21 กันยายน 2546 16:16 น.
|NdEpEndEnT
ยืนหยัดย่อหย่อนย่าง
ถึงแถวทางเถื่อนถากไถ
ร่วงโรยแรงรางไร
คราบไคลคลอนคลางใครครา
สิ้นสุขสุดส่อแสง
จรแจ้งจิตเจิดจ้า
ทุกถิ่นทิศถานทา
เหว่ว้าวอนวานวี่วัน
แค้นขัดเคืองขึ้งฆ่า
โหยหาเหี่ยวแห้งห่อนหันต์
เพรงเพราพรุพ่างพันธุ์
เนานันต์เนืองนองเนิ่นนาน
ชิงชังช่างเชือดฉาด
เกลื่อนกลาดกลางกรุงกรึกร้าน
มาดมุ่งหมายหมู่มาร
ละลานลู่ลมล่วงเลย
ผิผลูผลุผลักผลาญ
ฉายฉานเฉิดฉินฉะเฉย
ขู่เคี่ยวเข็ญคุ้นเคย
เยาะเย้ยยั่วยวนหย่อมญาณ
20 กันยายน 2546 21:42 น.
|NdEpEndEnT
สายฝนพรมยอดหญ้า
อุ่นอุราเย็นฉ่ำฝน
หล่นจากฟ้าดวงกมล
เนืองนองน้ำคร่ำย่ำใจ
สายฝน ฤ สายเลือด
ตาพร่าเงาเกลือดหลั่งไหล
แดงฉานคลุ้งคาวไคล
สาบจัญไรเกลื่อนนคร
ปิศาจอาละวาด
จึงกวาดล้างถอดถอน
ต้อนฅนต้อนสัตว์ม้วยมรณ์
วิญญาณ์นอนอย่างเดียวดาย
จักหาผู้กล้าแกร่ง
พิชิตแรงแข่งแสงมิสาย
แม้ชีวาดับมลาย
แต่จิตบ่วายตามกัน
สายฝนระเริงสนุก
เร่งปลุกสุขเหตุแห่งฝัน
สู้ทนฆาษฟาดฟัน
กลับสู่เมืองฟ้าอมร
19 กันยายน 2546 13:47 น.
|NdEpEndEnT
ฝูงมนุษีสัมผัสกิเลส
สิ่งหนึ่งคือเศษเสี้ยวของความคิด
รู้ไหมคืออะไรที่คอยสะกิด
คือ คำถามตะหงิดตะหงิดก่อกวนใจ
ฝูงมนุษีหวั่นผวา
คือนินทากาเลหมองไหม้
ผองเพื่อนเกลื่อนกลบไฉน
แยบยลแฝงใฝ่เฝ้ามอง
คิดร้ายแก่ผู้ผ่านหน้า
แววตาชั่วช้าจับจ้อง
ริษยาเกิดขึ้นเนืองนอง
ต้องผ่อนครรลองคลองธรรม
ถามไถ่แล้วได้คำตอบ
ชื่นชอบขึ้งโกรธชอกช้ำ
เจ็บใจเจ็บแค้นกระทำ
น้อมนำอิสระเสรี
19 กันยายน 2546 13:36 น.
|NdEpEndEnT
กลิ่นกาแฟอบอวล
ช่างรัญจวนเย้ายวนจิต
กาแฟดำมืดมิด
สะกิดห้วงภวังค์คืน
กาแฟดำสักแก้ว
คล่องแคล่วกายาจักฝืน
จากหลับใหลต้องตื่น
หากขมขื่นอีกครา
กาแฟเสน่ห์ยิ่ง
พักพิงสำนึกผวา
ใจสั่นร้าวรอนกายา
ทว่าฉันดื่มกาแฟทุกวัน
19 กันยายน 2546 13:08 น.
|NdEpEndEnT
เอือมระอาฟ้าหม่น
ละลานลนขวากหนามกั้น
กำแพงแดนเขตขรรค์
ไหวหวั่นภูมิพรหมสั่นคลอน
มารลอยล่องทั่วแคว้น
หมื่นแสนแว่นแคว้นถอน
กี่รบกระบวนจักรอน
ฟาดฟอนดับดิ้นชีวี
นองเลือดเกลื่อนกลบภพ
ประสบภัยวิบัติศรี
เนิ่นนานหล้าแหล่งคีรี
นทีร้อนเพลิงฉายแสง
อบอวลไฟแดงก่ำ
ชอกช้ำย้ำยอกแอบแฝง
ชอนไชลุแชลง
ไขแจ้งแข่งดวงสุริยา