17 พฤศจิกายน 2550 20:38 น.
nidhi
บทที่ ๒๙ สัมมนาวันสุดท้าย
ในที่สุดการสัมมนาสัญจรก็ดำเนินมาถึงวันสุดท้าย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเดินทางมาปิดการอบรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมากล่าวรายงานและสรุปการสัมมนากับผลที่คาดว่าจะได้รับว่าอย่างน้อยที่สุดก็เป็นการพัฒนาบุคลากรท้องถิ่นให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นและเป็นการขยายแนวร่วมผู้ปฏิบัติงานตามโครงการให้ขยายวงมากยิ่งขึ้น และหวังว่าผู้เข้าร่วมสัมมนาจะนำความรู้ความเข้าใจกับประสบการณ์ใหม่ๆที่ได้รับไปใช้ปรับปรุงยกระดับการทำงานในพื้นที่รับผิดชอบของตนได้อย่างมีประสิทธิผลสูงสุด และอวยพรให้ผู้เข้าร่วมอบรมสัมมนาทุกคนมีความเจริญก้าวหน้าในชีวิตและการทำงานสืบไป โดยขอให้ทุกคนอย่าละเลยนิ่งเฉยและให้หมั่นศึกษาเพิ่มเติมหาความรู้ต่างๆเพิ่มขึ้นอย่างสม่ำเสมอ ไม่หยุดนิ่งปล่อยเวลาให้ล่วงพ้นไปโดยเปล่าประโยชน์ ให้ทำตัวเสมือนเป็นต้นไม้แข็งแรงที่กำลังเจริญเติบโตงอกงามอยู่ คือถ้ายังงอกงามอยู่เขาก็เรียกว่าต้นไม้ แต่ถ้าหยุดงอกงามเมื่อใดก็จะกลับกลายเป็นเพียงไม้ที่รอวันเวลาผุพัง
ในการอบรมสัมมนาครั้งนี้ผู้เข้ารับการอบรมสัมมนาต่างก็ได้รับวุฒิบัตรและทำเนียบรุ่นเพื่อสะดวกในการติดต่อขยายผลตามโครงการอย่างต่อเนื่องได้ผลดีต่อๆไป จากนั้นปลัดบัญชาก็ได้ร่วมหารือกับคณะผู้เข้าร่วมอบรมเพื่อกำหนดการติดต่อพบปะสังสันทน์ครั้งต่อไปทุกๆ ๓ เดือน ซึ่งครั้งแรกจะนัดพบกันในวันเสาร์ที่ ๑๙ มกราคม ๒๕๕๑ สำหรับสถานที่นัดพบจะได้แจ้งเวียนให้ทราบต่อไป
คืนวันสุดท้ายของการสัมมนาหลังจากมีพิธีปิดการอบรมแล้ว ในค่ำวันนั้นคณะผู้จัดการสัมมนาก็ได้จัดเลี้ยงอำลาที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ พาส่องสัตว์(ใช้ไฟฉายส่องดูสัตว์ที่ออกหากินเวลากลางคืน) จากนั้นก็แยกย้ายกันกลับภูมิลำเนาซึ่งก็คือจังหวัดที่ส่งอบรมนั่นเอง
กลับจากการสัมมนาคราวนี้ปลัดบัญชาต้องเตรียมการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรซึ่งกำลังจะจัดให้มีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ ๒๓ ธันวาคม ๒๕๕๐
นับแต่นี้ต่อไปบทบาทคุณธนบัตรก็มีแต่จะเพิ่มมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ คุณธนบัตร ๕๐๐ บาท จึงขอยุติบทบาทเอาไว้ก่อนเพียงเท่านี้ บทต่อไปท่านจะได้พบกับบทบาทของคุณธนบัตรฉบับราคา ๑๐๐ บาท ซึ่งจะเริ่มบทบาทณ กรุงเทพมหานคร เมืองหลวงของประเทศไทย เป็นอันดับแรก
11 พฤศจิกายน 2550 13:46 น.
