28 พฤศจิกายน 2547 11:34 น.

รอวัน ปาฏิหาริย์ ฉันรักเธอ ตอนที่ 12

Pat_Big

รอวัน..ปาฏิหาริย์..ฉันรักเธอ..ตอนที่ 12...

พัชกรีดร้องอย่างปวดร้าวหัวใจ ที่ผู้ชายที่เธอรักกลายเป็นเหมือนคนละคนกับผู้ชายที่เธอรู้จัก 

เค้ากดตัวเธอไว้กับเตียง เค้าเองก็เจ็บปวดไม่แพ้กัน แต่ตอนนี้สำนึกของเค้าแพ้ต่อความรู้สึกโกรธแค้น เค้ารักผู้หญิงคนนี้มาก 

เช่นเดียวกันกับที่เค้ารู้ว่า เธอเองก็มีใจให้เค้าเช่นกัน แต่ตอนนี้ความโกรธแค้นของเค้ามันได้ทำลายสำนึกของเค้าไปซะแล้ว

เธอจะร้องทำไม ไม่มีใครช่วยเธอได้หรอก อ่อ แล้วเธอก็น่าจะดีใจนะที่ฉันช่วยสงเคราะห์ให้เธอ ฉันรู้นะว่าเธอน่ะรักฉัน บิ๊กใช้คำพูดห่างเหินกับเธอเข้าไปทุกขณะ

พัชหยุดกรีดร้องทันที แล้วก็หันมาเผชิญหน้ากับเค้า เธอจ้องหน้าเค้าด้วยแววตาที่บ่งบอกว่าผิดหวังและปวดร้าวอย่างสุดหัวใจ 

ฉาดดดดดดดดดดดด!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! 

พัชตบหน้าบิ๊กไปหนึ่งครั้ง แล้วเธอก็ทำได้แค่น้ำตานองหน้าอยู่อย่างนั้น 
ตัวเธอสั่นไปหมดแล้วตอนนี้ ทั้งกลัว ทั้งเสียใจ ทั้งผิดหวัง 

ตอนนี้เธอรู้สึกเหมือนกับว่าเธอเสียบิ๊กไปแล้ว ต่อไปนี้เธอกับเค้าก็คงจะกลายเป็นเหมือนคนแปลกหน้าของกันและกัน 

เค้ายังไม่ได้ทำอะไรเธอมากไปกว่าการระดมจูบเธอ เธอดิ้นรนและขัดขืน แต่ยิ่งเธอดิ้น เค้าก็ยิ่งจับเธอไว้แน่นมากขึ้น

 ทำให้เธอรู้สึกเจ็บที่แขนมากแล้วตอนนี้ 
เธอดิ้นๆๆ จนในที่สุดเธอก็หมดแรง และก็หมดสติไปในที่สุด เธอสลบไปแล้ว ทำให้บิ๊กได้สติกลับคืนมา เค้าตกใจอย่างที่สุด 

ในที่สุดเค้าก็รู้สึกตัวแล้วว่า เค้าทำอะไรลงไป เค้าเกือบจะทำร้ายผู้หญิงที่เค้ารักที่สุด ผู้หญิงที่ไมได้รู้เรื่องและมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องราวในอดีตนั้นเลย
 
พัช...พัช.. น้ำตาของลูกผู้ชายไหลมาอาบสองแก้ม เค้าไม่ยอมเช็ดมัน ปล่อยให้มันไหลอยู่อย่างนั้น

นี่เราทำอะไรลงไป บ้าไปแล้วหรือไง เลวที่สุดเลย แล้วจะมองหน้าพัชได้ยังไง เราเกือบจะทำร้ายพัช เกือบจะทำในสิ่งที่มันจะเป็นตราบาปติดตัว เกือบจะทำร้ายคนที่ไว้ใจเรามากที่สุด เราทำได้ยังไง  

เค้าทุบกำปั้นเข้ากับกำแพง จนตอนนี้มือของเค้าแดงช้ำไปหมด บางแห่งก็มีเลือดไหลออกมาซิปๆ แต่เค้าไม่สนใจแผลของตัวเอง 

เค้าค่อยๆหันไปหาพัช
เค้าประคองใบหน้าเธอขึ้นมาช้าๆ เสยผมที่ปรกหน้าให้พ้นทาง แล้วมองดูเธอด้วยน้ำตาที่ยังคงไหลไม่ขาดสาย  เค้าปวดร้าว และเค้าก็รู้ว่าคนที่ปวดร้าวมากที่สุด ก็คือ พัช 

พัช..บิ๊กขอโทษ บิ๊กไม่น่าปล่อยให้ความโกรธแค้นมาครอบงำจิตใจจนเกือบจะทำอะไรที่เลวร้ายกับพัชลงไป บิ๊กรุ้ว่าพัชคงจะเสียใจและผิดหวังในตัวบิ๊กมาก บิ๊กเสียใจ เสียใจจริงๆ บิ๊กจับมือพัชไว้ และก็ร้องไห้อยู่อย่างนั้น 
 
เสียงโทรศัพท์มือถือของพัชดังขึ้น ป้านิ่มนั่นเองโทรมา บิ๊กค่อยๆเช็ดน้ำตา พยายามปรับเสียงให้ปรกติที่สุด

สวัสดีครับป้านิ่ม เค้ากรอกเสียงลงไป

อ้าว บิ๊กเหรอลูก หนูพัชล่ะ เป็นอะไรรึป่าว ป้าเห็นว่ามันดึกแล้วน่ะลูก แล้วหนูพัชก็ยังไม่ถึงบ้าน ป้าเป็นห่วง ป้านิ่มน้ำเสียงร้อนรน นั่นยิ่งทำให้บิ๊กรู้สึกผิดเข้าไปอีก

คือพัชเค้าหลับไปแล้วล่ะครับป้านิ่ม  ไม่ต้องห่วงนะครับป้า บิ๊กจะดูแลเค้าเองครับ สัญญาครับว่าจะไม่มีอะไรที่เป็นอันตรายกับพัชเกิดขึ้น บิ๊กปวดร้าวเหลือเกิน เค้ากำลังโกหกป้านิ่มว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ป้านิ่มชะงักไปชั่วครู่ แต่ก็พูดกับเค้าว่า หลับไปแล้วเหรอ โถ แม่คุณของป้า  วันนี้ก็เจอเรื่องอะไรก็ไม่รู้มาทั้งวัน เฮ้อ ป้าล่ะสงสารหนูพัชจริงๆ บิ๊ก  ป้าฝากดูแลหนูพัชด้วยนะลูก คิดซะว่าเป็นน้องสาวนะ  ป้าไว้ใจบิ๊กนะลูก 

ครับ ป้านิ่ม ไม่ต้องห่วงนะครับ บิ๊กจะดูแลพัชเป็นอย่างดี พรุ่งนี้บิ๊กจะรีบพาไปส่งบ้านครับ 

งั้นก็ฝากด้วยนะลูกนะ 

ครับ สวัสดีครับป้านิ่ม 

ป้าไว้ใจบิ๊กนะลูก คำนี้ของป้านิ่มทำให้เค้าโกรธตัวเองมากเข้าไปอีก พัชก็คงรู้สึกแบบนี้เหมือนกัน 

พัชไว้ใจเค้ามากที่สุด แต่เค้ากลับทำให้เธอต้องเสียใจ และเสียขวัญกับเรื่องเมื่อกี้นี้มาก 

พรุ่งนี้จะเป็นยังไงต่อไประหว่างเค้ากับพัช เค้ากลัวเหลือเกิน....

เค้าจัดการห่มผ้าให้เธอ และดูแลความเรียบร้อยเสร็จแล้วจึงไปจัดการกับตัวเอง เมื่อเค้าอาบน้ำเสร็จแล้วก็เป็นเวลาดึกมากแล้ว เค้ารู้สึกง่วงนอน 

เค้าจึงหาที่นอนมาวางข้างๆเตียงของเค้าที่ตอนนี้พัชนอนหลับไม่ได้สติอยู่บนนั้น 
แต่เค้าก็นอนไม่หลับเลย เค้าจึงลุกขึ้นมานั่งอยู่ข้างๆเตียง และจับมือพัชไว้พลางนั่งมองเธอหลับ เค้ายังเห็นคราบรอยน้ำตาของเธออยู่เลย 

ตอนนี้เธอกำลังคิดอะไร ฝันถึงอะไรอยู่นะ เธอจะให้อภัยในสิ่งที่เค้าทำลงไปได้หรือเปล่านะ เค้านั่งมองเธอไปเรื่อยๆ ด้วยความรู้สึกผิดท่วมท้นหัวใจ 

เวลาผ่านไปเรื่อยๆ เค้าค่อยๆรู้สึกอ่อนเพลีย และเปลือกตาหนักขึ้นเรื่อยๆ 

จนกระทั่ง...แสงสว่างของวันใหม่เริ่มส่องแสงเรื่อๆ พระจันทร์กำลังจะลับขอบฟ้าให้พระอาทิตย์ขึ้นมาแทนที่

พัชค่อยรู้สึกตัว และค่อยๆลืมตาขึ้น สิ่งที่เธอมองเห็นเมื่อเธอตื่นขึ้นมาก็คือภาพบิ๊ก นั่งหลับอยู่ข้างๆเตียง มือของเค้ายังคงกุมมือของเธอไว้ 

เธอคิดและทบทวนความจำ เมื่อคืนนี้ ใช่ เมื่อคืนนี้ เกิดเรื่องขึ้นระหว่างเธอกันเค้า 

แต่เธอก็ไม่รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นหลังจากที่เธอหมดสติไปแล้ว ผู้ชายคนนี้ คนที่เธอรัก เค้าทำอะไรเธอหรือเปล่า เธอเริ่มสับสนอีกแล้ว 

เธอไม่ได้โกรธเค้าเลย เพียงแต่ว่าเธอเสียใจมากที่เค้าเปลี่ยนไปเป็นเหมือนคนที่เธอไม่รู้จัก  เธอค่อยๆเอามือเธอออกจากการเกาะกุมของมือเค้า
 
เธอลงมาจากเตียง แล้วค่อยๆ พยุงตัวเค้าให้นอนลงกับที่นอนให้เรียบร้อย เค้าหลับสนิทมาก ไม่รู้สึกตัวเลย เธอเหลือบไปเห็นมืออีกข้างของเค้าที่เค้าชกกำแพงเมื่อคืนนี้ 

มือของเค้าเขียวช้ำ และมีอาการบวม มีรอยเลือดซิบๆ พัชรู้สึกตกใจ แสดงว่าเมื่อคืนเค้าต้องทำร้ายตัวเองแน่ๆ บ้าจริงๆ ทำไมต้องทำแบบนี้ด้วยนะ ไม่เห็นเข้าท่าเลย 

