20 มิถุนายน 2548 20:07 น.
Nonmin
"จิน! พี่ซื้อซาลาเปาจากฝั่งนู้นมาให้แล้วนะ ^o^" เด็กชายคนหนึ่งวิ่งตรงมาหาฉันด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
"ขอบคุณนะคะพี่อาร์ท" ฉันพูดพร้อมกับรับซาลาเปามาด้วยความยินดี "เจ้าไข่เค็มที่อยู่ฝั่งนู้นมันเห่าหรือเปล่าคะ"
"ก็เห่า แต่มันไม่กัดหรอก จินไม่ต้องไปกลัวมันหรอกนะ แต่ถ้าจินอยากกินซาลาเปาอีก พี่จะไปซื้อมาให้เอง ^__^" เด็กชายพูด ฉันมองหน้าเขาพลางยิ้มก่อนจะกัดกินซาลาเปาที่กำลังร้อนๆ รู้สึกเป็นสุขเหลือเกินที่ได้อยู่กับเขา เขาคอยปกป้องฉันเสมอ ฉันรักเด็กผู้ชายคนนี้มากที่สุดเลย
เขาคือพี่ชายของฉัน
ความจริงแล้วเราไม่ใช่พี่น้องกันจริงๆ หรอก พ่อของพี่อาร์ทกับแม่ของฉันแต่งงานกันเมื่อฉันอายุ 4 ขวบ แม่หย่ากับพ่อแท้ๆ ของฉัน ส่วนแม่แท้ๆ ของพี่อาร์ทนั้นเสียชีวิตไปนานแล้ว
ตอนแรกที่เราได้รู้จักกันนั้น พ่อแม่ของพวกเราพามาที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ภาพที่เห็นคือเด็กชายที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับฉัน เขาอายุมากกว่า 2 ปี รูปร่างสูง ผิวขาว หน้าตาน่ารัก ครั้งแรกที่เห็นฉันก็รู้สึกชอบเขาขึ้นมาทันที ก็เขาคล้ายๆ กับเจ้าชายในหนังสือนิทานเลย! แต่แม่บอกว่าเขาจะมาเป็นพี่ชายของฉัน และฉันก็ต้องเป็นน้องสาวของเขา
ฉันกับแม่ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านของพ่อพี่อาร์ท ที่บ้านนี้อบอุ่นและน่ารักมาก พ่อเลี้ยงมักจะซื้อของเล่นมาเอาอกเอาใจฉันสารพัด ฉันก็มักจะชวนพี่อาร์ทเล่นเสมอ แต่พี่ชอบอ่านหนังสือภาพเด็กหรือนิทานให้ฉันฟังมากกว่า
ตอนที่ไปโรงเรียนใหม่ครั้งแรกนั้น ฉันเข้าเรียนที่อนุบาลสอง ส่วนพี่อาร์ทก็เรียนอยู่ชั้น ป.1 ที่นี่มีทั้งเด็กหญิงและเด็กชายเยอะแยะไปหมดเลย ฉันเข้าไปผูกมิตรกับเด็กผู้หญิงจำนวนหนึ่งแล้วเราก็มักจะเล่นตุ๊กตากันเสมอ พอตอนกลางวันพี่อาร์ทก็จะมาหาฉันทุกวัน ความเป็นห่วงเป็นใยของพี่ชายทำให้ฉันรู้สึกอุ่นใจเหลือเกิน ฉันเชื่อว่าพี่อาร์ทรักฉัน
วันหนึ่งในตอนกลางวันหลังจากที่กินข้าวแล้ว มีพวกเด็กผู้ชายเข้ามาแกล้งฉัน ทั้งดึงผมเปีย ทั้งเอาปากกาเมจิกเขียนหน้าจนฉันร้องไห้เสียงดัง พอพี่อาร์ทเห็นก็รีบจัดการเด็กพวกนั้นจนไม่กล้ามายุ่งกับฉัน พอพวกนั้นหนีไปแล้วพี่อาร์ทก็จะกอดฉันเอาไว้พร้อมกับพูดอย่างอบอุ่นว่า "จินไม่ต้องกลัวนะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรพี่จะปกป้องจินเองนะ"
