5 กันยายน 2546 21:01 น.
|NdEpEndEnT
ใจหายไปกับสายฝน
สู่แห่งหนใดโลกกว้าง
ใจฉันจึงต้องอ้างว้าง
เจ็บกลางหัวใจระทม
เป็นใครดีหนอชีวิต
อดคิดจิตสั่นดิ่งจม
เก็บลึกรักร้าวอารมณ์
ติดตมเนิ่นานผ่านวัน
โศกเศร้าเหงาหงอยโง่
ไม่เติบโตเฉกผู้ใหญ่ฝัน
ติดบ่วงยากถอนชีวัน
ร้าวรันแตกดับลาไกล
ชีวิตแค่นี้หรือ
เลื่องลือลาลับถูกไถ
ตรากตำชีวาลัย
ปลิดใจลงสู่ดินดำ
ม้วยมอดกายาโศก
โบยโบกมรณาช้ำ
สิ้นไร้ผู้ฅนหนุนนำ
จองจำสู่ห้วงนรภูมิ
- -
5 กันยายน 2546 17:47 น.
|NdEpEndEnT
น้ำตาร่วงรินไหลอาบสองแก้ม
รสประแล่มขมขื่นน่าใจหาย
ล่วงหล่นพรูมิรู้กี่วางวาย
ให้อับอายขายหน้าร้าวระบม
หยาดพิรุณโปรยปรายเป็นสายเลือด
ขัดเคืองเขือดข้นแค้นห้วงทุกข์สม
ขึ้งโกรธโมโหในอารมณ์
จงจ่อมจมนรกาวิเวกเหงา
สายฟ้าฟาดปลิดมรณาแห่งแมกไม้
น่าใจหายไร้รักถูกผลาญเผา
แตกหักทับกันหนักบางเบา
สวรรค์จักคร่าเอาลมหายใจ
อุราเริงร่านระรอนรัด
ลมโชยพัดกลิ่นคาว ฤ ไฉน
โอบกอดพัดพาขจรไกล
สู่แหล่งภัยพิบัติประสบกรรม
4 กันยายน 2546 14:42 น.
|NdEpEndEnT
ควันดำลอยยวนเย้าเมฆา
แต้มแผ่นฟ้าเกลื่อนนภาละแล่นผ่าน
สูดลงสู่กายาและลมปราณ
ใจแหลกลาญม้วยสิ้นร้าวเริงรอน
เริ่มจางหายยามฝนเสกสรรสร้าง
นภกว้างโลดแล่นกันสลอน
แดดแง้มรับกู่ก้องทั่วขจร
ใจอาวรณ์ห่วงคิดจิตประหวั่น
เพราะประสาทวิกลจริต
มัวหลงผิดลุ่มหลงเกินอัดอั้น
ระบายออกสู่หนทางแห่งทางตัน
ต้องกลืนกลั้นน้ำตาล่วงรินไหล
เพราะสนุกในวันคืนที่ผ่านผัน
ลุจากวันอันเกษมฤไฉน
โลกกิเลสตัณหาแห่งความใคร่
คอยอาบไล้ผิวพรรณในกายา
มีหัวใจใช่ว่าจะไม่มี
แต่ใครที่จะรู้จริงลึกบางหนา
ใจต้องร้าวอาภัพกี่เวลา
จะพบพาใครเข้าใจในทุกข์ทม
- -
4 กันยายน 2546 10:56 น.
|NdEpEndEnT
มีความสุขกับวันนี้ใจเป็นสุข
ไม่อยากทุกข์จึงไม่ทุกข์กับฝันร้าย
คอยยั่วยวนให้จิตนั้นกลับกลาย
สิ้นมลายวายชีวาฝังสู่ดิน
สุขกับสิ่งที่เห็นและเป็นไป
ช่างปะไรใครมองหยามดูหมิ่น
สิ่งที่คิดสัมผัสมิผกผิน
จักอาจินสู่ภวังค์จะทำไม
ใครใคร่รู้ช่วยตอบบอกคำขาน
ล่วงลนลานหาคำตอบแจ้งคำไข
ตามหาทางความฝันของหัวใจ
เหตุไฉนทางฝันนั้นมืดมิด
เพราะอะไรรู้ไหมจักไขความ
สิ่งที่ถามอยู่ในจิตที่ปกปิด
เพราะกลางคืนฟ้าห่มแห่งภัยพิษ
มาดลจิตดลใจให้แหลกลาญ
บนถนนหนทางที่เขาสร้าง
ช่างอ้างว้างขมขื่นมิอาจต้าน
ใจและกายดิ่งลึกฟ้าประทาน
ผสมผสานโลกีย์ที่เย้ายวน
มายาตัณหาวิบัติสูญ
จักอาดูรตื้นตันใจคร่ำครวญ
สรรพสิ่งเพรียกหาคืนสู่มวล
คอยก่อกวนจิตใจใฝ่อธรรม
ณ โลกกว้างหลายทางให้ค้นหา
ลุเวลาจากอดีตเคยก่อกรรม
หลากแห่งหนทางเปลี่ยวได้ชี้นำ
ให้กระทำสิ่งที่คิดและเป็นไป
ช่างปะไรใครมองที่ตัวเรา
ช่างหัวเขาเขาใช่รู้คิดไฉน
เอ๊ะ อุเหม่ชิชะมันชอนไช
หากใจใฝ่ในทางดีฤดีเปรม
4 กันยายน 2546 10:21 น.
|NdEpEndEnT
เด็กน้อยหน้าม่อยนั่งรอแม่
ผินหน้าแลรถราวิ่งขวักไขว่
ดูมอมแมมแสนซื่อบริสุทธิ์ใจ
เด็กน้อยไร้เดียงสาน่าชื่นชม
บางคนเล่นเกาะรั้วหน้าโรงเรียน
แม่ส่งเขียนเพียรอ่านใจสุขสม
เด็กน้อยเติบใหญ่ไม่โสมม
เฉกผู้ใหญ่ต่างอารมณ์ล้วนแปรผัน
บ้างเดินกินเดินเล่นกับเพื่อนข้าง
ไม่อ้างว้างเหมือนวันวานใจประหวั่น
ต่างผู้ฅนสำเหนียกแห่งชีวัน
ตัวใครตัวมันช่างปะไรไม่ใช่เรา
ผ่านหนทางกึ่งอามรมณ์ไม่คงมั่น
เหมือนถูกหั่นแดดิ้นให้หงอยเหงา
เกิดมากี่วันปีค่อยบรรเทา
สิ่งโรมเร้าอารมณ์นั่นเปลี่ยนไป
จากวันวานสู่วันนี้เจ้าเด็กน้อย
เคยจ้อยร่อยบัดนี้กายาใหญ่
หากในจิตฝังลึกของหัวใจ
ไม่มีใครใคร่รู้นอกจากตน