nidhi
บทที่ ๒๘ เยือนแผ่นดินพระนารายณ์และเมืองทหารบกในอดีต
ปลัดบัญชาเคยไปเที่ยวเมืองลพบุรีเมื่อ ๓๐ กว่าปีมาแล้ว สัญลักษณ์ที่บ่งบอกว่าเป็นเมืองลพบุรีในสมัยนั้นมีเพียงลิงที่ศาลพระกาฬกับพระปรางค์สามยอดเท่านั้น เมื่อปลัดบัญชาเดินทางพร้อมคณะสัมมนาสัญจรมาที่เมืองลพบุรีอีกครั้งในวันนี้มีหลายสิ่งหลายอย่างเปลี่ยนแปลงไป จากการที่ลพบุรีเป็นเมืองแห่งความหลากหลายและต่อเนื่องทางวัฒนธรรมที่ยาวนานกว่า ๓,๐๐๐ ปีนี่เอง ลพบุรีในปีพุทธศักราช ๒๕๕๐ จึงเป็นศูนย์รวมของวัฒนธรรมสมัยเก่าและสมัยใหม่รวมอยู่ด้วยกันอย่างผสมกลมกลืน เป็นเมืองที่ยังคงอุดมไปด้วยหลักฐานทางประวัติศาสตร์มากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ ซึ่งได้แก่
๑.การขุดพบโครงกระดูกมนุษย์พร้อมภาชนะดินเผา อายุระหว่าง ๓,๕๐๐-๔,๕๐๐ ปี ที่แหง่งโบราณคดีบ้านท่าแค
๒.การขุดพบโตรงกระดูกมนุษย์ยุคหินใหม่ อายุระหว่าง ๒,๗๐๐-๓,๔๐๐ ปี ที่บ้านโคกเจริญ
๓.การขุดพบโตรงกระดูกมนุษย์ยุคสำริดอายุระหว่าง ๒,๓๐๐-๒,๗๐๐ ปีที่ศูนย์การทหารปืนใหญ่
๔.ชุมชนธบราณสมัยทวารวดีซึ่งเจริญรุ่งเรืองทางวัฒนธรรมในดินแดนแห่งนี้มากว่าหนึ่งพันปีมาแล้ว ที่เมืองโบราณซับจำปา อำเภอท่าหลวง และเมืองโบราณดงมะรุม อำเภอโคกสำโรง
๕.การพบเหรียญเงินลายดุนรูปสัญลักษณ์ต่างๆตามคตินิยมอินเดียที่บ้านหลุมข้าว อำเภอโคกสำโรง
๖.พระปรางค์สามยอด,ศาลพระกาฬและปรางค์แขก ซึ่งเป็นศิลปกรรมของลพบุรีที่มีรูปร่างคล้ายคลึงศิลปะขอมหรือเขมร ซึ่งสร้างขึ้นเมื่อประมาณพุทธศตวรรษที่ ๑๕-๑๘
๗.หลักฐานพงศาวดารระบุว่าลพบุรีเป็นศูนย์กลางด้านศิลปวิทยาการในสมัยกรุงสุโขทัย โดยระบุว่าพ่อขุนรามคำแหงเคยเสด็จมาศึกษาเล่าเรียนที่เขาสมอคอนในปีพุทธศักราช ๑๗๘๘ และพ่อขุนงำเมืองราชโอรสเมืองพะเยาเคยเสด็จมาศึกษาที่เขาสมอคอนเช่นกันในปีพุทธศักราช ๑๗๙๗
๘.หลักฐานจากพงศาวดารระบุว่าสมเด็จพระราเมศวรได้ทรงครองเมืองลพบุรีซึ่งเป็นเมืองหน้าด่านที่สำคัญของอยุธยาทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือเมื่อปีพุทธศักราช ๑๘๙๓และเมื่อทรงสละราชสมบัติให้แก่ลูกหลวงพะงั่ว ก็เสด็จกลับมาครองเมืองลพบุรีตามเดิม รวมเวลาที่ครองเมืองลพบุรีเป็นเวลา ๓๘ ปี
๙.ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ได้ทรงโปรดเกล้าฯให้สร้างพระราชวังขึ้นเพื่อเป็นที่ประทับในปีพุทธศักราช ๒๒๐๙ เพราะเกรงภัยที่เกิดจากการล่าอาณานิคมขยายดินแดนของพวกเรือกำปั่นยุโรป และเสด็จมาประทับที่เมืองลพบุรีนาน ๘-๙ เดือน ณ พระนารายณ์ราชนิเวศน์ ซึ่งแบ่งพื้นที่เป็น ๓ เขต คือเขตพระราชฐานชั้นนอก ชั้นกลางและชั้นใน
เขตพระราชฐานชั้นนอก มี ๕ หลัง คือ
๑.อ่างเก็บน้ำหรือถังเก็บน้ำประปา เป็นที่กักเก็บน้ำใช้ภายในพระราชวัง ก่อด้วยอิฐฉาบปูนรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ผนังอิฐหนาเป็นพิเศษ เก็บน้ำที่ไหลจากอ่างซับเหล็กตามท่อดินเผามายังพระราชวัง เป็นฝีมือการก่อสร้างของวิศวกรชาวฝรั่งเศสและบาทหลวงชาวอิตาลี
๒.สิบสองท้องพระคลัง หรือพระคลังศุภรัตน์ สันนิษฐานว่าเป็นพระคลังเก็บสินค้าหรือสิ่งของเพื่อใช้ในราชการ และที่จะพระราชทานให้แก่ผู้ทำความดีความชอบ เช่นเสื้อผ้า ผ้าแพรพรรณ ดาบ ไม้ฝาง งาช้าง ดีบุก พริกไทยฯลฯ เป็นตึกแบบยุโรป ประตูหน้าต่างและช่องระบายลมใต้หลังคาเป็นรูปโค้งแหลม
๓.ตึกเลี้ยงรับรองแขกเมือง เป็นสถานที่เลี้ยงต้อนรับคณะทูตชาวต่างประเทศ ซึ่งในปี พ.ศ.๒๒๒๘ ได้ทรงพระราชทานเลี้ยงต้อนรับคณะราชทูตเชอร์วาเลีย เดอ โชมองต์ จากประเทศฝรั่งเศส
