22 สิงหาคม 2550 18:23 น.

การเดินทางของคุณธนบัตร บทที่๙

nidhi

การเดินทางของคุณธนบัตร บทที่ ๙
ฉันไปอยู่ที่จังหวัดขอนแก่นได้ ๓ วันแล้ว  แต่ยังไม่ได้เห็นศาลหลักเมืองของจังหวัดนี้เลย  คราวนี้สบโอกาสเพราะต้องไปประจำการเป็นเงินกองทุนหมุนเวียนอยู่ที่สำนักงานจังหวัดซึ่งอยู่ในบริเวณอาคารศาลากลางจังหวัดขอนแก่นที่ถนนกลางเมือง  มีถนนศูนย์ราชการขนานปิดด้านทิศเหนือทางไปจังหวัดอุดรธานี  และมีถนนหน้าศูนย์ราชการขนานปิดด้านทิศใต้ซึ่งอยู่คู่ขนานกับถนนประชาสโมสรที่เป็นที่ตั้งสถานีขนส่งจังหวัดกับเป็นเส้นทางไปสนามบินด้านถนนมะลิวัลย์ ทางไปอำเภอชุมแพนั่นเอง
ศาลเจ้าพ่อเทพารักษ์หลักเมือง เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เป็นที่เคารพสักการะของชาวขอนแก่นเป็นอย่างยิ่ง และมีความเกี่ยวพันกับอำเภอชุมแพอย่างลึกซึ้ง เพราะท่านเจ้าคุณปู่พระราชสารธรรมมุนีกับหลวงธุรนัยพินิจ อดีตพ่อเมืองขอนแก่นได้นำหลักศิลาจารึกที่ขุดพบในโบราณสถานท้องที่อำเภอชุมแพมาประกอบพิธีทางศาสนาและตั้งเป็นศาลหลักเมืองตั้งแต่วันที่ ๒๐ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๔๙๙ เป็นต้นมา
จังหวัดขอนแก่นมีอาณาเขตทิศเหนือติดต่อกับจังหวัดอุดรธานีและเลย  ทิศใต้ติดต่อกับจังหวัดนครราชสีมาและบุรีรัมย์  ทิศตะวันออก คิดต่อกับจังหวัดกาฬสินธุ์และมหาสารคาม  ทิศตะวันตกติดต่อกับจังหวัดเพชรบูรณ์และชัยภูมิ
เป้าหมายการพัฒนาจังหวัดขอนแก่นบ่งบอกว่าต้องการทำให้เป็นศูนย์กลางในการเชื่อมโยงสู่อินโดจืน  แล้วเป้าหมายของเราแต่ละคนคืออะไร
ที่จังหวัดขอนแก่นมีอำเภอหนึ่งชื่อเหมือนคุณหมอของเรา นั่นคืออำเภอชนบท  ที่อำเภอนี้มีการแสดงผ้าไหมมัดหมี่ที่แพงที่สุดในโลกด้วย โดยจัดแสดงที่ศาลาไหมไทย หรือ
อาคารเฉลิมพระเกียรติ ๖๐ พรรษา มหาราชินี ตั้งอยู่บริเวณวิทยาลัยการอาชีพขอนแก่น ซึ่งเป็นศูนย์สืบสานพระราชปณิธานงานศิลปาชีพด้านผ้าไหมของภาคอีสาน รวมทั้งเป็นศูนย์อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมและขนบธรรมเนียมประเพณีของชาวอีสาน
เทศกาลงานประเพณีที่สำคัญๆของคนขอนแก่น ได้แก่ เทศกาลดอกคูณเสียงแคนและถนนข้าวเหนียว  เทศกาลไหว้พระธาตุขามแก่น  งานเทศกาลไหม  ประเพณีผูกเสี่ยวและงานกาชาด
สินค้าพื้นเมืองและของที่ระลึก ได้แก่ผ้าไหมมัดหมี่ อำเภอชนบท  ผ้าฝ้ายมัดหมี่บ้านเมืองเพีย อำเภอบ้านไผ่  ผ้าฝ้ายทอมือย้อมสีธรรมชาติ 
ที่จัดว่าเป็นเอกลักษณ์ของเมืองไทยในชนบทต่างๆที่ยังหลงเหลืออยู่ก็คือ สามล้อถีบหรือสามล้อปั่น  อย่างรถจักรยาน สมกับที่เรียกว่าเป็นอาชีพที่หากินด้วยลำแข้งของตัวเองอย่างหนึ่งนั่นเอง
