26 กันยายน 2546 19:53 น.
nOthinG
ณ ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง ริมถนนเอกมัย บรรยากาศภายในร้านเย็นฉ่ำด้วยเครื่องปรับอากาศ ผิดกับบรรยากาศภายนอกร้านที่ร้อนอบอ้าว และสามารถคาดเดาได้ว่าอีกไม่นานฝนเม็ดใหญ่คงจะสาดเทลงมาอย่างแน่นอน
เสียงพูดคุยกันเบา ๆ ของผู้คนที่เข้ามาใช้บริการของร้านกาแฟ และเสียงของภาชนะที่กระทบกันไม่ได้หลุดเข้าไปในห้วงความคิดของหญิงสาวผู้นี้ได้เลย
มุมหนึ่งของร้าน..พริบพันดาวจับจองสถานที่ตรงนี้มาประมาณชั่วโมงกว่า ๆ แล้ว ป่านนี้เขาคนนั้นยังไม่มา ทั้ง ๆ ที่แต่ก่อนนั้น ไม่มีทางเลยที่เขาจะมาสาย หรือถ้าสาย เขาก็จะโทรมาบอกก่อน ไม่มีทางปล่อยให้เธอคอยแล้วคอยเล่าแบบนี้...แต่ก็นั่นล่ะนะ ทุกอย่างมันไม่เหมือนแต่ก่อนนี่นา บางสิ่งบางอย่างเปลี่ยนไป..แต่ทั้งเขาและเธอก็ยังไม่ได้คุยกันอย่างจริงจังถึงบางสิ่งบางอย่างนั้น เพราะเธอเองนั่นแหละ ที่จะคอยหลีกเลี่ยงตลอด
จนมาวันนี้..วันที่ทุกอย่างจะหลีกเลี่ยงไม่ได้อีกต่อไปแล้ว เธอต้องเผชิญความจริง
นั่นไง เขาคนนั้นของเธอ เดินมากับผู้หญิงที่เป็นต้นเหตุของเรื่องราวทั้งหมด เธอคนนั้นมองเข้ามาในร้าน หญิงสาวจึงก้มหน้าลงให้เหมือนว่าเธอไม่ได้สนใจอะไรนอกจากหนังสือตรงหน้า
เมื่อหญิงสาวเงยหน้ามองไปที่ประตูอีกครั้ง เขาคนนั้นก็เปิดประตูเข้ามา แต่หญิงสาวคนที่มาด้วยนั้นไม่ได้เข้ามาด้วย
เขาเดินมายังมุมที่หญิงสาวนั่งอยู่อย่างคุ้นเคย..จะไม่คุ้นเคยได้อย่างไร ในเมื่อมุมนี้เป็นมุมประจำของทั้งเขาและเธอ
ในที่สุด ฝนเม็ดโตก็ตกลงมาดังที่ได้คาดเดาไว้ พร้อมกับเสียงเพลงที่พนักงานในร้านเปิดมาคลอเบา ๆบรรยากาศของสายฝนและเสียงเพลงนั้นช่างเป็นใจกับเหตุการณ์เหลือเกิน
เขาคนนั้นนั่งลงตรงเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม " อะไร ๆ ก็ไม่เหมือนเดิมจริง ๆ นะ " หญิงสาวคิด ทุกทีที่ชายหนุ่มมาที่ร้านนี้ เขาจะนั่งลงตรงเก้าอี้ฝั่งเดียวกับหญิงสาวเสมอ
" พริบ..มานานรึยัง ? ขอโทษนะ พอดีพี่ติดธุระนิดหน่อย " น้ำเสียงของเขายังเหมือนเคย แต่ความรู้สึกของเจ้าของเสียงนั้น คงไม่เหมือนเดิมซะแล้ว
ธุระกับผู้หญิงคนนั้นสินะ
" ก็สักพักแล้วค่ะ มาถึงก็นั่งคิดอะไรไปเพลิน ๆ " หญิงสาวพูดจบพร้อมยิ้ม แต่รอยยิ้มช่างดูฝืดฝืนเหลือเกิน
" พี่จะทานอะไรมั๊ยค่ะ" หญิงสาวพูดพร้อมกับทำท่าจะเรียกบริกรให้
" ไม่เป็นไรจ๊ะ เดี๋ยวพี่ต้องไปธุระต่อ "
บรรยากาศเริ่มที่จะอึดอัดจนชายหนุ่มต้องเป็นฝ่ายเริ่มพูดก่อน
" พริบ..เป็นยังไงบ้าง สบายดีรึเปล่า ? " น้ำเสียงแฝงด้วยความเป็นห่วง แต่ความเป็นห่วงนั้นคงจะไปไม่ถึงกำแพงที่ก่อไว้ในใจของหญิงสาว
" ก็สบายดีค่ะ..แล้วพี่ล่ะ ? " หล่อนตอบโดยที่ไม่ได้มองหน้าชายหนุ่ม
" พี่ก็สบายดีจ๊ะ "
" แล้วนี่..พี่มาคนเดียวเหรอค่ะ ? หญิงสาวรู้คำตอบอยู่แล้ว แต่เธอก็ถามไปอย่างนั้นเอง เธอก็อยากรู้เช่นกันว่าเขาจะตอบเธอยังไง
" เปล่า..พี่มากับกิ่งน่ะ " น้ำเสียงแฝงไว้ด้วยความลำบากใจที่จะตอบ หญิงสาวรู้ว่ายังไงชายหนุ่มก็โกหกเธอไม่ได้ ถึงแม้ว่าคำพูดที่พูดออกมาจะทำร้ายจิตใจคนที่ฟังมากแค่ไหนก็ตาม เธอชอบเขาตรงนี้แหละ ความที่เขาตรงไปตรงมากับเธอเสมอ แม้กระทั่งตอนนี้
((((เธอมาเพื่อถาม ความห่วงใยมากมาย
..ถามฉันว่าฉัน อยู่ได้ไหมถ้าเธอไป
..มีใครอีกคน อยู่รอเธอตรงนั้น
..เธอเกรงใจเขา ไม่อยากให้เขารอนาน))))
" พี่รีบรึเปล่าค่ะ? " ประโยคเหมือนกับถามไปแบบนั้น
" ก็นิดหน่อยจ๊ะ แต่ไม่เป็นไรหรอก "
(((( หากสงสัย..ว่าฉันจะอยู่คนเดียวได้รึเปล่า ?
