20 กันยายน 2546 21:42 น.
|NdEpEndEnT
สายฝนพรมยอดหญ้า
อุ่นอุราเย็นฉ่ำฝน
หล่นจากฟ้าดวงกมล
เนืองนองน้ำคร่ำย่ำใจ
สายฝน ฤ สายเลือด
ตาพร่าเงาเกลือดหลั่งไหล
แดงฉานคลุ้งคาวไคล
สาบจัญไรเกลื่อนนคร
ปิศาจอาละวาด
จึงกวาดล้างถอดถอน
ต้อนฅนต้อนสัตว์ม้วยมรณ์
วิญญาณ์นอนอย่างเดียวดาย
จักหาผู้กล้าแกร่ง
พิชิตแรงแข่งแสงมิสาย
แม้ชีวาดับมลาย
แต่จิตบ่วายตามกัน
สายฝนระเริงสนุก
เร่งปลุกสุขเหตุแห่งฝัน
สู้ทนฆาษฟาดฟัน
กลับสู่เมืองฟ้าอมร
19 กันยายน 2546 13:47 น.
|NdEpEndEnT
ฝูงมนุษีสัมผัสกิเลส
สิ่งหนึ่งคือเศษเสี้ยวของความคิด
รู้ไหมคืออะไรที่คอยสะกิด
คือ คำถามตะหงิดตะหงิดก่อกวนใจ
ฝูงมนุษีหวั่นผวา
คือนินทากาเลหมองไหม้
ผองเพื่อนเกลื่อนกลบไฉน
แยบยลแฝงใฝ่เฝ้ามอง
คิดร้ายแก่ผู้ผ่านหน้า
แววตาชั่วช้าจับจ้อง
ริษยาเกิดขึ้นเนืองนอง
ต้องผ่อนครรลองคลองธรรม
ถามไถ่แล้วได้คำตอบ
ชื่นชอบขึ้งโกรธชอกช้ำ
เจ็บใจเจ็บแค้นกระทำ
น้อมนำอิสระเสรี
19 กันยายน 2546 13:36 น.
|NdEpEndEnT
กลิ่นกาแฟอบอวล
ช่างรัญจวนเย้ายวนจิต
กาแฟดำมืดมิด
สะกิดห้วงภวังค์คืน
กาแฟดำสักแก้ว
คล่องแคล่วกายาจักฝืน
จากหลับใหลต้องตื่น
หากขมขื่นอีกครา
กาแฟเสน่ห์ยิ่ง
พักพิงสำนึกผวา
ใจสั่นร้าวรอนกายา
ทว่าฉันดื่มกาแฟทุกวัน
19 กันยายน 2546 13:08 น.
|NdEpEndEnT
เอือมระอาฟ้าหม่น
ละลานลนขวากหนามกั้น
กำแพงแดนเขตขรรค์
ไหวหวั่นภูมิพรหมสั่นคลอน
มารลอยล่องทั่วแคว้น
หมื่นแสนแว่นแคว้นถอน
กี่รบกระบวนจักรอน
ฟาดฟอนดับดิ้นชีวี
นองเลือดเกลื่อนกลบภพ
ประสบภัยวิบัติศรี
เนิ่นนานหล้าแหล่งคีรี
นทีร้อนเพลิงฉายแสง
อบอวลไฟแดงก่ำ
ชอกช้ำย้ำยอกแอบแฝง
ชอนไชลุแชลง
ไขแจ้งแข่งดวงสุริยา
19 กันยายน 2546 11:56 น.
|NdEpEndEnT
อารมณ์สิขุ่นมัว..................มนยั่วพิบัติภัย
หม่นจิตวิเวกใด.................พิศพ่านระกายา
เนืองเนาว์ขจัดทุกข์...........จิตปลุกเผชิญหน้า
ตราบภพระแผ่นฟ้า............ขณะยามกิเลสเรือง
ตัณหามิอาจจาก.................ฤจะพรากกระดากเดื่อง
เรไรคระคลางเคลือง..........ระวิว่อนถวิลจันทร์
ดาราทิวาวาน....................นภร่านผิผกผัน
มืดมิดสนิทพลัน...............นรกาก็สมปอง
ห้วงเหวเสน่หา...................ผิผวามิเมียนมอง
เทวาวิมานสอง..................วิปโยคประสบกรรม
ยามแสงสุรีย์จ้า....................อุระกล้าแสวงธรรม
อาบห่มประดับนำ..............ชรล้างชโลมใจ