ที่จังหวัดขอนแก่นยังมีหอเกียรติยศรัฐบุรุษ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์   อยู่ที่ค่ายเปรมติณสูลานนท์อีกด้วย แต่ไม่ได้อยู่ที่อำเภอเมืองหรอกนะ  เพราะค่ายทหารดังกล่าวตั้งอยู่ที่อำเภอน้ำพอง
สถานที่อีกแห่งหนึ่งซึ่งไม่อาจละเว้นที่จะกล่าวถึงได้เลย  และน่าจะเป็นสถานที่แห่งแรกๆของนักท่องเที่ยวทั้งหลายที่จะต้องไปติดต่อขอรายละเอียดต่างๆ  นั่นก็คือสำนักงานท่องเที่ยวของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย  และจำเพาะอย่างยิ่งว่าที่จังหวัดขอนแก่นเป็นที่ตั้งสำนักงาน ททท.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขต๓ อยู่ที่ ๑๕/๕ ถนนประชาสโมสร อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น  ๔๐๐๐๐. โทร. ๐๔๓-๒๔๔๔๙๘-๙ โทรสาร ๐๔๓-๒๔๔๔๙๗  E-mail : tatkhkn@tat.or.th พื้นที่รับผิดชอบ ขอนแก่น ร้อยเอ็ด มหาสารคาม  กาฬสินธุ์ (อาจเปลี่ยนแปลงพื้นที่รับผิดชอบได้)  ฉะนั้น สถานที่แห่งแรกที่เราควรจะไปติดต่อขอรายละเอียดเกี่ยวกับพื้นที่ซึ่งจะเข้าไปท่องเที่ยวหรือว่าทำธุระก็คือสถานที่ของการท่องเที่ยวหรือศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวของแต่ละจังหวัด  ซึ่งจะช่วยในการท่องเที่ยวหรือติดต่อธุระได้อย่างมากทีเดียว  เพราะเด็ยวนี้มีข้อมูลหลากหลายรูปแบบทั้งในรูปแบบหนังสือ แผ่นพับและซีดีข้อมูล อย่างน้อยที่สุดก็มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายต้อนรับซึ่งสามารถให้คำแนะนำต่างๆได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลท่องเที่ยวหรือข้อมูลด้านอื่นของจังหวัดนั้นๆ  และที่สะดวกสบายอย่างยิ่งตลอด ๒๔ ชั่วโมง สำหรับท่านที่ใช้อินเตอร์เนต คือ สามารถเข้าไปที่เวปต์ไซต์การท่องเที่ยวหรือเวบไซต์ของจังหวีดเพื่อค้นหารายละเอียดเบื้องต้นก่อนเข้าไปสัมผัสสภาพความเป็นจริงก่อนล่วงหน้าก็ได้ด้วย
ฉันคงมีเวลาอยู่ที่จังหวัดขอนแก่นต่อไปได้อีกระยะหนึ่ง  เพราะหน้าที่ใหม่ของฉันในขณะนี้ก็คือ เป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับใช้จ่ายในเหตุฉุกเฉินของจังหวัด  ซึ่งคาดว่าคงจะยังไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วน เพราะไม่มีวี่แววว่าจะเกิดอุทกภัยหรือภัยธรรมชาติร้ายแรงอย่างใด  แต่ก็อย่างที่ว่าไม่มีอะไรแน่นอน  อุบัติเหตุ อุบัติภัยย่อมเกิดได้ตลอดเวลา  การเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ต่างๆด้วยความไม่ประมาท จึงเป็นสิ่งที่ทุกคนควรกระทำ สำหรับค่ำวันนี้ฉันคงนอนในห้องนิรภัยของจังหวัดไปพลางก่อน				
21 สิงหาคม 2550 20:38 น.