ก็อยากจะถามสักคำ..ตอบมาได้ไหม จะฟัง))))
" พริบ " มีรอยวิตกกังวลในน้ำเสียงของชายหนุ่ม
" ค่ะ ว่าไงคะ? " เวลาแห่งความจริงมาถึงแล้วสินะ หญิงสาวคิด เอาเถอะ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด คงฝืนไปมากกว่านี้ไม่ไหวแล้ว
" ถ้าไม่มีพี่..พริบอยู่คนเดียวได้ใช่มั๊ย? " น้ำเสียงชายหนุ่มเบามาก จนแทบจะเป็นเสียงกระซิบ
" ..... " หญิงสาวเงียบ ถึงแม้ว่าเธอจะเตรียมใจมาแล้วกับทุกอย่างที่จะเกิดขึ้นก็ตาม แต่ทว่า หญิงสาวตอบคำถามไม่ได้
ถ้าไม่มีเขาอยู่ แล้วเธอจะอยู่ได้ไหม ?
น้ำตาเริ่มคลอที่ดวงตาสวยทว่าเศร้านัก หญิงสาวพยายามกลั้นไว้ เธอจะไม่ยอมให้น้ำตามาทำให้ตัวเองอ่อนแอ และทำให้ชายหนุ่มรู้สึกสงสารเวทนาเธอไปมากกว่านี้
เธออยู่ได้สิ ทำไมจะไม่ได้ เมื่อก่อนที่เธอไม่มีเขา เธอก็ยังไม่เห็นเป็นอะไร ก็มีความสุขดี
แต่ทำไมนะ...พอได้ยินประโยคนี้จากเขาที่เคยรักเธอ เธอกลับไม่สามารถตอบออกไปได้ดังใจ
(((( แล้วฉันเลือกอะไรได้ไหม
...เลือกให้เธอไม่ไปได้รึเปล่า
...หากไม่ยอมให้ไป จะตามใจฉันหรือเธอ ))))
" ถ้า...พริบอยู่ไม่ได้ล่ะคะ? " หญิงสาวทำลายความเงียบขึ้นมา
" ...... " ชายหนุ่มก้มหน้ามองมือทั้งสองของตัวเองที่ประสานกันอยู่ข้างหน้า ไม่มีคำตอบออกจากปากของเขา
(((( ฉันจะเลือกให้เธอเลือกฉัน
...ไม่ให้ไปกับเขาได้รึเปล่า
...สิ่งที่เธอถามมา ให้ตอบอย่างไรได้ล่ะเธอ
...ก็ไม่มีทางให้เลือกเลย ))))
ในที่สุดทำนบน้ำตาที่เคยกั้นไว้ได้ ก็พังทลายออกมา น้ำตาของหญิงสาวไหลลงช้า ๆ บ่งบอกถึงความเจ็บปวดใจ ชายหนุ่มเงยหน้ามอง เขาอยากจะเบือนหน้านี้ แต่ทว่าทำไม่ได้
" พี่ขอโทษนะพริบ พี่ผิดเอง " ชายหนุ่มอยากจะพูดอะไรออกมาได้มากกว่านี้ แต่เขาก็ไม่สามารถจะเอ่ยคำพูดอะไรที่ดีกว่านี้ออกมาได้
เขาทำให้หญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างหน้าเจ็บปวดมาเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วนะ เขารู้ว่าเธอจะให้อภัยเขาทุกครั้ง ไม่ว่าเขาจะทำอะไรผิดมากมายแค่ไหนก็ตาม เขารู้ว่าเธอรักเขมาก มากเหลือเกิน มากจนความผิดในครั้งนี้ ไม่น่าได้รับการให้อภัยจากเธอ
หลังจากที่เงียบกันไปนาน
" พี่ยังไม่ได้ตอบคำถามของพริบเลยนะคะ? " หญิงสาวปาดน้ำตาทิ้งอย่างไม่ใยดี และพยายามที่จะทำหน้าให้เป็นปกติ
" คือ..พี่..พี่ขอโทษ "
ในที่สุดความอดทนของหญิงสาวก็หมดลง น้ำตาที่เริ่มจะเหือดหายไป ก็ไหลออกมาอีกรอบ แต่ครั้งนี้ หญิงสาวถึงกับสะอื้นจนตัวโยน
" พี่พูดได้แค่นี้เหรอค่ะ พี่ขอโทษ...ขอโทษทำไมค่ะ พี่ทำผิดอะไรเหรอ " น้ำเสียงเธอฟังดูกึ่งประชดประชันกึ่งเศร้า
" ทำไมพี่ไม่ตอบคำถามของพริบล่ะคะ คำถามมันไม่ได้ยากตรงไหนเลย ก็ตอบมาตามที่ใจอยากตอบ พูดตรง ๆ แบบที่พี่ชอบพูด "
หญิงสาวพูดไป โดยไม่ได้ละสายตาจากหน้าของชายหนุ่ม ที่เป็นต้นเหตุแห่งการเสียน้ำตาของหล่อน
" พี่จะถามทำไมคะ ว่าพริบจะอยู่ได้มั๊ย ถ้าพริบจะไม่มีพี่ พี่ถามพริบ ให้พริบเลือก ... เลือกทั้ง ๆ ที่พี่ก็มีคำตอบอยู่ในใจอยู่แล้ว ว่าพี่เลือกเขา ไม่ใช่พริบ ... ถ้าพริบเลือกให้พี่อยู่กับพริบ ให้พี่เลือกพริบ พี่จะอยู่กับพริบมั๊ย "
จากเสียงที่แค่สั่นเครือ กลายเป็นเสียงสะอื้น ตัวของหญิงสาวสั่นไปตามเสียงที่สะอื้น
ชายหนุ่มเอื้อมมือไปหวังจะเกาะกุมมือที่ครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นเจ้าของ แต่เจ้าของมือนั้นก็เลื่อนมือหนีจากการเกาะกุม ก็นั่นแหละนะ..เขาทำกับเธอขนาดนี้ ทำร้ายจิตใจเธอขนาดนี้ เขาจะยังมีหน้าไปแสดงท่าทีห่วงใยเธออีกได้ยังไง
ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาเบา ๆ คงจะถึงเวลาที่เขาต้องบอกเธอ บอกทุกอย่างไม่ให้มันค้างคาไปมากกว่านี้ เขาต้องทำให้มันจบ เพื่อตัวเขาและตัวของหญิงสาวตรงหน้า
" พี่ขอโทษนะ ขอโทษที่เรื่องมันเป็นแบบนี้ พี่ไม่มีข้อแก้ตัวอะไรทั้งนั้น เพราะพี่ผิดจริง ๆ พี่รู้ว่าพริบรักพี่มาก พี่ก็รักพริบ แต่..พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าอะไร ๆ มันไม่เหมือนเดิมเมื่อไหร่ แต่พี่อยากให้พริบรู้ว่าพี่ก็เสียใจ ที่มันเป็นแบบนี้ พี่... " เขาพูดได้แค่นั้น ก็พูดต่อไม่ได้
เขาไม่รู้ว่ากิ่ง..เพื่อนหญิงคนใหม่ของเขา เธอเข้ามาแทนหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าได้ยังไง เขาไม่เคยคิดที่จะมีใครคนอื่นนอกจากพริบเลย แต่มันก็เป็นไปแล้ว เขาไม่คิดที่จะแก้ตัวหรือขอให้ใครเห็นใจในการกระทำของเขา เขารู้ว่ามันเป็นการกระทำที่เห็นแก่ตัวเป็นที่สุด ที่สำคัญ เขาทำร้ายจิตใจของสาวน้อยแสนดี คนที่รักเขามากที่สุดได้ยังไง
" พี่...มาแค่จะพูดเท่านี้ใช่มั๊ยค่ะ? " น้ำตาหายไปจากใบหน้าสวย เหลือเพียงแต่คราบน้ำตาที่บ่งบอกถึงรอยเสียใจ
" พริบ...พี่เป็นห่วงพริบนะ "
(((( เวลาอย่างนี้..สิ่งที่เธอถามกัน
..รู้ไว้เรื่องนั้น มันไม่เห็นสำคัญ
..มีเพียงเรื่องเดียว อยากให้เธอช่วยฉัน
..ให้ช่วยบอกลา...แล้วรีบไปตามทาง ))))
" พอเถอะค่ะ .. อย่าพูดอะไรอีกเลยนะคะ "
" ... พริบอยากจะขออะไรพี่อย่างนึง "
" อะไรเหรอ บอกพี่มาสิ "
" พริบอยากให้พี่...พูดว่า พี่ไม่ได้รักพริบแล้ว พริบอยากจะลืมพี่ ไม่อยากจะจำความรู้สึกเก่า ๆ แล้ว ได้ไหมค่ะ " แววตาของหญิงสาวมองเป็นเชิงขอร้อง
มือใหญ่เลื่อนมาเกาะกุมมือของเธอไว้ เธอพยายามที่จะดึงมือออก แต่เรี่ยวแรงหายไปหมด หญิงสาวเบือนหน้าหนีออกนอกหน้าต่าง สัมผัสจากมือของเขาที่ถ่ายทอดลงสู่มือของเธอ สัมผัสซึ่งเธอจะไม่มีวันได้รับมันอีกแล้ว เธอรู้ใจตัวเองว่าเธอรักสัมผัสที่ถ่ายทอดมาจากตัวเขามากแค่ไหน ไม่ว่าจะเป็นไออุ่นจากกายของเขา เวลาที่เขากอดเธอไว้ในอ้อมแขน ไออุ่นจากฝ่ามือ ยามที่เขาประสานมือของเขากับเธอเวลาที่เขาจูงมือเธอ เดินไปด้วยกัน ... มันจะไม่มีอีกแล้ว เธอรู้ดี
" พี่พูดได้แค่ว่า..พี่ขอบคุณพริบมากที่มีความรู้สึกดี ๆ ให้พี่มาตลอด ขอบคุณที่รักพี่ และพี่ขอโทษที่พี่ทำให้พริบเสียใจ .. ที่พริบจะให้พี่พูด พี่พูดไม่ได้จริง ๆ เพราะพี่ไม่ได้คิดแบบนั้น พี่พูดไม่ได้ "
หญิงสาวเลื่อนมือออกจากการเกาะกุมของชายหนุ่ม เธอเข้าใจ อะไรที่เขาทำไม่ได้ เขาจะไม่มีทางฝืนทำเด็ดขาด
" ค่ะ..ไม่เป็นไรค่ะ พริบขอให้พี่มีความสุขกับเขาคนนั้นของพี่นะคะ ...ลาก่อนค่ะ หวังว่าเราคงไม่ได้พบกันอีก " ก่อนที่ชายหนุ่มจะรู้ตัว หญิงสาวก็วางธนบัตรใบละห้าร้อย แล้วลุกจากโต๊ะไปอย่างรวดเร็ว
หญิงสาวไปแล้ว พริบ..ผู้หญิงที่เขาเคยรักมาก ชายหนุ่มนั่งทบทวนความคิด ความรู้สึก และเรื่องราวทุกอย่างที่ผ่านมา ... แล้วเสียง ๆ หนึ่งก็ทำลายความเงียบขึ้นมา
เสียงมือถือซึ่งเป็นเพลงที่เขาตั้งไว้ดังขึ้น เป็นกิ่งนั่นเอง
" ฮัลโหล " เขากรอกเสียงลงไป พยายามทำเสียงให้เป็นปกติที่สุด
" จ๊ะ คุยเสร็จแล้ว ตอนนี้กิ่งอยู่ที่ไหนล่ะ "
" ok เดี๋ยวพี่เดินไปหานะ รอแป็ปนึงนะ "
" จ๊ะ แค่นี้นะ "
เมื่อชายหนุ่มลุกไป มุมนั้นก็ว่างเปล่าอีกครั้ง
.............................................................
ไม่รู้ว่า..ทุกวันนี้ มุมนั้นจะมีใครใช้เป็นที่ประจำของตัวเขา หรือกับคนที่เขารักบ้าง หากแต่รู้ว่ามุมนั้น จะยังมีความทรงจำของพริบพันดาว และชายหนุ่มที่รักของเธอเสมอ
21 กันยายน 2546 21:35 น.