๔.ตึกพระเจ้าเหา สันนิษฐานว่าเป็นหอพระ ชื่อพระเจ้าเหา น่าจะหมายถึงพระพุทธรูปเก่าแก่ภายในตึกนี้ ซึ่ง ณ ตึกพระเจ้าเหานี่เองเป็นสถานที่ซึ่งสมเด็จพระเพทราชาทรงประกาศยึดอำนาจจากสมเด็จพระนารายณ์มหาราชเมื่อปีพุทธศักราช ๒๒๓๑
๕.โรงช้างหลวง
เขตพระราชฐานชั้นกลาง มี ๒ หลัง คือ
พระที่นั่งจันทรพิศาล และพระที่นั่งดุสิตสวรรค์ธัญญมหาปราสาท ส่วนหมู่พระที่นั่งพิมานมงกุฎ เพิ่งจะสร้างขึ้น
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวสำหรับเป็นที่ประทับ โดยทรงโปร ดเกล้าฯให้บูรณะเมืองลพบุรีในปีพุทธศักราช ๒๔๐๖ และสร้างหมู่พระที่นั่งพิมานมงกุฎขึ้นเป็นที่ประทับภายในพระราชวังของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ปัจจุบันจัดแสดงเป็นห้องเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวและศิลปะโบราณวัตถุสมัยต่างๆ
เขตพระราชฐานชั้นใน มีเพียงหลังเดียวคือพระที่นั่งสุทธาสวรรย์ ซึ่งสมเด็จพระนารายณ์มหาราชทรงเสด็จสวรรคต ณ พระที่นั่งพระองค์นี้เมื่อวันที่ ๑๑ กรกฎาคม พ.ศ.๒๒๓๑
ลพบุรีจึงเป็นเสมือนราชธานีแห่งที่ ๒ รองจากกรุงศรีอยุธยา
ลพบุรีเดิมเรียกว่า “ลวปุระ” หรือ “ละโว้”เป็นดินแดนทางภาคกลางที่เจริญรุ่งเรืองอย่างมากในสมัยทวารวดี จวบจนสมัยลพบุรี แล้วเข้าสู่สมัยกรุงศรีอยุธยาจนกระทั่งถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ โดยล่าสุดระหว่างปี พ.ศ.๒๓๙๔-๒๔๑๑ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว(รัชกาลที่ ๔)ทรงโปรดเกล้าฯให้บูรณะเมืองลพบุรีและสร้างหมู่พระที่นั่งพิมานมงกุฎขึ้นในพระราชวังของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช พร้อมกับหมู่ตึกพระประเทียบ แล้วพระราชทานนามว่า “พระนารายณ์ราชนิเวศน์” หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า วังนารายณ์ ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานหมู่พระที่นั่งพิมานมงกุฎเป็นศาลากลางจังหวัดลพบุรี เมื่อย้ายศาลากลางจังหวัดลพบุรีไปตั้งใหม่ที่อื่นแล้ว จึงจัดตั้งเป็น ลพบุรีพิพิธภัณฑสถาน เมื่อวันที่ ๑๑ ตุลาคม พ.ศ.๒๔๖๗ และประกาศเป็น “พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสมเด็จพระนารายณ์” ในปีพุทธศักราช ๒๕๐๔
นี่อาจเป็นสาเหตุประการหนึ่งที่หน้าศาลากลางจังหวัดลพบุรีหลังใหม่ในปัจจุบันมีพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว(พระปิยะมหาราช) ประทับยืนเป็นสง่าที่ลานหน้าศาลากลางจังหวัดลพบุรี พร้อมกับที่มีพระบรมราชานุสาวรีย์ของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ตั้งประดิษฐานอยู่กลางวงเวียนพระนารายณ์ซึ่งถือว่าเป็นเขตเมืองใหม่ ห่างจากเขตเมืองเก่าซึ่งเป็นที่ตั้งศาลพระกาฬและพระปรางค์สามยอด
ในเขตเมืองเก่าจึงเป็นที่ตั้งโบราณสถานและสถานที่ต่างๆซึ่งยังประกอบกิจกรรมต่างๆได้อย่างสะดวกสบายอยู่ อาทิ สถานีรถไฟ สถานีขนส่ง สถานที่ราชการและสถานประกอบการต่างๆ รวมถึงที่ตั้งของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานภาคกลางเขต ๗ ซึ่งตั้งอยู่ที่ถนนรอบพระธาตุ ตำบลท่าหิน อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรีด้วย
คำขวัญประจำจังหวัดลพบุรีมีว่า “วังนารายณ์คู่บ้าน ศาลพระกาฬคู่เมือง ปรางค์สามยอดลือเลื่อง เมืองแห่งดินสอพอง เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์เกริกก้อง แผ่นดินทองสมเด็จพระนารายณ์”
จบบทความตอนนี้ ณ ดินแดนพระนารายณ์ เพื่อกลับโรงแรมที่พักที่จังหวัดนครราชสีมา และเตรียมสรุปการสัมมนากับทำพิธีปิดการอบรมสัมมนาในบทต่อไป
10 พฤศจิกายน 2550 16:58 น.
