27 ตุลาคม 2547 14:17 น.

บั้งไฟพญานาค..ตอน 3

namsai

  
            ย้อนจากนี้ไป เมื่อสองพันห้าร้อยกว่าปี  
            พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้บังเกิดขึ้นในโลก เมื่อพระองค์ได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว ในพรรษาที่ 19  ในช่วงเข้าพรรษา       พระพุทธองค์ได้เสด็จไปโปรดพุทธมารดา ที่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์  เพื่อการแทนคุณอันยิ่งใหญ่ของพุทธมารดา พระองค์ได้เลือกบทธรรมที่เป็นประโยชน์ และได้อานิสงส์สูงสุดโปรดพุทธมารดา  พระองค์ทรงแสดงธรรม เรื่อง พระอภิธรรม  (ธรรมที่ยิ่งใหญ่ มี 42,000 พระธรรมขันธ์ )  ตลอดระยะเวลา 3 เดือนที่เข้าพรรษา  
  
              กระทั่งถึงวันออกพรรษา  พระองค์ได้เสด็จลงจากชั้นดาวดึงส์  วันนั้นเป็นวันเปิดภพ  ไม่ว่าสรรพสัตว์ จะอยู่ภพใด สามารถมองเห็นกันหมด และมองเห็นพระองค์ที่กำลังเสด็จลงมาจากสวรรค์ที่เป็นบันไดแก้ว มีเหล่าหัวหน้าเทวดาแต่ละชั้น พร้อมบริวาร  ได้เสด็จตามมาส่งพระองค์ด้วย 
  
              ด้วยพุทธานุภาพ  ไม่ว่าสรรพสัตว์จะอยู่ส่วนใด มองเห็นพระองค์ชัดเจนมาก ภพสวรรค์มองเห็นโลกมนุษย์และนรก  มนุษย์ก็มองเห็นสวรรค์และนรก ส่วนในนรกก็หยุดลงทัณฑ์ มองขึ้นมาเห็นทั้งมนุษย์และสวรรค์ พระองค์ได้เสด็จลงมาที่เมืองสังกะนคร มีพระราชาและชาวเมืองมารอรับเสด็จมาก และรอใส่บาตร มากจนใส่บาตรไม่ถึงขนาดต้องใช้วิธีโยน ซึ่งเรียกว่า การตักบาตรเทโวโลหนะ 
  
                ในการเสด็จลงมาในวันนั้น ที่แดนใต้บาดาล เมืองน้ำโขง พญานาคนั่งอยู่บนแท่น เกิดร้อนอาสน์ ไม่สามารถจะนั่งต่อได้ ได้เสด็จขึ้นมาลอยตัวเหนือน้ำโขง พร้อมๆ บริวาร  แล้วมองขึ้นไปบนท้องฟ้า ได้เห็นพุทธานุภาพของพระพุทธเจ้า เกิดศรัทธาและเลื่อมใส ท่านโอฆินทรนาคราชได้ตั้งจิตอธิษฐานขอเป็นพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในอนาคตการณ์เบื้องหน้า  ซึ่งเป็นความรู้สึกลึกๆ ของท่านที่ปรารถนาพุทธภูมิมานานแล้ว เมื่อได้เห็นพระพุทธเจ้า ยิ่งทรงทำให้ท่านตอกย้ำปณิธานเดิมลงไปอีกครั้ง  
  
               ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา ด้วยความรักและบูชาที่มีต่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พอถึงฤดูเข้าพรรษา ท่านโอฆินทรนาคราช ก็ได้ตั้งใจถือศีลด้วย โดยออกจากภพบาดาลมา จำศีลใต้น้ำโขง หรือตามถ้ำต่างๆ  เป็นเวลาสามเดือนเหมือนมนุษย์ ด้วยดวงจิตที่ถูกกลั้นใส ตลอดระยะสามเดือน และด้วยความรักที่มีต่อพระพุทธองค์ ในวันออกพรรษา ท่านโอฆินทรนาคราช ก็ได้กลั่นใจให้ใส เป็นประทีปพุ่งลอยขึ้นเหนือน้ำ เป็นพุทธบูชา ต่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้า  ตอนแรกพระองค์ทรงทำลำพังเพียงพระองค์เดียว แต่ต่อมาพระโอรส(สุวรรณมธุระ) และบริวาร ก็เกิดศัทธาตามมาด้วย ดวงไฟที่ถวายเป็นพุทธบูชา จึงได้มีกระจายมากขึ้น  ตามลุ่มน้ำโขง หรือตามหนองคลองบึง ต่างๆๆ  
   
