8 สิงหาคม 2550 07:53 น.
nidhi
ฉันเป็นชาวหออยู่กับป้าอ้วนได้เพียงวันเดียว ก็มีอันต้องระเห็จไปอยู่ในกระเป๋าคุณหมอชนบทลูกชายป้าอ้วนซึ่งกลับบ้านมาเยี่ยมแม่ตามกิจวัตรที่เคยทำเดือนละครั้ง
คราวนี้คุณหมอชนบทพกเงินที่ป้าอ้วนยัดเยียดให้ลูกชายนำกลับไปใช้จ่ายที่ต่างจังหวัด เพราะถึงแม้คุณหมอชนบทจะเป็นแพทย์ในโรงพยาบาล แต่ก็เป็นเพียงโรงพยาบาลขนาดเล็กของทางราฃการ จึงได้รับเงินเดือนเพียงเล็กน้อย ไม่อาจเทียบรายได้กับแพทย์ตามโรงพยาบาลเอกชนได้ และถึงแม้ตุณหมอชนบทจะเปิดคลินิกด้วย รายได้ก็ยังไม่มีมากมายอะไรนัก เพราะประชาชนตามชนบทยังยากไร้อยู่อีกมาก การหวังร่ำรวยจากการทำงานโรงพยาบาลและคลินิกที่ตั้งอยู่ในชนบทจึงเป็นเรื่องหวังไม่ได้และไม่ควรหวัง
คุณหมอชนบทเป็นคนรูปร่างสันทัด ผิวคล้ำสองสี ใส่แว่นตากรอบทอง ท่าทางใจดี เปี่ยมอัธยาศัยอย่างเดียวกับป้าอ้วนผู้เป็นแม่
วันที่คุณหมอชนบทเดินทางกลับไปปฏิบัติราชการ คุณหมอนั่งรถบขส.ปรับอากาศเดินทางกลับจังหวัดขอนแก่น เพราะสะดวกสบายปลอดภัยกว่าการขับรถเอง ทั้งนี้รถยนต์ที่คุณหมอชนบทใช้อยู่เป็นเพียงรถยนต์กลางเก่ากลางใหม่ขนาดเล็กไม่เหมาะสำหรับเดินทางไกลหรือข้ามจังหวัด
เมื่อกลับถึงบ้านบ้านพักในบริเวณโรงพยาบาล คุณหมอชนบทก็อาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้าเข้านอนพักผ่อนก่อนจะไปทำงานตามภารกิจปกติประจำวัน โดยตื่นนอนตั้งแต่เวลาประมาณ ๐๔.๓๐ นาฬิกา ออกกำลังกายด้วยการเดินแกมวิ่งรอบโรงพยาบาล บางวันก็วิ่งไปที่ตลาดเช้าเพื่อซื้อปาท่องโก็กับกาแฟด้วย เสร็จแล้วจึงกลับมาเปลี่ยนเครื่องแต่งกายเตรียมตัวไปเดินตรวจเยี่ยมไข้หรือคนไข้ อย่างที่หมอเรียกกันว่า ไปราวน์คนไข ประมาณ ๓๐ นาที แล้วจึงกลับไปปฏิบัติภารกิจประจำวันในการตรวจรักษาคนไข้ทั่วไปที่มาพบแพทย์ที่โรงพยาบาล
คนไช้ที่มาขอรับการรักษาส่วนใหญ่จะเป็นคนไข้แผนกอายุรกรรมทั่วไป ส่วนที่ต้องผ่าตัดหรือศัลยกรรมจะมีน้อยกว่า แต่บางทีถ้าเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์แล้ว ความโกลาหลย่อมบังเกิดอย่างแน่นอน
ตกเย็นเวลาประมาณ ๑๗.๓๐นาฬิกา คุณหมอชนบทจึงเดินทางไปยังคลินิกซึ่งร่วมทุนกับเพื่อนหมออีกสองคน กับมีพยาบาลอีกหนึ่งคนและผู้ช่วย ช่วยกันดูแลในการตรวจรักษา
อนึ่ง ตลอดระยะเวลา ๒๔ชั่วโมง ถ้ามีการติดตามตัวโดยด่วน คุณหมอชนบทก็ยังต้องไปปฏิบัติภารกิจในทันที ไม่ว่าจะเป็นเวลากลางวันหรือกลางคืน
คืนนี้เป็นกำหนดเวลาจ่ายเงินให้คุณพยาบาลและผู้ช่วยที่คลินิก ฉันจึงต้องย้ายจากกระเป๋าคุณหมอไปอยู่ในกระปี๋คุณพยาบาลด้วยเหตุฉะนี้แล (อนุโลมจากกระเป๋ารถเมล์และกระปี๋รถเมล์สมัยก่อน)
้
2 สิงหาคม 2550 12:44 น.
nidhi
บทที่ ๖
การดำรงอยู่ของฉันที่ห้างพันธุ์ทิพย์คงต้องจบลงในวันนี้แล้ว เพราะมีวัยรุ่นผู้หญิงคนหนึ่งมาเบิกเงินที่ตู้เอทืเอ็ม เธอคนนี้หน้าตาอิดโรยเหมือนนอนไม่เต็มอิ่ม เบ้าตาลึกดูหมองคล้ำ รูปร่างผอมเกร็ง ใส่เสื้อสายเดี่ยวสวมกางเกงขาสั้นรัดรูป ผมกระเซิงเหมือนเพิ่งตื่นนอน เธอมาพร้อมวัยรุ่นชายอีกคนหนึ่งซึ่งเดินโอบกอดเธอมาตลอดทางอย่างเปิดเผยแสดงออกถึงความเป็นเจ้าของเธออย่างเต็มที่
ฉันมารู้ทีหลังว่าเขาเป็นคู่รักกัน พ่อแม่อยู่ต่างจังหวัดทั้งคู่ ฝ่ายหญิงมาอยู่กับฝ่ายชายที่หอพักแห่งหนึ่งในละแวกนั้น
วันนี้ที่มาเบิกเงินก็เพราะเพิ่งได้รับเงินจากทางบ้าน จึงต้องรีบมาเบิกเพื่อเอาไปชำระหน้ค่าของกินของใช้ต่างๆที่หอพักซึ่งค้างชำระเอาไว้ กับเก็บไว้ใช้จ่ายอีกส่วนหนึ่งด้วย มิฉะนั้น ต่อไปจะติดค้างชำระไว้ก่อนไม่ได้อีก