nidhi
บทที่ ๒๗ ไปเมืองทหารม้า
เสร็จจากการไปเยือนเมืองปราสาทหินถิ่นภูเขาไฟแล้ว คณะสัมมนาสัญจรก็ได้เวลาเดินทางไปเยือนเมืองทหารม้าที่จังหวัดสระบุรีเป็นจังหวัดรองสุดท้ายของโครงการ
สระบุรีเป็นเมืองที่ตั้งขึ้นเมื่อประมาณปีพุทธศักราช ๒๐๙๒ ในสมัยสมเด็จพระมหาจักรพรรดิแห่งกรุงศรีอยุธยา โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้แบ่งพื้นที่เขตเมืองลพบุรีกับเมืองนครนายกบางส่วนมารวมกันตั้งเป็นเมืองสระบุรี โดยมีพระราชประสงค์ให้เป็นศูนย์ระดมพลเมืองในยามที่มีศึกสงคราม ที่ได้ชื่อว่า สระบุรี สันนิษฐานว่าทำเลที่ตั้งมีบึงอยู่ใกล้ คือบึงหนองโง้ง เมื่อตั้งเป็นเมืองจึงเอาคำว่า “สระ” มารวมกับ “บุรี” จึงกลายเป็นเมืองสระบุรี
สระบุรีแบ่งการปกครองเป็น ๑๓ อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง,หนองแซง,เสาไห้,บ้านหมอ,พระพุทธบาท,หนองโดน,แก่งคอย,มวกเหล็ก, วังม่วง,วิหารแดง,หนองแค,ดอนพุด และเฉลิมพระเกียรติ มีพื้นที่ทั้งสิ้นประมาณ ๓,๕๗๖ ตารางกิโลเมตร และเนื่องมาจากการเป็นเมืองชุมทางอยู่ใกล้กรุงเทพฯ และเป็นศูนย์รวมใจพุทธศาสนิกชน กับเป็นฐานผลิตอุตสาหกรรมที่สำคัญ ฉะนั้นคำขวัญประจำจังหวัดจึงค่อนข้างจะยืดยาวเป็นพิเศษว่า
“พระพุทธบาทสูงค่า เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ฐานผลิตอุตสาหกรรม เกษตรนำล้ำแหล่งท่องเที่ยว หนึ่งเดียวกะหรี่ปั๊บนมดี ประเพณีตักบาตรดอกไม้งาม เหลืองอร่ามทุ่งทานตะวัน ลือลั่นเมืองชุมทาง”
ซึ่งในความเห็นของคุณธนบัตร การบัญญัติคำขวัญยืดยาวมากๆไม่น่าสนใจเท่ากับการเลือกใช้ถ้อยคำกระทัดรัดได้ใจความ กระนั้นก็ดีคุณธนบัตรไม่บังอาจไปวิจารณ์เพิ่มเติมอีก เพราะนี่อาจเป็นการมองต่างมุม ต่างความคิดเห็น แต่มีจุดมุ่งหมายอย่างเดียวกัน เพียงแตกต่างวิธีการ แต่ก็ได้รับผลสุดท้ายอย่างเดียวกัน
สถานที่น่าสนใจ
อำเภอเมืองสระบุรี ได้แก่อุทยานแห่งชาติพระพุทธฉาย วัดพระพุทธฉาย ฟาร์มจระเข้และสวนสัตว์ พระพุทธนิรโรกันตรายชัยวัฒน์จตุรทิศ
อำเภอเฉลิมพระเกียรติ ได้แก่สวนพฤกษศาสตร์ภาคกลาง(พุแค) และถ้ำศรีวิไล
อำเภอเสาไห้ ได้แก่ เสาร้องไห้ในศาลนางตะเคียนทองที่วัดสูง, พระพุทธรูปทองคำที่วัดพระเยาว์, วัดเขาแก้ว
วรวิหาร , วัดพระเยาว์ บ้านเขาแก้ว เบญจสุทธิคงคา(น้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ได้จากแม่น้ำ ๕ สาย คือแม่น้ำเจ้าพระยา(จาก
จังหวัดอ่างทอง) แม่น้ำเพชรบุรี(จากจังหวัดเพชรบุรี) แม่น้ำราชบุรี(จากจังหวัดสมุทรสาคร) แม่น้ำบางปะกง(จากจังหวัดนครนายก) และแม่น้ำป่าสัก(จากจังหวัดสระบุรี) ที่ไหลผ่านบริเวณอำเภอเสาไห้ ใช้เป็นน้ำในพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยา โดยผ่านการทำพิธีพุทธาภิเษกที่วัดพระพุทธบาท ก่อนจะนำไปใช้ในพระราชพิธีพระบรมราชาภิเษก รวมถึงพิธีศักดิ์สิทธิ์ต่างๆในพระราชวัง , วัดสมุหประดิษฐาราม, วัดจันทบุรี และศูนย์การเรียนรู้ทอผ้าตำบลบ้านต้นตาล
อำเภอบ้านหมอ ได้แก่ถนนพระเจ้าทรงธรรม หรือถนนฝรั่งส่องกล้อง และทะเลบ้านหมอ
อำเภอพระพุทธบาท ได้แก่สำนักสงฆ์ถ้ำกระบอก, วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร, พิพิธภณฑสถานแห่งชาติพระพุทธบาท(วิหารหลวง), บ่อพรานล้างเนื้อ,พระตำหนักธารเกษม,ถ้ำเทพนิมิตธารทองแดง, ถ้ำนารายณ์ หรือถ้ำเขาวง,ตำหนักสระยอ และพระตำหนักท้ายพิกุล พระราชวังโบราณ
อำเภอแก่งคอย ได้แก่ถ้ำพระธาตุเจริญธรรมหรือถ้ำบ่อปลา, ผาเสด็จ,ถ้ำพระโพธิสัตว์,เขาพระพุทธบาทน้อย,พระบวรราชวังสีทา,ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและท่องเที่ยวเชิงนิเวศเจ็ดคด-โป่งก้อนเส้า, องค์การศาสนาเซไคคิวเซเคียวประจำประเทศไทย และการล่องแม่น้ำป่าสัก
อำเภอมวกเหล็ก ได้แก่น้ำตกเหวน้อย ,สวนรุกขชาติมวกเหล็ก และน้ำตกมวกเหล็ก, อุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย,น้ำตกซับเหว,ถ้ำดาวเขาแก้ว และองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.)
