14 ตุลาคม 2553 13:40 น.
nidnaree
ตุลาเอ๋ย ตุลากาล ที่จารจด
หมื่นร้อยบท กล่าวขาน วีรกรรมกล้า
สู้ด้วยมือ สู้ด้วยเลือด เดือนตุลา
นำประชา ปลดแอกเสร็จ เผด็จการ
ปี หนึ่งหก ตุลาจำ นำประชา
นักศึกษา ผู้แถวหน้า มากันถ้วน
กรรมกร ชาวนา เป็นขบวน
ประกาศทวน ทวงอธิปไตย ไทยประชา
ปีหนึ่งเก้า ตุลาเดือด ก่อนปืนแตก
เป็นประจักษ์ ความแตกแยก ปมปัญหา
ความรุนแรง แห่งอำนาจ ลงอาญา
นักศึกษา หนีเข้าป่า จับปืนรัว
ปีห้าหนึ่ง ตุลาลวง ปวงประชา
นอมินี สั่นผวา คนต้านทั่ว
ทุนสามานย์ ออกอาการ น่าหวั่นกลัว
แตกแยกมัว หว่าน เงินงอก ออกดอกแดง
25 กันยายน 2553 16:05 น.
nidnaree
ยุคแห่งโลกข่าวสารและข้อมูล
ที่เพิ่มพูนมากล้นจนคนถาม
มีมากมายหลากหลายเรื่องให้ติดตาม
จากวันวานสู่วันนี้ที่คอยรอ
ยุคแห่งการติดต่อต้องต่อติด
โลกแห่งผลผลิตเทคโนหนอ
ทั้ง ไอพอท บีบี 3 จีรอ
แซทกันมันส์ การติดต่อ ต้องทันควัน
ยุคแห่งสังคมสร้างทางออนไลน์
ต้องขยาย สู่ ทวิต ขมีขมัน
มี เฟดบุ๊ค , บล็อก เสริม เติมทุกวัน
เล่นเกมส์มันส์ กับเพื่อนต่าง ห่างเมืองมา
ยุคแห่งการเรียนรู้กับสิ่งใหม่
โลกเปลี่ยนไป เร็วเหลือรับปรับตัวหา
มากผู้คน มากราวเรื่อง ประเทืองปัญญา
มากความรู้ มากปัญหา มากมุมมอง
ยุคแห่งการแยกแยะประเมินรู้
อ่านพิเคราะห์ ข้อมูลอยู่ ในสมอง
มองทั้งเหตุ ดูทั้งผล จึ่งตริตรอง
มากอยากลอง บ้างผลดี บ้างมีความ
โลกแห่งการเปลี่ยนไปไม่มีหยุด
รู้ประยุกต์ ปรับรับใช้ ให้ทันถาม
มากหลอกลวง มากลมลิ้น มากเดินตาม
ทุกประการ สังคมใช้ ออนไลน์เอย
9 กันยายน 2553 19:23 น.
nidnaree
น้ำฝนหลั่งจากฟ้าสู่ผืนภพ
หลากน้ำตกสู่ดินถิ่นอาศัย
คน สัตว์ พืช ได้ดื่มกิน ทุกถิ่นไพร
บานเบิกใจ ล่องเล่นใน มหานที
มาวันนี้ หลากน้ำมา น้ำตาไหล
ต้นกิ่งใบ หล่นร่วง จมน้ำหนี
ข้าวในนากำลังออกรวงพอดี
โอ้ปีนี้ จะเหลือรอด ออกกี่รวง
ฤาจะโทษฝนฟ้าได้ใครกำหนด
ฤาเป็นกฏต้องทนจนปีล่วง
ฤาโทษตนเองนั้นเกิดแต่ดวง
เป็นผลพวงเวรกรรมน้ำพาจน
เมื่อคราแล้งแห้งผากน้ำพรากหนี
เกือบครึ่งปีจึงมีชื้นฟื้นดินหน
กว่าน้ำเหนือจะไหลหลากมากอดทน
แต่น้ำหลากมากเกินล้นจนเขื่อนพัง
วิถีโลก เบือนบิดจนผิดหมด
น้ำตาหยด ฟังข่าวหงอยพลอยหมดหวัง
ที่นี่ท่วม ที่นั่นท่วม ประเดประดัง
ระทมช้ำดั่งเลหลังระวางตาย...