ถึงเค้าจะทำให้เธอกลัวและเสียใจมาก แต่เธอก็อดเป็นห่วงเค้าไม่ได้อยู่ดีนั่นแหละ เธอจึงลุกไปหายาเพื่อจะมาทำแผลให้กับเค้า 

โดยไม่ได้สนใจที่จะจัดการกับการอาบน้ำ ล้างหน้าให้ตัวเองเลย เธอเดินไปที่ตู้ยา หยิบยาและผ้าพันแผลที่ต้องการได้แล้ว ก็รีบไปทำแผลให้เค้าทันที

เจ็บมากรึป่าวเนี่ย บ้าจริงๆเลย ทำไมต้องทำร้ายตัวเองด้วยนะ พัชนึกต่อว่าเค้าและพูดกับเจ้าตัวที่ยังหลับสนิทเบาๆ 

เธอทำความสะอาดแผล เช็ดแผล ทายา และพันผ้าพันแผลให้เค้าเรียบร้อยโดยที่เค้าไม่ได้ตื่นขึ้นมาเลย เธอคิดว่าก็ดีเหมือนกัน เพราะว่าถ้าเค้าตื่นขึ้นมาตอนนี้ 

เธอก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นคุยกับเค้ายังไงดี เหมือนกับว่าตอนนี้เธอทำตัวไม่ถูกแล้ว เหมือนกับว่าเธอกับเค้าเจอกับอะไรบางอย่างที่มาขวางกั้นความรู้สึกเอาไว้ 

เจ็บมากมั้ยบิ๊ก หลับให้สนิทนะ ยังไม่ต้องตื่นมาหรอกนะ เธอกระซิบบอกเค้า และก่อนที่เธอจะห้ามตัวเองทัน เธอก็หอมแก้มเค้าไปเบาๆ ก่อนจะลุกออกไป

บ้าจริงๆเลยเรา ทำอะไรลงไป จะบ้าหรือไง ลืมแล้วเหรอว่าเมื่อคืนเค้าเกือบจะทำอะไรกับเราลงไป นี่ถ้าเราไม่สลบไปซะก่อน ป่านนี้ก็คง.......... พัชนึกตำหนิตัวเองในใจ

เธอลืมอาบน้ำ ล้างหน้า เพราะเป็นห่วงบิ๊กมากเกินไป เธอกลัวว่าเค้าตื่นมาแล้วจะหิว เธอจึงเข้าครัวไปทำอาหารไว้ให้เค้า เมื่อทำอาหารเสร็จ เธอก็นึกได้ เธอโทรหาป้านิ่ม

หนูพัช เป็นยังไงบ้างลูก ป้าเป็นห่วงแทบแย่ นี่จะกลับบ้านหรือยัง เสียงป้านิ่มร้อนรนมากทีเดียว

ใจเย็นๆสิคะป้า พัชไม่เป็นไรค่ะ สบายดี กำลังจะกลับบ้านน่ะค่ะ อีกสักพักน่ะค่ะ ไว้เจอกันที่บ้านนะคะ พัชบอกกับป้านิ่ม

ค่ะ รีบกลับมานะคะ ทุกคนรออยู่ค่ะ 

ทุกคน หมายความว่ายังไงคะ ก็มีแค่ป้านิ่ม คุณพ่อ และก็โมโม่นี่คะ พัชสงสัย

เอาเถอะค่ะ กลับมาก็รู้เอง รีบกลับมานะคะ ป้านิ่มกำชับ

ค่า ค่า ทราบแล้วค่ะ สวัสดีนะคะ พัชวางสายพลางนึกสงสัยว่าที่ป้านิ่มพูดมีความหมายอะไรหรือเปล่านะ 

เธอจัดการดูแลความเรียบร้อยของบ้านบิ๊ก และก็ขึ้นไปดูเค้าก่อนที่เธอจะกลับบ้าน เค้ายังคงนอนหลับสนิท เธอมองเค้าอยู่สักครู่นึง ก็ตัดสินใจว่าจะกลับบ้าน 
เธอห่มผ้าให้เค้าและก็บอกลาเค้าเบาๆ 

ลาก่อนนะภัคนนท์ ต่อไปนี้ระหว่างเรา คงจะไม่เหมือนเดิมอีกแล้วสินะ เธอพูดเสียงเศร้าๆ น้ำตาของเธอไหลลงมาหยดใส่แก้มของเค้า 

เธอเช็ดน้ำตาของเธอที่หยดใส่เค้าออก แล้วก็หลับตาข่มความรู้สึกอยู่สักพัก เธอจึงตัดสินใจเดินออกจากห้องไปโดยไม่ได้หันมามองเค้าอีก				
28 พฤศจิกายน 2547 11:29 น.

รอวัน ปาฏิหาริย์ ฉันรักเธอ ตอนที่ 11

Pat_Big

รอวัน..ปาฏิหาริย์..ฉันรักเธอ..ตอนที่ 11...

พีรวิชญ์เริ่มต้นเล่าทุกอย่างเกี่ยวกับตัวเค้ากับภัทราให้ทุกคนฟัง เค้าเล่าทุกๆเรื่อง ทุกเรื่องจริงๆ เรื่องของพวกเค้าสี่คน พีรวิชญ์ ภัทรา รินลดา และชานนท์

 แต่เรื่องที่เค้าไม่ได้เล่าก็คือ เรื่องที่เค้าคิดว่า พัช ไม่ใช่ลูกของเค้า ดังนั้น ขณะนี้ คนที่เข้าใจผิดว่า พัช เป็นลูกของชานนท์ก็มีเพียง พีรวิชญ์ ป้านิ่ม และชานนท์

และเมื่อเค้าเล่ามาถึงเรื่องภัทราที่กำลังป่วยหนัก พัชก็สุดจะฝืนอีกต่อไป เธอก้มหน้าลงร้องไห้กับฝ่ามือของตัวเอง บิ๊กขยับมาใกล้ๆเธอ แล้วค่อยๆดึงมือของเธอที่ปิดหน้าตัวเองออก แล้วเอาศีรษะของเธอมาซบไว้กับไหล่ของเค้า พัชร้องไห้สะอื้นเบาๆอยู่อย่างนั้น

เจ้าโมโม่เห่าอย่างบ้าคลั่งเมื่อมันเห็นว่าเจ้านายของมันนั้นเสียใจ มันเห่าไม่ยอมหยุด 

หยุดนะโมโม่ ไม่งั้นฉันจะลงโทษแก ป้านิ่มดุโมโม่เสียงเขียว โมโม่จึงเงียบเสียงทันที

ระหว่างที่บิ๊ก นั่งฟังเรื่องที่พีรวิชญ์เล่า เค้าเองก็รู้สึกเจ็บปวดมาก และโกรธแค้นแทนพ่อของตัวเองที่ถูกพีรวิชญ์แย่งคนรักไป แล้วที่สำคัญ พัช ก็ยังกลายมาเป็นลูกสาวของศัตรูหัวใจของพ่อเค้าซะอีก เค้าจะทำอย่างไรดีนะ 

เค้าเริ่มสับสน และคิดถึงพ่อของเค้ามาก มากเหลือเกิน ตอนนี้เค้าไม่รู้เลยว่าพ่อเค้าเป็นตายร้ายดีอย่างไร พ่อหายไปตั้งแต่เค้า 5 ขวบ และแล้วเค้าก็ฉุกคิดขึ้นมาว่า พ่อของเค้าอาจจะไปตามหาภัทราก็ได้ เค้ารู้แล้วว่าภัทราอยู่ที่ไหน แต่พ่อของเค้าล่ะ พ่อของเค้าไปอยู่ซะที่ไหน เค้าอยากได้พ่อของเค้าคืนมา 

เค้าลูบศีรษะของพัชพลางคิดพลาง อยู่ๆเค้าก็ลุกพรวดขึ้นมา ทำเอาพัชหัวแทบคะมำ พัชมองเค้าอย่างงงๆ แต่เธอก็พอจะเดาได้ว่า บิ๊กรู้สึกอย่างไรกับพีรวิชญ์ ผู้ที่ตอนนี้เธอรู้แล้วว่าเป็นพ่อของเธอ เธอได้แต่มองบิ๊กด้วยสายตาหวาดหวั่น เธอเริ่มรู้สึกกลัว กลัวว่าความสัมพันธ์ของเธอกับเค้าจะเปลี่ยนไปเพราะเรื่องนี้

เอ่อ คือผมขอตัวกลับบ้านก่อนนะครับ บิ๊กยกมือไหว้พีรวิชญ์และป้านิ่ม โดยไม่ได้หันมาบอกลา หรือหันมามองพัชเลย 

พัชรู้สึกกลัวจับใจ กลัวเหลือเกิน นับจากนี้ เธอกับบิ๊ก จะยังเหมือนเดิมได้หรือไม่ เธอทรุดตัวลงและอุ้มโมโม่ขึ้นมา น้ำตาของเธอเปียกขนของโมโม่จนชุ่มไปหมดแล้วตอนนี้ นานทีเดียวกว่าพีรวิชญ์กับป้านิ่มจะได้สติกลับคืนมา

หนูพัช กลับเข้าข้างในบ้านก่อนเถอะลูก แล้วค่อยๆคิดว่าจะทำยังไงต่อไปดี ป้านิ่มลุกมาพยุงตัวพัชขึ้นมา ป้านิ่มสงสารเธอเหลือเกิน ไหนจะบิ๊กอีก เด็กสองคนนี้บริสุทธิ์ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเรื่องความรักความแค้นอะไรนั่นเลย ทำไมนะ ทำไมต้องเป็นแบบนี้

พีรวิชญ์นิ่งอยู่อย่างนั้น เมื่อเค้าเล่าทุกอย่างจบ เค้าก็ได้แต่มองเหตุการณ์ที่เป็นไปตรงหน้าด้วยอาการเหม่อลอย เค้าเจ็บปวดและทรมานที่จะต้องบอกให้ใครรู้ถึงเรื่องอดีต อดีตที่เค้าก่อเรื่องเลวร้าย ถ้าเค้าไม่ทำแบบนั้น วันนี้ทุกๆคนคงจะไม่เจ็บปวด

เมื่อทุกคนเข้ามาในบ้านแล้ว ก็ถึงเวลาทานอาหาร แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครกินอะไรลงเลย ต่างคนต่างเหลืออาหารในจานของตัวเองอยู่เต็ม ป้านิ่มทำลายความเงียบที่กดดดันความรู้สึกด้วยการเอ่ยขึ้นมาว่า