ชีวิตของวัยรุ่นที่เข้ามาอยู่ในเมืองหลวงมักจะอยู่ในสภาพชักหน้าไม่ค่อยจะถึงหลังบ่อยๆอย่างนี้แหละ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าไม่รู้จักควบคุมดูแลเรื่องการใช้จ่ายให้ดีๆแล้วละก็ มักจะประสบปัญหาเงินไม่พอใช้หรือเงินขาดมืออยู่บ่อยๆ ยิ่งอยู่ในวัยที่คบเพื่อนต่างเพศหรือคบเพื่อนที่ชอบเที่ยวรักสนุกด้วยแล้ว ค่าใช้จ่ายต่างๆก็ย่อมต้องสูงกว่าปกติอย่างมาก
วัยรุ่นสมัยนี้กับสมัยก่อนไม่ค่อยจะแตกต่างกันเลย คือเป็นวัยที่มักจะใจร้อน ทำอะไรประเภทหุนหันพลันแล่น ใจเร็วด่วนได้ ไม่ค่อยจะคิดอะไรให้รอบคอบก่อนที่จะลงมือทำงานทำการอะไรสักอย่าง แต่วัยรุ่นก็เป็นวัยสดใสน่าอิจฉาสำหรับผู้ที่พ้นวัยดังกล่าวมาแล้ว ถ้าย้อนเวลาได้ก็คงต้องมีคนอยากย้อนกลับไปเป็นวัยรุ่นอีกอย่างแน่นอน วัยรุ่นได้เปรียบตรงที่ว่าอยู่ในวัยที่ร่างกายแข็งแรงกระฉับกระเฉงทำอะไรได้อย่างไม่รู้เหนื่อย แต่วัยชราก็ยังเป็นผู้มีประสบการณ์สูง ทำการสิ่งใดก็รอบคอบกว่า เหมือนที่ว่าขิงแก่ย่อมเผ็ดกว่า
ชีวิตการเดินทางของฉันในวันนี้จึงต้องระเห็จจากตู้เอทีเอ็มไปอยู่ในลิ้นฃักเก็บเงินของร้านค้าในหอพัก ซึ่งเจ้าของก็เป็นคนเดียวกันกับเจ้าของหอพักแห่งนี้นั่นเอง คื คุณลิ้นจี่ หรือที่เขาเรียกกันว่าป้าอ้วน เพราะความที่แกมีรูปร่างอ้วนท้วนสมบูรณ์นั่นเอง ป้าอ้วนปากร้ายแต่ใจดี ค่อนข้างอารีอารอบ เป็นคนมัธยัสถ์อดออแต่ก็ไม่ตระหนี่ถี่เหนียวแต่อย่างใด คำที่มักจะเขียนตัวโตๆติดไว้ว่า " จ่ายสด งดเชื่อ เบื่อทวง" จึงไม่มีปรากฏในร้านค้าของป้าอ้วน ตรงกันข้าม ป้าอ้วนเป็นนักการค้าผู้ชาญฉลาด ยอมให้ลูกหอผัดผ่อนชำระเงินค่าเช่าและค่าซื้อสินค้นต่างๆในร้านค้าประจำหอพักอย่างไม่เกรงกลังว่าจะถูกโกงแต่อย่างใด ทั้งนี้อาจเป็นเพราะแกมีบารมีประจำตัวพอสมควร และเป็นคนที่มีอัธยาศัยไมตรีอย่างดีเลิศนั่นเอง จึงไม่เคยปรากฏว่าแกเคยถูกชักดาบมาก่อนเลย
ป้าอ้วนมีลูกฃายคนเดียว เป็นหมอชนบทประจำอยู่โรงพยาบาลสิบเตียง(โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชฯ)ที่อำเภอแวงน้อย จังหวัดขอนแก่น ฐานะการเงินของแกก็อยู่ในฐานะมีอันจะกิน ไม่ใช่แค่พอมีพอกิน ถือเป็นพวกมั่งมี ไม่ใช่มีมั่ง อดมั่งอย่างบางคน
แต่ป้าอ้วนก็เข้าใจหัวอกคนทั่วไปเป็นอย่างดีโดยเฉพาะลูกหอทั้งหลายของแก
เพราะป้าอ้วนเป็นถึงลูกสาวคนเดียวของเจ้าของโรงสีข้าวขนาดใหญ่สมัยก่อนที่สองคลอง จังหวัดฉะเชิงเทรา แต่งงานอยู่กินกับกรรมกรโรงสี พ่อของหมอชนบท ซึ่งเสียชีวิตไปก่อนหน้านี้หลายปีแล้ว อาศัยว่าสามีป้าอ้วนเป็นคนขยันขันแข็ง ทำงานชนิดหนักก็เอา เบาก็สู้ ฉะนั้นชั่วระยะเวลาไม่กี่ปีที่อยู่ด้วยกัน แกจึงสามารถเปิดร้านขายของเบ็ดเตล็ดต่างๆ แล้วจึงได้ย้ายรกรากมาปักหลักฐานทำมาหากินในเขตกรุงเทพมหานคร โดยใช้เงินที่เก็บหอมรอมริบมาสร้างหอพักและร้านค้าแห่งนี้ไว้เก็บกินแบบน้ำซึมบ่อทราย ไม่ร่ำรวยทันทีทันใด แต่ก็มีใช้จ่ายไม่เดือดร้อน จนเดี๋ยวนี้แกก็เลยเหมือนคนประเภทผ้าขี้ริ้วห่อทอง ฉันคงต้องศึกษาเอาไว้แล้วละ.
19 มิถุนายน 2550 08:55 น.
nidhi
สังเกตว่าคนรุ่นปัจจุบันแทบจะไม่มีใครที่ไม่รู้จักอีเมล์หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งนี้เห็นจะเป็นเพราะความสะดวกรวดเร็วของมันซึ่งทำให้สามารถใช้ติดต่อสื่อสารกันได้กว้างไกลไปทั่วโลกในชั่วระยะเวลาสั้นๆเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น จึงสมควรแล้วที่เขาเรียกยุคสมัยนี้ว่าเป็นยุคโลกาภิวัตน์หรือยุคแห่งโลกที่ไร้พรมแดน
นี่คือข้อดีของจดหมายดังกล่าวที่เร็วทันใจ ประเภทเปิดปุ๊ปรู้ปั๊บ ยิ่งกว่าสโลแกนของสายการบินไทยที่ว่า "เพียงงีบเดียวก็ถึงแล้ว"เสียอีก ในด้านนี้จึงอาจกล่าวได้ว่าจดหมายชนิดนี้มีคุณอนันต์
