30 พฤศจิกายน 2546 14:56 น.

- -Mild the Mist upon the Hill - ม่านหมอก - -

|NdEpEndEnT



Mild the mist upon the hill,
Telling not of storms tomorrow;
No ; the day has wept its fill,
Spent its store of silent sorrow.

Oh, Im gone back to the days of youth,
I am a child once more,
And neath my fathers sheltering roof,
And near the old hall door.

I watch this cloudy evening fall}
After a day of rain:
Blue mists, sweet mists of summer pall
The horizons mountain-chain.

The damp stand in the long, green grass
As thick as mornings tear;
And dremy scents of fragrance pass
That breathe of other year.

                                  Emily Bronte



     ม่านหมอกบางขจายเกลื่อน ณ ภูผา
บ่งบอกว่าวายุย่างเยื้อนถิ่น
อรุณโศกร่ำร้องเป็นอาจิณ
หลั่งไหลรินสิ้นโศกสงัดใด

     โอ้ ! ฉันเพรียกเรียกอดีตให้หวนกลับ
เคยลาลับกลับเป็นเด็กวัยอ่อนใส
พ่อโอบกอดห่มคลุมอาบหัวใจ
ขณะใกล้ทวารบานเก่าคร่า

     ฉันแลเห็นฝูงหมอกอันหม่นหมอง
หยาดฝนนองต้องอรุณเยี่ยมหุบผา
คิมหันต์พลันอบอุ่นเมฆาฟ้า
ผูกนภาภูสูงเกี่ยวร้อยเรียง

     หญ้าขจีหนาวเหน็บนานหนักหนา
เฉกอรุณโศกาเอ่ยเอื้อนเสียง
อวลกรุ่นกลิ่นฝันมาเคล้าเคียง
ชีวาเพียงตื่นหลับนิจนิรันดร์

- -
				
29 พฤศจิกายน 2546 22:44 น.

- - ยามเย็น ริมบึง - -

|NdEpEndEnT



ไร้แดดฝนยามเย็นมีความสุข
นั่งขอบสระริมบึงสนุกสนาน
แลฝูงปลาว่ายเวียนแดนวิมาน
ช่างสำราญปล่อยใจไปกับปลา

อีกผู้ฅนมากมายนั่งทอดถอน
บ้างฅนจรฅนถิ่นแดนสงขลา
บ้างมาเต้นแอโรบิคเพื่อกายา
ฆ่าเวลาเปล่าว่างน่าเชยชม

มีแม่ค้านั่งขอบบึงขายสินค้า
คืออาหารปลาเม็ดเล็กเล็กกลมกลม
ถุงห้าบาทไม่แพงหรอกเพื่ออารมณ์
เบิกบานสายลมพัดผ่านใจ

มีต้นไม้พันธุ์หนึ่งที่ชื่นชอบ
สายลมหอบกลิ่นหวานมาดลมไล้
คือราชาวดีพวงขาวสะอาดใส
ดั่งสายใยธรรมชาติเสกสรรสร้าง

เพราะความเบื่อเหงาเหงาในห้องหอ
ไม่รีรอเร่งฝีเท้าตามเส้นทาง
สู่จุดหมายบึงน้อยน้อยไม่เชือนชาง
และไม่ห่างเกินไปจากผู้ฅน



				
28 พฤศจิกายน 2546 18:28 น.

- - กาฝาก - -

|NdEpEndEnT


เบื่อชีวิตที่เป็นไป
ทำไมถึงเป็นแบบนี้
ไม่เคยคิดรุกราวี
แต่ท่าทีของมันนั้นน่ากลัว

ใจเอ๋ยใจข้าระกำนัก
ได้รู้จักกับหมู่ฅนชั่ว
มันจึงหมายฆ่าตัดหัว
ตัดตัวตัดสิ้นเวรกรรม

บาดแผลร้าวลึกหนักหนา
ไอ้ตัณหามันปะทะห่ม
ทำให้ข้าต้องจ่อมจม
สายลมมิอาจพัดกลับคืน

ชีวาชีวิตชีวัน
หุนหันไปมาไม่ฝืน
เกิดดับผลัดเปลี่ยนกันตื่น
ขมขื่นมนุษย์ที่เป็น

พอแล้วพอแล้วชาตินี้
ไม่ขอมีชีวิตให้เห็น
จากไปถูกถีบกระเด็น
แฝงเร้นเป็นกาฝากต่อไป
- - 



				
27 พฤศจิกายน 2546 17:32 น.

- - ชีวิต - -

|NdEpEndEnT


ชีวิตนี้มีทุกข์ทุกระทด
ต้องใช้ชดหนี้ทุกข์ที่เคยก่อ
เดือนล่วงปีล่วงยังไม่พอ
เท่าไรหนอชีวิตจะหมดทุกข์
- - 
พ่อแม่ให้ชีวิตเจ้าดูโลก
ฤๅดั่งโชคชะตาพาทัพบุก
ไม่ให้พบสัมผัสในความสุข
ช่างระรุกคุกคามชีวาวาย
- - 
เกิด แก่ เจ็บ ตาย ตามฐานะ
โอ้ท่านพระกำหนดทั้งเช้าสาย
เหนื่อยบ้างไหมที่ท่านต้องทำนาย
ชีวิตขายแก่ใครชุบเลี้ยงดู
- - 
บ้างถูกทิ้งตามซอกซอยที่เน่าเหม็น
บ้างก็เป็นองค์หญิงโก้สุดหรู
บ้างก็พิการกายาน่าหดหู่
อนิจจังผู้เกิดเป็นปุถุชน
- - 
สรรพสิ่งของโลกอย่าสิ้นหวัง
จงประทังชีวิตด้วยกุศล
เร่งรีบเถิดก่อนหมู่มารมาผจญ
จงดั้นด้นการงานนาฑีนี้
- - 


				
27 พฤศจิกายน 2546 16:10 น.

- - เคือง - -

|NdEpEndEnT



หยาดพิรุณโปรยปรายดั่งเคืองขัด
เมฆาเหิมหัตพัด ณ ทักษิณ
ชาวประชาร้อนรุ่มกลุ้มชีวิน
น้ำตารินริ่นเรื่อกระจายไป

โอ้เวรกรรมใครก่อหนอพิภพ
เจ้าจึงประสบกรรมเก่าแต่หนไหน
ธาราเที่ยวท่องอุทกภัย
ไว้อาลัยแก่เหล่าสรรพสิ่ง

อนิจจังชีวิตฤๅม้วยมอด
บ่มีรอดสักหนึ่งให้พักพิง
เหลือแต่ซากตึกเก่าถูกครอบสิง
ด้วยความนิ่งสงบของโลกา


				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟ|NdEpEndEnT
Lovings  |NdEpEndEnT เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟ|NdEpEndEnT
Lovings  |NdEpEndEnT เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟ|NdEpEndEnT
Lovings  |NdEpEndEnT เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึง|NdEpEndEnT