แล้วพี่อาร์ทก็ทำตามอย่างที่บอกจริงๆ ทั้งไปซื้อซาลาเปาฝั่งตรงข้ามบ้านมาให้ฉัน เพราะฉันกลัวหมาที่อยู่ฝั่งนู้น แล้วถ้ามีใครมาแกล้งฉันอีกพี่อาร์ทก็จะจัดการทุกราย พี่ทำแบบนี้เป็นเวลาหลายปี
คืนหนึ่งตอนที่ฉันเข้านอน พี่อาร์ทวิ่งเข้ามาในห้องฉันพร้อมกับหนังสือนิทาน "จิน! พี่ได้หนังสือนิทานอันใหม่ล่ะ ^o^ พี่จะอ่านให้จินฟังก่อนนอนนะ"
"เรื่องอะไรเหรอคะ"
"เรื่องซินเดอเรลล่า" พี่อาร์ทบอกก่อนจะอ่านเรื่องนี้ให้ฉันฟังอย่างสนุกสนาน เนื้อเรื่องช่างสนุกเหลือเกิน ฉันตื่นเต้นไปกับเรื่องนั้นมากจริงๆ จนกระทั่งพี่อาร์ทเล่าจบ "แล้วซินเดอเรลล่ากับเจ้าชายก็อยู่กันอย่างเป็นสุขชั่วนิรันดร์"
"สนุกจังเลยค่ะ ^o^ พี่อาร์ทคะ! พี่อาร์ทเป็นเจ้าชายนะคะ แล้วจินจะเป็นซินเดอเรลล่าเอง! เราสองคนจะอยู่ด้วยกันอย่างเป็นสุขชั่วนิรันดร์น้า!" ฉันพูดพร้อมกับชูนิ้วก้อย พี่อาร์ทเห็นแล้วจึงยิ้มกว้างก่อนจะเกี่ยวก้อยสัญญากับฉัน
"พี่สัญญา"
แม้ว่าจะนานเท่าไหร่ความรู้สึกที่ฉันมีต่อพี่อาร์ทก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลง จนกระทั่งตอนที่พี่อาร์ทเรียนอยู่ ม.ปลาย มักจะคุยโทรศัพท์บ่อยมาก สีหน้าของพี่ตอนที่คุยนั้นดูเป็นสุข พอคุยเสร็จฉันก็เข้าไปถามพี่อาร์ททันที "คุยกับใครเหรอคะ"
พี่อาร์ทหน้าแดงขึ้นมา ก่อนจะยิ้มแล้วบอกว่า "อ๋อ เพื่อนของพี่น่ะ ^__^"
แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่เพราะวันหนึ่งพี่อาร์ทก็พาผู้หญิงคนหนึ่งมาที่บ้าน เธอชื่อแก้ว เธอแนะนำตัวว่าเป็นแฟนกับพี่อาร์ทนั่นทำให้หัวใจของฉันแตกสลาย
ฉันรู้สึกโกรธพี่อาร์ท และรู้สึกเศร้า จนต้องไปร้องไห้ในห้องน้ำ
พี่อาร์ทรักฉันแบบน้องสาว
น้องสาวคนหนึ่ง
แม้ว่าฉันจะมีผู้ชายมาจีบเหมือนกัน แต่ฉันก็ไม่สนเลย ฉันรักพี่อาร์ทอยู่คนเดียว แม้จะรู้ว่าพี่อาร์ทไม่ได้รู้สึกแบบเดียวกันกับฉัน แต่หัวใจของฉันก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลย
พอพี่อาร์ทเรียนจบ ม.6 แล้วก็ไปเรียนที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ฉันรู้ว่ามีสาวๆ มากมายมาจีบพี่อาร์ท แต่ดูเหมือนพี่อาร์ทจะไม่สนใจเท่าไหร่ จนกระทั่งตอนที่ฉันเข้ามหาวิทยาลัยนั้นเอง ฉันก็มีเพื่อนผู้หญิงที่ชื่อนุ่น เธอเป็นคนสวย เราสนิทกันเร็วแล้วเธอก็มักจะมาเที่ยวบ้านฉัน วันหนึ่งพอเธอกลับไปหลังจากมาเที่ยวที่บ้านแล้ว พี่อาร์ทก็เข้ามาคุยกับฉัน
"จิน ช่วยเป็นแม่สื่อให้พี่กับนุ่นหน่อยสิ"
"อะไรนะ!"
