16 ตุลาคม 2551 11:22 น.
nirvanar-t
ตั้งแต่จำความได้ ฉันก็พบว่าตัวเองอยู่ในเมืองที่น่าอัศจรรย์ใจ
มันเป็นความโชคดีของฉัน ที่พระเจ้า (หรืออะไรก็ไม่รู้) เล็งให้ฉันมาอยู่ในละติจูดนี้อย่างแม่นยำ...
ยังกับจะรู้ว่าฉันต้อง "รัก" มันในที่สุดแหละ...
ฉันได้เจอและรู้จักผู้คนต่างเชื้อชาติ สำเนียง ภาษา
แต่ละคนหอบเอาความฝันและความหวังมาเต็มไม้เต็มมือ
ที่นี่จึงเต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวาเป็นที่สุด...
ถ้าคิดว่าจะใช้ชีวิตอย่างธรรมดา ๆ ที่นี่ล่ะก็...เมินซะเถอะ
แม้แต่สัตว์ป่าตัวใหญ่อย่างช้าง ยังมาเดินอวดโฉมอยู่แถว
ร้านหมูกะทะเลย...
ถ้าคุณอยากเมาอ้วกแตกอ้วกแตน ก็มีร้านเหล้าตั้งรอเรียงรายมากยิ่งกว่า 7-11 ซะอีก
ถ้าคุณเป็นคนที่มีสาระ ขอแนะนำให้แวะเข้าร้านกาแฟโบราณเพื่อพบกับกูรูด้านการเมืองภาคประชาชน
ถ้าคุณอยากย้อนเวลา ลองนั่งรถรางชมรอบเขตเมืองเก่าในราคาเพียงแค่ 30 บาท
ทะเลหรือก็อยู่ใกล้แค่บางขุนเทียน หรือไม่ก็สวนสยาม
อยากไปตลาดน้ำก็ต้องที่ตลิ่งชัน
หรือจะไปดูนาข้าวเขียวขจีที่มีนบุรี
การเดินทางในบางกอกนั้นแสนสะดวกสบาย...
มีให้เลือกหลากหลาย ทั้งทางน้ำ ทางบก บนฟ้า และใต้ดิน
แม้ที่ดินจะราคาแพงสุดขีด แต่บางกอกก็พอจะมีสวนสวย ๆ
ให้นั่งเล่นเย็นใจอยู่หลายแห่ง...
ถึงไม่โด่งดังเท่าเซ็นทรัล พาร์ค แต่ก็ให้ออกซิเจนและความสุขได้ไม่แพ้กัน
และนอกจากจตุจักรแล้ว บางกอกยังมีตลาดนัดเจ๋ง ๆ ให้เดินอีกเยอะเลย เช่น สนามหลวง 2 ปัฐวิกรณ์ มีนบุรี ฯลฯ
โดยส่วนตัวแล้ว ฉันมักใช้เวลาช่วงเย็นวันอาทิตย์
เดินเท้าออกจากบ้านย่านสะพานหัวช้างไปยังสนามหลวง
สำหรับหลาย ๆ คน มันอาจเสียเวลาเปล่า
แต่สำหรับฉันมันคือกำไรชีวิต...
คงเพราะฉันชอบดูการใช้ชีวิตของผู้คน สถาปัตยกรรม บ้านเรือน และต้นไม้
ในระหว่างนั้นฉันพบว่า...
แม้บางกอกจะเต็มไปด้วยความแตกต่างทางวัฒนธรรม
ซึ่ง...น่าจะนำไปสู่ความขัดแย้ง...
แต่เรากลับทำให้มันอยู่ร่วมกันได้อย่างลงตัว
นี่แหละความเจ๋งของคนไทย
ที่สะท้อนออกมาเป็นบางกอก...
ยินดีต้อนรับสู่เมืองสำหรับทุกคน...ที่มีความฝัน...