คุณพีรวิชญ์คะ แล้วนี่คุณจะมารับหนูพัชไปวันนี้เลยเหรอคะ ป้านิ่มเอ่ยหวาดๆ

ก็คงต้องแล้วแต่ลูกพัชเค้าน่ะนะนิ่ม ว่ายังไงล่ะลูก พีรวิชญ์เอ่ยถาม 

พัชไม่ชินกับการที่มีใครมาเรียกว่าลูก นอกจากป้านิ่ม เธอจึงสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะตอบเค้าไปว่า

อืม พัชคิดว่าวันนี้คุณอา เอ่อ คุณพ่อควรจะค้างที่นี่ก่อนนะคะ มันดึกมากแล้ว ขับรถไปคงจะอันตราย พัชเชื่อว่าคุณแม่ยังไม่เป็นอะไรแน่ๆค่ะ ไม่ใช่ว่าพัชไม่ห่วงท่านนะคะ พัชเป็นห่วงท่านมากที่สุดในตอนนี้ แต่พัชเชื่อค่ะว่าคุณแม่ท่านจะไม่เป็นอะไร ขอพัชจัดการกับอะไรบางอย่างก่อนนะคะ แล้วพรุ่งนี้เราจะไปหาคุณแม่ด้วยกันค่ะ เธอพูดอย่างอ่อนล้าและหมดแรง พูดจบก็ขอตัวไปอาบน้ำ 

เมื่อเธอลงมาข้างล่างอีกครั้งก็เจอกับพีรวิชญ์และป้านิ่มที่ห้องนั่งเล่น

หนูพัช จะไปไหนเหรอลูก ยังไม่นอนเหรอ ดึกแล้วนะ ป้านิ่มเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าพัชยังไม่เปลี่ยนชุดเป็นชุดนอน พีรวิชญ์นั่งจิบกาแฟด้วยอาการสงบกว่าเมื่อตอนเย็นมาก

พัชขออนุญาตออกไปข้างนอกนะคะป้านิ่ม คุณอา เอ่อ คุณพ่อ คือพัชมีเรื่องต้องไปจัดการน่ะค่ะ ไม่ต้องห่วงพัชนะคะ พัชขับรถไปแป๊บเดียวค่ะ 

แต่ว่ามันดึกแล้วนะหนูพัช ป้าเป็นห่วง ไม่ดีหรอกนะ ไว้พรุ่งนี้ไม่ได้เหรอคะ ป้านิ่มเอ่ยเสียงวิตกกังวล

นิ่ม ปล่อยลูกพัชไปเถอะ ฉันรู้ว่าลูกพัชมีเรื่องอะไรต้องไปจัดการ วันนี้แกผ่านเรื่องที่ไม่คาดคิดมามากนะ เป็นใครก็คงยังตั้งตัวไม่ทัน รวมทั้งพ่อหนุ่มคนนั้น ฉันหมายถึง ภัคนนท์ ลูกชายชานนท์กับรินลดาน่ะ ฉันรู้ว่าเค้าเองก็คงจะรู้สึกโกรธฉันอยู่มากทีเดียว พีรวิชญ์พูดได้แค่นี้ เค้าก็หลับตาข่มความปวดร้าว แล้วก็เงียบไปเฉยๆ

ขอบคุณค่ะคุณพ่อที่เข้าใจพัช ไม่ต้องห่วงนะคะป้านิ่ม แล้วพัชจะโทรมาเมื่อพัชถึงบ้านบิ๊กแล้วค่ะ พัชเข้าไปกอดป้านิ่มเบาๆ ป้านิ่มมองตามด้วยความเป็นห่วง

พอเดินออกมาถึงหน้าประตูบ้าน เจ้าโมโม่ก็ส่งเสียงเหมือนกับว่ามันจะขอตามพัชไปด้วย พัชนั่งลงลูบหัวมันเบาๆ แล้วบอกกับมันว่า

ไม่ได้หรอกนะโมโม่ ไปกับพัชไม่ได้นะคราวนี้ พัชต้องไปคุยกับบิ๊ก แต่โมโม่ไม่ต้องเป็นห่วงพัชนะ พัชดูแลตัวเองได้ โมโม่อยู่ที่นี่ คอยดูแลป้านิ่มกับคุณพ่อนะรู้มั้ย เดี๋ยวพัชก็กลับมาแล้ว พัชไปแป๊บเดียวนะ รู้มั้ยโมโม่เด็กดี พัชหอมเจ้าโมโม่เบาๆ มันครางเบาๆเหมือนกับจะบอกเธอว่า มันเป็นห่วงเธอมาก แต่มันก็ยอมเชื่อฟังเธอแต่โดยดี โดยการที่ไม่ตามเธอไป แต่มันก็มองตามรถของเธอไปจนลับสายตา 

แล้วมันก็วิ่งเข้าไปหาป้านิ่มในบ้าน มันเข้าไปซบอยู่แทบเท้าป้านิ่ม

เป็นห่วงเจ้านายล่ะสิแกน่ะ ใช่มั้ยโมโม่ ฉันก็เป็นห่วงหนูพัชเหลือเกิน เอาล่ะ ไปนอนได้แล้วแกน่ะ ไม่ต้องรอหนูพัชหรอก ฉันรอเอง เดี๋ยวพอแกไม่หลับไม่นอน หนูพัชก็จะพลอยเป็นเดือดเป็นร้อนเป็นห่วงแกอีกไปนอนนะไป โมโม่เด็กดี 


กริ๊งงงงงงงงง เสียงกริ่งหน้าบ้านบิ๊กดังขึ้น 

หญิงสาวที่ยืนอยู่หน้าประตูมีสีหน้ากังวล เธอรอสักพัก ก็ไม่มีใครมาเปิดประตู เธอจึงกดกริ่งอีกครั้ง ก็ไม่มีใครมาเปิด เธอคิดว่าบิ๊กคงโกรธเธอมากจนไม่อยากจะเจอหน้าเธออีกแล้ว ทำให้เธอร้องไห้ ร้องไห้อย่างหนักอยู่อย่างนั้น เธอนั่งรออยู่หน้าประตูบ้านเค้า ครึ่งชั่วโมงผ่านไป เธอเริ่มรู้สึกอ่อนเพลีย และง่วง ในที่สุดเธอก็เผลอหลับไป.


บิ๊กมานั่งครุ่นคิดและปล่อยอารมณ์กับสิ่งที่เพิ่งได้ยิน ได้รับฟังมาที่ทุ่งหญ้า เค้ารู้สึกปะปนกันหลายๆอย่างจนสับสันไปหมด 

ทั้งโกรธพีรวิชญ์ที่ทำเรื่องร้ายๆแบบนั้นลงไป จนทำให้พ่อของเค้าเสียใจที่สุด
ทั้งนึกไปว่าพ่อของเค้าคงไม่ได้ตั้งใจจะมีเค้ากับแม่ของเค้าหรอก 

ภัทราแม่ของพัชต่างหากที่พ่อของเค้ารักมากที่สุด เค้านึกสงสารแม่ของตัวเองจับใจ แม่ต้องทนรับกับความรู้สึกที่ว่า พ่อรักผู้หญิงคนอื่น แม่จะทรมานแค่ไหนนะ

เค้านึกโกรธทุกคน ที่สำคัญเค้านึกโกรธพัช ผู้หญิงที่ตอนนี้เค้ารู้สึกดีด้วยมากที่สุด

เค้าจะทำยังไงดีกับเรื่องนี้ ตอนนี้ในสมองของเค้ามีแต่เรื่องที่มองแต่ในด้านลบทั้งนั้น เค้าคิดกลับไปกลับมาหลายรอบ 

เรื่องที่ว่า พ่อของเค้าหายไปไหน พ่อของเค้ายังมีชีวิตอยู่รึป่าว เค้าเชื่อว่าพ่อต้องยังมีชีวิตอยู่แน่ๆ อยู่ที่ไหนสักแห่ง 

เป็นไปได้มั้ยนะ ที่เค้าจะออกไปตามหาพ่อ.เค้าคิดอยู่อย่างนั้น จนรู้สึกหนาวมากแล้วเพราะตอนนี้ก็ดึกแล้ว 

น้ำค้างกลางทุ่งหญ้าสัมผัสผิวของเค้า ทำให้รู้สึกเย็นยะเยือก เค้าจึงลุกขึ้นและก็เดินกลับบ้าน.

เมื่อเค้ามาถึงบ้าน เค้าก็เจอกับรถคันนึง ที่รู้สึกคุ้นตา

รถบ้านพัชนี่นา มาจอดอะไรแถวนี้ ใครมาหาเราเหรอ บิ๊กขมวดคิ้ว พลางเดินไปดู

และสิ่งที่เค้าเห็นก็คือ พัชนั่งหลับและขดตัวอยู่ด้วยความหนาวสั่น เค้ารู้สึกสับสนในใจอีกแล้ว เค้าทั้งโกรธ ทั้งยังตั้งตัวกับสิ่งที่ได้ฟังมาไม่ได้ แต่เค้าก็รู้สึกตัวเสมอว่าเค้า เค้ารักผู้หญิงคนนี้ คนที่อยู่ตรงหน้าเค้าตอนนี้

เค้าจึงเดินไปหาเธอแล้วก็ปลุกเธอ

นี่ ตื่นได้แล้ว มานอนอะไรตรงนี้เล่า มาทำไมดึกป่านนี้ เค้าพูดเสียงแข็งๆ พลางเขย่าตัวเธอ

พัชงัวเงียตื่นขึ้นมา เมื่อเธอเห็นหน้าบิ๊ก เธอก็อดที่จะร้องไห้ไม่ได้ เธอโผเข้าไปกอดเค้าเอาไว้

บิ๊ก ไปไหนมา พัชมารอตั้งนานแล้วนะ ใจร้ายจริงๆเลย เธอสะอึกสะอื้น 
ทั้งๆที่เค้ารู้สึกขุ่นเคืองใจ แต่เค้าก็อดที่จะกอดเธอเอาไว้ไม่ได้ แต่เมื่อเค้ารู้สึกตัวเค้าก็ผลักเธอออกไปเบาๆ

มาทำไมพัช ทำไมไม่ไปหาพ่อแม่ของเธอล่ะ พ่อแม่ที่เธอรอมาตลอดไง บิ๊กพูดพลางหลบสายตา

พัชงุนงงกับคำพูด และน้ำเสียงที่บิ๊กใช้กับเธอ เค้าไม่เคยเป็นแบบนี้ ไม่เคยเลย
บิ๊ก เป็นอะไรไปน่ะ เรามีเรื่องต้องคุยกันนะ ที่พัชมาหาบิ๊กกลางดึกแบบนี้ ก็เพราะเรามีเรื่องที่ต้องคุยกัน 

