่พัชก็คิดว่า คงเป็นคนโทรผิดกระมัง เธอจึงไม่ได้สนใจอะไร