"ก็นุ่นเขาน่ารักมากเลยนี่นา ช่วยหน่อยน้าาา น้องพี่! ^o^"
ฉันไม่อยากทำเลย รู้สึกเสียใจเหลือเกิน แต่ฉันรักพี่อาร์ทมาก ไม่อยากขัดใจ ฉันจึงตอบตกลงไปพร้อมรอยยิ้มทั้งที่ภายในใจของฉันมันแหลกเหลวไปหมดแล้วฉันต้องคอยเอาจดหมายของพี่อาร์ทไปให้นุ่น บางทีก็มีของขวัญ การที่ต้องทำในสิ่งที่ไม่อยากทำนั้นมันทรมานเหลือเกิน จนในที่สุดทั้งสองคนนั้นก็ได้เป็นแฟนกัน
ฉันหึง แต่ก็ทำใจยอมรับแต่ไม่ใช่เพราะเพื่อนสนิทที่เป็นแฟนกับพี่ชาย
แต่เพราะเพื่อนสนิทเป็นแฟนกับคนที่ตัวเองรักรักมากที่สุดในโลกนี้
พอทำใจยอมรับได้แล้ว ฉันจึงได้ยอมเป็นแฟนกับผู้ชายที่เข้ามาจีบบ้าง ฉันรู้ว่าฉันชอบเขา แต่ไม่ได้รักเขาเลย พี่อาร์ทนั้นพอเห็นฉันมีแฟนก็หึง แต่ฉันรู้ดีว่าเขาหึงฉันแบบน้องสาว
ฉันมักจะคิดอยู่บ่อยๆ ในตอนกลางคืนถ้าเรารักเขาเราก็น่าจะบอกเขาไปเลย แต่ฉันทำไม่ได้ เพราะเราเราเป็นพี่น้องกันคำว่ารักของฉันรักที่ฉันมีต่อเขาฉันไม่สามารถที่จะเอ่ยได้เลยตลอดชีวิตนี้
พอพี่อาร์ทเรียนจบปริญญาตรีแล้ว ก็ได้ไปเรียนต่อที่ประเทศอเมริกา พ่อแม่และฉันไปส่งพี่อาร์ทที่สนามบิน ฉันร้องไห้ที่ต้องจากกับพี่ พี่เองก็ร้องไห้เหมือนกันก่อนจะกอดฉันแน่น "เดี๋ยวเราก็ได้เจอกันอีกนะ อย่าห่วงเลยนะจิน! พี่รักจินนะ" พี่บอก
"จินก็รักพี่" ฉันบอก แต่พี่อาร์ทคงเห็นว่าฉันพูดรักในฐานะน้องสาวเหมือนกับที่เขาพูดในฐานะพี่ชายนั่นแหละ พี่ไม่รู้หรอกว่าคำพูดเมื่อกี้ของฉันคือสิ่งที่อยู่ภายในหัวใจ แต่ฉันไม่อาจจะบอกได้ว่า ฉันรักเขาอย่างไร
พอพี่อาร์ทไปแล้ว พี่ก็ส่งจดหมายมาเสมอ บอกว่าอยู่ที่นั่นเป็นอย่างไร มีความสุขแค่ไหน แม้จะมีจดหมายมาแต่พี่อาร์ทก็ไม่ได้กลับมาเลย ฉันคิดถึงพี่อาร์ทเหลือเกิน พอพี่อาร์ทจบปริญญาโทแล้วก็ฝึกงานอยู่ที่อเมริกาเหมือนเดิม
วันหนึ่งขณะที่ฉันกำลังอ่านหนังสืออยู่ในบ้าน ก็เห็นบุรุษไปรษณีย์เอาจดหมายมาไว้หน้าบ้าน ฉันจึงรีบวิ่งออกไปเอาทันที รู้ว่าเป็นจดหมายของพี่อาร์ทแน่ๆ!