มีอะไรต้องคุยล่ะ มาหาผู้ชายดึกๆดื่นๆแบบนี้ ถ้าเป็นคนอื่นเค้าคงจะคิดว่า ให้ท่า 

บิ๊ก ทำไมพูดจาแบบนี้ บิ๊กไม่เคยเป็นแบบนี้ มันเกิดอะไรขึ้น บิ๊กเป็นอะไร เป็นแบบนี้เรายิ่งต้องคุยกันนะ พัชตกใจมากที่บิ๊กพูดจากับเธอรุนแรงแบบนี้

ไม่ต้องคุยหรอก ทำอย่างอื่นดีกว่าเยอะ บิ๊กพูดแล้วก็ทั้งฉุดและลากพัชเข้าบ้านไป

บิ๊ก หยุดเดี๋ยวนี้นะ บ้าไปแล้วรึไง หยุดนะ พัชบอกให้หยุด พัชจะกลับบ้าน พัชไม่คุยกับบิ๊กแล้ว หยุดนะ ปล่อยนะ บอกให้ปล่อย พัชกรีดร้อง พลางรู้สึกว่า ไม่ใช่ ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่บิ๊กที่เธอรู้จัก ไม่ใช่ 

บิ๊กลากเธอเข้ามาถึงในห้องนอนของเค้า เค้าผลักเธอไปที่เตียง พัชมีสีหน้าที่หวาดกลัวมาก และร้องไห้อย่างหนัก แต่สักพักเธอก็หันมาจ้องหน้าเค้าแล้วบอกว่า

ถ้าบิ๊กคิดว่า ทำแบบนี้แล้วจะชดเชยความรู้สึกอะไรก็ตามที่บิ๊กรู้สึกตอนนี้ได้ อยากจะทำอะไรก็เชิญ แต่พัชขอนะ ขอว่าถ้าจะโกรธจะเกลียดพ่อแม่ของพัชน่ะ ให้มาโกรธมาเกลียดพัชแทน ถามจริงๆเถอะที่ผ่านมาบิ๊กไม่เคยรู้สึกใช่มั้ยว่าเรารู้สึกดีๆต่อกัน ไม่เคยเลยใช่มั้ย บิ๊กถึงได้คิดจะทำกับพัชแบบนี้ พัชมองหน้าเค้าด้วยน้ำตานองหน้า

บิ๊กปวดร้าวอย่างที่สุดแต่เค้าก็ไม่อาจยับยั้งความขุ่นมัวของจิตใจตัวเองได้ในตอนนี้ 

เค้าไม่สนใจแล้วว่าผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเค้าจะเป็นคนที่เค้ารักมากที่สุด ตอนนี้ขอแค่ให้เค้าได้ทำในสิ่งที่เค้ารู้สึกว่า มันจะคุ้มค่ากับความโกรธแค้นของเค้า

เค้าย่างสามขุมเข้าไปหาพัชที่เตียง เธอมองเค้าด้วยแววตาปวดร้าวและอ้อนวอน 

ไม่มีทางหรอกพัช บิ๊กจะไม่มีวันปล่อยโอกาสนี้ไป โอกาสที่พ่อของพัชจะได้รู้สึกว่าการที่ถูกพรากคนที่รักที่สุดไปเป็นยังไง โอกาสที่ครอบครัวของพัชจะต้องได้รับการตอบแทน 

ตอนนี้บิ๊กไม่ใช่คนเดิมที่พัชเคยรู้จักอีกแล้ว เค้ากลายเป็นเหมือนซาตาน 

พัชมาหาบิ๊กเองนะ ช่วยไม่ได้เลย ช่วยไม่ได้จริงๆ 

อย่านะ อย่า ได้โปรด อย่านะ พัชกรีดร้อง				
24 พฤศจิกายน 2547 13:16 น.

“รอวัน..ปาฏิหาริย์..ฉันรักเธอ..ตอนที่ 10...”

Pat_Big

บิ๊กกลับมาจากบ้านเก่าแล้วเหรอ พัชพูดได้แค่นี้น้ำตาของเธอก็ไหลลงมาอาบแก้ม เธอรู้สึกสับสนเหลือเกิน เมื่อเธอเห็นหน้าเค้าเธอจึงคุมอารมณ์อ่อนไหวไม่อยู่ 

บิ๊กตกใจที่เห็นพัชร้องไห้ เค้ารีบเดินเข้ามา และจับไหล่เธอเอาไว้ทั้งสองข้างแล้วถามว่า
เป็นอะไร ขี้แงอีกแล้ว มีอะไรไม่สบายใจ ไหนเล่าให้บิ๊กฟังหน่อยได้มั้ย เค้าเอื้อมมือไปลูบศีรษะเธอเบาๆ เหมือนทุกครั้งที่เค้าทำเวลาปลอบโยนเธอ

พัชไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น พัชสับสนไปหมดแล้ว วันนี้มีผู้ชายคนนึงมาที่บ้านและบอกกับพัชว่า เค้าจะมาบอกเรื่องพ่อกับแม่ของพัช พัชไม่รู้ว่าพัชจะทำยังไงดี พัชมองหน้าบิ๊กด้วยน้ำตานองหน้า

บิ๊กค่อยๆเอานิ้วโป้งเช็ดน้ำตาให้เธอช้าๆอย่างเบามือ และจ้องเข้าไปในดวงตาของเธอ
พัช..คนที่มองโลกในแง่ดีมาตลอด วันนี้เป็นอะไรไป.. ฮึ..ไหนใครเคยบอกบิ๊กไงว่า ในความมืดมนมักจะมีแสงสว่างที่เรามองไม่เห็นเสมอ..พัช..ฟังบิ๊กนะ..ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นอย่าลืมว่าบิ๊กอยู่ตรงนี้เสมอ..และพัชไม่ต้องกลัวนะ นี่คือสิ่งที่พัชอยากรู้มาตลอดไม่ใช่เหรอ อย่ากลัวเลย บิ๊กอยู่ข้างๆพัช ถ้าพัชต้องการ บิ๊กจะเข้าไปฟังเรื่องนี้กับพัชและจะอยู่เป็นเพื่อนพัชนะ ไม่ว่าเรื่องราวมันจะเป็นยังไง บิ๊กเชื่อว่าคนที่จิตใจดีแบบพัช ต้องได้รับสิ่งดีๆตอบแทนเสมอ เค้ายิ้มอย่างอ่อนโยนเพื่อหวังจะให้เธอคลายกังวล

พัชเชื่อบิ๊กนะ..เพราะการที่พัชได้รู้จักบิ๊ก..ก็นับว่าเป็นเรื่องที่ดีที่สุดในชีวิตของคนอย่างพัชแล้ว บิ๊กก็เหมือนกันนะ บิ๊กเป็นคนดี บิ๊กต้องได้รับสิ่งดีๆตอบแทนเช่นกัน ตอนนี้เธอยิ้มออกแล้ว แล้วก็รู้สึกตัวแล้วด้วยว่าเธอกอดบิ๊กอยู่ ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย ไม่เห็นรู้ตัวเลย เธอคิด 

นี่ ปล่อยพัชได้แล้วล่ะ พัชไม่เป็นไรแล้ว เธอพูดพลางหลบสายตาเค้า
อ้าว ใครต้องปล่อยใครกันแน่ บิ๊กเปล่านะ ใครน๊า อยู่ดีๆก็มากอดเค้าเฉย แล้วยังมาเฉไฉบอกว่าให้เค้าปล่อยอีก เค้าพูดและทำหน้าทะเล้นใส่เธอ

ก็ได้ ก็ใครจะไปรู้ล่ะ ก็ขอโทษ เธอหันหลังให้เค้าพลางยิ้มอย่างเขินอายที่หน้าแตก
เค้าเดินมาใกล้ๆเธอจากด้านหลัง ห่างจากเธอเพียงแค่นิดเดียว ใกล้จนเค้าได้กลิ่นหอมอ่อนๆจากผมของเธอ แล้วกระซิบเธอที่ข้างหูว่า

พัช...บิ๊กมีอะไรจะบอก 
พัชใจสั่นระรัว ค่อยๆหันหน้ามาเผชิญหน้ากับเค้า แต่ก็ไม่กล้าสบตาเค้า
อืม อะไรล่ะ ก็บอกมาสิ พัชบังคับคำพูดตัวเองไม่ให้สั่น

พัชลืมรูดซิปอ่ะ บิ๊กพูดจบแล้วก็รีบวิ่งหนีห่างจากเธอไป เพราะไม่อย่างนั้นเค้าคงต้องโดนฝ่ามืออรหันต์แน่ๆ 

เพล้ง!!! เธอได้ยินเสียงหน้าของตัวเองแตกดังอยู่ในหัว หืมมมมมบิ๊กนะ บ้าจริงๆเลย วันนี้เค้าใส่ชุดที่ต้องรูดซิปที่ไหนล่ะ พัชพูดพลางทำหน้างอนๆ แต่ก็อดหัวเราะไม่ได้ บิ๊กทำให้เธอหัวเราะได้เสมอ

โอ๋ๆๆ..ก็ล้อเล่นไง..อยากให้พัชยิ้มและหัวเราะ..ไม่เอานะ..อย่างอนนะ..ดีกันนะ บิ๊กเดินมาหาเธอพลางยื่นนิ้วก้อยให้

พัชทำหน้างอนอยู่อย่างนั้น ค้อนบิ๊กไปหลายที แต่แล้วเธอก็ยิ้มและยื่นนิ้วก้อยให้เค้าเช่นกัน 
ก็ได้ จะอโหสิให้ล่ะนะ ทั้งคู่ยิ้มและหัวเราะให้กัน 

สบายใจ พร้อมจะรับเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นแล้วใช่มั้ยพัช บิ๊กถาม
ใช่แล้วล่ะ ขอบคุณมากนะคะคุณภัคนนท์  พัชเรียกชื่อจริงของบิ๊กเวลาที่เธอจะแซวเค้า เพราะเค้าจะเขินทุกครั้งเวลาที่เธอเรียกชื่อจริง

บิ๊กนี่ ทำไมต้องเขินทุกครั้งเวลาพัชเรียกชื่อจริงด้วยอ่ะ เธอแซวเค้าพลางส่ายหัว
ก็ไม่รู้สิ แต่เวลาคนอื่นเรียกก็ไม่เป็นไรนะ แต่เวลาพัชเรียกนี่มันฟังแปลกๆหูยังไงไม่รู้ บิ๊กตอบพลางยิ้มแหยๆ

บิ๊กนี่ล่ะก็ พัชแค่แซวเล่นน่า บิ๊ก พัชมีเรื่องอยากจะขอร้อง เธอกลับมามีสีหน้าจริงจังอีกครั้ง

อืม เรื่องอะไรเหรอ ว่ามาสิ บิ๊กมองหน้าพัชเพื่อให้รู้ว่าเค้ายินดี
คือพัชอยากให้บิ๊กอยู่กับพัชตอนที่คุณอาพีรวิชญ์เค้าเล่าเรื่องพ่อกับแม่พัชน่ะ ได้รึป่าว พัชมีสีหน้าวิงวอนอย่างสุดหัวใจ

