2 กุมภาพันธ์ 2547 03:18 น.
nava
ฟ้ายังพรายสายเส้นฝน
ในพลบมัวหม่นกล่นสาย
เรืองไฟรายทางพร่างพราย
แพรฝนปรนปราย-เงาไฟ
ศาลาริมทาง-คว้างเหงา
สามล้อ โทรมเก่า-ไม่ไปไหน
เจ้าของอ้อแอ้ใต้แสงไฟ
กอดขวดร่ำไรอยู่เดียวดาย
เสียงหมาจรจัดสะดุ้งร้อง
เสียงป้องปากด่าว่าร้าย
ไอ้หมาจัญไร รึ! อยากตาย
ฉิบหาย! เยี่ยวรดล้อรถกู
สายฝนยังคงโรยสาย
สามล้อยังฟูมฟาย ซับหัว-หู
ไอ้ฝนแม่งก็ไม่เคยจะรู้
เย็นนี้กูยังไม่มีข้าวจะกิน
2 ธันวาคม 2546 07:59 น.
nava
กวีบทใหม่ฝากให้เจ้าได้รู้
ว่าข้ายังอยู่ในโลกเหงา
ขับขานบรรเลงความมายเมา
จับดินสอปากกาเก่าเกลาวลี
คว้างไหวตามประสาคนเก่าเก่า
ลมหายใจงึมเหงายังคงที่
เป็นเศษเสี้ยวของชีวิตไร้สิ้นดี
จ่อมจมกับวจีไปวันวัน
กวีบทใหม่ฝากให้เจ้า
หม่นม่านเมฆหมอกเงาข้าหนาวสั่น
คราเวิ้งฟ้าคืนดาวโอบล้อมจันทร์
พันธะใจไหวสั่นระริกรัว
ยังชีวิตเจ็บปวดที่ดวดเจ็บ
หวาดหนาวเหน็บต่อภาพยังยิ้มหัว
ด้วยชีวิตยิ่งต่อเติมกลับขลาดกลัว
ไม่เอ่อเต็มถ้วนทั่วของหัวใจ
ในยามข้าขาดเจ้า-เจ้าขาดข้า
ในดวงตาเจ้าโหยหาข้าบ้างไหม
รึ! ไม่เคยเลยสักนิด-ปลิดเยื่อใย
หรือสรวลเสกับหลายใครจนตื้นเต็ม
กวีบทใหม่ฝากถึงเจ้า
ทุกประการคือปวดร้าวอันข้นเข้ม
คราบน้ำตาเปียกหน้ารสปร่าเค็ม
หัวใจเจ้าเติมรักเต็มกี่ครั้งกัน
เจ้าเข้าใจไหมบทกวีข้า
มิได้ลึกเกินกว่าจะคิดฝัน
คือความเป็นจริงอันนิรันดร์
ระหว่างเราคล้ายหมอกควันอันคว้างลอย
13 พฤศจิกายน 2546 21:39 น.
nava
แสงจันทร์สาดฟ้านวลสรรพ์
เงาแสงแห่งฝัน
ไปถึงซึ่งเจ้าไหมหนอ
ฝั่งข้าฯงดงามท่วงทอ
ฝั่งเจ้าเย้าต่อ-
ดวงตา อาวรณ์-บ้าง-ใด
จันทร์จ้าข้าฯจึงเติมใจ
ฝากแสงนวลไป
สาดทอต่อเจ้าเย้างาม
กระทั่งลมหนาวไถ่ถาม-
ฝากใดถ้อยความ
ไปสู่อีกฟากฝั่งจันทร์
ค่ำนี้คืนหนาวจำนรรย์
ภายใต้แสงจันทร์
อุ่นไฟไอฟืนในเตา
ในแสงสาดทาพร่างเงา
ดั่งดวงหน้าเจ้า
ปรายยิ้มปริ่มฟ้านวลใย
ฟ้าเอย-ฝากแสงจันทร์ไป
ความรักจากใจ
สู่เจ้า-ด้วยความชื่นบาน