แต่พอฉันแกะออกดูฉันก็แทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง
มันเป็นบัตรเชิญงานแต่งงาน
พี่อาร์ทรู้จักกับผู้หญิงคนนั้นตอนที่เรียนอยู่อเมริกา เธอเป็นลูกครึ่งไทย - อเมริกัน พอพ่อแม่และฉันบินไปที่อเมริกาเพื่อร่วมงานแต่งงานแล้ว ฉันก็เห็นพี่อาร์ทที่ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นและดูดีขึ้นในชุดเจ้าบ่าว กับผู้หญิงที่สวยมากที่ยืนอยู่ข้างๆ เขา
งานเลี้ยงในงานแต่งงานนั้นช่างหรูหราเหลือเกิน พอพี่อาร์ทเต้นรำกับเจ้าสาวแล้ว ก็มาชวนฉันเต้นรำต่อ ฉันจินตนาการว่านี่คืองานแต่งงานของฉันกับพี่อาร์ทแต่มันไม่ใช่
"ยินดีด้วยนะคะพี่" ฉันพูด
"ขอบคุณนะจิน ^__^" พี่อาร์ทบอก
แล้วพี่อาร์ทก็ได้อาศัยอยู่ในอเมริกากับผู้หญิงคนนั้น เวลาผ่านไปหลายปีจนฉันอายุสามสิบกว่าแล้วฉันก็ยังไม่แต่งงานทั้งๆ ที่เคยมีคนมาสู่ขอแต่ฉันไม่อยากจะฝืนใจตัวเอง ฉันไม่เคยรักใครเลยจริงๆไม่เคยรักใครเลยนอกจากพี่อาร์ทพี่ชายของฉัน
อีกหลายปีผ่านไปจนฉันอายุ 40 แล้ว ก็มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งมาที่บ้าน แล้วพูดกับฉันด้วยสำเนียงที่ไม่ชัดนัก "คุณอาจินใช่มั้ยครับ"
"เอ่อจ้ะ เธอเป็นใครกันจ๊ะ"
"ผมชื่อพอลครับ เป็นลูกชายของคุณพ่ออาร์ทครับ เอ้อ! สวัสดีนะครับคุณอา!" เด็กคนนั้นพูดพลางยกมือไหว้ แล้วก็มีชายรูปร่างสูงคนหนึ่งเดินมาข้างหลังเขา
ฉันรู้ทันทีเลยว่าใคร
"พี่อาร์ท"
"ไม่เจอกันนานเลยนะจิน ^__^"
แม้พี่จะอายุ 42 แล้วแต่ก็ยังดูดีอยู่ พี่เล่าให้ฟังว่าภรรยาของพี่ป่วยและเสียชีวิตแล้วเมื่อ 2 ปีก่อน แล้วตอนนี้ก็กลับมาเยี่ยมพ่อแม่และฉันเพราะรู้สึกคิดถึง พี่บอกว่าจะค้างที่นี่สักวันหนึ่ง แล้วจะกลับไปอเมริกาในวันพรุ่งนี้
วันต่อมาที่สนามบินฉันก็ไปส่งพี่อาร์ทและพอล ก่อนไปพี่อาร์ทกอดฉันไว้เหมือนกับเมื่อ 20 ปีก่อนไม่มีผิด ฉันร้องไห้ออกมา ส่วนพี่อาร์ทก็น้ำตาซึม ก่อนจะส่งจดหมายฉบับหนึ่งให้ฉัน "จดหมายนี่ไปอ่านตอนที่กลับไปบ้านแล้วนะพี่เขียนไว้เมื่อยี่สิบปีก่อน อยากจะให้จินอ่านมาตลอด"
ฉันรับจดหมายนั้นก่อนมองหน้าพี่ "ค่ะ"
เครื่องบินที่พี่อาร์ทนั่งอยู่ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า ฉันมองมันก่อนจะโบกมือจนมันลับตาไป