การเดินทางของคุณธนบัตร บทที่ ๘

nidhi

คุณพยาบาลประจำโรงพยาบาลหนองแวงเป็นหญิงสาวที่ไม่ถึงกับสวยอะไรนัก แต่ก็เป็นคนที่มีมนุษย์สัมพันธ์และมีอัธยาศัยไมตรีที่ดีเยี่ยม  สังเกตได้จากทั้งคนไข้ที่ไปโรงพยาบาลและไปที่คลินิกว่า ต่างก็มีหน้าตายิ้มแย้มโอภาปราศัยเวลาที่พบหน้ากัน  คุณพยาบาลคนนี้เรียนจบวิชาการพยาบาลจากศิริราชพยาบาล  เมื่อไปทำงานที่หนองแวงแล้วจึงเรียนต่อจนจบการศึกษาคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง  และกำลังเรียนต่อเป็นมหาบัณฑิตชั้นปริญญาโทที่สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์(นิด้า)  ฉันยังได้ยินจากพวกพยาบาลและเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลว่า  คุณพยาบาลได้หมั้นหมายไว้กับคุณหมอชนบทเมื่อเดือนก่อน และมีโครงการจะแต่งงานกันในราวต้นปีหน้าที่จะถึงนี้  โดยคุณหมอชนบทได้รับการทาบทามให้ไปทำงานที่โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ย่านถนนประชาชื่น ในเขตกรุงเทพมหานคร  ส่วนคุณพยาบาลก็เตรียมตัวไปรับตำแหน่งใหม่ที่กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุขประมาณต้นปีหน้าเช่นเดียวกัน  ฉันกลายเป็นเงินบริจาคทำบุญให้แก่มูลนิธิสมเด็จย่า  ซึ่งเป็นเหตุให้ฉันถูกนำฝากเข้าบัญชีธนาคารกรุงเทพ จำกัด  และต่อมาก็ถูกเบิกไปเก็บไว้เป็นเงินทุนสำรองหมุนเวียนของสำนักงานจังหวัด  ซึ่งจักได้กล่าวในตอนต่อไป  สำหรับตอนนี้เพื่อเป็นเกร็ดความรู้เล็กๆน้อยๆ  ฉันจึงใคร่ขอถือโอกาสแนะนำจังหวัดขอนแก่นโดยสรุป ดังนี้
ขอนแก่น เป็นศูนย์กลางของภาคอีสานทั้งในด้านภูมิศาสตร์หรือสภาพที่ตั้ง รวมทั้งเป็นศูนย์กลางการศึกษาและเทคโนโลยีของภาคตะวันออกเฉียงเหนือนี้ด้วย  โดยเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นดินแดนแห่งประวัติศาสตร์อารยธรรมและธรรมชาติที่สำคัญระดับโลกแห่งหนึ่งก็ว่าได้  ขอนแก่น เดิมเรียกว่าขามแก่น  ดังจะเห็นได้จากการที่มีสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ระบุไว้ 
คำขวัญประจำจังหวัดขอนแก่นมีว่า “ พระธาตุขามแก่น  เสียงแคนดอกคูณ  ศูนย์รวมผ้าไหม  ร่วมใจผูกเสี่ยว  เที่ยวขามแก่นนครใหญ่  ไดโนเสาร์ลือก้อง  เหรียญทองโอลิมปิก”