นี่ ไม่ต้องทำหน้าแบบนี้ก็ได้ รู้ใช่มั้ยว่าบิ๊กต้องใจอ่อน ทำไมจะไม่ได้ล่ะ ก็เพิ่งบอกไปเมื่อกี้นี้ไงว่าถ้าพัชอยากให้บิ๊กอยู่ฟังด้วย บิ๊กก็ยินดี เค้าทำท่าทางโค้งคำนับ

ทำให้พัชอดยิ้มไม่ได้ ไม่ว่าเธอจะเจอเรื่องสะเทือนอารมณ์มาแค่ไหน แต่พอเธอได้เจอบิ๊กได้คุยกับบิ๊กแล้ว เรื่องเหล่านั้นก็ดูจะกลายเป็นเรื่องที่เบาบางมาก จะมีใครเป็นเหมือนเธอมั้ยนะ เธอคิด

เจ้าโมโม่วิ่งออกมา เมื่อเห็นบิ๊ก มันก็กระดิกหางอย่างดีใจ แล้วก็กระโจนขึ้นไปเลียหน้าเค้าเหมือนทุกทีที่มันเจอเค้า

ดีใจใหญ่เชียวนะโมโม่ แหม รู้สึกว่าจะคิดถึงกันซะเหลือเกินนะ ถ้าพัชไปไหนไกลๆบ้าง โมโม่จะคิดถึงพัชแบบนี้มั้ยเนี่ย พัชแกล้งทำเสียงงอนๆ

บิ๊กก็เลยเอามือไปเขกหัวพัชหนึ่งที นี่แน่ะ..แม้แต่กับเจ้าโมโม่ก็ยังงอนอีกนะ..จริงๆเลยน๊า เจ้านายเราเนี่ย ใช่มั้ยโมโม่ เจ้าโมโม่เห่าตอบเค้าหนึ่งครั้ง ทำให้บิ๊กหัวเราะซะยกใหญ่ 
เห็นมั้ยพัช โมโม่ยังเห็นด้วยเลย บิ๊กไม่เลิกยียวนพัช หวังจะให้เธอยิ้ม
พัชแอบยิ้ม

นั่นแน่ ยิ้มแล้ว พัช..พร้อมรึยัง เค้าหมายถึงพร้อมสำหรับการไปรับฟังเรื่องของพ่อกับแม่ของพัช

พัชมีสีหน้าหวั่นๆ แต่เธอก็พยักหน้า บิ๊กยื่นมือมาให้เธอ เธอจึงวางมือตัวเองไว้บนมือเค้า 
มือพัชเย็นจังเลย ตื่นเต้นเหรอ บิ๊กถาม

ว๊าย บิ๊กจะทำอะไรน่ะ พัชร้องออกมาอย่างตกใจเมื่อบิ๊กกำลังจับมือพัชยัดเข้าไปในเสื้อของเค้า แล้วเอามือของพัชวางไว้ตรงหัวใจ

อุ่นมือมั้ย มือไม่เย็นแล้วนะ บิ๊กพูดและสบตาพัชตรงๆ 

พัชหน้าแดง และก็หลบตาเค้า แต่บิ๊กก็บิดจมูกพัชเล่นอย่างที่ชอบทำบ่อยๆ

แน่ะ ถามก็ไม่ตอบ เป็นอะไรไป บิ๊กถามหน้าใสซื่อ

นี่ไม่รู้จริงๆ หรือแกล้งไม่เข้าใจกันแน่ พัชค้อนเค้าอีกแล้ว

อ้าว เป็นงั้นไป ก็ไม่รู้จริงๆนี่นา เฮ้อ ผู้หญิงนี่เข้าใจยากจริงๆน๊า ว่ามั้ยโมโม่ เค้าถามโมโม่เพื่อหวังจะหาพวก เจ้าโมโม่ก็เห่าตอบเค้าอีกครั้ง 

บิ๊ก..พัชกลัวจังเลย.. พัชกลับมามีสีหน้าหวาดหวั่นอีกครั้งหลังจากที่ดึงมือออกมาจากเสื้อของบิ๊กได้แล้ว

ไม่ต้องกลัวหรอกพัช..ความจริงก็คือความจริงนะ..บิ๊กก็อยู่ตรงนี้ โมโม่ด้วย ป้านิ่มก็อีกคน ทุกคนรักพัชนะ เค้าสบตาเธอจริงจังและจ้องเข้าไปในแววตาของเธออีกครั้ง

ทุกคนเลยเหรอ เหมือนพัชจะถามต่อแต่เธอก็หยุดพูดไปเฉยๆ แล้วหันไปอุ้มเจ้าโมโม่ขึ้นมา

ไม่อยากรู้แล้วเหรอ บิ๊กถามยิ้มๆ สายตาเป็นประกาย

ไม่แล้ว ป๊ะ โมโม่ไปหาป้านิ่มกับคุณอากันดีกว่า ใครไม่ไปก็ปล่อยทิ้งไว้แถวนี้แหละ พัชพูดโดยไม่ได้หันมามองหน้าบิ๊ก 

เมื่อบิ๊กกับพัชและเจ้าโมโม่เดินมาถึงสวนหลังบ้าน ก็เห็นป้านิ่มกับพีรวิชญ์กำลังคุยกันสีหน้าเคร่งเครียด ป้านิ่มมีร่องรอยของการผ่านการร้องไห้มา พัชหันไปมองหน้าบิ๊ก สีหน้าเธอวิตกกังวล บิ๊กพยักหน้าให้เธอพร้อมกับรอยยิ้มอันอบอุ่น 

สวัสดีครับป้านิ่ม สวัสดีครับคุณอา บิ๊กยกมือไหว้ป้านิ่มกับพีรวิชญ์

พีรวิชญ์รับไหว้ และครุ่นคิด เด็กหนุ่มคนนี้เค้าเคยเจอที่ไหนน๊า ใช่แล้ว คนที่ช่วยน้องแพท ลูกสาวของเค้านั่นเอง นอกจากนั้น หน้าตาของเด็กหนุ่มคนนี้ยังคล้ายกับคนๆนึงมากทีเดียว 

บิ๊กน่ะค่ะ คุณพีรวิชญ์ เธอเป็นลูกชายของคุณชานนท์กับคุณรินลดา 

ลูกชายชานนท์กับรินลดา!!! พีรวิชญ์อุทานด้วยความตกใจ มิน่าล่ะเค้าถึงได้รู้สึกคุ้นหน้านัก เด็กหนุ่มคนนี้เป็นลูกชายของชานนท์นี่เอง 

ทำให้บิ๊กรู้สึกแปลกใจว่าทำไมต้องตกใจด้วย
คุณอารู้จักกับพ่อแม่ของผมเหรอครับ บิ๊กถาม

แต่ก่อนที่พีรวิชญ์จะได้ตอบคำถาม ป้านิ่มก็ชิงตัดบทขึ้นมาว่า
เอาล่ะค่ะ ในเมื่อหนูพัชพร้อมที่จะฟังแล้ว ป้าว่าเราเริ่มกันเลยดีกว่านะคะ 

ป้านิ่มคะ คุณอาคะ พัชขอให้บิ๊กกับโมโม่อยู่ฟังด้วยกันนะคะ นะ พัชอ้อนวอน

ก็ได้จ้ะหนู เรื่องนี้ก็ไม่ใช่ความลับสำคัญอะไร เพียงแต่ว่าเป็นเรื่องที่หนูจำเป็นต้องรู้ให้เร็วที่สุดก่อนที่มันจะสายเกินไป พีรวิชญ์พยายามซ่อนแววตาปวดร้าวเอาไว้

บรรยากาศนี้ช่างกดดันความรู้สึกของทุกคน ไม่เว้นแม้แต่เจ้าโมโม่ เพราะมันนั่งนิ่ง เอาหัวซบไว้กับเท้าของพัช พัชนั่งลงข้างๆป้านิ่ม บิ๊กนั่งถัดมา เค้าเอื้อมมือไปลูบศีรษะเธอเบาๆ และยิ้มให้เธอพีรวิชญ์กับป้านิ่มมองภาพนั้นอย่างเวทนาจับใจ

 พีรวิชญ์คิดในใจว่า เด็กทั้งสองคนนี้จำเป็นต้องรู้ว่าพวกเค้าเป็นพี่น้องกัน เค้าจะรักกันแบบอื่นไม่ได้ เราต้องบอกพวกเค้า ก่อนที่มันจะสายเกินไป โธ่เอ๊ย เพราะเราคนเดียวแท้ๆ ไม่อย่างนั้น เรื่องแบบนี้ก็คงไม่เกิด เวรกรรมแท้ๆ พีรวิชญ์ทรมานในใจยิ่งนัก 

ป้านิ่มเองก็เข้าใจผิดมาตลอดว่า บิ๊กกับพัชเป็นพี่น้องกัน เพราะพีรวิชญ์บอกเธออย่างนั้น เธอจึงสงสารเด็กทั้งสองคนมาก เธอคิดว่าถ้ารู้ว่าเป็นพี่น้องกันแบบนี้ ไม่รู้จะเป็นไงต่อไป ถึงจะเป็นพี่น้องคนละแม่ก็เถอะ แต่ยังไงก็พ่อเดียวกัน จะรักกันเข้าไปได้ยังไง 
คุณพระคุณเจ้าช่วยลูกด้วยเถิด ป้านิ่มเองก็วิตกกังวลไม่แพ้พีรวิชญ์ อาจจะมากกว่า เพราะป้านิ่มเลี้ยงพัชมา และรักเธอมาก ป้านิ่มคงทนเห็นพัชเจ็บปวดไม่ได้ ส่วนบิ๊กเอง ป้านิ่มก็รักและเอ็นดูเค้ามากทีเดียว เพราะเค้าเป็นคนดี และที่สำคัญเค้าเติมเต็มให้กับชีวิตของพัช

พัชหายใจลึกๆ และหลับตาอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะบอกกับพีรวิชญ์ว่า
พัชพร้อมจะรับฟังเรื่องทุกอย่างที่คุณอาจะบอกแล้วค่ะ เธอกล่าวด้วยน้ำเสียงเด็ดเดี่ยว
				
18 พฤศจิกายน 2547 15:10 น.