แต่กระนั้นก็ดี ทุกสิ่งในโลกใบนี้ย่อมมีอยู่สองด้านเหมือนกับเหรียญบาทที่เราใช้กันเสมอ คือมีทั้งด้านหัวและก้อย มีทั้งดีและชั่ว มีมืดมีสว่าง มีกลางวันมีกลางคืน จดหมายอิเล็กทรอนิกส์หรืออีเมล์ก็เช่นเดียวกัน มีทั้งด้านดีและเลว มีประโยชน์และมีโทษ ในส่วนของข้อดีที่เด่นๆก็คือใช้ส่งข้อความและภาพถึงผู้รับที่อยู่ปลายทางไกลๆได้ในพริบตา
ข้อเสียของมันก็มีมากมายเช่นกัน เช่นอาจเกิดข้อขัดข้องในการจัดส่ง ต้องมีหรือต้องใช้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์และเครื่องมือสื่อสารราคาแพง หรืออาจเกิดความเสียหายโดยตรงอย่างรวดเร็วตั้งตัวไม่ติดอันเนื่องมาจากข้อความ รูปภาพหรือเนื้อหาของจดหมายซึ่งเป็นเรื่องของการหลอกลวง ฉ้อฉล ปิดบังข้อเท็จจริง หรือเป็นภัยต่อสวัสดิภาพและอนาคตของผู้เยาว์ทั้งหลาย ฯลฯ
อีเมล์หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ที่จัดว่าเป็นมหันตภัยร้ายแรงอย่างหนึ่งของสังคมไทย น่าจะเป็นอีเมล์ซึ่งใช้อุปกรณ์ต่อพ่วงจำพวกกล้องดิจิตอลที่นำมาติดตั้งประกอบการสนทนาติดต่อกันทางอินเตอร์เนต เพราะสามารถแพร่ภาพหรือข้อความที่ไม่เหมาะสม ภาพลามกอนาจาร ตลอดจนภาพหรือเรื่องราวต่างๆที่ยั่วยุอารมณ์ทางเพศ ซึ่งนำไปสู่ปัญหาสังคมหลายประการ รวมทั้งเป็นบ่อเกิดแห่งอาชญากรรมอีกด้วย
นอกจากนี้ยังมีกรณีหลอกลวงคนให้บอกรายละเอียดประวัติส่วนตัวและทรัพย์สินเงินฝากต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากผู้ที่มีบัตรเครดิตหรือที่เรียกกันว่าเงินพลาสติก หรือเงินตราอิเล็กทรอนิกส์ จากพวกมิจฉาชีพในต่างประเทศซึ่งจะแจ้งหลอกลวงมาทางอีเมล์ว่า ชื่ออีเมล์ของท่านถูกรางวัลลอตเตอรี่ต่างประเทศ เป็นเงินรางวัลหนึ่งล้านเหรียญยูโร เป็นต้น ขอให้ท่านแจ้งรายละเอียดชื่อและนามสกุลแท้จริง ที่อยู่ปัจจุบันและรายละเอียดประวัติส่วนตัวต่างๆของท่านส่งกลับไปให้ตัวแทนจัดส่งเงินรางวัลมาให้
ซึ่งผลของการให้รายละเอียดดังกล่าวนี้เอง เป็นเหตุให้กลุ่มมิจฉาชีพสามารถนำเอาไปใช้ประโยชน์ในการหลอกลวงเอาทรัพย์สินเงินทองจากผู้ถูกหลอกลวงได้โดยง่าย
จากกรณืที่กล่าวแล้วโดยสังเขป เราจะพบเห็นภัยอันตรายรูปแบบต่างๆอันเนื่องมาจากอีเมล์หรืทอจดหมายอิเล็กทรอนิกส์กันบ้างแล้ว
สำหรับวิธีป้องกันเหตุร้ายที่อาจเกิด จะต้องทำอย่างไรนั้น
อันดับแรก เราต้องมีสติ คือต้องรูระลึกว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ ยกตัวอย่างเช่น เรากำลังอ่านอีเมล์ที่แจ้งมาว่าเราถูกรางวัลลอตเตอรี่ต่างประเทศเป็นเงินหนึ่งล้านเหรียญ เราต้องถามตัวเองว่าเราไปซื้อหามาไว้หรือเปล่า ไม่มีอะไรที่ได้มาฟรีๆโดยไม่ได้ทำอะไรตอบแทน ดังนั้นหากเรามีลอตเตอรี่จริง และถูกรางวัล เราก็สามารถนำหลักฐานไปขอรับเงินรางวัลได้โดยไม่เกิดปัญหา แต่ในกรณีที่อยู่ดีดี วันดีคืนดีก็มีคนมาแจ้งว่าถูกลอตเตอรี่อย่างนี้ โดยที่เราไม่ได้ทำอะไรเลย แต่เพียงเพราะเขาบอกว่าได้ชื่ออีเมล์ของเราไปจากการสุ่มหาและถูกรางวัลใหญ่อย่างนี้ ก็ขอให้ลองคิดดูดีดีว่าแม้แต่การสุ่มเลือกชื่ออีเมล์ของเรา เขายังทำได้โดยง่ายดาย ฉะนั้นการจ่ายรางวัลโดยส่งกลับมาให้เราโดยตรงก็สมควรทำได้โดยง่ายเช่นเดียวกัน การสอบถามขอรายละเอียดต่างๆ ซึ่งเกี่ยวกับความลับด้านทรัพย์สินเงินฝากต่างๆ ถ้าเราด่วนตัดสินใจบอกรายละเอียดดังกล่าวไปโดยไม่ไตร่ตรองให้รอบคอบเสียก่อน อาจเป็นการบ่อนทำลายตัวเองโดยไม่รู้ตัว เพราะข้อมูลรายละเอียดที่พวกมิจฉาชีพได้ไปก็จะเอาไปใช้ไขความลับเป็นกุญแจถอดรหัสมุ่งหลอกลวงเอาทรัพย์สินเงินทองจากเราได้ง่ายๆ
วิธีป้องกันอันดับต่อไป คงไม่ต้องทำอะไรมากไปกว่า การที่เราต้องระมัดระวัง จะทำการสิ่งใดก็ต้องใช้ความระมัดระวังรอบคอบ ทำการีทุกสิ่งอย่างมีสติรู้ระลึกเสมอนั่นเอง.
3 มิถุนายน 2550 12:48 น.