สถานที่น่าสนใจในอำเภอเมือง ที่ค่อนข้างสะดุดตา เป็นธรรมชาติ ดูร่มรื่น น่าจะเป็นบึงแก่นนคร  ซึ่งเป็นบึงขนาดใหญ่มีเนื้อที่ถึง ๖๐๓ ไร่ ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลกลางเมืองขอนแก่น  และเป็นที่ประดิษฐานอนุสาวรีย์ “เจ้าเพี้ยเมืองแพน” ผู้ก่อตั้งเมืองขอนแก่น    มีพระธาตุขามแก่นที่อำเภอน้ำพอง  ที่อำเภออุบลรัตน์ ก็มีเขื่อนอุบลรัตน์ ที่เดิมเรียกกันว่าเขื่อนน้ำพอง  แต่ในเอกสารของการท่องเที่ยวระบุว่าเดิมเรียก เขื่อนพองหนีบ  ส่วนที่ดังกึกก้องไปทั่วโลกเห็นจะได้แก่ พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูเวียง และอุทยานแห่งชาติภูเวียง  โดยที่ในปี พ.ศ. ๒๕๑๙  มีการสำรวจแหล่งแร่ยูเรเนียมที่อุทยานแห่งชาติภูเวียง  แล้วค้นพบซากกระดูกหัวเข่าข้างซ้ายของไดโนเสาร์  จึงขุดค้นต่อไปจนพบฟอสซิลไดโนเสาร์พันธุ์กินพืช ซึ่งไม่เคยพบที่ใดมาก่อน  จึงอัญเชิญพระนามของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯมาตั้งชื่อไดโนเสาร์พันธุ์นี้เป็นการเฉลิมพระเกียรติว่า  “ภูเวียงโกซอรัส สิรินธรเน่ ” (Phuwianggosaurus Sirindhornae)  และในหลุมเดียวกันนี้ยังค้นพบฟันของไดโนเสาร์ประเภทกินเนื้ออีกมากกว่า ๑๐ ซี่  ซึ่งหนึ่งในกลุ่มฟันที่พบนี้มีลักษณะแตกต่างออกไปเป็นพิเศษ  และพบว่าเป็นฟันของไดโนเสาร์กินเนื้อที่ไม่ทราบชื่อมาก่อนเลยเช่นเดียวกัน จึงตั้งชื่อเป็นเกียรติแก่ผู้ค้นพบ คือ นายวราวุธ  สุธีธร ว่า “ไซแอม โมซอรัส สุธีธรนี่” (Siamosaurus Suteethorne)  นอกจากนี้ยังพบฟอสซิลของ “ไซแอมโมไทรันนัส อีสานเอ็นซิส” (Siamotyrannus Isanensis)  ซึ่งเป็นสิ่งที่บ่งชี้ว่าไดโนเสาร์จำพวกไทรันโนซอร์มีต้นกำเนิดในทวีปเอเชีย  เพราะฟอสซิลที่ค้นพบมีอายุเก่าแก่ที่สุดถึง ๑๒๐-๑๓๐ ล้านปี นอกจากนี้ที่อำเภอภูเวียง ยังเป็นที่ตั้งหมู่บ้านอนุรักษ์ควายไทยอีกด้วย  ส่วนอำเภอที่ชื่อกระฉ่อนทางโทรทัศน์ทั่วประเทศในขณะนี้ก็คืออำเภอชุมแพ นั่นเอง
สำหรับที่อำเภอมัญจาคีครี  ก็ยังเป็นแหล่งกล้วยไม้ป่าธรรมชาติที่มีชื่อสียง คือ ช้างกระ  และเป็นที่ตั้ง หมู่บ้านเต่า ซึ่งชาวบ้านเรียกว่า เต่าเพ็ก เป็นเต่าบก อาศัยอยูตามใต้ถุนบ้านและตามถนนหนทางในหมู่บ้าน  เป็นเต่าทีมีกระดองสีเหลืองแก่ปนน้ำตาล มีอยู่เป็นจำนวนมากในหมู่บ้านดังกล่าว
สถานที่สำคัญอีกแห่ง คือ ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาจังหวัดขอนแก่น  ที่อำเภอบ้านไผ่
ท้ายบทการเดินทางฉบับนี้  จึงขอย้อนกลับไปนอนรอการเดินทางต่อไปที่สำนักงานจังหวัดขอนแก่น				
8 สิงหาคม 2550 07:53 น.