พอกลับมาบ้านแล้วฉันก็เปิดจดหมายออกอ่านทันที กระดาษนั้นแม้จะนานแล้ว แต่ก็ไม่ถึงกับเปื่อย กลิ่นหอมเก่าๆ ของมันทำให้ฉันนึกถึงอดีต ฉันเริ่มต้นอ่าน
"วันศุกร์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ.2528
จิน พี่ไม่รู้ว่าจะให้จดหมายกับจินนี้เมื่อไหร่ แต่ตอนนี้พี่ยังไม่มีความกล้าพอที่จะให้เราต่างก็เป็นพี่น้องที่รักกันมาก พี่รู้ว่าจินรักพี่มากแต่ก็รักแบบพี่ชายเท่านั้นจินรู้มั้ยว่าพี่รักจินไม่ใช่น้องสาว แต่เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง
พี่รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่เราสองคนจะรักกัน พี่รู้สึกหึงเมื่อจินมีแฟน รู้สึกเจ็บเมื่อจินเสียใจ แต่พี่ก็แค่ทำหน้าที่ของพี่ชายที่ดีคนหนึ่งเท่านั้น พี่รักจินมาตลอดเลยนะรู้มั้ยที่พี่มีแฟนเพราะอยากจะให้ตัวเองเลิกรักจิน แต่พี่ก็ทำไม่ได้ ตอนที่พี่ขอให้จินเป็นแม่สื่อนั้น ความจริงพี่ก็แค่อยากทดสอบว่าจินคิดเหมือนพี่หรือเปล่า มันงี่เง่ามากใช่มั้ยล่ะแต่จินก็ไม่ได้ทำท่าทางที่พี่หวัง จินแค่ยิ้มให้พี่เท่านั้น
ก่อนที่พี่จะมาอเมริกา รู้มั้ยว่าตอนที่พี่บอกว่ารักจินนั้นพี่พูดออกมาจากใจจริงใจที่รักจิน รักเหลือเกิน แต่จินคงฟังเป็นว่ามันเป็นคำที่พี่ชายพูดกับน้องเท่านั้นเองสินะพี่อยากรู้เหลือเกินว่าจินเคยคิดเหมือนพี่บ้างมั้ย
จินจำได้มั้ยตอนนั้นที่จินบอกว่าจะให้พี่เป็นเจ้าชายและจินเป็นซินเดอเรลล่า เราเกี่ยวก้อยสัญญากันใช่มั้ยว่าเราจะอยู่กันอย่างมีความสุขชั่วนิรันดร์ พี่อยากจะให้มันเป็นจริงเหลือเกิน
หวังว่าสักวันหนึ่งจินคงจะได้อ่านจดหมายนี้ หลังจากที่อะไรๆ มันคงจะไม่สายเกินไป หากว่าพี่มีความกล้าพอกล้าที่จะเปิดเผยความในใจออกไปให้รู้
จากคนที่รักเธอ"
ฉันเก็บจดหมายนั้นลงในตู้ลิ้นชัก น้ำตาที่ไหลออกมาเหมือนจะไม่มีวันหมดฉันไม่เคยรู้เลยจริงๆ ว่าพี่เองก็รู้สึกแบบเดียวกันกับฉันแต่เราต่างก็พูดออกมาไม่ได้ไม่ใช่เพราะเราเป็นพี่น้องกัน ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่ามันไม่ใช่เพราะสิ่งนี้แต่เป็นเพราะเราต่างก็ไม่มีความกล้าพอ
และทุกสิ่งทุกอย่างมันก็สายเกินไป