12 กันยายน 2546 17:32 น.
|NdEpEndEnT
สับสนวกวนหนแห่งคิด
หม่นหมองจิตติดขัดชงักงัน
ทางออกจุดหมายหายพลัน
จะคาดคั้นอากาศหรืออย่างไร
ว่างเปล่าเงียบเชียบหวีดดัง
กู่ก้องกังวาลสำเนียงใส
โหยหวนควรญเพลงเศร้าเย้ายวนใจ
ดั่งฟอนไฟรุมเร้าอาบกายา
ฟ้ากลั่นแกล้งแฝงจิตคิดอาฆาษ
หมายฟันฟาดขาดจิตอุระบ้า
กล่อมประสาทหวาดหวั่นดิ้นชีวา
กระแทกท้าลงดินฝังให้จม
12 กันยายน 2546 11:58 น.
|NdEpEndEnT
ตราบฟ้าเมฆินสิ้นแสงฉาน
ละลนลานอาบฝันแห่งหนไหน
แสวงหาสืบเสาะแม้จากไกล
คงฝันใฝ่ได้พบแห่งหนทาง
แม้เหนื่อยยากบากบั่นก็ไม่ย่อ
จะขอต่อขับแสงพลังพล่าง
แม้กายาหวั่นไหวคิดเชือนชาง
จะถากถางสู่วิมานทุรชน
อีกขวากหนามยาวไกลที่ขวางกั้น
ก็มิหวั่นกลัวเกรงภัยฉงน
ถูกล่อลวงสู่แหล่งแห่งสกนธ์
จึงวกวนทางตันหาไม่เจอ
อันกลลวงยั่วเย้าในนคร
แม้อ้อนวอนขอชีพรำพันเพ้อ
คำคมความหมายมั่นพร่ำบำเรอ
อยู่เสมอเทวากลั่นแกล้งกัน
เพราะโง่เง่าเต่าตุ่นโดนเขาว่า
ความชั่วช้าในจิต ณ ห้วงฝัน
ถูกจู่โจมฆ่ารบฟะฟาดฟัน
เพลงขับขานฆาษฝันพเนจร
- -
11 กันยายน 2546 18:54 น.
|NdEpEndEnT
สิ้นแสงหนักหน่วงเบา
ทุกข์ยั่วเย้าเคล้าโศกศัลย์
กรรมซ้ำซัดสาดฝัน
ที่บากบั่นล้วนมลาย
ฝังไว้ในซอกหลืบ
รุมกระทืบสืบสลาย
แดดิ้นชีวาวาย
หากกลับกลายหายกลัวเกรง
บรรเจิดนภกว้าง
แสงสว่างขับบรรเลง
กล่อมเกลาซึ่งบทเพลง
พะเพ่งพ่านผ่านอารมณ์
ห้วงหนึ่งของตัวตน
อาจละลนละลานขม
กร้าวแกร่งผลาญอารมณ์
จงจ่อมจมสู่ธารา
คือซากศพหลบวิเวก
รุจิเรขพสุธา
ห่มใจและกายา
สู่สุขาวดีเทอญ
11 กันยายน 2546 12:31 น.
|NdEpEndEnT
......ฝันทะลุแดดทะลุทะลวง
ช่างกร่อนกลวงภายในไร้อื่นแฝง
คงแต่ฝันหวังไว้มิคลอนแคลง
จักแสดงเมื่อถึงวันเวลามา
......หากวันนี้ยังมีฝันหลากหลายภาพ
เฉกคมดาบบาดลึกจิตผวา
มันทำร้ายตัวตนของเวลา
เปล่าเปลี่ยวเอการะทุกข์ทม
......ดึกสงัดจัดระเบียบวิถีเดิน
ฅนสรรเสริญรูปธรรมชะโชกงม
ภายในจิตฆาษฝันโศกตรอมตรม
อาบอาคมกระหยิ่มยิ้มยินดี
......คือฅนบ้าเสกฝันให้บรรจบ
จึงประสบแต่สิ่งลวงในวันนี้
สัมผัสลวงบ่วงกรรมซัดชีวี
ให้ฅนดีกลับคืนนครา
10 กันยายน 2546 18:07 น.
|NdEpEndEnT
อ่อนล้าสิ้นพลังแรงขับขาน
นั่งพิมพ์งานอยู่หน้าคอมใจไหวหวั่น
นิ้วจิ้มแป้นอ่านอักษรช่างรัวรัน
เอนกอนันต์ค่าของรายงาน
คือวิชาพากเพียรเขียนคำมั่น
ตั้งใจทำสรรสร้างเสกแสงจ้าน
คือค่าควรกระทำประสบการณ์
อีกเนิ่นนานจักพึงคิดสบายตน