รอวัน ปาฏิหาริย์ ฉันรักเธอ ตอนที่ 9

Pat_Big

รอวัน ปาฏิหาริย์ ฉันรักเธอ ตอนที่ 9

คุณพีรวิชญ์!!! ป้านิ่มอุทานอย่างตกใจเมื่อเห็นว่าใครมายืนอยู่ที่หน้าประตูตอนนี้ ป้านิ่มเปิดประตูให้เค้าและพาไปนั่งคุยกันที่สวนหลังบ้าน

คุณมาที่นี่มีเรื่องอะไรคะ ทำไมไม่เรียกดิฉันออกไปพบข้างนอกเหมือนที่ผ่านมา มันจะทำให้หนูพัชสงสัยได้นะคะ ป้านิ่มกล่าวอย่างร้อนรน

ชายวัยกลางคนมีสีหน้าไม่สู้ดีนัก ก่อนที่จะเอ่ยว่า

ตอนนี้คุณภัทราไม่สบายมากนิ่ม สิ่งที่ฉันทนไม่ได้เลยก็คือ เค้าเอาแต่เพ้อหาลูกพัช ฉันจนปัญญาแล้ว ฉันยอมแล้ว ฉันจะบอกความจริงกับลูกพัช แล้วพาลูกไปพบกับภัทรา ก่อนที่มันจะสายเกินไป พีรวิชญ์พูดด้วยสายตาที่ปวดร้าว

คุณพระช่วย!! คุณภัทราเธอป่วยมากขนาดนั้นเลยเหรอคะ มากจนจะต้องบอกความจริงทั้งหมดตอนนี้ ป้านิ่มเอามือทาบอกอย่างตกใจ

มันถึงเวลาแล้วนะนิ่ม ที่ทุกคนควรจะได้รู้ความจริง ที่ฉันกับคุณรินลดาปิดบังมาตลอด มันเป็นตราบาปในใจตลอดมา หลังจากคุณรินลดาเสียชีวิตไปแล้วตราบาปนี้ก็ยังคงอยู่และเพิ่มมากขึ้นในใจฉัน จนฉันจะทนรับมันไม่ไหว กรรมกำลังจะตามสนองฉัน ถ้าภัทราเป็นอะไรไปโดยที่ยังไม่รู้ความจริง ฉันคงจะไม่ให้อภัยตัวเองไปตลอดชีวิต ฉันเลวมามากพอแล้วนิ่ม มากเกินพอ เกินที่ลูกพัชควรจะยอมรับว่า ว่าฉันเป็นพ่อของเค้า ไม่ใช่คุณชานนท์ ชายวัยกลางคนหลับตาลงเพื่อข่มน้ำตาที่กำลังจะไหลออกมา 

ป้านิ่มแสดงอาการเห็นใจพีรวิชญ์ คุณพีรวิชญ์คะ เรื่องมันก็ผ่านมานานมากแล้ว แก้ไขอะไรในอดีตไม่ได้แล้ว แต่ปัจจุบันเราแก้ไขให้มันถูกต้องได้นี่คะ ดิฉันดีใจค่ะ ที่คุณตัดสินใจบอกความจริงซะที คุณรินลดาเธอก็เสียชีวิตไปแล้ว แล้วถ้าไม่มีคุณอีกคน ใครล่ะคะจะแก้ไขความเข้าใจผิดทั้งหมดของทุกคน ลืมอดีตซะเถอะนะคะคุณ

ขอบใจเธอมากนะนิ่ม ที่คอยดูแลลูกพัชมาตลอด และเธอเองก็ยังเก็บความลับของฉันกับคุณรินลดาเอาไว้เสมอมา ขอบใจมากนิ่ม เธอมีบุญคุณกับฉันจริงๆ 

ในตอนแรกดิฉันเองก็ไม่เห็นด้วยกับคุณและคุณรินลดานักหรอกค่ะ แต่จะทำยังไงได้ล่ะคะ คุณน่ะก็มีบุญคุณกับดิฉันมากเหลือเกิน แล้วพอดิฉันได้เลี้ยงหนูพัช เธอก็น่ารักเหลือเกินค่ะ เหมือนกับว่าเธอเกิดมาเพื่อทำให้คนที่อยู่รอบข้างเธอมีความสุข ดิฉันเลยคิดว่าไม่อยากให้อะไรก็ตามมาทำให้หนูพัชของดิฉันมีความเจ็บปวด ดิฉันจึงเห็นด้วยกับพวกคุณค่ะ จะว่าไปดิฉันเองก็มีส่วนผิดอยู่มากทีเดียว

ไม่หรอกนิ่ม อย่าโทษตัวเองเลย ฉันต่างหากที่เป็นคนสร้างบาปทั้งหมด ฉันเอง พีรวิชญ์กล่าวด้วยน้ำเสียงขมขื่น เค้ารู้สึกปวดร้าวมาตลอดกับเรื่องนี้ เค้าหลับตาและหวนรำลึกถึงเรื่องอดีตที่ผ่านมา....

เมื่อยี่สิบกว่าปีที่ผ่านมา

ชานนท์และภัทรากำลังจะแต่งงานกัน พีรวิชญ์ซึ่งหลงรักภัทรามาตั้งแต่ยังเด็ก เพราะว่าพ่อแม่ของทั้งคู่เป็นเพื่อนกัน ทำให้พีรวิชญ์และภัทราสนิทสนมกันมาตั้งแต่เด็กๆ 

เมื่อภัทรากำลังจะแต่งงานกับคนที่พีรวิชญ์เกลียดเข้าไส้ เพราะมาแย่งภัทราไปจากเค้า พีรวิชญ์จึงทนไม่ได้ เค้าหาทางทำอะไรบางอย่าง และรอโอกาสเหมาะสมอยู่เงียบๆโดยที่ใครก็ไม่อาจล่วงรู้ได้เลย

เมื่อภัทราแต่งงานกับชานนท์ได้หนึ่งเดือน พีรวิชญ์จึงได้เริ่มแผนการที่เค้าวางไว้ เค้าวางแผนจะฉุดภัทรา!!! ที่เค้าไม่ฉุดภัทราตั้งแต่วันแรกที่เธอแต่งงานก็เพราะว่าเค้าอยากทำให้ชานนท์ช้ำใจอย่างแสนสาหัส ที่แต่งงานได้เพียงเดือนเดียว เจ้าสาวของเค้าก็หายไป แล้วพีรวิชญ์ก็ทำสำเร็จ เค้าฉุดภัทรามาจากชานนท์จนได้ในที่สุด

เหตุการณ์ได้ทำให้ชานนท์และภัทราหัวใจสลาย ชานนท์กลายเป็นคนซึมเศร้า ภัทราก็เช่นกัน เธอโกรธพีรวิชญ์มาก ชานนท์และครอบครัวของภัทราต่างก็ออกตามหาเธอ แต่ก็ไม่มีวี่แววใดๆ 

หนึ่งเดือนต่อมา ภัทราก็ตั้งท้อง พีรวิชญ์เข้าใจว่าเธอท้องกับชานนท์โดยที่หารู้ไม่ว่า จริงๆแล้วภัทราท้องกับเค้านั่นเอง เค้าเข้าใจว่าลูกในท้องของภัทราเป็นลูกของชานนท์มาตลอด เค้าจึงได้วางแผนการอันชั่วร้ายอีกครั้ง

รินลดาเข้ามาในชีวิตของชานนท์ รินลดาเป็นคนดีมากและแอบหลงรักชานนท์มาตั้งนานโดยที่ไม่ได้บอกให้ชานนท์รู้ เมื่อเธอเห็นชานนท์เสียใจจนแทบจะไม่เป็นผู้เป็นคน เธอจึงเข้ามาดูแลทั้งตัวและหัวใจของเค้า จนในที่สุดเค้าก็เลือกเธอมาเป็นแม่ของลูกของเค้า ลูกของชานนท์กับรินลดา ก็คือ ภัคนนท์ 

แต่รินลดาก็รู้ดีว่า ชานนท์ยังรักภัทราอยู่เต็มหัวใจ เธอได้แต่เก็บความน้อยใจเอาไว้ลึกๆ ไม่ได้รู้ว่าความรู้สึกอันน้อยนิดนี้จะมาเป็นแรงผลักดันให้เธอทำร้ายใครให้เจ็บปวดได้ในภายหลัง

เมื่อภัทราคลอดลูก ลูกของเธอก็หายไปจากโรงพยาบาล เธอหัวใจสลายเป็นครั้งที่สอง แต่เธอไม่ได้รู้ว่าพีรวิชญ์มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เพราะพีรวิชญ์นั่นเองที่เป็นคนว่าจ้างให้คนมาลักพาตัวลูกของภัทราไป โดยที่เค้าไม่ได้รู้ตัวเลยว่าเป็นลูกของเค้ากับภัทรา ไม่ใช่ลูกของชานนท์

พีรวิชญ์ให้คนนำลูกของภัทราไปทิ้งไว้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า  ภัทราซึ่งไม่รู้เรื่องทั้งหมด ก็โศกเศร้าเสียใจที่ลูกของเธอหายไป เธอรู้ตัวดีว่าเธอท้องกับพีรวิชญ์ หาใช่ชานนท์ไม่ แต่เธอก็เกลียดพีรวิชญ์ เธอจึงไม่ได้บอกความจริงกับเค้าว่านี่คือลูกของเค้า เธอยังคงเกลียดเค้าอยู่อย่างนั้น จนกระทั่งเธอท้องลูกคนที่สอง พีรวิชญ์จึงแน่ใจว่าลูกคนนี้เป็นลูกของเค้าแน่ๆ เค้ามีความสุขมากเมื่อภัทราคลอดลูกออกมาเป็นผู้หญิง 

ภัทราตั้งชื่อลูกว่า น้องแพท ความจริงแล้วภัทรารู้สึกดีกับพีรวิชญ์มาตลอดเพราะรับรู้ว่าเค้ารู้สึกยังไงกับเธอมาตั้งแต่เด็กๆ แต่เค้าก็ทำให้เธอเกลียดเค้าจนได้ เค้าพรากเธอมาเมื่อเธอแต่งงานกับผู้ชายที่เธอรักได้เพียงแค่เดือนเดียว แล้วเค้ายังย่ำหยีหัวใจเธอด้วยการบอกว่าเธอท้องกับชานนท์ 

แต่เมื่ออยู่ด้วยกันมานาน และมีลูกด้วยกันอีกคน ภัทราก็เปลี่ยนความรู้สึกมาเป็น รักเค้า เธอไม่รู้ตัวเลย ว่าเธอรักพีรวิชญ์ ตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่เท่าที่อยู่กันมา เค้าก็ดีกับเธอมากมาตลอด เค้าไม่เคยโหดร้าย หรือพูดจารุนแรงให้เธอต้องเสียใจ มีเพียงช่วงแรกๆเท่านั้นที่เค้าฉุดเธอมาจากชานนท์ใหม่ๆ หลังจากนั้น เค้าก็อ่อนโยนและดีกับเธอเสมอมา 