              ความรักของใครที่ว่าอมตะ ยังไม่อาจเทียบเท่า ความรัก ความผูกพัน ของพญานาคที่มีต่อองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านไม่เคยเปลี่ยนไป แม้เวลาจะล่วงเลยไปนานแค่ไหน ผ่านไปกี่เดือน กี่ปี กี่ร้อยปี พันปี ท่านก็ยังมั่นคงไม่เปลี่ยนแปลง ท่านยังคง ถวายประทีปเป็นพุทธบูชา จวบกระทั่งถึงปัจจุบันนี้ และต่อไปในอนาคต 				
26 ตุลาคม 2547 13:49 น.

บั้งไฟพญานาค..ตอน 2

namsai

จะได้อ่าน

เรื่องราว

ต่อกันนะจ่ะ

http://www.thaipoem.com/web/scoopdata.php?id=3605				
25 ตุลาคม 2547 13:39 น.

บั้งไฟพญานาค..ตอน 1

namsai

 
++
            ย้อนไปเมื่อ ห้าพันปีที่แล้ว ณ ริมโขงฝั่งลาว ปัจจุบัน มีเมืองอยู่เมืองหนึ่ง มีพระราชาที่ปกครองบ้านเมืองด้วยความร่มเย็น ในยุคนั้น ยังไม่มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบังเกิดขึ้น ประชาชนส่วนใหญ่นับถือเทพเจ้าต่างๆ ตามความเชื่อ ในเมืองนี้มีน้ำโขงเป็นแม่น้ำสายสำคัญ และก็มีความเคารพนับถือเทพเจ้าแห่งสายน้ำ..ก็คือพญานาค ..นั้นเอง  
 
              ในเมืองนี้ยังมีปุโลหิต เป็นคนดี มีความซื่อสัตย์ ยุติธรรม อยู่คนหนึ่ง เป็นที่รักของชาวเมือง และเป็นผู้ที่มีหน้าที่ประกอบพิธีกรรมบวงสรวงเทพเจ้าของสายน้ำเป็นประจำทุกปี จวบกระทั้งท่านละสังขารจากโลกนี้ไป ด้วยจิตที่ท่าน ผูกพันกับพญานาค มาตลอดชีวิต เมื่อถึงคราวจากโลกนี้ไป ท่านจึงได้ไปเกิดเป็นพญานาค ที่แม่น้ำโขง
 
                ราชาแห่งพญานาค ได้บังเกิดขึ้นด้วย พระนามใหม่ว่า โอฆินทรนาคราช มีวิมานเป็นสีทอง อยู่ในหมู่บ้านนาคแห่งหนึ่งใต้แม่น้ำโขงลงไป เป็นภพซ้อนภพอยู่ มีบริวารมากมาย พื้นที่ของเมืองพญานาค กินบริเวณกว้างมาก ทั้งในน้ำ และบนดิน แถวๆ โพนพิสัย จ.หนองคาย จะเป็นบริเวณ ที่มีพญานาคอยู่หนาแน่น 
 
              ต่อมาอีกไม่นาน พระราชธิดาของพระราชาเมืองนั้น ได้สวรรคตลง แล้วได้บังเกิดเป็นพญานาคบนแท่นทองของพญานาคโอฆินทรนาคราช จึงได้แต่งตั้งเป็นอัครมเหสี ปกครองลุ่มน้ำโขงด้วยกันสืบมา..				
Calendar
Lovers  1 คน เลิฟnamsai
Lovings  namsai เลิฟ 1 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟnamsai
Lovings  namsai เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟnamsai
Lovings  namsai เลิฟ 0 คน
  namsai
ไม่มีข้อความส่งถึงnamsai