19 กันยายน 2546 11:56 น.
|NdEpEndEnT
อารมณ์สิขุ่นมัว..................มนยั่วพิบัติภัย
หม่นจิตวิเวกใด.................พิศพ่านระกายา
เนืองเนาว์ขจัดทุกข์...........จิตปลุกเผชิญหน้า
ตราบภพระแผ่นฟ้า............ขณะยามกิเลสเรือง
ตัณหามิอาจจาก.................ฤจะพรากกระดากเดื่อง
เรไรคระคลางเคลือง..........ระวิว่อนถวิลจันทร์
ดาราทิวาวาน....................นภร่านผิผกผัน
มืดมิดสนิทพลัน...............นรกาก็สมปอง
ห้วงเหวเสน่หา...................ผิผวามิเมียนมอง
เทวาวิมานสอง..................วิปโยคประสบกรรม
ยามแสงสุรีย์จ้า....................อุระกล้าแสวงธรรม
อาบห่มประดับนำ..............ชรล้างชโลมใจ
18 กันยายน 2546 18:18 น.
|NdEpEndEnT
สามภพให้เลือกทางวิถี
ลุชีวีเลือกเดินตามจุดหมาย
หนึ่งภพกามภูมินรกาย
อสุรเปรตตายเกิดในแดน
หนึ่งภพรูปภูมิสิบหกชั้น
บำเพ็ญฌาณหมายมั่นหมื่นแสน
สวรรค์ชั้นโสฬส ณ เมืองแมน
มิคลอนแคลนเหล่ากรรมนั้นลาไกล
อีกภพหนึ่งไร้กายกามตัณหา
ละอัตตาจิตสงบ ณ ภพไตร
อรูปภูมิชั้นฟ้าวิเวกใด
จิตสงบฝันใฝ่แห่งภูมิพรหม
- -
18 กันยายน 2546 16:27 น.
|NdEpEndEnT
ลับเลื่อมลอยล่องไล้
ขับขานแขไขขู่เข็ญ
ปรนเปรอทุกเช้าเย็น
กลิ่นคาวคลุ้งเหม็นหมักหมม
ซากศพลอยเกลื่อนกลบ
ฟุ้งตลบอบอวลลม
อากาศชั้นฟ้าห่ม
จ่อมจมราคะคราไล
โกรธขึ้งเข้ากระดูก
แสนผูกใจเจ็บภพไหว
สะทกสะท้านฟ้าไกล
ตื่นจากหลับใหลสู้กัน
ผจญเผชิญหน้า
รบราหมายฆาดฟาดฟัน
กระเดื่องภพสามภูมิพลัน
สวรรค์ถึงกาลดับสูญ
18 กันยายน 2546 16:27 น.
|NdEpEndEnT
ลับเลื่อมลอยล่องไล้
ขับขานแขไขขู่เข็ญ
ปรนเปรอทุกเช้าเย็น
กลิ่นคาวคลุ้งเหม็นหมักหมม
ซากศพลอยเกลื่อนกลบ
ฟุ้งตลบอบอวลลม
อากาศชั้นฟ้าห่ม
จ่อมจมราคะคราไล
โกรธขึ้งเข้ากระดูก
แสนผูกใจเจ็บภพไหว
สะทกสะท้านฟ้าไกล
ตื่นจากหลับใหลสู้กัน
ผจญเผชิญหน้า
รบราหมายฆาดฟาดฟัน
กระเดื่องภพสามภูมิพลัน
สวรรค์ถึงกาลดับสูญ
17 กันยายน 2546 14:28 น.
|NdEpEndEnT
ภูผาสูงลิบลิ่ว
กายาปลิวโบยสบัด
สายลมจึงพาพัด
และผูกมัดเจ้าชีวา
พายุโหมกระหน่ำ
จิตชอกช้ำเปลี่ยวเอกา
ระทมทุกเวลา
ห้วงตัณหาอาบห่มใจ
หมองหม่นขณะช่วง
อยู่ในบ่วงแห่งพิษภัย
กรรมเวรเลวร้ายใด
ชนทุกวัยประสบกรรม
หากหาทางออกพบ
จักประสบพระพุทธธรรม
รัตนตรัยคอยชี้นำ
หากจดจำตรึกตรองตรึง
ขจัดอสุรี
มนุษีหวนคะนึง
ทางออกที่รำพึง
ก็ไปถึงสุขาวดี
- -