 แต่เค้าก็นับว่ามีน้ำใจ เพราะเค้าไปเยี่ยมลูกของภัทราเสมอ เพียงแต่กำชับกับทางสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าว่าอย่าแพร่งพรายเรื่องนี้ให้ใครรู้แม้แต่ตัวเด็กเองก็ตาม อย่าบอกใครว่าเค้ามาเยี่ยมเด็กคนนี้เสมอ จนเด็กคนนี้อายุ 5 ขวบ 

วันนึงเค้าเจอกับครอบครัวของชานนท์โดยบังเอิญ แวบหนึ่งที่พีรวิชญ์เห็นภาพครอบครัวของชานนท์ ที่มีพ่อแม่ลูก ชานนท์ รินลดา และภัคนนท์ ลูกชายคนเดียวของพวกเค้า พีรวิชญ์ก็รู้สึกเจ็บแปลบที่หัวใจว่าเค้าทำผิดอย่างร้ายกาจที่พรากแม่พรากลูกไม่ให้เจอกันตั้งแต่แรกเกิด พลางรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนเลว เลวอย่างไม่สมควรให้อภัย  

และนับว่าเป็นเรื่องบังเอิญอย่างที่สุด รินลดาได้เจอกับพีรวิชญ์ ทั้งสองคนเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กๆ  พีรวิชญ์จึงเล่าเรื่องทุกอย่างให้รินลดาฟัง รินลดาตกใจอย่างมาก และบอกกับพีรวิชญ์ว่าให้บอกความจริงกับภัทราซะ แต่พีรวิชญ์บอกว่าเรื่องมันล่วงเลยมาถึงป่านนี้แล้ว เค้าอยากให้มันจมหายไปกับอดีต 

รินลดาจึงถามเค้าว่า แล้วเด็กคนนี้ล่ะจะทำยังไง เค้าจำเป็นต้องรู้นะว่าพ่อแม่เค้าเป็นใคร เค้าไม่ใช่เด็กข้างถนนที่ไม่มีใครรักแล้วนำมาทิ้งไว้สถานที่แบบนี้ พี รินอยากให้พีคิดดูดี ๆ นะ 

พีริวิชญ์จึงบอกเธอว่า งั้นรินจะยอมให้เด็กคนนี้เป็นคนทำลายความสุขของครอบครัวรินรึป่าว รินก็รู้ว่าชานนท์กับภัทราเค้ารักกันขนาดไหน ถ้าชานนท์รู้ว่าเด็กคนนี้เป็นลูกของเค้า รินเชื่อพีมั้ยว่าเค้าจะต้องตามภัทราและลูกกลับมาอยู่ด้วยกัน รินต้องการให้มันเป็นแบบนี้เหรอ ความจริงแล้วพีรวิชญ์รักภัทรากับลูกมากและไม่อยากเสียเธอไป เค้าจึงพูดแบบนี้กับรินลดา ซึ่งเค้าเองก็รู้ว่ารินลดาก็ไม่อยากสูญเสียครอบครัวที่เธอรักเช่นกัน

รินลดาจึงลังเล ในที่สุดเธอก็ยอมตกลงเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับที่รู้แค่เธอกับพีรวิชญ์เท่านั้น รินลดารู้สึกผิดมาก แต่เธอก็ไม่ยอมเสียครอบครัวที่เธอรักไปแน่ๆ สิ่งที่เธอทำได้ก็คือบอกกับพีรวิชญ์ว่า 

เธอกับชานนท์จะขอรับเลี้ยงเด็กคนนี้เป็นลูกอุปภัมภ์ แต่ว่าไม่ได้ให้ไปอยู่ที่บ้านของพวกเค้า พีรวิชญ์จึงเสนอว่า ให้ป้านิ่มซึ่งเป็นคนเก่าแก่ของครอบครัวพีรวิชญ์เองเป็นคนดูแลเด็กคนนี้ รินลดายอมตกลง และให้ป้านิ่มกับเด็กคนนี้อยู่ที่หมู่บ้านเดียวกับที่เธออยู่ แต่เธอขอกับทางสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าว่า อย่าเปิดเผยให้เด็กรู้ว่าใครเป็นพ่อแม่อุปภัมภ์ 

ตอนแรกชานนท์แปลกใจมากว่า ทำไมรินลดาถึงอยากจะรับอุปภัมภ์เด็ก ทั้งๆที่พวกเค้าก็มีลูกชายอยู่ทั้งคน แต่ครอบครัวของชานนท์ก็มาทำบุญมาเยี่ยมเด็กที่นี่เสมอ และเค้าก็รู้สึกถูกชะตากับลูกอุปภัมภ์คนนี้มาก เค้าจึงไม่ได้สอบถามอะไรอีก 

นับแต่นั้นมา เด็กคนนั้นก็อยู่กับป้านิ่มมาตลอด บัดนี้เธอเติบโตเป็นหญิงสาว และก็มายืนอยู่ตรงหน้าพีรวิชญ์กับป้านิ่ม ณ ตอนนี้แล้ว

เธอยกมือไหว้พีรวิชญ์โดยที่ยังไม่รู้จักว่าเค้าเป็นใคร พีรวิชญ์สะดุ้งเมื่อเห็นเธอเพราะเค้ากำลังหวนคิดถึงความหลัง การที่เธอมายืนอยู่ตรงหน้าทำให้เค้ารู้สึกตัวและกลับมาสู่โลกปัจจุบันอีกครั้ง

ป้านิ่มคะ พัชเห็นว่ามีแขกมา ก็เลยเอาน้ำแตงโมมาให้ชิมน่ะค่ะ นี่พัชทำเองนะคะ สำหรับป้านิ่มและแขกของป้านิ่มค่ะ พัชวางแก้วน้ำทั้งสองแก้วลง แล้วก็นั่งลงข้างๆป้านิ่ม พลางเอาหัวซบไหล่ป้านิ่ม 

ป้านิ่มคะ คือพัชจะมาขออนุญาตออกไปข้างนอกหน่อยค่ะ เอาโมโม่ไปด้วย ป้านิ่มไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ เดี๋ยวตอนเย็นๆพัชจะกลับมาค่ะ 

พีรวิชญ์มองพัชด้วยสายตาที่ปนเปกันไปด้วยความรู้สึกผิด รู้สึกสงสาร และสับสนในใจว่า ทำไมหน้าตาไม่เหมือนชานนท์สักนิด แต่เค้าก็ไม่ได้คิดอะไรอีก เมื่อได้ยินเสียงป้านิ่มพูดขึ้นว่า

หนูพัชจ๊ะ วันนี้เห็นจะออกไปข้างนอกไม่ได้นะลูก คือคุณคนนี้เค้าชื่อคุณพีรวิชญ์ เค้ามีเรื่องจะคุยกับหนู และมีเรื่องที่หนูจำเป็นต้องรู้และเข้าใจมาบอกหนูจ้ะ ป้านิ่มพูดด้วยความลำบากใจ ตอนนี้ป้านิ่มเกือบจะร้องไห้ออกมาแล้ว

พัชรู้สึกว่า บรรยากาศแปลกๆ ผู้ชายคนนี้เป็นใคร มีเรื่องอะไรต้องคุยกับเธอ 
มีเรื่องอะไรเหรอคะป้านิ่ม แล้วคุณอาคนนี้มีเรื่องอะไรจะมาคุยกับพัชเหรอคะ เราไม่เคยรู้จักกันมาก่อนนี่คะ พัชถามด้วยความสงสัย

หนูพัชจำได้มั้ยลูก ที่ป้าเคยบอกหนูว่า วันนึงเมื่อถึงเวลาอันสมควร หนูจะได้รู้เรื่องที่หนูอยากรู้ เรื่องของหนู เรื่องของพ่อแม่ของหนู ป้านิ่มไม่สามารถพูดต่อไปได้อีก เธอได้แต่ดึงตัวพัชมากอดไว้

หมายความว่ายังไงคะป้านิ่ม ถึงเธอจะอยากรู้เรื่องพ่อแม่มาตลอด แต่พอถึงเวลาที่จะรู้จริงๆ เธอกลับรู้สึกแปลกๆ 

พีรวิชญ์ที่นิ่งเงียบอยู่นานจึงพูดขึ้นมาว่า
ฉันจะเล่าเรื่องทุกอย่างให้หนูฟังเอง เรื่องพ่อแม่ของหนู และฉันจะตอบคำถามทุกอย่างที่หนูอยากรู้ แต่ว่าคำถามนั้นถ้าฉันไม่สามารถตอบได้ฉันคงจะตอบหนูไม่ได้นะ ตอนนี้หนูจำเป็นต้องรู้แต่เรื่องที่หนูควรรู้เท่านั้น 

กริ๊งงงงงงงงงงงง เสียงกริ่งที่หน้าประตูบ้านดังขึ้นอีกครั้ง พัชอาสาจะออกไปดูว่าใครมา เมื่อเธอเห็นคนที่ยืนอยู่หน้าประตู เธอก็ยิ้มอย่างอุ่นใจ				
12 พฤศจิกายน 2547 10:20 น.

รอวัน ปาฏิหาริย์ ฉันรักเธอ ตอนที่ 8

Pat_Big

วันเวลาระหว่างเค้าและเธอผ่านไปอย่างรวดเร็ว พวกเค้าผ่านเรื่องราวต่างๆมากมาย จนทำให้ได้รู้จักตัวตนของกันและกันลึกซึ้งมากขึ้นไปในทุกๆวัน...พัชหลงรักบิ๊กจนหมดหัวใจ และดูเหมือนว่าบิ๊กเองก็สัมผัสได้กับความรู้สึกของเธอ โดยที่เธอไม่เคยต้องบอกว่าเธอรักเค้า แต่ทุกๆสิ่งที่เธอปฏิบัติต่อเค้านั้น มันอธิบายได้มากกว่าคำพูด แต่เธอไม่เคยรู้ว่า สำหรับเค้า บางครั้ง คำพูดก็สำคัญ....ไม่แพ้การกระทำ...

สำหรับพัช เธอไม่เคยรู้เลยว่า จริงๆแล้วบิ๊กรู้สึกอย่างไรกับเธอ เธอได้แต่เก็บความสงสัยนี้ไว้ในใจ เพราะเธอกลัว กลัวว่าเธอจะคิดไปเอง และจะต้องเจ็บปวดถ้าหากบิ๊กรู้ว่าคนที่เค้าไว้ใจไม่บริสุทธิ์ใจกับเค้าและรู้สึกกับเค้าอย่างไร เธอกลัวจับใจว่าจะต้องเสียเค้าไป เสียคนที่ไว้ใจให้เธอเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวของเค้า.... 