อำเภอวังม่วงได้แก่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์,อุโมงค์ต้นไม้และทุ่งทานตะวัน
อำเภอวิหารแดง ได้แก่เจดีย์พระคุณแม่
อำเภอหนองแค ได้แก่สวนนกธรรมชาติตำบลไผ่ต่ำ
นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวและกิจกรรมการท่องเที่ยวในพื้นที่ทหาร ได้แก่ พิพิธภัณฑ์ทหารม้า,การขี่ม้าเพื่อการท่องเที่ยว,รถถังโบราณ,สนามยิงปืนค่ายอดิศร,กิจกรรีมทางทหารต่างๆ,สวนสุขภาพเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ,ศูนย์กีฬากอล์ฟ,สระว่ายน้ำและยิมเนเซียม
เทศกาลงานประเพณี
ได้แก่งานโคนมแห่งชาติ,งานนมัสการรอยพระพุทธบาท,ประเพณีกำฟ้า,ประเพณีสงกรานต์สรงน้ำเสานางตะเคียนวัดสูง, ประเพณีตักบาตรดอกไม้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งดอกเข้าพรรษาซึ่งเป็นดอกไม้สีขาวมีเฉพาะทางขึ้นเขาที่จังหวัดสระบุรีเพียงแห่งเดียวเท่านั้น และการแข่งเรือยาวประเพณีลุ่มน้ำป่าสัก
สินค้าพื้นเมืองและของที่ระลึก
ได้แก่ผลิตภัณฑ์อาหารและนม,ผลิตภัณฑ์ผ้าทอพื้นเมือง, องุ่นไร้เมล็ดอำเภอมวกเหล็ก, ผักหวานป่า, กุนเชียงสมุนไพรเสริมไอโอดีน,หมูสวรรค์,หมูทุบ,หมูพะโล้,กระยาสารท,จักสานผักตบชวา,ผลิตภัณฑ์หินอ่อน,แชมพู,ครีมนวดผม,ครีมล้างหน้าสมุนไพร,เห็ดฟาง,น้ำปลาตราปลาสร้อย,มะม่วงหนองแซง,ดอกไม้ประดิษฐ์จากก้านกล้วย, เนื้อตากแห้ง,กะหรี่ปั๊บ,เซรามิกแก้วถักขึ้นรูปอำเภอหนองแค,นม อสค. อำเภอมวกเหล็ก,ข้าวซ้อมมืออำเภอเฉลิมพระเกีบรติ,ส้มเขียวหวานอำเภอวิหารแดง,ข้าวเสาไห้อำเภอเสาไห้,ไวน์ส้ม ตำบลหนองโรง อำเภอหนองแค
ส่วนกิจกรรมน่าสนใจประจำแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ได้แก่ การปีนหน้าผา-โรยตัว ที่วัดพระฉาย, เที่ยวถ้ำลุมพินีสวนหิน และพายเรือคายัคบริเวณน้ำตกเจ็ดสาวน้อย
กิจกรรมการท่องเที่ยวเมืองทหารม้า นอกจากการไหว้พระใกล้กรุงแล้ว ส่วนใหญ่จะเป็นการท่องเที่ยวเชิงเกษตรหรือเชิงนิเวศ ได้แก่การเที่ยวถ้ำ ปีนหน้าผา พายเรือ ชมทุ่งทานตะวัน เที่ยวน้ำตก แล้วคณะสัมมนาสัญจรก็ต้องรีบกลับที่พักที่จังหวัดนครราชสีมา ก่อนจะไปเที่ยวชมเมืองทหารบกที่จังหวัดลพบุรีเป็นลำดับสุดท้ายของโครงการ
10 พฤศจิกายน 2550 05:33 น.