nidhi
ใกล้จะค่ำแล้ว จากจุดที่ฉันอยู่ฉันมองเห็นผู้คนเดินกันพลุกพล่านตั้งแต่เช้าทั้งหญิงชายและเด็กหนุ่มสาว
นักเรียนนักศึกษารวมถึงคนที่ประกอบอาชีพการงานต่างๆ ธรรมดาที่ฉันจะได้เจอะเจอก็คงเพียงการปฏิบัติภารกิจประจำวันทั่วไป คือพวกที่ผ่านมาหรือแวะมาใช้บริการที่ห้างพันธุ์ทิพย์งามวงศ์วานก็คงจะได้แก่บรรดาพวกผู้คน
ที่แวะมาซื้อสินค้าเครื่องอุปโภคบริโภค แวะรับประทานอาหารหรือนัดพบ เพราะศูนย์การค้าทั้งหลายมักจะเป็นที่รวมของร้านค้า ธนาคาร ศูนย์อาหาร ร้านขายของเบ็ดเตล็ด เพื่อเป็นการประหยัดเวลาตามหลักของ one stop service นั่นเอง แต่วันนี้ที่ดูว่าคนพลุกพล่านมากผิดปกติก็เพราะเป็นวันที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัยกรณียุบพรรค
ตั้งแต่ตอนสายประมาณ ๐๙.๑๕ นาฬิกา ฉันได้ยินการอ่านคำวินิจฉัยกรณีของพรรคประชาธืปัตย์ซึ่งใช้เวลา ๔ ชั่วโมงเศษในการอ่านคำวินิจฉัย ผลคือยกคำร้องขอให้ยุบพรรคดังกล่าวเพราะยังรับฟังข้อเท็จจริงได้ไม่เพียงพอที่จะเชื่อว่าพรรคได้กระทำความผิดตามที่ถูกร้อง
ต่อมาตุลาการศาลรัฐธรรมนูญก็ได้อ่านคำวินิจฉัยกรณีของพรรคไทยรักไทย ซึ่งกว่าจะอ่านคำวินิจฉัยจบลงก็เป็นเวลาประมาณ ๒๓ นาฬิกาเศษ ซึ่งเป็นเวลาที่ห้างปิดทำการไปแล้ว
ถึงกระนั้นฉันก็ไม่ได้รับการกระทบกระเทือนจากการปิดทำการของห้างแต่อย่างใด เพราะฉันถูกนำไปบรรจุไว้อยู่ในตู้เอทีเอ็มที่ด้านหน้าห้างซึ่งอยู่ติดด้านหลังป้ายหยุดรถโดยสารประจำทาง
ฉะนั้นผู้คนจึงเดินผ่านไปมาพลุกพล่านตลอดทั้งกลางวันและกลางคืนรวมถึงผู้ที่เจาะจงมาใช้บริการเบิกถอนเงินตามตู้เอทีเอ็มที่มีอยู่เรียงรายนับสิบตู้
และแล้วเวลาที่อ่านคำวินิจฉัยเสร็จก็มาถึง ตุลาการวินิจฉัยให้ยุบพรรคไทยรักไทย และตัดสิทธิทางการเมืองของกรรมการผู้บริหารพรรคจำนวน ๑๑๑ คนเป็นเวลา ๕ ปี รวมทั้งพรรคเล็กอีก ๒ พรรคที่เกี่ยวข้อง ฉะนั้นการวินิจฉัยวันนี้จึงเป็นผลให้มีการยุบพรรคจำนวน ๔ พรรคด้วยกัน ซึ่งถือเป็นคดีประวัติศาสตร์
ผลการยุบพรรคก่อให้เกิดปัญหาโต้แย้งว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ถูกยุบด้วย กับวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่น่าจะมีผลย้อนหลังไปใช้บังคับ
บรรดาข้อโต้แย้งคัดค้านเหล่านี้ฉันได้แต่รับฟัง เพราะเป็นความเห็นในทางกฎหมาย ซึ่งมีได้หลายความเห็น แต่หลักการที่ฉันเคยได้ยินมาก็คือ ความยุติธรรมได้แก่ความเป็นธรรมอันยุติแล้วในแต่ละเรื่องแต่ละคดี ซึ่งขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานต่างๆตลอดจนข้อเท็จจริงที่ได้รับและวินิจฉัยในแต่ละเรื่องว่าควรจะเป็นอย่างไร
ผลของคดีที่เกิดขึ้นจึงมีทั้งสองด้านเสมอ คือที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่หลักการเฃ่นนี้เป็นหลักการที่อารยชนยอมรับกันทั่วโลกแล้วว่าน่าจะเป็นวิธีที่เหมาะสมแก่ยุคสมัยและเหตุการณ์ของสังคมแต่ละแห่งแล้ว
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกก็ได้มีพระราชดำรัสในเรื่องดังกล่าวไว้ตอนที่ตุลาการศาลปกครองเข้าเฝ้า
จึงนับว่าน่าจะเป็นวิธีการที่สังคมต้องยอมรับ เพราะเรามีสิทธิไม่เห็นด้วย แต่ขอให้ไม่เห็นด้วยในใจ การแสดงออกที่ปรากฎย่อมเป็นสิทธิของคนเราที่จะวิพากษ์วิจารณ์ แต่ด้องตั้งอยู่บนฐานแห่งเหตุผลเพียงพอด้วย บ้านเมืองจึงจะไม่วุ่นวายไร้ระเบียบ
29 พฤษภาคม 2550 23:53 น.
nidhi
การเดินทางของคุณธนบัตร
Nidhi
บทนำ
ธนบัตรเป็นเงินที่ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย ถ้าเปรียบธนบัตรเป็นคน ธนบัตรก็มีทั้งผู้หญิงและผู้ชาย แต่คุณสมบัติจำเพาะก็คือ ธนบัตรเป็นเงิน ซึ่งหมายความว่าสามารถเอาไปใช้ชำระหนี้ตามกฎหมายได้ จึงไม่สำคัญว่าธนบัตรจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ฉะนั้น ผู้เขียนจะขอเรียกธนบัตรเป็นกลางๆว่า คุณธนบัตร
คุณธนบัตรถือกำเนิดมาในโลกได้นานนับหลายศตวรรษแล้ว โดยเกิดมาไล่เลี่ยกับการที่คนโบราณคิดค้นวิธีทำกระดาษจากต้นปาปิรุสได้ ก่อนหน้าที่จะใช้กระดาษมาทำธนบัตร เงินตราที่ใช้แพร่หลายก็มักจะทำจากวัสดุธรรมชาติทั่วๆไป เช่น เปลือกหอยและโลหะต่างๆ การทำธนบัตรก็มีวิวัฒนาการมากมายแตกต่างกันไป คุณธนบัตรของเรามีกำเนิดในประเทศไทยเมื่อครั้งยังเป็นประเทศสยาม ต้นกำเนิดก็เกิดในดินแดนฝรั่งซึ่งเป็นผู้นำอารยธรรมในสมัยนั้น จนกระทั่งถึงยุคของธนบัตรไทยปัจจุบันก็ยังเพิ่งตั้งโรงพิมพ์ธนบัตรเองได้เมื่อไม่กี่สิบปีมานี้เอง เพราะก่อนหน้านี้ ประเทศไทยยังต้องจ้างบริษัทฝรั่งในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เป็นผู้พิมพ์ธนบัตรให้ ซึ่งผู้เขียนจักไม่กล่าวรายละเอียดในที่นี้แต่ประการใด หากผู้อ่านท่านใดสนใจ ก็สามารถดูรายละเอียดจากธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ ซึ่งก็มีพิพิธภัณฑ์ธนบัตรไทยโดยเฉพาะสำหรับผู้สนใจอยู่แล้ว