การเดินทางของคุณธนบัตร บทที่ ๗

nidhi

ฉันเป็นชาวหออยู่กับป้าอ้วนได้เพียงวันเดียว ก็มีอันต้องระเห็จไปอยู่ในกระเป๋าคุณหมอชนบทลูกชายป้าอ้วนซึ่งกลับบ้านมาเยี่ยมแม่ตามกิจวัตรที่เคยทำเดือนละครั้ง
คราวนี้คุณหมอชนบทพกเงินที่ป้าอ้วนยัดเยียดให้ลูกชายนำกลับไปใช้จ่ายที่ต่างจังหวัด  เพราะถึงแม้คุณหมอชนบทจะเป็นแพทย์ในโรงพยาบาล แต่ก็เป็นเพียงโรงพยาบาลขนาดเล็กของทางราฃการ  จึงได้รับเงินเดือนเพียงเล็กน้อย ไม่อาจเทียบรายได้กับแพทย์ตามโรงพยาบาลเอกชนได้  และถึงแม้ตุณหมอชนบทจะเปิดคลินิกด้วย  รายได้ก็ยังไม่มีมากมายอะไรนัก เพราะประชาชนตามชนบทยังยากไร้อยู่อีกมาก  การหวังร่ำรวยจากการทำงานโรงพยาบาลและคลินิกที่ตั้งอยู่ในชนบทจึงเป็นเรื่องหวังไม่ได้และไม่ควรหวัง
คุณหมอชนบทเป็นคนรูปร่างสันทัด ผิวคล้ำสองสี ใส่แว่นตากรอบทอง  ท่าทางใจดี เปี่ยมอัธยาศัยอย่างเดียวกับป้าอ้วนผู้เป็นแม่  
วันที่คุณหมอชนบทเดินทางกลับไปปฏิบัติราชการ  คุณหมอนั่งรถบขส.ปรับอากาศเดินทางกลับจังหวัดขอนแก่น เพราะสะดวกสบายปลอดภัยกว่าการขับรถเอง  ทั้งนี้รถยนต์ที่คุณหมอชนบทใช้อยู่เป็นเพียงรถยนต์กลางเก่ากลางใหม่ขนาดเล็กไม่เหมาะสำหรับเดินทางไกลหรือข้ามจังหวัด
เมื่อกลับถึงบ้านบ้านพักในบริเวณโรงพยาบาล  คุณหมอชนบทก็อาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้าเข้านอนพักผ่อนก่อนจะไปทำงานตามภารกิจปกติประจำวัน  โดยตื่นนอนตั้งแต่เวลาประมาณ ๐๔.๓๐ นาฬิกา  ออกกำลังกายด้วยการเดินแกมวิ่งรอบโรงพยาบาล บางวันก็วิ่งไปที่ตลาดเช้าเพื่อซื้อปาท่องโก็กับกาแฟด้วย  เสร็จแล้วจึงกลับมาเปลี่ยนเครื่องแต่งกายเตรียมตัวไปเดินตรวจเยี่ยมไข้หรือคนไข้ อย่างที่หมอเรียกกันว่า ไปราวน์คนไข ประมาณ ๓๐ นาที  แล้วจึงกลับไปปฏิบัติภารกิจประจำวันในการตรวจรักษาคนไข้ทั่วไปที่มาพบแพทย์ที่โรงพยาบาล
คนไช้ที่มาขอรับการรักษาส่วนใหญ่จะเป็นคนไข้แผนกอายุรกรรมทั่วไป  ส่วนที่ต้องผ่าตัดหรือศัลยกรรมจะมีน้อยกว่า  แต่บางทีถ้าเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์แล้ว ความโกลาหลย่อมบังเกิดอย่างแน่นอน
ตกเย็นเวลาประมาณ ๑๗.๓๐นาฬิกา  คุณหมอชนบทจึงเดินทางไปยังคลินิกซึ่งร่วมทุนกับเพื่อนหมออีกสองคน กับมีพยาบาลอีกหนึ่งคนและผู้ช่วย ช่วยกันดูแลในการตรวจรักษา
อนึ่ง ตลอดระยะเวลา ๒๔ชั่วโมง  ถ้ามีการติดตามตัวโดยด่วน  คุณหมอชนบทก็ยังต้องไปปฏิบัติภารกิจในทันที ไม่ว่าจะเป็นเวลากลางวันหรือกลางคืน
คืนนี้เป็นกำหนดเวลาจ่ายเงินให้คุณพยาบาลและผู้ช่วยที่คลินิก  ฉันจึงต้องย้ายจากกระเป๋าคุณหมอไปอยู่ในกระปี๋คุณพยาบาลด้วยเหตุฉะนี้แล (อนุโลมจากกระเป๋ารถเมล์และกระปี๋รถเมล์สมัยก่อน)

้				
2 สิงหาคม 2550 12:44 น.