nidhi
บทที่ ๒๖ ไปเมืองปราสาทหินถิ่นภูเขาไฟ
กลับจากเขมร คณะสัมมนาสัญจรก็ย้อนดูตัวเอง เพราะไปดูหนังดูละครมาแล้ว โดยเดินทางไปยังจังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งชื่อบอกว่าเป็นเมืองแห่งความริ่นรมย์ โดยบุรีรัมย์มีคำขวัญประจำจังหวัดว่า
“เมืองปราสาทหิน ถิ่นภูเขาไฟ ผ้าไหมสวย รวยวัฒนธรรม”
บุรีรัมย์เป็นเมืองแห่งปราสาทหิน ดินแดนแห่งอารยธรรมของขอมโบราณ มีการค้นพบหลักฐานทางโบราณคดีเกี่ยวกับการอยู่อาศัยของมนุษย์ในดินแดนแห่งนี้มาตั้งแต่ยุคสมัยก่อนประวัติศาสตร์ จนถึงสมัยทวารวดี พบปราสาทขอมน้อยใหญ่กว่า ๖๐ แห่งที่แสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองในครั้งอดีตกาล และยังพบแหล่งโบราณคดีที่สำคัญคือ เตาเผาภาชนะดินเผาสมัยขอมซึ่งมีอายุประมาณพุทธษตวรรษที่ ๑๕-๑๘ อีกด้วย
การเดินทางไปจังหวัดบุรีรัมย์นอกจากเส้นทางรถยนต์ รถโดยสารประจำทาง และรถไฟแล้ว ยังสามารถเดินทางด้วยเครื่องบิน ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.thaiairways.com
สถานที่น่าสนใจ
อำเภอเมือง ได้แก่ศูนย์วัฒนธรรมอีสานใต้ พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ปฐมกษัตริย์ราชวงศ์จักรี วนอุทยานเขากระโดง อ่างเก็บน้ำกระโดง อ่างเก็บน้ำห้วยตลาด และสวนนกบุรีรัมย์
อำเภอเฉลิมพระเกียรติ ได้แก่อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง และปราสาทหินพนมรุ้ง(พนมรุ้ง หรือ วนฺรุง เป็นภาษาเขมรแปลว่าภูเขาใหญ่ เป็นเทวสถานในศาสนาฮินดูลัทธิไศวนิกาย ตั้งแต่ประมาณพุทธศตวรรษที่ ๑๕ ครั้นปีพุทธศตวรรษที่ ๑๘ พระเจ้าชัยวรมันที่ ๗ แห่งราชอาณาจักรขอม ได้หันมานับถือศาสนาพุทธ ลัทธิมหายาน เทวสถานแห่งนี้จึงได้รับการดัดแปลงเป็นศาสนสถานในพุทธศาสนา
ทับหลังนารายณ์บรรทมสินธุ์ อันโด่งดังซึ่งแอ๊ด คาราบาวนำมาร้องเป็นเพลงว่า “เอาไมเคิล แจ๊กสันคืนไป เอาพระนารายณ์คืนมา” ก็มีที่มาจากทับหลังนารายณ์บรรทมสินธุ์แห่งปราสาทหินพนมรุ้ง ซึ่งถูกลักลอบนำไปไว้ที่พิพิธภัณฑ์ในประเทศสหรัฐอเมริกา จนกระทั่งได้กลับคืนถิ่นเดิมในที่สุดจนถึงทุกวันนี้
นอกจากนี้ ห่างจากปราสาทหินพนมรุ้งไปอีกประมาณ ๒๐ กิโลเมตร ยังเป็นที่ตั้งวัดเขาอังคารซึ่งอยู่บนเขาอังคารซึ่งเป็นภูเขาไฟที่ดับสนิทแล้ว ภายในวัดเคยมีการค้นพบโบราณสถานเก่าแก่และใบเสมาหินทรายสมัยทวารวดีหลายชิ้น ปัจจุบันเป็นวัดที่สวยงามใหญ่โตแห่งหนึ่งของบุรีรัมย์ มีการก่อสร้างโบสถ์ ศาลาและอาคารต่างๆเลียนแบบสถาปัตยกรรมสมัยต่างๆหลายรูปแบบ ภายในโบสถ์ยังมีภาพจิตรกรรมฝาผนังเรื่องราวพุทธชาดกเป็นภาษาอังกฤษด้วย
อำเภอนางรอง ได้แก่อ่างเก็บน้ำทุ่งแหลม
อำเภอประโคนชัย ได้แก่ปราสาทหินเมืองต่ำ มีลักษณะของศิลปะขอมแบบบาปวนซึ่งมีอายุราวพุทธศักราช ๑๕๐๘-๑๕๕๕ ปะปนอยู่ด้วย ภาพสลักส่วนใหญ่เป็นภาพเทพในศาสนาฮินดู จึงสันนิษฐานว่าปราสาทแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อประมาณพุทธศตวรรษที่ ๑๕-๑๗ เพื่อใช้เป็นศาสนสถานในศาสนาฮินดู, เขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำสนามบิน(แหล่งดูนกน้ำช่วงเดือนพฤศจิกายน-เมษายน)