nOthinG
เวลาผ่านไป เหตุการณ์ในวันนั้นก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรเกิดตามมา วันนี้ท้องฟ้าสดใสเหลือเกิน เมฆสีขาวลอยไปตามลมพัดเบา ๆ อากาศเย็นสบาย เหมือนกับวันนี้ที่โรงเรียนเลิกครึ่งวัน เพื่อน ๆ ส่วนมากไปเดินเล่นกันตามห้างสรรพสินค้า กันย์ก็เช่นกัน
" นินท์ ไปเซ็นทรัลกันมั๊ย กันย์จะซื้อของขวัญให้ชินน่ะ ไปด้วยกันนะ จะได้ช่วยกันเลือก " กันย์พูดพลางเก็บกระเป๋า
นินท์เงยหน้าขึ้นแวบนึง พร้อมกับถอนหายใจเบา ๆ
" ไม่ล่ะ วันนี้ขี้เกียจจังเลย อยากอยู่เฉย ๆ อ่ะ ไว้ไปด้วยวันหลังนะจ๊ะ ขอโทษจริง ๆ นะ แล้วไปกับใครล่ะ มีใครไปด้วยรึเปล่า ?! "
" ไม่เป็นไรจ้า เดี๋ยวกันย์ไปกับพวกกิ่งด้วยนะ แต่แค่อยากให้ไปด้วยกันเฉย ๆ งั้นกันย์ไปก่อนนะจ๊ะ แล้วเจอกันพรุ่งนี้นะ " กันย์พูดแล้ววิ่งตามพวกกิ่งออกไป แล้วหันกลับมาโบกมือ พร้อมกับส่งยิ้มให้นินท์
" จ๊ะ เที่ยวให้สนุกนะจ๊ะ" นินท์ตะโกน พลางส่งยิ้ม โบกมือให้กันย์
นินท์ใช้เวลานั่งอ่านหนังสือตลอดบ่าย หญิงสาวรู้สึกเมื่อยจึงหยุดอ่าน เพื่อพักสายตาด้วย นินท์มองออกไปที่หน้าต่างเหมือนเคย คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย แล้วความคิดก็ไปสะดุดอยู่ที่เรื่องนั้นอีกตามเคย..เหตุการณ์วันนั้น ทำให้นินท์ยิ้มกับตัวเองได้ทุกทีที่คิดถึง นินท์มีความสุขมากที่ได้อยู่กับชินสองคน ถึงจะเป็นแค่ช่วงเวลาสั้น ๆ หลังจากเหตุการณ์วันนั้น เธอกับชินก็ยังคงทำตัวเหมือนเดิม กวนกันไปกวนกันมา ไม่เป็นที่น่าสงสัยสำหรับคนภายนอก แต่กับตัวเธอและชินนั้น ต่างคนต่างรู้ดีว่ามันมีอะไรบางอย่างที่ไม่เหมือนเดิม บางสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น ไม่ควรสานต่อ..แต่ก็ยากที่จะห้ามใจเหลือเกิน
หญิงสาวถอนหายใจ พลางมองนาฬิกา เวลาผ่านไปเร็วจนเธอไม่ได้สังเกต ..นั่งอีกสักพักละกันนะ แล้วค่อยกลับบ้าน..
นินท์นั่งทอดสายตาออกไปยังสนามหญ้าสีเขียว พลางร้องเพลงคลอไปเบา ๆ เพลงที่คล้ายกับความรู้สึกของเธอในตอนนี้
....
บ่อยครั้ง มองเขา แล้วเราต้องมาใจสั่น
บ่อยครั้ง ที่เห็น สายตาของเขาคู่นั้น
ให้เราเก็บเอาไปฝันก่อนนอน
เขาไม่รู้ว่าทำอะไรกับเรา เขาไม่รู้ว่าใครคนหนึ่งเคลิ้มไป
เพราะไออุ่นจากรอยยิ้ม ที่ทำให้หวั่นไหว
แม้ไม่เคยทักทายกันเลย
ได้พบ วันนี้ เขามาพร้อมใครคนหนึ่ง
แต่นึก ไม่ถึง เขาเดินจูงมือด้วยกัน
รู้หรือเปล่าว่าใครเขาปวดใจ
เขาไม่รู้ว่าทำอะไรกับเรา เขาไม่รู้ว่าใครคนหนึ่งช้ำใจ
หัวใจหยุดกับเขา แต่มันแตกสลาย
...รู้ว่าเราฝันไปคนเดียว
..และไม่อาจจะมีวันกลายเป็นจริง
..........................................................................
" เศร้าจังเลย " เธอบ่นกับตัวเองเบา ๆ พลางละสายตาจากหน้าต่าง และก็พบว่าชินยืนพิงกำแพงอยู่ข้างหลังเธอ หญิงสาวทั้งอายแล้วก็ตกใจ
" อะไรกันนายชิน มาตั้งแต่เมื่อไหร่ ไม่ให้ซุ่มให้เสียงเลย เดี๋ยวฉันก็ตกใจตายกันพอดี " พูดพลางทำหน้าเชิด ๆ เหมือนที่เธอชอบทำเวลาที่ต้องการแกล้งกวนประสาทนายคนนี้
" ก็มานานพอที่จะได้ยินคนร้องเสียงหลงแหละน่า " ชายหนุ่มพูดยิ้ม ๆ
เพราะรอยยิ้มนี่แหละนะ ที่ทำให้นินท์รู้สึกดี ๆ ได้ตั้งแต่วันแรกที่เจอ
" ไม่ต้องมาว่าเลยนะ ก็ไม่ได้ใช้ให้มาฟังซะหน่อยนี่นา อยากมาแอบฟังเอง นะ"
" ล้อเล่นน่า แล้วเพลงอะไรเหรอ ที่ร้องเมื่อกี้น่ะ เพราะดีนะ " ชายหนุ่มเดินมานั่งลงที่โต๊ะของนินท์
นินท์ถอนใจเบา ๆ ก่อนที่จะตอบออกไป
"ชื่อเพลง..ไม่รู้..ความหมายก็ตามชื่ออ่ะแหละ ชอบน่ะ มันเศร้า ๆ ดี ฟังแล้วอิน" หญิงสาวยิ้มกลบเกลื่อน
"เพลงเศร้า แล้วคนร้องล่ะ เศร้าจริง ๆ ด้วยรึเปล่า..เขาไม่รู้..เขาน่ะใครเหรอ ?! "
หญิงสาวไม่ตอบ แต่เงยหน้าขึ้นไปสบตาชายหนุ่ม