คุณธนบัตรเป็นรุ่นหลานรุ่นเหลนของธนบัตรไทยในยุคแรกๆ ซึ่งปัจจุบันได้ล้มหายตายจากไปเกือบหมดแล้ว ยังคงหลงเหลืออยู่บ้างน้อยนิดที่อยู่ในมือนักสะสมทั้งชาวไทยและต่างชาติ กับหลงเหลืออยู่ตามพิพิธภัณฑ์ต่างๆทั่วโลก คุณธนบัตรยุคล่าสุดในปัจจุบัน ไม่มีราคาต่ำกว่าฉบับละ ๑๐ บาท (สิบบาท) ต่างจากสมัยแรกๆซึ่งมีราคา ๑ บาทและ ต่ำกว่า ๑ บาทด้วย ปัจจุบันมีธนบัตรใช้แพร่หลายในการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าเครื่องอุปโภคและบริโภค ในราคาฉบับละ ๑๐ บาท,๒๐ บาท,๕๐ บาท,๑๐๐ บาท,๕๐๐ บาท และ ๑,๐๐๐ บาท นอกเหนือจากราคาดังกล่าว ส่วนใหญ่จะเป็นธนบัตรที่จัดพิมพ์ขึ้นในโอกาสพิเศษต่างๆ โดยจะมีข้อความและรูปภาพแตกต่างกันไป แต่ที่ปรากฏเสมอก็คือข้อความว่า "ธนบัตรเป็นเงินที่ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย" และที่เห็นเด่นชัดในธนบัตรรุ่นปัจจุบันก็คือ แถบสีเงินสะท้อนแสง ซึ่งพิมพ์พาดคาดอยู่ด้านซ้ายของธนบัตรด้านหน้าซึ่งมีไว้เพื่อป้องกันการปลอมแปลงธนบัตร แถบเงินดังกล่าวและภาพพระบรมฉายาทิสลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเมื่อนำไปส่องในแสงไฟจากหลอดไฟพิเศษก็จะปรากฏเห็นเด่นชัดเรืองรองแวววาวสวยงามจับตา
คุณธนบัตรตามเนื้อเรื่องของเราที่ผู้เขียนจะนำเสนอในตอนต่อไป เป็นธนบัตรราคาฉบับละ ๕๐๐ บาท(ห้าร้อยบาท) เพราะผู้เขียนต้องการจำกัดวงแพร่หลายการเดินทางของคุณธนบัตรให้แคบลงมาพอที่จะเกาะติดไปตามแต่ละสถานการณ์ได้ง่ายขึ้น
บทที่ ๑ กำเนิดคุณธนบัตร
ฉันรู้ตัวก็พบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่ในห้องมั่นคงของธนาคารชาติ(ธนาคารแห่งประเทศไทย) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว รอบตัวฉันล้วนแล้วแต่เป็นธนบัตรฉบับราคา ๕๐๐ บาทเป็นกองพะเนิน นอกนั้นก็เป็นฉบับละ ๒๐ บาท,๕๐ บาท,๑๐๐ บาทและ ๑,๐๐๐ บาท เรียงรายเป็นกองสูงลดหลั่นกันไป แต่ไม่เห็นธนบัตร ๑๐ บาท เพราะเดี๋ยวนี้เขาเอาหรียญกษาปณ์ชนิดราคา ๑๐ บาทออกมาใช้แทนในตลาดได้ระยะหนึ่งแล้ว ฉะนั้นจึงไม่มีการพิมพ์ธนบัตรราคาฉบับละ ๑๐ บาทเพิ่มเติมสำหรับใช้หมุนเวียนในตลาดอีกต่อไป จุดหมายปลายทางของธนบัตรฉบับราคา ๑๐ บาท จึงขึ้นอยู่กับชะตากรรมของตัวเองว่าไปตกอยู่กับใคร ในลักษณะไหน กล่าวคือ
๑.อาจชำรุดฉีกขาดหรือถูกทำลายให้ได้รับความเสียหายจนไม่สามารถใช้การได้อีกต่อไป
เช่น ถูกไฟไหม้เป็นเถ้าถ่าน ถูกน้ำหรือความเปียกชิ้นหรือเชื้อราทำลายจนเปื่อยยุ่ยใช้การไม่ได้
๒.ชำรุดฉีกขาดในสภาพที่สามารถซ่อมแซมได้ จะได้รับการซ่อมแซมไว้ใช้งานต่อ
๓.ชำรุดฉีกขาดไม่สามารถซ่อมแซมให้ใช้การได้เช่นธนบัตรทั่วไป แต่ยังมีมูลค่าราคาธนบัตรคงเหลือเต็มราคาหรือครึ่งราคา ก็สามารถนำไปแลกธนบัตรฉบับใหม่ตามมูลค่าราคาที่คงเหลือได้จากธนาคารแห่งประเทศไทย หรือคลังจังหวัด ซึ่งได้แก่การที่เขาเรียกกันว่าเก็บเข้าคลังนั่นแหละ
๔.นักสะสมหรือพิพิธภัณฑ์ต่างๆนำไปเก็บสะสมไว้
๕.คนที่ได้รับธนบัตรดังกล่าวไปไว้ในครอบครอง เก็บรักษาเอาไว้
๖.ธนบัตรสภาพเก่าจากการใช้งานจนชำรุดเปื่อยยุ่ยจะถูกเก็บเข้าคลังเพื่อรอการทำลายฯลฯ
ฉันเองก็เช่นเดียวกัน อาจตกไปอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ได้เสมอไม่วันใดก็วันหนึ่ง ซึ่งก็เป็นไปตามวิถีแห่งธรรมชาติของสรรพสิ่งทั้งหลายคือ มีเกิดก็มีดับ ฉันเองจึงต้องเตรียมตัวเตรียมใจไว้เสียแต่เนิ่นๆ ว่าอาจต้องเจอะต้องเจอทั้งคำพูดและการกระทำต่างๆนานา อาทิ อาจจะถูกเรียกว่า ไอ้ห้าร้อย..ละลาย อาจถูกหยิบไปลงเลขยันต์แล้วเอาไปตั้งไว้บนหิ้งบูชา อาจถูกเก็บใส่ถังฝังดินเก็บเอาไว้เป็นขุมทรัพย์ หรืออาจถูกฝังในถังส้วมพร้อมเจ้าของที่ถูกฆาตกรรม รวมทั้งอาจเป็นอีกหลายสิ่งหลายอย่าง เพราะอนิจจัง สังขารนั้นไม่เที่ยง แต่ที่ฉันฝันอยากจะเป็นในวาระสุดท้ายก็คือ อยากเป็นของชำร่วยที่ผลิตโดยธนาคารแห่งประเทศไทยซึ่งเล็งเห็นว่าการทำลายธนบัตรชำรุดต่างๆด้วยวิธีเผาไฟตามวิธีการอย่างดั้งเดิมนั้น ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์เท่าที่ควร จึงใช้วิธีย่อยสลายเป็นชิ้นเล็กๆแล้วบีบอัดเป็นก้อนวัสดุสำหรับนำไปใช้ประโยชน์ได้อีกหลายอย่างในรูปแบบต่างๆกัน เช่น ทำเป็นที่ทับกระดาษ ทำเฟอร์นิเจอร์ตุ๊กตา เป็นต้น