อำเภอบ้านกรวด ได้แก่แหล่งหินตัดซึ่งเป็นแหล่งหินทรายที่คนสมัยขอมตัดหินเอาไปสร้างปราสาทต่างๆในเขตอีสานใต้(อีสานใต้ประกอบด้วยจังหวัดนครราชสีมา,สุรินทร์,บุรีรัมย์,ศรีสะเกษและอุบลราชธานี) , แหล่งเตาโบราณ(เตาสวายและเตานายเจียน) เครื่องปั้นดินเผาที่ขุดพบสามารถชมได้ที่ศูนย์วัฒนธรรมอีสานใต้มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ หรือที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพิมาย จังหวัดนครราชสีมา
อำเภอปะคำ ได้แก่ปราสาทวัดโคกงิ้ว เป็นโบราณสถานสมัยขอม ด้านหลังเป็นอโรคยาศาล หรือโรงพยาบาลสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ ๗
อำเภอโนนดินแดง ได้แก่อนุสาวรีย์เราสู้, เขื่อนลำนางรอง และปราสาทหนองหงส์
อำเภอสตึก ได้แก่พระพุทธรูปใหญ่(พระพุทธรูปปฏิมาสันตยาภิรมย์สตึกอุดมราษฎรนิมิตมนิน) เป็นพระยืนขนาดใหญ่อยู่ริมแม่น้ำมูล
อำเภอพุทไธสงได้แก่พระเจ้าใหญ่วัดหงษ์ เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ปางมารวิชัย ศิลปะลาว
อำเภอนาโพธิ์ ได้แก่หมู่บ้านทอผ้าไหมอำเภอนาโพธิ์
อำเภอบ้านใหม่ไชยพจน์ ได้แก่กู่สวนแตง (โบราณสถานแบบขอม) ประกอบด้วยปรางค์อิฐ ๓ องค์
เทศกาลงานประเพณี
ได้แก่งานประเพณีขึ้นเขาพนมรุ้ง, ประเพณีแข่งเรือยาวจังหวัดบุรีรัมย์ ที่อำเภอสตึก,งานมหกรรมว่าวอีสานบุรีรัมย์ที่สนามกีฬาอำเภอห้วยราช ในวันเสาร์-อาทิตย์แรกของเดือนธันวาคมของทุกปี, งานนมัสการพระเจ้าใหญ่วัดหงษ์(วัดศีรษะแรต) ที่อำเภอพุทไธสง, งานนมัสการพระพุทธบาทจำลองที่เขากระโดง
สินค้าพื้นเมืองและของที่ระลึก
ได้แก่ ผ้าไหมผ้าฝ้ายนาโพธิ์, หินทรายแกะสลัก,เครื่องจักสาน,ปลาจ่อมอำเภอประโคนชัย, ขาหมูอำเภอนางรอง, กุนเชียงและไก่ย่างอำเภอลำปลายมาศ, หัวผักกาดหวานอบน้ำผึ้งอำเภอกระสัง, กุ้งอำเภอสตึก และกระยาสารทอำเภอประโคนชัย
จากที่กล่าวแล้ว บุรีรัมย์เป็นเมืองแห่งปราสาทหิน เพราะพบปราสาทหินเก่าแก่ยุคขอมเรืองอำนาจจำนวนมากมายหลายแห่ง เป็นถิ่นภูเขาไฟในอดีตที่เขาอังคารซึ่งเป็นภูเขาไฟที่ดับสนิทแล้ว เป็นดินแดนที่ร่ำรวยวัฒนธรรมที่วิวัฒนาการมาถึงปัจจุบันสมัย เป็นแหล่งโบราณสถานและโบราณวัตถุสำคัญสืบเนื่องมาหลายยุคหลายสมัย เป็นแหล่งผลิตผ้าไหมผ้าฝ้ายที่งดงามที่อำเภอนาโพธิ์ เป็นแหล่งหินทรายแกะสลักที่มีชื่อเสียง และเป็นแหล่งกำเนิดตำนานทับหลังนารายณ์บรรทมสินธุ์ที่ลือเลื่องไปทั่วโลก
คณะสัมมนาสัญจรเดินทางไปถึงจังหวัดบุรีรัมย์ ก็เจาะจงไปขุดคุ้ยหาบรรยากาศมลังเมลืองสมัยโบราณที่เขาพนมรุ้ง แล้วจบลงที่การเที่ยวชมประเพณีแข่งเรือยาวที่อำเภอสตึก ซึ่งจัดในวันเสาร์-อาทิตย์แรกของเดือนพฤศจิกายนของทุกปีพอดี เสร็จการเดินทางก็กลับโรงแรมสีมาธานี จังหวัดนครราชสีมา เพื่อเตรียมเดินทางไปจังหวัดสระบุรีในวันรุ่งขึ้น
10 พฤศจิกายน 2550 05:31 น.