" ชินว่านะ เขาคนนั้นรุ้แล้วล่ะนินท์ เขารุ้มานานแล้วด้วย ชินว่า..นินท์ก็น่าจะรู้ดีนะว่าเขารู้แล้ว " ชายหนุ่มสบตาตอบ นินท์นั้นตกใจที่อยู่ดี ๆ ชินก็พูดแบบนี้ออกมา จึงเบือนหน้าหนีออกไปมองข้างนอกหน้าต่าง แต่ชายหนุ่มก็เอื้อมมือไปจับใบหน้าหญิงสาวให้หันกลับมา
"นินท์รู้ใช่มั๊ย ว่าชินรู้แล้ว..ใช่มั๊ย ?! " ชายหนุ่มจ้องตาหญิงสาว
"บ้าเหรอ อยู่ดี ๆ ก็มาพูดอะไรแบบนี้น่ะ ไม่เอาล่ะ ไม่พูดด้วยแล้ว กลับบ้านดีกว่า" ก่อนที่หญิงสาวจะลุกหนีได้ทัน ชายหนุ่มก็จับตัวเธอให้หันมา ทั้งสองยืนมองตากัน หญิงสาวเบือนหน้าหนี แต่ชายหนุ่มก็ยังคงไม่ปล่อยมือ
"ถ้างั้นก็คงเป็นชินคนเดียวสินะ คงเป็นชินที่คิดไปเองมาตลอดเวลา ว่านินท์ก็ใจตรงกันกับชิน"
"ok ถ้าชินคิดไปเองคนเดียว นินท์ก็บอกชินมาเลย มองตาแล้วก็พูดออกมาตรงนี้ ว่านินท์ไม่ได้รู้สึกอะไรกับชินเลยสักนิด "
หญิงสาวหันหน้ากลับมา จ้องตาชายหนุ่มเหมือนกับจะให้สายตาบอกทุกสิ่งทุกอย่างออกไป
" ไม่หรอก ชินไม่ได้คิดไปเองคนเดียว นินท์ก็รู้สึกแบบเดียวกับที่ชินรู้สึก แต่..ชินก็รู้เหมือนที่นินท์รู้ใช่มั๊ย ว่ามันเป็นไปไม่ได้ เราสองคนเจอกันช้าไปจริง ๆ เราทั้งคู่ทำร้ายกันย์ไม่ได้ เข้าใจใช่มั๊ย" น้ำตาของนินท์ค่อย ๆ ไหลลงมาช้า ๆ ชินเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาให้นินท์อย่างเบามือ พร้อมกับดึงหญิงสาวเข้ามาในอ้อมกอดของเขา
หญิงสาวรุ้สึกได้ถึงความอบอุ่น และจังหวะหัวใจที่เต้นของชายหนุ่ม มือทั้งสองของเธอก็โอบกอดเขาตอบเช่นเดียวกัน ทั้งสองรู้สึกเหมือนกัน...อยากจะอยู่อย่างนี้ไปนาน ๆ ไม่อยากปล่อยเลย
" นินท์..ชินขอโทษนะ ชินทำให้นินท์ร้องไห้ " ชายหนุ่มกอดกระชับหญิงสาวแน่นขึ้น พร้อมกับลูบหัวของเธอ
" ไม่เป็นไร ไม่เกี่ยวกับชินหรอกนะ นินท์เป็นแบบนี้แหละ ร้องไห้ง่าย ชินก็รุ้นี่นา " หญิงสาวผละตัวออกจากอ้อมกอดของชายหนุ่ม
"ชิน ..เราอย่าสานต่อกันเลยนะ มีแต่จะเจ็บทั้งคู่ นินท์ทำร้ายกันย์ไม่ได้ นินท์ก็รู้ว่าชินก็ทำร้ายกันย์ไม่ได้เหมือนกัน ใช่มั๊ย ?! "
"ชินขอโทษจริง ๆ นะ ชินเห็นแก่ตัวจริง ๆ ชินไม่ควรมาทำแบบนี้กับนินท์เลย ชินก็ไม่รู้เหมือนกันว่าความรุ้สึกของชินมันเปลี่ยนไปอยู่ที่นินท์ตั้งแต่เมื่อไหร่ ..นินท์พูดถูก
ชินทำร้ายกันย์ เค้าไม่ได้จริง ๆน่ะแหละ"
" ไม่เป็นไรนะชิน ไม่เป็นไรจริง ๆ อย่าขอโทษเลย มันเป็นเรื่องของความรู้สึก.. " น้ำตาเริ่มไหลอีกครั้ง ชินจับมือนินท์บีบเบา ๆ
จากนั้นชายหนุ่มก็หยิบผ้าเช็ดหน้าออกจากกระเป๋า เป็นผ้าเช็ดหน้าที่ชินเคยขอนินท์ไว้ หยิบมันวางลงในมือของหญิงสาว นินท์กำผ้าเช็ดหน้าแน่น เพราะรู้ว่ามันหมายถึงอะไร
"ตั้งแต่วันที่ชินได้ผ้าเช็ดหน้าผืนนี้จากนินท์มา ชินก็เก็บมันไว้ติดตัวตลอดเลย แต่ตอนนี้ชินคงเก็บมันไว้ไม่ได้อีกแล้ว ชินคืนให้นินท์นะ" ชายหนุ่มเช็ดน้ำตาให้หญิงสาวอีกครั้ง อย่างแผ่วเบาและเนิ่นนาน
" ชินอยากให้นินท์รุ้ว่า ชิน.." หญิงสาวยกมือขึ้นปิดปากชายหนุ่ม
"อย่าพูดเลยนะ นินท์รู้ว่าชินรุ้สึกยังไง แต่จากนี้ไป เราต้องลืมเรื่องทั้งหมดนี้ให้หมดนะ" หญิงสาวยิ้ม ..ยิ้มทั้งน้ำตา แต่ทว่ารอยยิ้มดูสดใส
ชายหนุ่มยิ้มตอบ " ขอบคุณนะนินท์ ขอบคุณที่มีความรุ้สึกดี ๆ ให้ชิน " จากนั้นชินก็ลุกขึ้นแล้วเดินออกไป
..มันควรจะเป็นแบบนี้แหละ มันควรจะเป็นแบบนี้..หญิงสาวคิดกับตัวเอง แต่ทว่าน้ำตาไม่หยุดไหลสักที
...........................................................................
จากวันนั้น เหตุการณ์ก็ผ่านไปตามปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น นินท์ไม่รู้ว่าชินจะยังคิดถึงเรื่องที่ผ่านมารึเปล่า แต่สำหรับนินท์...ความรุ้สึกยังคงอยู่ ยังไม่จางไปจากใจเลย
...........................................................................