นี่ก็เป็นความใฝ่ฝันอย่างหนึ่ง ซึ่งอาจเรียกได้ว่าเป็นความฝันอันสูงสุดของฉันก็ว่าได้
บทที่ ๒ คุณธนบัตร ๕๐๐ บาท
ดังที่บอกแล้วว่าฉันเป็นธนบัตร ๕๐๐ บาท รูปลักษณะของฉันเป็นอย่างไรนั้น เชื่อว่าคนบางคนยังไม่เคยเห็น หรืออาจจะเคยเห็นมาบ้างแล้ว แต่ไม่เคยมีโอกาสได้ครอบครองเป็นเจ้าของฉันมาก่อนเลย นี่จะเป็นเพราะความยากจนด้อยโอกาสหรือเป็นเพราะเหตุใดนั้น ฉันไม่บังอาจขอวิจารณ์แต่อย่างใด กระนั้นก็ดีฉันใคร่ขอถือโอกาสนี้บรรยายภาพลักษณ์ของฉันเพื่อให้ท่านผู้อ่านได้รู้จักฉันได้ดีขึ้นดังต่อไปนี้
ด้านหน้าของฉันจะมีพระบรมฉายาทิสลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในชุดฉลองพระองค์เต็มยศ คอปกตั้งกลัดสัญลักษณ์พระคทาไขว้ สวมฉลองพระเนตร(แว่นตา)
พื้นธนบัตรเป็นสีออกม่วง ที่ชาวบ้านทั่วไปเขาเรียกธนบัตรชนิดราคานี้มาแต่ดั้งเดิมว่าแบงก์ม่วง และเนื่องจากธนบัตรสมัยก่อนจะมีรูปช้างเผือกสัญลักษณ์คู่เมืองไทยอยู่ด้วย เขาจึงมักจะเรียกกันอย่างรู้กันทั่วว่า ธนบัตรแต่ละฉบับ ก็คือ ๑ เชือก และกำหนดชนิดของธนบัตรตามสี เช่นธนบัตร ๕๐๐ บาท เรียก ช้างม่วง ธนบัตร ๑๐๐ บาท เรียกช้างแดง ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ ฉันจะเล่าให้ฟังในโอกาสต่อไป
มาว่าเรื่องรูปลักษณ์ของฉันที่ปรากฏในปัจจุบันต่อดีกว่า มุมซ้ายบนของฉันด้านหน้าธนบัตรจะเป็นตราครุฑขนาด ๑ ซม. มีแถบสีเงินแวววาวพิมพ์ตราสัญลักษณ์พระราชลัญจกร ภปร พิมพ์คาดทับปีกครุฑลงมาสุดด้านล่าง และมีตัวเลขไทย ๕๐๐ มุมบนด้านขวามือเป็นอักษรอาระบิก 500 พิมพ์หมึกเขียวด้วยวิธีการพิเศษ ซึ่งต้องใช้วิธีเอียงธนบัตรส่องดูจะเห็นเป็นสีเขียวและเมื่อเอียงออกไปอีกมุมหนึ่งจะเห็นเป็นสีม่วงเข้มเกือบดำสลับสีกัน นอกจากนี้ยังมีเทคนิคการพิมพ์เลขอาระบิก 500 ตัวจิ๋วจำนวนมากติดต่อกัน ลงบนตัวเลขไทย ๕๐๐ บนพื้นที่ช่องว่างของพื้นที่ตัวเลขแต่ละหลักไว้ด้วย ซึ่งต้องใช้วิธีส่องกล้องหรือใช้เลนส์ขยายดูจึงจะเห็นได้ชัด กับมีเลขหมวดอักษรไทยและตัวเลขไทยพิมพ์ไว้ที่มุมบนด้านซ้ายถัดจากเลขบอกชนิดราคาธนบัตร ส่วนมุมขวาด้านล่างเป็นเลขอาระบิกและอักษรอังกฤษระบุเลขและหมวดหมู่ธนบัตร กับสิ่งที่ขาดไม่ได้ คือคำว่า รัฐบาลไทย พร้อมลายเซ็นประจำตำแหน่งของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กับผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย และคำว่า "ธนบัตรเป็นเงินที่ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย" กับอักษรระบุราคา ห้าร้อยบาท แล้วยังรวมถึงตราพระราชลัญจกรประจำรัชกาล (ตราภปร ) ทั้งนี้ยังไม่รวมถึงลวดลายรูปแบบอย่างอื่นของธนบัตรด้วย คิดแล้วก็น่าฉงนมากว่าเขาสามารถบรรจุรายละเอียดตั้งเยอะแยะเหล่านี้ลงไปบนกระดาษแผ่นเล็กๆอย่างธนบัตรได้อย่างไรถึงขนาดนี้
สำหรับด้านหลังธนบัตร นอกจากมีตัวเลขไทยและอาระบิกบ่งบอกชนิดราคาธนบัตรแล้ว ที่มองเห็นเด่นเป็นสง่าก็คือ ภาพพระบรมฉายาทิสลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว(รัชกาลที่๓) ประทับนั่งบนพระเก้าอี้ พระหัตถ์ซ้ายกุมพระแสงดาบ ด้านซ้ายของพระบรมฉายาทิสลักษณ์เป็นรูปโลหะปราสาท ที่วัดราชนัดดาวรวิหารที่อยู่ตรงข้ามป้อมมหากาฬ ถนนราชดำเนิน (เดิมสถานที่บริเวณนี้เป็นที่ตั้งของโรงภาพยนตร์เฉลิมไทย แต่ปัจจุบันเป็นที่ตั้งพระบรมราชานุสาวรีย์ของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
สร้างให้เห็นมองเด่นเป็นสง่าเวลาที่เรารับแขกบ้านต่างเมืองกัน ก็จะมีพิธีมอบกุญแจเมือง ก็บริเวณนี้แหละ เดี๋ยวนี้จุดตรงข้ามป้อมมหากาฬดังกล่าวซึ่งมองไปแล้วเห็นโลหะปราสาท วัดราชนัดดาฯที่ด้านหลังนี้เขาเรียกว่า ลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์)
ส่วนด้านขวาตอนมุมบน เป็นตราครุฑ ถัดตรงลงมาเป็นรูปเรือสำเภาแล่นใบกลางคลื่นทะเลสวย กับถัดลงมาเป็นพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า พ.ศ๒๓๓๐-๒๓๙๔ ว่า
การงานสิ่งใดของเขาที่ดี
ควรจะเรียนร่ำเอาไว้ก็เอาอย่างเขา
แต่อย่าให้นับถือเลื่อมใสไปทีเดียว
เมื่อกล่าวถึงภาพรวมที่ปรากฏบนด้านหลังธนบัตร ๕๐๐ บาท จะเห็นได้ว่าเป็นการรำลึกถึงพระบารมีของรัชกาลที่ ๓ ซึ่งทรงโปรดเกล้าฯสนับสนุนการค้าต่างประเทศ ซึ่งสมัยนั้นใช้เรือสำเภาแต่งสินค้าออกไปค้าขาย ขากลับก็จะเอาเครื่องลายคราม อับเฉา ปูนปั้นต่างๆ และสินค้าเครื่องเทศ กับสินค้าเครื่องประดับจำพวกหินหยก ต่างๆเข้ามาเมืองไทยด้วย จึงนับเป็นพระราชกฤษฎานุภาพประการหนึ่งของในหลวงพระองค์นี้