nidhi
บทที่ ๒๕ มุ่งสู่ชายแดนเขมร
ชายแดนเมืองบูรพา ป่างามตาน้ำตกสวย มากด้วยอารยธรรมโบราณ ย่านการค้าไทย-เขมร
สระแก้ว เป็นจังหวัดชายแดนด้านตะวันออกติดต่อกับประเทศกัมพูชาประชาธิปไตย เป็นจังหวัดลำดับที่ ๗๔ ของประเทศไทย โดยแยกออกจากจังหวัดปราจีนบุรีตั้งแต่วันที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๓๖ ซึ่งจะครบกำหนด ๑๔ ปีในวันที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๕๐ ที่จะมาถึง มีหลักฐานแสดงว่าสระแก้วเคยเป็นชุมชนสำคัญที่มีความเจริญรุ่งเรืองในยุคเจนละ-ทวารวดี พบหลักฐานบันทึกศักราชที่เก่าแก่ที่สุดเป็นจารึกอักษรปัลลวะ สร้างขึ้นราวปีพุทธศักราช ๑๑๘๐
สุดชายแดนอรัญประเทศจังหวัดสระแก้ว เป็นประตูเชื่อมต่อการคมนาคมและการท่องเที่ยวระหว่างประเทศไทยและกัมพูฃา โดยมีตลาดสินค้าราคาถูกและสินค้ามือสองจากนานาประเทศเพื่อนบ้าน ที่รู้จักกันดีในชื่อ ตลาดโรงเกลือ หรือตลาดชายแดนบ้านคลองลึก
สระแก้ว แบ่งการปกครองออกเป็น ๗ อำเภอ ๒ กิ่งอำเภอ คือ อำเภอเมือง,วัฒนานคร,อรัญประเทศ,ตาพระยา,เขาฉกรรจ์,วังน้ำเย็น และตลองหาด กับกิ่งอำเภอโคกสูงและวังสมบูรณ์
การเดินทางไปจังหวัดสระแก้ว สามารถเดินทางโดยรถยนต์,รถโดยสารประจำทางและรถไ ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.transport.co.th www’tat.or.th www.railway.co.th
สถานที่น่าสนใจ
อำเภอเมือง ได้แก่สระแก้ว สระขวัญ,ศาลหลักเมือง,อุทยานแห่งชาติปางสีดา,อ่งเก็บน้ำท่ากระบาก และน้ำตกท่ากระบาก
อำเภอเขาฉกรรจ์ ได้แก่ สวนรุกขชาติเขาฉกรรจ์,เขาฉกรรจฺ,วัดถ้ำเขาฉกรรจ์ และอ่างเก็บน้ำเขาสามสิบ
อำเภอวังน้ำเย็น ได้แก่หมู่บ้านหัตถกรรมจักสานล้อมเซรามิก,น้ำตกเขาตะกรุบ,โรงพยาบาลวังน้ำเย็น(โรงพยาบาลต้นแบบทางด้านการบำรุงบำบัดสุขภาพด้วยสมุนไพร)
กิ่งอำเภอวังสมบูรณ์ ได้แก่ สหกรณ์โคนมวังน้ำเย็น และน้ำตกเขาสิบห้าชั้น
อำเภอคลองหาด ได้แก่ สวนน้ำสาธารณะเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ
อำเภอวัฒนานคร ได้แก่ สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าช่องกล่ำบน,เขื่อนพระปรง,พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช และหลวงพ่อทองวัดสระแก้ว(พระนักพัฒนาและแพทย์แผนโบราณ),วัดนครธรรมและปราสาทบ้านน้อย
อำเภออรัญประเทศ ได้แก่ พระสยามเทวาธิราชจำลอง หน้าสภ.อ.อรัญประเทศ,วัดอนุบรรพต(เขาน้อย),โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช,ปราสาทเขาน้อยสีชมพู,ปราสาทเมืองไผ่,ตลาดโรงเกลือหรือตลาดชายแดนบ้านคลองลึก และประตูชัยอรัญประเทศ
กิ่งอำเภอโคกสูง ได้แก่ปราสาทสด๊กก๊อกธม(โบราณสถานตามลัทธิศาสนาฮินดู)
อำเภอตาพระยา ได้แก่ ละลุ(แพะเมืองผีแห่งใหม่),ปราสาทเขาโล้น,อุทยานแห่งชาติตาพระยา และอ่างเก็บน้ำห้วยยาง
เทศกาลงานประเพณี ได้แก่ งานสืบสานวัฒนธรรมเบื้องบูรพาและงานกาชาดจังหวัดสระแก้ว,งานวันสถาปนาจังหวัดสระแก้ว และงานวันก่อแก้วบานเบื้องบูรพา
สินค้าพื้นเมืองและของที่ระลึก ได้แก่ ข้าวหลาม,แคนตาลูป,ผ้าไหมบ้านหันทราย,เครื่องจักสาน,จักสานล้อมเซรามิก,ผลิตภัณฑ์ไม้,ชิงช้าโยก และที่แปลกคือ ไวน์อีโก่ย ซึ่งเป็นไวน์องุ่นสมุนไพรไทย (อีโก่ย คือองุ่นป่าเมืองไทย ซึ่งจะรับประทานได้ก็ต่อเมื่อผลแก่จัดเป็นสีน้ำตาลเข้ม รสชาติจะออกเปรี้ยวจัด มีวิตามินซีสูง)
เนื่องจากคณะสัมมนาสัญจรเป็นคณะข้าราชการระดับผู้บริหารระดับกลาง ฉะนั้นในการเดินทางไปจังหวัดสระแก้วในครั้งนี้จึงเจาะจงไปที่ตลาดชายแดนบ้านคลองลึก และเดินทางต่อเนื่องข้ามเขตแดนไปชมเมืองเขมรและชมปราสามนครวัด-นครธม แล้วไปกระชับสัมพันธ์ไทย-เขมร ตามคำเชิญของผู้ว่าราชการจังหวัดบันเตียนเมียนเจรยและจังหวัดเสียมราฐ โดยการประสานติดต่อของสถานทูตราชอาณาจักรกัมพูชาประเทศไทย ซึ่งได้รับการเลี้ยงต้อนรับในบรรยากาศอบอุ่นมิตรไมตรีเยี่ยงบ้านพี่เมืองน้อง