ในชีวิตของพัช เธอไม่ได้รู้สึกว่าถูกรักมากนัก เพราะว่าเธอเติบโตมากับสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แล้ววันนึงพอเธออายุได้ 5 ขวบ ก็มีพ่อแม่บุญธรรมที่แสนใจดีมารับเธอไปอุปภัมภ์ แต่เธอไม่เคยได้รู้ว่าท่านทั้งสองเป็นใคร ท่านเพียงแต่ส่งเสียค่าเลี้ยงดูให้เธอ แล้วให้เธออยู่กับพี่เลี้ยงคนนึง ซึ่งปัจจุบันนี้พี่เลี้ยงคนนี้ก็ยังอยู่ และรักพัชเหมือนกับว่าพัชเป็นลูกของเธอเอง

เมื่อตอนเด็กๆ พัชโหยหาความรักจากพ่อและแม่ของเธอยิ่งนัก เธอไม่เข้าใจว่าเธอทำอะไรผิด พ่อกับแม่ถึงไม่ต้องการเธอ แล้วปล่อยเธอไว้แบบนี้ แต่คนอย่างพัชมองโลกในแง่ดีเสมอ ถึงแม้ว่าเธอจะรู้สึกเศร้าใจเพียงใด ไม่นานนักเธอก็กลับมาปลอบใจตัวเองได้ตามประสาคนที่มองโลกในแง่ดีและก็กลับมายิ้มร่าเริงได้อีก

ป้านิ่มซึ่งเป็นพี่เลี้ยงของพัช แปลกใจนักว่า ทำไมนะเด็กผู้หญิงที่ถูกทอดทิ้งตั้งแต่เกิด ต้องอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ถึงได้เป็นคนที่มองโลกในแง่ดีได้ขนาดนี้ เพราะป้านิ่มไม่แน่ใจนักว่า จะมีสักกี่คนที่ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกับที่พัชเจอ แล้วจะยังยิ้ม มองโลกในแง่ดี ปลอบใจตัวเอง และไม่เคยหมดหวังได้อย่างพัชบ้าง 

ป้านิ่มจึงทั้งรักและสงสารพัชมาก ป้านิ่มพยายามเลี้ยงพัชมาให้เป็นเด็กหญิงที่มองโลกในแง่ดีตามแบบที่เธอเป็น และป้านิ่มเป็นคนนำเจ้าโมโม่มามอบให้กับเธอ เพื่อหล่อหลอมให้เธอเป็นคนที่มีจิตใจอ่อนโยน มีเมตตา และป้านิ่มอยากให้เธอมีเพื่อนเล่นจึงได้นำเจ้าโมโม่มาให้เธอเลี้ยง

ป้านิ่มรับเจ้าโมโม่มาจากพ่อแม่อุปภัมภ์ของพัชน่ะเอง..ท่านทั้งสองตั้งใจนำมาให้พัชได้เลี้ยงไว้ ทันทีที่พัชเห็นหน้าเจ้าโมโม่ เธอก็รักมันทันที และเลี้ยงมันเป็นอย่างดี ไม่ว่ามีอะไรพัชจะเล่าให้เจ้าโมโม่ฟังทุกอย่างเหมือนกับว่ามันเป็นพี่น้องของเธอ และเจ้าโมโม่เองก็รักเธอมากเช่นเดียวกัน

ไม่ว่าจะไปไหน จะทำอะไร ทั้งคู่ต้องไปด้วยกัน ทำด้วยกันเสมอ จนป้านิ่มแซวว่ารักหมามากกว่าป้า เมื่อพัชเติบโตเป็นหญิงสาว หลายครั้งที่เธอสังเกตว่าป้านิ่มเหมือนมีอะไรในใจที่อยากจะบอกกับเธอ แต่ก็บอกไม่ได้ เธอเคยถามป้านิ่มเหมือนกัน แต่ป้านิ่มก็ได้แต่ตอบว่า แล้วสักวันป้าจะเล่าทุกอย่างให้หนูฟังเองนะลูก 

พัชเชื่อว่าป้านิ่มต้องบอกตามที่สัญญา แต่เธอไม่รู้ว่าเมื่อไหร่แค่นั้นเอง แต่คุณสมบัติอีกข้อที่ติดตัวพัชมาตั้งแต่เด็กๆ ก็คือ ความอดทน เธอรู้จักรอคอย และไม่ได้รบเร้าอยากรู้จนกว่าจะถึงเวลาอันสมควร เรื่องนี้ก็เช่นกัน แม้ว่าเธอจะอยากรู้แทบแย่ว่าป้านิ่มมีอะไรจะบอกเธอ และเธอก็ตั้งตารอเวลานั้น โดยไม่ได้เซ้าซี้ป้านิ่มอีกเลย

อีกเรื่องที่เธอค้างคาใจก็คือ พ่อแม่อุปภัมภ์ของเธอเป็นใคร ทำไมพวกท่านถึงได้ไม่ยอมมาให้เธอได้พบหน้าบ้างเลย เธออยากจะขอบคุณพวกท่านเหลือเกิน แต่ป้านิ่มก็บอกให้เธออดทนรออีกตามเคย เธอจึงทำอะไรมากไปกว่าการรอคอยไม่ได้ 

เธอรอคอยที่จะได้เจอพ่อแม่อุปภัมภ์ของเธอด้วยใจเปี่ยมไปด้วยความหวัง จนแล้วจนรอดจนกระทั่งตอนนี้เธออายุได้  21 ปีแล้ว แต่เธอก็ยังไม่ได้เจอหน้าพวกท่านเลย แต่เธอก็คงยังรอต่อไป...เธอไม่เคยสิ้นหวังอะไรง่ายๆ...

พัช ออกมานั่งทำอะไรตรงนี้ล่ะลูก อากาศมันเย็นมากนะ เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก ป้านิ่มเดินออกมาตามหญิงสาวที่สวนหลังบ้าน พัชนั่งลูบหัวเจ้าโมโม่ที่หลับไปบนตักของเธอ 

คิดอะไรเรื่อยเปื่อยน่ะค่ะป้า ว่าแต่ป้าเถอะค่ะ อากาศเย็นแบบนี้ แล้วทำไมไม่ใส่เสื้อหนาๆล่ะคะ เดี๋ยวป้าไม่สบายไป พัชจะอ้อนใครล่ะคะ ป้านิ่มนั่งลงและลูบศรีษะพัช

ป้านิ่มมองหญิงสาว รู้สึกสงสารเธอจับใจ ความจริงป้านิ่มอยากจะบอกกับเธอเหลือเกินว่า พ่อแม่ของเธอเป็นใคร ตัวเธอมีที่มาที่ไปอย่างไร เธอไม่ได้เป็นเด็กที่พ่อแม่ไม่รักแล้วนำไปทิ้งไว้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่มันมีอะไรมากมาย มากเหลือเกิน 

ระหว่างเธอกับบิ๊ก มีอะไรบางอย่างที่ป้านิ่มต้องบอกให้เธอรู้ แต่ว่าไม่ใช่ตอนนี้ ไม่ใช่ ป้านิ่มได้แต่รอ รอเวลา เวลานั้นเมื่อไหร่จะมาถึงนะ ป้านิ่มสงสารพัชเหลือเกิน พัชควรจะได้รับรู้ทุกอย่าง เป็นอยู่แบบนี้ มันไม่ยุติธรรมเลย

ป้านิ่ม ป้านิ่มคะ เฮ้ คิดถึงใครอยู่เหรอคะ เอ๊ะ รึว่าป้าเรามีความรัก นั่นแน่ ใครน๊า เป็นหนุ่มผู้โชคดี พัชทำหน้าทะเล้นใส่ป้านิ่มที่ดูเหม่อลอย

ป้านิ่มหยิกแก้มพัชด้วยความเอ็นดู นี่แน่ะ ป้าอายุปูนนี้แล้วไม่คิดหรอกจ้ะเรื่องนี้ ว่าแต่หนูพัชของป้าเถอะวันนี้ไปออกไปทุ่งหญ้ากับพ่อหนุ่มแสนดีของหนูเหรอจ๊ะ ป้านิ่มหมายถึงบิ๊ก 

พัชแก้มแดงเพราะเขินที่ถูกแซว ไม่ไปหรอกค่ะ บิ๊กเค้าไม่อยู่น่ะค่ะป้า เห็นบอกว่าจะกลับไปบ้านเก่า

หนูพัชของป้าก็เลยต้องมานั่งเหงาอยู่กับเจ้าโมโม่แบบนี้ อืม ดูเค้าเป็นคนดีนะลูก ว่าแต่หนูคิดยังไงกับเค้า ป้านิ่มลองหยั่งเชิง ทำไมป้านิ่มจะไม่รู้ว่าหญิงสาวที่เธอเลี้ยงมาตั้งแต่เด็กๆ รู้สึกยังไงกับชายหนุ่มคนนั้น 

ไม่เอา ไม่คุยกับป้านิ่มแล้ว พัชไปทำเค้กดีกว่า บอกบิ๊กว่าจะทำไปให้ชิม ว่าแล้วพัชก็ผลุนผลันออกไป จนเจ้าโมโม่ตกใจตื่น และเห่าไล่หลังเธอ

เจ้านายเราน่ะ รักเค้าหมดหัวใจรู้มั้ยโมโม่ เฮ้อ คุณพีรวิชญ์กับคุณรินลดาก็ช่างใจแข็งเหลือเกิน ไม่รู้จะจดจำแต่ความหลังไปถึงไหน ป้านิ่มพึมพำกับเจ้าโมโม่ มันซบหัวลงตรงตักป้านิ่ม คล้ายๆแสดงความเห็นใจ ป้านิ่มมองตามหญิงสาวที่เธอเลี้ยงมาด้วยสายตาที่ทั้งรักและสงสาร

ฉันอยากจะบอกหนูพัชเหลือเกินโมโม่เอ๊ย ฉันทนแบกความลับความหลังบ้าๆนี่มานานตั้งแต่หนูพัชยังไม่เกิดจนตอนนี้ดูสิ หนูพัชของฉันเป็นสาวอายุ 21 แล้ว ทำไมพวกเค้ายังต้องรออะไรอีก รอให้สายเกินไปรึไงนะ ฉันไม่เข้าใจจริงๆ ป้านิ่มถอนหายใจ เจ้าโมโม่นิ่งฟังเหมือนกับว่ามันเข้าใจที่ป้านิ่มพูด มันได้แต่ซบหัวลงกับตักของป้านิ่ม คล้ายๆจะปลอบใจ

กริ๊งงงงงงงงงงงงงงง เสียงกริ่งหน้าประตูบ้านของพัชดังขึ้น ป้านิ่มรีบออกมาเปิดประตู เมื่อเดินออกมา ป้านิ่มก็ได้พบกับ				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟPat_Big
Lovings  Pat_Big เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟPat_Big
Lovings  Pat_Big เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟPat_Big
Lovings  Pat_Big เลิฟ 0 คน
  Pat_Big
ไม่มีข้อความส่งถึงPat_Big