การเดินทางของคุณธนบัตร บทที่๖

nidhi

บทที่ ๖
การดำรงอยู่ของฉันที่ห้างพันธุ์ทิพย์คงต้องจบลงในวันนี้แล้ว  เพราะมีวัยรุ่นผู้หญิงคนหนึ่งมาเบิกเงินที่ตู้เอทืเอ็ม  เธอคนนี้หน้าตาอิดโรยเหมือนนอนไม่เต็มอิ่ม เบ้าตาลึกดูหมองคล้ำ รูปร่างผอมเกร็ง ใส่เสื้อสายเดี่ยวสวมกางเกงขาสั้นรัดรูป ผมกระเซิงเหมือนเพิ่งตื่นนอน  เธอมาพร้อมวัยรุ่นชายอีกคนหนึ่งซึ่งเดินโอบกอดเธอมาตลอดทางอย่างเปิดเผยแสดงออกถึงความเป็นเจ้าของเธออย่างเต็มที่
ฉันมารู้ทีหลังว่าเขาเป็นคู่รักกัน พ่อแม่อยู่ต่างจังหวัดทั้งคู่  ฝ่ายหญิงมาอยู่กับฝ่ายชายที่หอพักแห่งหนึ่งในละแวกนั้น  
วันนี้ที่มาเบิกเงินก็เพราะเพิ่งได้รับเงินจากทางบ้าน จึงต้องรีบมาเบิกเพื่อเอาไปชำระหน้ค่าของกินของใช้ต่างๆที่หอพักซึ่งค้างชำระเอาไว้  กับเก็บไว้ใช้จ่ายอีกส่วนหนึ่งด้วย  มิฉะนั้น ต่อไปจะติดค้างชำระไว้ก่อนไม่ได้อีก
ชีวิตของวัยรุ่นที่เข้ามาอยู่ในเมืองหลวงมักจะอยู่ในสภาพชักหน้าไม่ค่อยจะถึงหลังบ่อยๆอย่างนี้แหละ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าไม่รู้จักควบคุมดูแลเรื่องการใช้จ่ายให้ดีๆแล้วละก็ มักจะประสบปัญหาเงินไม่พอใช้หรือเงินขาดมืออยู่บ่อยๆ  ยิ่งอยู่ในวัยที่คบเพื่อนต่างเพศหรือคบเพื่อนที่ชอบเที่ยวรักสนุกด้วยแล้ว ค่าใช้จ่ายต่างๆก็ย่อมต้องสูงกว่าปกติอย่างมาก  
วัยรุ่นสมัยนี้กับสมัยก่อนไม่ค่อยจะแตกต่างกันเลย  คือเป็นวัยที่มักจะใจร้อน ทำอะไรประเภทหุนหันพลันแล่น ใจเร็วด่วนได้  ไม่ค่อยจะคิดอะไรให้รอบคอบก่อนที่จะลงมือทำงานทำการอะไรสักอย่าง  แต่วัยรุ่นก็เป็นวัยสดใสน่าอิจฉาสำหรับผู้ที่พ้นวัยดังกล่าวมาแล้ว  ถ้าย้อนเวลาได้ก็คงต้องมีคนอยากย้อนกลับไปเป็นวัยรุ่นอีกอย่างแน่นอน  วัยรุ่นได้เปรียบตรงที่ว่าอยู่ในวัยที่ร่างกายแข็งแรงกระฉับกระเฉงทำอะไรได้อย่างไม่รู้เหนื่อย  แต่วัยชราก็ยังเป็นผู้มีประสบการณ์สูง  ทำการสิ่งใดก็รอบคอบกว่า เหมือนที่ว่าขิงแก่ย่อมเผ็ดกว่า  