21 กันยายน 2546 21:33 น.
nOthinG
พักหลัง กันย์กับนินท์สนิทกันมากขึ้น ทั้งสองคนติดกันมาก มีนินท์ที่ไหนต้องมีกันย์ที่นั่น มีกันย์ที่ไหนต้องมีนินท์ที่นั่น แต่ก็ยังมีนายชิน ตัวยุ่งที่ชอบเข้ามากวนประสาทนินท์อยู่บ่อย ๆ ทั้งสามคนสนิทสนมกันมาก โดยเฉพาะชินนั้นชอบแกล้ง ชวนทะเลาะกับนินท์อยู่บ่อย ๆ โดยกันย์จะเป็นคนที่คอยดู กับหัวเราะทั้งคู่อยู่เสมอ
โดยมาก กันย์จะเล่าความลับที่เกี่ยวกับชินให้นินท์ฟังบ่อย ๆ นินท์จึงรู้ว่า กันย์กับชินชอบกันมาได้ 2 ปีแล้ว โดยกันย์เป็นฝ่ายที่ชอบชินก่อน กันย์ไปสารภาพกับชิน ก็เลยคบกันมาจนถึงวันนี้ นินท์รู้สักอิจฉากันย์กับชินเล็ก ๆ ที่รักกันได้น่ารัก และนานขนาดนี้
แต่แล้วบางสิ่งบางอย่างที่เคยเกิดขึ้นเงียบ ๆ จากวันที่นินท์เข้ามาเรียนที่นี่ ก็ได้เริ่มส่งผลกับชีวิตของนินท์กับชิน
วันนี้กันย์ไม่มาโรงเรียน ขณะนั้นเป็นเวลาพักกลางวัน ทุกคนเริ่มทยอยกันลงไปที่โรงอาหาร ชินเดินเข้ามาในห้องเหมือนเคย
" นินท์...กันย์ล่ะ ?! " หญิงสาวเงยหน้าขึ้นตามเสียงนั้น เสียวที่คุ้นเคย
" อ้าว..เป็นแฟนกันภาษาอะไรเนี่ย นายชิน ถึงไม่รู้ว่าแฟนตัวเองอยู่ไหนเนี่ย " นินท์พูดพลางทำหน้ากวน ๆ ชายหนุ่ม
" แหม ..ก็จะให้รู้ไปทุกเรื่องเลยเหรอไง ถ้าได้ก็ดีสิ จะได้รู้ให้มากกว่าที่นินท์รู้อีก พักนี้นะ กันย์เค้า..อะไรก็นินท์ อะไรก็นินท์ เชอะ " ชายหนุ่มพูดพลางทำหน้าทะเล้น
"ok จ้า ๆ ไม่ว่าแล้ว ก็โทรไปสิ เพราะวันนี้กันย์เค้าหยุดเรียนน่ะ ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นอะไร โทรไปแล้วก็บอกด้วยว่า พรุ่งนี้เอาหนังสือมาคืนด้วยนะ เข้าใจมั๊ยนายชิน"
สีหน้าของชินดูจะเคร่งขรึมลงไปนิดนึง แววตาเหมือนคิดอะไรอยู่ หญิงสาวเริ่มที่จะเป็นห่วง
" เป็นอะไรรึเปล่า แหม..แค่แฟนไม่มาวันเดียว ทำหน้าเศร้าเชียวนะ" นินท์พูดพลางล้อเลียนเหมือนเคย
ชินกลับมาทำหน้ายิ้ม ยกมือขึ้นลูบหัวนินท์เบา ๆ เหมือนที่เคยทำกับกันย์ ความรู้สึกอบอุ่น แปลก ๆ เกิดขึ้นในใจของนินท์
"ok งั้น ชินไปก่อนนะ แล้วชินจะบอกกันย์เค้าให้นะ ว่านินท์ฝากบอกอะไร แล้วเจอกันนะ "
ลับหลังชายหนุ่มไป นินท์นั่งเท้าคางหมอบกับโต๊ะ ตามองออกไปที่หน้าต่าง พลางคิดว่าพักนี้ตัวเธอเองนั้นมีความรู้สึกแปลก ๆ กับชิน ความรู้สึกที่อยากอยู่ด้วย อยากโดนเค้าแกล้ง บางครั้งก็รู้สึกไม่ดีที่เห็นชินเล่นกับกันย์อย่างสนิทสนม เธอรู้ว่าเค้าสองคนเป็นแฟนกัน แต่เธอก็ห้ามความคิดตัวเองไม่ได้ หญิงสาวพยายามหลอกตัวเองว่าเธอไม่ได้คิดอะไรกับชินไปมากกว่าเพื่อน แต่พักนี้เหมือนว่า..เธอจะหลอกตัวเองไม่ได้อีกต่อไปแล้ว เพราะความรู้สึกมันเริ่มชัดเจนขึ้นทุกวัน เธอรู้สึกผิดกับกันย์มากที่มีความรู้สึกแบบนี้ แต่ถึงเธอจะคิดยังไงกับชายหนุ่มก็ตาม เธอก็ไม่เคยคิดจะทำให้เพื่อนของเธอเสียใจแน่นอน
...........................................................................
และในเย็นวันเดียวกันนั้น เพื่อน ๆ กลับบ้านไปกันหมดแล้ว ตอนนี้เย็นมาก เหลือแต่นินท์ที่ทำงานเพลินจนลืมเวลา สักพักฝนที่เริ่มตั้งเค้ามาตั้งแต่บ่ายก็เทลงอยางไม่ลืมหูลืมตา ดูท่าทางจะไม่หยุดตกง่าย ๆ ด้วย อากาศเริ่มเย็น นินท์ยื่นมือออกไปที่หน้าต่าง ฝนเย็น ๆ ตกใส่มือ หัวใจเธอตอนนี้ก็คงจะเหมือนกับท้องฟ้าตอนนี้ อยากจะปลดปล่อยน้ำตาออกมาเพื่อระบายสิ่งที่อยู่ในใจซะบ้าง น้ำตาหญิงสาวไหลออกมาเหมือนสายฝน เธอคิดถึงชินอีกแล้ว คิดถึงความรู้สึกที่อยากอยู่กับชิน
สายฟ้าแลบเป็นประกาย คาดท้องฟ้าสีทะมึนเบื้อบน
"เปรี้ยง"
"กรี๊ด..." หญิงสาวร้องออกมาอย่างตกใจ พร้อมกับเอามือปิดหูแล้วทรุดลงไปที่พื้น เธอชอบเวลาที่ฝนตก แต่สิ่งที่เธอไม่ชอบเลยก็คือ ฟ้าผ่า เธอกลัวฟ้าผ่า
" นินท์ เป็นอะไร ร้องทำไมน่ะ ?!" เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้น พร้อมกับร่างที่เปียกปอนของชิน ชายหนุ่มคุกเข่าลงนั่งอยู่ข้างหญิงสาว
"ไม่เป็นไร ... ไม่เป็นไร นินท์แค่..กลัวเสียงฟ้าน่ะ ไม่มีอะไรหรอก " หญิงสาวเอามือที่ปิดหูลง หันหน้าไปมองชายหนุ่มอย่างเต็มตา ตาต่อตาประสานกัน ความรู้สึกเหมือนจะถูกส่งผ่าน
..ขอแค่เวลานี้ได้ไหม แค่เวลานี้เท่านั้น ที่จะได้อยู่ด้วยกันแบบนี้..ความคิดของหญิงสาวโลดแล่น ชายหนุ่มเอื้อมมือขึ้นมาเช็ดน้ำตาที่ยังคงเหลือร่องรอยที่ใบหน้าของหญิงสาว ความรู้สึกผิด..กึกขึ้นมา