สำหรับท่านที่ไม่เคยเห็นเรือสำเภาว่าหน้าตาเป็นอย่างไร ก็สามารถไปชมดูได้ที่วัดยานนาวา ที่เขตยานนาวา เพราะมีการจำลองเรือสำเภาสร้างเอาไว้ให้คนรุ่นหลังได้ดู
บรรดาที่กล่าวมาข้างต้นทั้งหมดนี้ นับว่าน่าจะเป็นการบรรยายภาพลักษณ์ของฉันที่ปรากฏบนธนบัตร๕๐๐ บาทได้อย่างเพียงพอตามสมควรแล้ว หากจะพิศดูรายละเอียดเพิ่มเติมมากกว่านี้ก็คงจะต้องเอาธนบัตร๕๐๐ มาดูก็จะเห็นรายละเอียดพิสดารที่ยังมิได้กล่าวอีกมาก เมื่อทราบความเป็นมาของภาพสัญลักษณ์ต่างๆที่ปรากฏบนแผ่นธนบัตรแล้ว น่าภูมิใจที่เราเกิดมาเป็นคนไทยอยู่ภายใต้พระบรมโพธิสมภารของพระมหากษัตริย์
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลมหาราช
บทที่ ๓ คุณธนบัตร ๕๐๐ บาท เริ่มเดินทาง
วันนี้เป็นวันแรกที่ฉันถูกปลุกให้ตื่นจากการหลับใหลอันยาวนานภายในห้องมั่นคงของธนาคารแห่งประเทศไทย โดยเจ้าหน้าที่ธนาคารแห่งประเทศไทยไปเบิกตัวฉันเพื่อส่งมอบให้พนักงานธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารแห่งนี้เป็นธนาคารเก่าแก่อันดับหนึ่งของเมืองไทย เดิมมีชื่อว่า แบงก์สยามกัมมาจลน์ ความจริงแล้วธุรกิจของธนาคารพาณิชย์ก็คือ ธุรกิจในอันที่จะมุ่งแสวงหาผลกำไรให้องค์กรของตน เหมือนกับบริษัทที่ประกอบกิจการค้าโดยทั่วไปนั่นเอง เพียงแต่มีกฎหมายรับรองให้สามารถใช้ชื่อประกอบการค้าได้โดยไม่จำเป็นต้องระบุคำว่า บริษัท ไว้หน้าชื่อกิจการของตน ฉะนั้น ไม่ใช่สิ่งน่าแปลกใจอย่างใดเลย เมื่ออยู่มาวันหนึ่งในอดีตที่เพิ่งผ่านพ้น ธนาคารหลายแห่งของเมืองไทยต้องประสบกับภาวะขาดทุนจนต้องปิดกิจการไปในที่สุด และในทุกวันนี้ก็ปรากฏว่ามีธนาคารและสถาบันการเงินต่างๆทั้งของไทยเองและต่างชาติ ผุดขึ้นมาใหม่ราวกับดอกเห็ด ซึ่งแสดงให้เห็นถึงอุปนิสัยของคนเมืองกรุงที่นิยมของแปลกใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคสมัยของการต่อสู้แย่งชิงผลประโยชน์ในรูปเงินพลาสติกหรือเงินตราอิเล็กทรอนิกส์ ที่เข้ามามีบทบาทอย่างมากในสังคมไทยยุคที่เรียกกันว่า โลกาภิวัตน์ เพราะถ้าจะมองกันให้ละเอียดแล้ว ก็คงจะสามารถจำแนกบุคคลเหล่านี้ได้เป็น ๒ กลุ่ม คือ กลุ่มผู้ได้ประโยชน์ และกลุ่มผู้สูญเสียผลประโยชน์ รวมถึงกลุ่มผลประโยชน์อื่นที่มีอยู่ดาดดื่นในเมืองไทยด้วย แต่นี่ก็ไม่ใช่กิจธุระของฉันที่จะบังอาจเข้าไปยุ่งเกี่ยววิพากษ์วิจารณ์ด้วย ภารกิจเฉพาะหน้าที่สำคัญอย่างแรกและเป็นอย่างเดียวกับเหตุผลที่คนเขาสร้างฉันขึ้นมา ก็คือ เพื่อให้เป็นเงินตราซึ่งสามารถใช้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย หน้าที่ของฉันตอนนี้ก็คือ ติดตามไปกับพนักงานธนาคารไทยพาณิชย์เพื่อปฏิบัติภารกิจของฉันให้ได้รับประโยชน์สูงสุด ฉันจึงติดตามไปในรถขนเงินของธนาคารดังกล่าว ซึ่งได้นำฉันไปยังสำนักงานใหญ่ของธนาคารที่ตั้งอยู่ที่เอส.ซี.บี.ปาร์ค สี่แยกรัชวิภา ถนนวิภาวดีรังสิต คราวนี้ฉันจะได้ออกไปปฏิบัติงานภาคสนามจริงๆกับเขาเสียที
คืนแรกฉันนอนค้างในห้องมหาสมบัติของธนาคาร เพื่อรอให้พนักงานของธนาคารเบิกไปปฏิบัติภารกิจด้านการเงินอันเป็นความสามารถเฉพาะทางที่วิเศษสุดเพียงอย่างเดียวของฉัน คืนนั้นฉันรู้สึกกระสับกระส่ายกระวนกระวายอยากรู้จนแทบจะนอนไม่หลับว่า พรุ่งนี้หรือเปล่าหนอที่เขาจะให้ฉันออกไปทำงาน ฉันจะได้ไปกับใคร เมื่อไหร่ ที่ไหน ภารกิจของฉันจะสำเร็จไหม จะพบอุปสรรคอย่างใดหรือไม่ การปฏิบัติภารกิจการงานของฉันจะทำให้ใครเดือดร้อนหรือเปล่า จะนำมาซึ่งความยินดีปลาบปลื้มในความสำเร็จสมหวัง หรือนำมาซึ่งความเศร้าโศกเสียใจจากการพลัดพรากสูญเสียหรือไม่ ฉันจะเป็นเครื่องมือของคนดีหรือคนชั่วหรือเปล่า เหล่านี้ทั้งหลายฉันก็ได้แต่คิดและเป็นห่วงวิตกกังวลไปต่างๆนานา แต่เมื่อถึงเวลานั้นเข้าจริงๆแล้ว ฉันคงไม่อาจปฏิเสธภารกิจเหล่านั้นได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีงามหรือเรื่องเลวร้ายชั่วช้าก็ตาม เพราะฉันถูกสร้างขึ้นมาให้ทำหน้าที่นี้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ไม่มีสิทธิปฏิเสธ ยินดีหรือไม่ยินดีที่จะกระทำภารกิจ ฉันไม่มีทางเลือกจริงๆ
บทที่ ๔ ถูกส่งไปอยู่ในตู้เอทีเอ็ม