ชีวิตการเดินทางของฉันในวันนี้จึงต้องระเห็จจากตู้เอทีเอ็มไปอยู่ในลิ้นฃักเก็บเงินของร้านค้าในหอพัก  ซึ่งเจ้าของก็เป็นคนเดียวกันกับเจ้าของหอพักแห่งนี้นั่นเอง คื คุณลิ้นจี่  หรือที่เขาเรียกกันว่าป้าอ้วน  เพราะความที่แกมีรูปร่างอ้วนท้วนสมบูรณ์นั่นเอง  ป้าอ้วนปากร้ายแต่ใจดี ค่อนข้างอารีอารอบ เป็นคนมัธยัสถ์อดออแต่ก็ไม่ตระหนี่ถี่เหนียวแต่อย่างใด  คำที่มักจะเขียนตัวโตๆติดไว้ว่า  " จ่ายสด งดเชื่อ เบื่อทวง"  จึงไม่มีปรากฏในร้านค้าของป้าอ้วน  ตรงกันข้าม ป้าอ้วนเป็นนักการค้าผู้ชาญฉลาด ยอมให้ลูกหอผัดผ่อนชำระเงินค่าเช่าและค่าซื้อสินค้นต่างๆในร้านค้าประจำหอพักอย่างไม่เกรงกลังว่าจะถูกโกงแต่อย่างใด  ทั้งนี้อาจเป็นเพราะแกมีบารมีประจำตัวพอสมควร   และเป็นคนที่มีอัธยาศัยไมตรีอย่างดีเลิศนั่นเอง  จึงไม่เคยปรากฏว่าแกเคยถูกชักดาบมาก่อนเลย
ป้าอ้วนมีลูกฃายคนเดียว เป็นหมอชนบทประจำอยู่โรงพยาบาลสิบเตียง(โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชฯ)ที่อำเภอแวงน้อย จังหวัดขอนแก่น  ฐานะการเงินของแกก็อยู่ในฐานะมีอันจะกิน  ไม่ใช่แค่พอมีพอกิน  ถือเป็นพวกมั่งมี  ไม่ใช่มีมั่ง อดมั่งอย่างบางคน 
แต่ป้าอ้วนก็เข้าใจหัวอกคนทั่วไปเป็นอย่างดีโดยเฉพาะลูกหอทั้งหลายของแก
เพราะป้าอ้วนเป็นถึงลูกสาวคนเดียวของเจ้าของโรงสีข้าวขนาดใหญ่สมัยก่อนที่สองคลอง จังหวัดฉะเชิงเทรา  แต่งงานอยู่กินกับกรรมกรโรงสี พ่อของหมอชนบท  ซึ่งเสียชีวิตไปก่อนหน้านี้หลายปีแล้ว  อาศัยว่าสามีป้าอ้วนเป็นคนขยันขันแข็ง ทำงานชนิดหนักก็เอา เบาก็สู้  ฉะนั้นชั่วระยะเวลาไม่กี่ปีที่อยู่ด้วยกัน  แกจึงสามารถเปิดร้านขายของเบ็ดเตล็ดต่างๆ แล้วจึงได้ย้ายรกรากมาปักหลักฐานทำมาหากินในเขตกรุงเทพมหานคร  โดยใช้เงินที่เก็บหอมรอมริบมาสร้างหอพักและร้านค้าแห่งนี้ไว้เก็บกินแบบน้ำซึมบ่อทราย  ไม่ร่ำรวยทันทีทันใด  แต่ก็มีใช้จ่ายไม่เดือดร้อน  จนเดี๋ยวนี้แกก็เลยเหมือนคนประเภทผ้าขี้ริ้วห่อทอง  ฉันคงต้องศึกษาเอาไว้แล้วละ.				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟnidhi
Lovings  nidhi เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟnidhi
Lovings  nidhi เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟnidhi
Lovings  nidhi เลิฟ 0 คน
  nidhi
ไม่มีข้อความส่งถึงnidhi