นินท์ลุกขึ้น มานั่งบนเก้าอี้ ชินถอนหายใจออกมาเบา ๆ ..นี่เรา เป็นอะไรไปนะ ทำไมถึงรู้สึกแบบนี้กับนินท์ได้..ชายหนุ่มลุกขึ้นมานั่งอยู่บนโต๊ะ หญิงสาวเงยหน้ามอง
" ไปทำอะไรมาตัวเปียกเชียว" หญิงสาวพูดพลาง ยื่นผ้าเช็ดหน้าให้
ชายหนุ่มรับมาเช็ดหน้า กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของผ้าเช็ดหน้าทำให้ชายหนุ่มรู้สึกสดชื่น
" นินท์ ...ชินขอนะ ผ้าเช็ดหน้าน่ะ ได้มั๊ย?! หอมดี "ไม่รู้ว่าทำไมตัวเค้าถึงพูดอะไรแบบนี้ออกไปได้ แต่มันมีความรุ้สึกว่าอยากจะได้กลิ่นหอมนี้เก็บไว้กับตัวเอง
" ผ้าเช็ดหน้าเนี่ยนะ..เอาไปก็ได้ ไม่เป็นไรหรอก นินท์มีเยอะน่ะ " หญิงสาวพูด พร้อมกับมองออกไปนอกหน้าต่าง สายฝนกำลังเริ่มซาแล้ว
"แล้วร้องไห้ทำไมเหรอ มีอะไรรึเปล่า?! " สีหน้าของชายหนุ่มดูเป็นห่วง
หญิงสาวละสายตาจากนอกหน้าต่าง หันกลับมาจ้องเจ้าของดวงตาและรอยยิ้มที่สดใส
" ไม่เป็นอะไรหรอกจ้า แค่ฝนมันตก แค่นั้นเอง "
" ถ้าไม่ได้เป็นอะไรก็ดีแล้วนะ เป็นห่วงรู้มั๊ย "
"ขอบใจนะ" เธอยิ้มตอบ แต่รอยยิ้มช่างเศร้าเหลือเกิน เศร้าจนคนที่มองอยุ่นั้นรุ้สึกได้
ขณะที่จะหันกลับไปมองนอกหน้าต่างอีกนั้น มือของชายหนุ่มจับที่แก้มของเธอเบา ๆ ให้เธอหันหน้ากลับมา ดวงตาจึงได้โอกาสสบกันอีกครั้ง ไม่มีคำพูดใด ๆ แต่ก็ยังสามารถรู้กันได้จากแววตา
แววตาที่พูดว่า..ทั้งสองคนไม่ได้รู้สึกแค่เพื่อนกันอีกต่อไปแล้ว..
"ฝนซาแล้ว กลับบ้านเถอะ ชิน" หญิงสาวพูดพลางลุกขึ้น เดินออกไป ปล่อยให้มือของชายหนุ่มค้างอยู่อย่างนั้น
ชินนั่งมองมือตัวเอง ความรุ้สึกยังอุ่น ๆ จากแก้มของหญิงสาว ยังคงติดอยู่ที่ฝ่ามือ ...จะทำยังไงดีนะ กับความรู้สึกนี้..จะทำยังไงดี
...........................................................................
21 กันยายน 2546 21:28 น.
nOthinG
ตกเย็น ชายหนุ่ม หญิงสาวหลายคู่มายืนรอที่จะขึ้นรถประจำทาง และมีอยู่คู่หนึ่งที่ญานินท์จะคุ้นเคยเป็นพิเศษ..คู่ของกันย์ลดาและชินสิทธิ์นั่นเอง หญิงสาวยิ้มและโบกมือให้กับหนุ่มสาวคู่นั้น พลางนึกถึงเรื่องราวที่เก็บเป็นความลับในใจตลอดมา "เค้าคนนั้นจะยังคงนึกถึงมันอยู่บ้างมั๊ยนะ"
เริ่มจากวันนั้น..
วันที่ญานินท์ย้ายมาเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้ เป็นการย้ายมาเรียนแบบกระทันหัน เนื่องจากทางบ้านของญานินท์ทำงานรับราชการ ต้องย้ายที่อยู่อยู่เสมอ ตามแต่การมอบหมายหน้าที่จากผู้บังคับบัญชา เช้าวันนี้สดใส แต่ในใจของหญิงสาวนั้นกลับตรงข้าม ญานินท์เบื่อที่จะต้องทำความคุ้นเคยกับที่ใหม่ ๆ คนใหม่ ๆ เธออยากจะมีชีวิตอยู่กับที่ไม่ต้องย้ายที่อยู่บ่อย ๆ เหมือนคนอื่น ๆ บ้าง
" คุณพ่อบอกว่า ให้มาหาอาจารย์นรากรก่อน เอ..ว่าแต่ห้องพักครูอยู่ที่ไหนนะ " เธอคิด พลางเดินไปตามทางเดิน เดินไปเดินมาหาไม่เจอสักที นินท์เริ่มที่จะอารมณ์เสีย มองทางนั้นทีทางนู้นที
" ตึกโรงเรียนนี้ ทำไมมันซับซ้อนจังเลย..เดี๋ยวก็หลงจนได้ " ด้วยความหงุดหงิด ญานินท์เผลอตัวหลุดปาก พูดกับตัวเองออกมา
" หาอะไรอยู่เหรอครับ " เสียงผู้ชายดังขึ้นมาไม่ใกล้ไม่ไกล หญิงสาวหันไปตามเสียงนั้น แต่ผู้ชายคนนั้นยืนอยู่พอดีกับแสงที่ลอดมาจากหน้าต่างทางเดิน ทำให้นินท์มองเห็นหน้าไม่ชัดนัก
" อ๋อ คือว่า นินท์หาห้องพักครูอยู่น่ะค่ะ " พูดพลางเดินเข้าไปหาชายหนุ่มเจ้าของเสียงนั้น
เมื่อเข้ามาใกล้ จนอยู่ในระยะที่มองเห็นกันได้อย่างชัดเจน หญิงสาวก็พบว่าชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้ามีรอยยิ้มที่สดใส และมีดวงตาที่สดใสไม่แพ้กับรอยยิ้มเช่นกัน
" อ๋อ ห้องพักครูเหรอครับ เดี๋ยวผมพาไปดีกว่า เพราะผมต้องไปหาอาจารย์เหมือนกัน ว่าแต่..คุณมาหาอาจารย์ท่านไหนเหรอครับ " ชายหนุ่มพูดพลางยิ้ม
" มาหาอาจารย์นรากรค่ะ รู้จักมั๊ยค่ะ" นินท์ตอบพลางยิ้มตอบชายหนุ่มเช่นกัน
" รู้จักครับ เราไปด้วยกันเลยดีกว่า ผมชื่อ ชิน แล้วคุณชื่ออะไรครับ "
" ชื่อ นินท์ค่ะ "
ทั้งคู่ต่างยิ้มให้กัน และแล้วบทสนทนาก็ดำเนินต่อไปพร้อมกับบางสิ่งบางอย่างที่เกิดขึ้นในใจของทั้งคู่อย่างเงียบ ๆ โดยที่เจ้าตัวทั้งสอง ยังไม่รู้ตัวเองเลย
...........................................................................