สายวันนี้พนักงานธนาคารไทยพาณิชย์สำนักงานใหญ่ ได้มาขอเบิกธนบัตรชนิดราคา ๑๐๐ บาท ๕๐๐ บาท และ ๑,๐๐๐ บาท เพื่อไปเติมเงินตามตู้เอททีเอ็มที่ส่งสัญญาณแจ้งให้ทราบว่าเงินที่บรรจุไว้ในกล่องเหล็กภายในตู้มีไม่เพียงพอให้เบิกหรือร่อยหรอลงไปมากแล้ว พนักงานผู้ที่มีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบจึงต้องรีบดำเนินการขอเบิกกล่องที่บรรจุเงินธนบัตรทั้ง ๓ ชนิดราคานี้ไปบรรจุไว้ตามตู้เอทีเอ็มดังกล่าวต่อไป
ตู้เอทีเอ็มที่ว่านี้บางคนอาจสงสัยว่ามันคืออะไร เพราะบางคนเดินผ่านมันทุกวันแต่ไม่รู้ไม่สนใจว่ามันคืออะไร มีเอาไว้ทำไม บางคนอาจจะทราบว่ามันคืออะไร แต่ใช้ไม่เป็น ไม่เคยใช้ ไม่รู้จักวิธีใช้ รวมถึงคนบางคนยังกลัวไม่กล้าใช้ก็ยังมี
ตู้เอทีเอ็มก็คือตู้บรรจุเงินสำหรับให้ลูกค้าธนาคารที่มีบัญชีเงินฝากหรือมีสัญญากู้ยืมเงินผ่านบัตรเครดิตสามารถถอนเงินตามวงเงินที่ได้รับอนุญาตผ่านระบบคอมพิวเตอร์และเครื่องมือสื่อสารได้ด้วยตนเองตลอดระยะเวลาที่กำหนดกันไว้จากตู้เบิกถอนเงินอัตโนมัติได้โดยไม่ต้องมีเจ้าหน้าที่ธนาคารไปดูแลควบคุมและให้บริการดังกล่าว
เอทีเอ็ม เป็นคำย่อมาจากภาษาอังกฤษว่า Automatic Teller Machine หมายถึงเครื่องเบิกถอนหรือฝากเงินอัตโนมัติ หรือหากจะแปลตรงๆก็หมายถึงเครื่องมือที่เอาไว้ใช้บอกสั่งให้ทำการตามที่ต้องการ เหมือนกับการที่เราไปดำเนินการด้วยตนเองในธนาคาร เช่นการเบิกถอนหรือฝากเงิน โอนเงิน ชำระค่าสาธารณูปโภค เป็นต้น
สำหรับธนบัตรที่บรรจุไว้ในตู้เอทีเอ็ม จะมีเพียง ๓ ชนิดราคาเท่านั้น คือชนิดราคา ๑๐๐ บาท ๕๐๐ บาท และ ๑,๐๐๐ บาท ไม่มีธนบัตรชนิดราคาอื่น และไม่มีเหรียญกษาปณ์ทุกชนิดราคา เพราะปัญหาเกี่ยวกับการทำกล่องภาฃนะบรรจุ และปัญหาทางด้านเทคนิคบางประการ
โดยปกติ การถอนเงินหรือฝากเงินผ่านตู้เอทีเอ็มจึงระบุขั้นต่ำไว้ว่าต้องไม่ต่ำกว่า ๑๐๐ บาท และต้องไม่มีเศษต่ำกว่า ๑๐๐ บาท ส่วนการโอนเงินระหว่างบัญชีหรือการชำระค่า
สาธารณูปโภคด้วยวิธีตัดเงินจากบัญชีนั้นสามารถกระทำได้แม้เป็นเศษสตางค์
ตู้เอทีเอ็มที่เจ้าหน้าที่ธนาคารพาฉันไปบรรจุอยู่ที่ด้านหน้าศูนย์การค้าห้างพันธุ์ทิพย์พลาซ่างามวงศ์วาน ซึ่งมีธนาคารไทยพาณิชย์สาขาย่อยตั้งอยู่บนชั้น ๒ ของอาคารดังกล่าวด้วย
หากท่านผู้อ่านสังเกตดู จะพบว่าปัจจุบันธนาคารและสถาบันการเงินต่างๆมักจะไปเปิดดำเนินการให้บริการอยู่ภายในห้างสรรพสินค้าหรือศูนย์การค้าใหญ่ๆกันทั้งนั้น
โดยที่สามารถเปิดทำการตามวันเวลาที่ห้างเปิดทำการ ต่างจากธนาคารรูปแบบเดิมๆซึ่งเปิดทำการเฉพาะในระหว่างวันจันทร์ถึงวันศุกร์เหมือนสถานที่ราชการและปิดทำการในวันเสาร์อาทิตย์กับวันหยุดนักขัตฤกษ์ แต่ธนาคารแบบใหม่นี้มิได้เป็นเช่นแต่ก่อนอีกแล้ว เพราะภาวะการแข่งขันด้านธุรกิจการค้าบีบรัดให้ต้องปรับปรุงบริการเพื่อความอยู่รอดของธุรกิจแต่ละอย่าง สำหรับที่อยู่ใหม่ของฉันที่ห้างพันธุ์ทิพย์ พลาซ่างามวงศ์วาน นั้น เดิมเป็นที่ตั้งของห้างบางลำภูสรรพสินค้า สาขางามวงศ์วาน แต่ได้ขายกิจการให้ห้างพันธุ์ทิพย์พลาซ่า ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ย่านถนนเพชรบุรี ประตูน้ำ ที่รู้จักกันในฐานะแหล่งรวมเครื่องใช้ไฟฟ้าและคอมพิวเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองไทย
เมื่อห้างพันธุ์ทิพย์ซื้อกิจการมาได้แล้ว ก็ปรับปรุงก่อสร้างเพิ่มเติมใหม่เพื่อแข่งขันกับห้างสรรพสินค้าที่มีอยู่เดิม เช่น ห้างเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน ห้างเทสโก้โลตัส เป็นต้น
นอกจากนี้ยังปรากฏด้วยว่าบริเวณที่ฉันไปอยู่นั้น ตั้งอยู่ใกล้ทางด่วนพิเศษ ช่องทางลงงามวงศ์วาน อยู่ใกล้ซอยวัดบัวขวัญ อยู่ในละแวกใกล้เคียงกระทรวงสาธารณสุขและศาลากลางจังหวัดนนทบุรี ส่วนอีกด้านหนึ่งก็อยู่ใกล้เคียงสถานศึกษาของเอกชนและของรัฐหลายแห่ง
ใกล้เคียงห้างพันธุ์ทิพย์ สาขางามวงศ์วาน เป็นที่ตั้งของสถานศึกษาเอกชนในอดีตคือ โรงเรียนกรุงเทพเทคนิคนนท์ ซึ่งบัดนี้ได้ขายกิจการให้กลุ่มเจริญโภคภัณฑ์ ภายใต้ชื่อบริษัทศึกษาภิวัฒน์ซึ่งดำเนินธุรกิจระบบทวิภาคี ตั้งโรงเรียนขึ้นใหม่ชื่อว่า โรงเรียนปัญญาภิวัฒน์ เทคโนธุรกิจ โดยมีสถานปฏิบัติงานรองรับคือ ร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น
นี่จึงนับเป็นสถานที่อีกแห่งหนึ่งที่มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอย่างมาก สมกับคำที่ว่า "สรรพสิ่งล้วนเปลี่ยนแปลง"
สำหรับคืนวันนี้ ฉันคงนอนไม่หลับ หรืออาจจะหลับๆตื่นๆ เพราะตู้เอทีเอ็มที่ฉันมาอยู่ตั้งอยู่ด้านหน้าของห้างสรรพสินค้าและอยู่ติดกับที่หยุดรถโดยสารประจำทางด้วย
จึงเป็นสถานที่ซึ่งผู้คนพลุกพล่านตลอดทั้งวันทั้งคืน