31 สิงหาคม 2553 17:19 น.
nidnaree
เปาะภู เอื้องผา ไอยราดอก
ปรายหมอก ขาวมัว สลัวผา
ผาเยือง เยื้องดู ช่างงามตา
ผกา งามงอก ออกดอกรวง
เพลินชม บุปผา เอนอ้าออก
แตกดอก งามเด่น เห็นสีม่วง
เอื้องแซะ หมอนไข่ ออกเป็นพวง
ภูหลวง เด่นงาม นิยามไพร
มองเห็น นกปรอด เฝ้าพรอดรัก
นิลตวาร้องทัก เสียงก้องใหญ่
กินแมลงหัวสีทอง ช่างว่องไว
เพลินใจ เที่ยวชม ไม้ นก วิว
ผีเสื้อ บินเที่ยว เลี้ยวชมดอก
บานออก เอื้องตาเหิร เพลิดเพลินฉิว
เลาะลัด ตัดทุ่ง ลมพัดปลิว
ชมวิว ริมผา น่าตื่นใจ
หนวดปลาหมึก ดอกเหลือง เอื้องสีขาว
เป็นพวงยาว เกาะรวม ร่วมไม้ใหญ่
นกไพร เพลินกินชิม ลิ้มดอกใบ
วงจรให้ หลากชีวา พึ่งพากัน
มีต้นไม้ มีสายน้ำ มีสายหมอก
มีไม้ดอก มีไม้ผล มีรอยฝัน
มีจันทร์เสี้ยว เลี้ยวลดทาง หว่างตะวัน
มีเธอฉัน เคียงข้างคู่ อยู่อย่างเคย
5 สิงหาคม 2553 15:31 น.
nidnaree
แรกเจ้าตื่นลืมตามาดูโลก��
แม่พัดโบกโยกอุ้มคุ้มภัยเจ้า
แม่ลุกดึกดูเจ้าฟ้องร้องไม่เบา��
แม่คอยเฝ้าถนอมรักฟูมฟักมา
จนเจ้าเริ่มเดินออกเริ่มบอกได้��
เจ้าหวังไว้ใดเล่าแม่เฝ้าหา
แม่อุ้มชูดูเจ้าเติบโตมา���
การศึกษาหาเสริมเพิ่มเป็นทุน
หวังแค่เจ้าเติบใหญ่ใฝ่ศึกษา��
ภายภาคหน้าเลี้ยงตัวได้เอื้อเกื้อหนุน
แม่อบรมบ่มเมตตาเกื้อการุณ� �
ให้อบอุ่นไม่รวนเรเกวุ่นวาย
เมื่อเริ่มรุ่นครุ่นระวังการคบมิตร�� �
สราญจิตรพบมิตรแท้แม้ดังหมาย
ลูกเติบใหญ่ได้สมบูรณ์ทั้งใจกาย�
แม่ไม่คลายห่วงลูกผูกพันมา��
��������
เริ่มการงานสานมั่นคงดำรงชีพ�
ไม่ควรรีบเรื่องคู่ครองตรองเลือกหา
หวังเพียงเจ้าออกเรือนเมื่อถึงครา�
สมอุราครองคู่อยู่ยืนนาน
นับแต่เกิดลืมตามองลองตรองจิต�
ใครเคียงชิตทั้งวันทุกข์ทั้งสุขหวาน
แม่คนเดียวเกี่ยวห่วงผูกลูกทุกวาน� �
รักใดปานเปรียบรักแท้ แม่ ของเรา
มกราคม ๒๕๕๐