เมื่อทำพิธีการต่าง ๆ ที่หน้าเสาธงเสร็จเรียบร้อย ก็เป็นเวลาที่อาจารย์ที่ปรึกษาของแต่ละห้องจะต้องเข้ามาพบกับนักเรียน และเช้านี้ ห้อง 39/14 ก็มีการต้อนรับนักเรียนใหม่ ซึ่งก็คือ ญานินท์นั่นเอง
วันนี้เริ่มต้นได้ดี เพราะว่าเพื่อน ๆ ในห้องเป็นมิตรกับนินท์มาก ทุกคนดูตื่นเต้นที่จะได้รู้จักเพื่อนใหม่ที่ย้ายเข้ามาอยางกระทันหัน ทำให้หญิงสาวคลายอาการอึดอัดที่มีมาตลอดในตอนเช้า เธอได้นั่งโต๊ะตัวสุดท้ายที่อยู่หลังสุดของห้อง อยู่ริมหน้าต่าง ที่ตรงนี้ดีมาก ๆ ในความคิดของเธอ เพราะมันสามารถมองไปเห็นพื้นที่ที่กว้างขวางของสนามหญ้าสีเขียว และมีแสงแดดอ่อน ๆ ส่องเข้ามาตรงหน้าต่าง
" วิชานี้ต้องย้ายห้องนี่นา ไปเรียนที่ไหนนะ " หญิงสาวอ่านตารางสอนเพื่อหาหมายเลขของห้องที่จะต้องไปเรียน
" นินท์..เดี๋ยวไปเรียนกับเราก็ได้ ลืมไป ..แนะนำตัวก่อนนะ เราชื่อกันย์จ๊ะ เดี๋ยวเราจะไปเรียนกันที่ห้อง 410 นินท์คงยังไม่รู้จักห้องใช่มั๊ย " กันย์เป็นผู้หญิงที่ดูจากภายนอกแล้วค่อนข้างจะเรียบร้อย ใจเย็น แต่ทว่าไม่เงียบขรึม เธอดูร่าเริง เข้ากับคนได้ง่าย
" ขอบใจนะ เรายังไม่รู้จักห้องจริง ๆ น่ะแหละ ถ้าไปคนเดียวหลงแย่เลย "
"ok ขอเอาหนังสือแป็ปนึงนะจ๊ะ " กันย์พูดพลางก้มลงไปหยิบหนังสือในลิ้นชัก แล้วเสียงที่คุ้นเคยนั้นก็ดังขึ้นอีก นินท์หันหน้าไปทางเสียงนั้น
"กันย์..ชั่วโมงนี้ว่างไม่ใช่เหรอ อ้าว! นินท์น่ะเอง เรียนห้องนี้เองน่ะเหรอ" พูดไปยิ้มไปท่าทางจะเป็นสไตล์ของนายคนนี้นะ นินท์คิด
" ไม่ว่างหรอก ต้องไปเรียนวิชานี้ไง รู้จักนินท์ด้วยเหรอ นินท์เพิ่งย้ายมาวันนี้ ว่าแต่..ชินมีอะไรรึเปล่าจ๊ะ "
" ว่างสิ ก็อาจารย์ที่เค้าสอนวิชานี้ไม่อยู่นี่นา นี่ชินกะว่าจะมานั่งคุยกับกันย์แค่นั้นแหละ ไม่มีอะไรหรอก ชินรู้จักนินท์เค้าเมื่อเช้านี้เองแหละ เค้าเดินหาห้องพักครูไม่เจอน่ะ แล้วชินก็ต้องไปหาอาจารย์พอดี ก็เลยไปด้วยกัน แต่ไม่รู้นะเนี่ยว่าจะเป็นเด็กใหม่ เห็นแค่หน้าไม่คุ้นเฉย ๆ นึกว่ารุ่นน้องซะอีก ยังคิดอยู่เลยว่าอยู่โรงเรียนมาภาษาอะไรไม่รู้จักอาจารย์ ฮ่า ๆ " ชายหนุ่มพูดแล้วก็หันหน้าไปทางนินท์
" ชินก็ เดี๋ยวเถอะ ไปแซวนินท์เค้านะ ชอบกวนจริง ๆ เลย "
" ok ไม่ทำแล้วจ้า โทษนะนินท์ เราเป็นแบบนี้แหละ " ชายหนุ่มพูดพลางเอามือลูบหัวกันย์ อย่างเอ็นดู
นินท์พอจะเข้าใจได้จากเหตุการณ์ทั้งหมด ว่ากันย์กับชินคงไม่ใช่แค่เพื่อนกันธรรมดา
" ไม่เป็นไรหรอก นินท์ชินกับคนนิสัยแบบนี้มาตั้งแต่โรงเรียนเก่าแล้วล่ะ พวกชอบกวน ชอบแซวน่ะ ว่าแต่แน่ใจเหรอว่าวิชานี้ไม่เรียนจริง ๆ " หญิงสาวพูดจบก็ได้ยินเสียงเพื่อน ๆ ดังมาเป็นกลุ่มใหญ่
"นินท์กับกันย์ยังไม่ไปก็ดีแล้ว อาจารย์ไม่สอนแหละ คาบนี้ว่างนะพวกเรา"
เมื่อไม่มีอะไรจะทำ เพื่อน ๆ ก็เลยมาทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่คนนี้ พูดคุยกันอย่างสนุกสนาน หญิงสาวยิ่งรู้สึกดีที่ได้มาเรียนที่นี่
...........................................................................