7 ธันวาคม 2548 13:11 น.
namsai
******************************************
อีกครั้งแล้ว..ที่รู้สึก..แพ้พ่าย
หวาดกลัว..แม้ลมหายใจ..ช่างไหวอ่อน
เหน็บหนาว..เดียวดาย..กายสะท้อน
ได้แต่ถอน.อ่อนระอา...ล้าหัวใจ
อีกครั้งแล้ว..ที่รู้สึก..ถึงความพ่าย
น้ำตาไหล..ร้องไห้..อีกจนได้
คิดถึงเขา..ขึ้นมา..น่าชังใจ
อ่อนไหว..แค่คืนนี้..ไม่มีจันทร์
กี่ความเจ็บ..ความช้ำ..คำเพรียกหา
อีกกี่ครา..ปล่อยหัวใจ..ให้โศกศัลย์
ยังเฝ้าหมาย..ชายคนเก่า..เฝ้ารำพัน
นานแค่ไหน..รอเขานั้น..ไม่เปลี่ยนใจ..
นานเกินไป..หรือเปล่า..กับซากเถ้า
อดีตเขลา..ครานั้น..กลับหวั่นไหว
ถึงจะเหน็บ..จะหนาว..เหงาเพียงไร
อย่าให้ใจ..ย้อนเศร้า..รอยร้าวเดิม
6 ธันวาคม 2548 10:26 น.
namsai
**************นาวา***********************
๖
ลมหนาวถึงบ้านเราแล้ว
แนวทุ่งนุ่งเหลืองกรุ่นหอม
ข้าวใหม่อุ่นอ่อนพรักพร้อม
ดวงใจยั้งยอมศรัทธา
ครุกรุ่นครุ่นฝันวันเก่า
วัยเยาว์เย้ายวนตรวนหน้า
วิถีเด็กน้อยท้องทุ่งนา
เติบตนโตมากับดินโคลน
๘
เธอยังรักผืนดินมารดาไหม?
เมืองนั้นสุขเช่นไร ไปห้อยโหน
ฝ่าความเหงาอ้างว้างใครปลอบโยน
เสียงใครบ่น ว่าคิดถึงอยู่บ้านนา
ไปยื้อยุดทรุดกายในโลกเปลี่ยน
ท่องว่ายเวียนเฆี่ยนแข่ง- ล้าแข้งขา
แบกหัวใจเหน็ดเหนื่อยใครเยียวยา
หลับตาเห็นท้องนาและชานเรือน..
*************************************************************
************************น้ำใส******************************
ลมหนาว..พัดมา..คิดถึงบ้าน..
คิดถึงป่า..ภูพาน..หุบเหวเขา
ให้คิดถึง..บ้านเก่า..ที่เคยเนาว์
ยังคิดถึง..รวงข้าว..ที่เคยเคียว..
ดวงชะตา..ชีวิต..ได้พลิกผัน
ความจน..บีบคั้น..โบยบินเดี่ยว
ทิ้งบ้านทุ่ง..สู่กรุง..ตัวคนเดียว
หวังเก็บเกี่ยว..สัทธา..ชะตาตน..
ใช้ชีวิต..ทุกวัน..ในเมืองใหญ่
ต่างแก่งแย่ง..แยังกัน..,ช่างสับสน
โดดเดี่ยว..เดียวดาย..ไม่มีคน
เคียงข้าง..ปลอยโยน..เป็นแรงใจ..
ยังคิดถึง..แผ่นดิน..มารดาอยู่..
จำต่อสู้..อย่างคนบ้า..คว้าฝันใฝ่
รู้ว่าคน..ข้างหลัง..ยังห่วงใย..
อีกไม่นาน..จะกลับไป..ปลอบใจคน..
*****************************************************************************************
หนาวแล้วนะ..
คิดถึงบ้าน..จัง...
*******************
************************
*******************************
17 พฤศจิกายน 2548 15:12 น.
namsai
*********************************************************************
*********************************************************************
ค่ำคืนนี้..มีเพียงฝน..หล่นเป็นสาย
เธอก็คง..ครวญคร่ำไห้..ในคืนเหงา
ปล่อยชีวิต..ลอยล่องไป..คล้ายดั่งเงา
ในความเศร้า..ร้าวรานใจ..ไม่เคยพอ
ร้องไห้เถิด..ถ้าจะร้อง..เพื่อจะลุก
แต่อย่าร้อง..เพื่อจะทุกข์..เถิดร้องขอ
เพราะน้ำตา..แต่ละหยด..ที่ลดออ
คือโซ่ตรวน..แต่ละข้อ..ถ่อฉุดดึง
ร้องไห้เถิด..ถ้าจะร้อง..เพื่อจะก้าว
ชีวิตยัง..อีกยืนยาว..กว่าจะถึง
ทางข้างหน้า..ยังอีกไกล..ให้คำนึง
ใช้ปัญญา..ตรองให้ซึ้ง..ถึงความจริง
อาจจะเหนื่อย..อ่อนล้า..ขึ้นมาบ้าง
แต่ละก้าว..ที่เหยียบย่าง..หนาวเหน็บยิ่ง
ยิ้มสู้ไว้..หัวใจ..ของคนจริง
แล้วทุกสิ่ง..จะงดงาม..ยามผ่านภัย
ทุกชีวิต..มีสิทธิ์..พลาดผิดได้
อย่าร้องไห้..เธอจง..ทนให้ไหว
เก็บน้ำตา..ที่รินราด..แทบขาดใจ
เป็นบทเรียน..สอนใจ..ใว้กับตน
ไม่มีใคร..ในโลกนี้..มิเคยพ่าย
ต่างชีวิต..วกเวียนว่าย..ไห้สับสน
เรายังคง..เป็นมนุษย์..ปุถุชน
ทุกข์-สุขปน..มองให้ห็น..เป็นธรรมดา..
********************************************************************
********************************************************************
10 พฤศจิกายน 2548 12:13 น.
namsai
เ จ็ บ ป ว ด ม า ก ใ ช่ ไ ห ม ใ น วั น นี้
พ า ยุ ที่ ถ่ า โ ถ ม โ ห ม เ ข้ า ห า
ค ว า ม เ ข้ ม แ ข็ ง อ่ อ น แ ร ง ล ง ทุ ก ค ร า
ด ว ง ชี ว า เ จี ย น จ ะ ดั บ อั บ แ ส ง ล ง
ข อ เ ธ อ จ ง อ ย่ า ท้ อ แ ท้ แ ม้ อั บ โ ช ค
อ ย่ า ทุ ก ข์ โ ศ ก เ รื่ อ ง ร้ า ย ร้ า ย ไ ม่ ป ร ะ ส ง ค์
สู้ เ ถิ ด น ะ..ด้ ว ย หั ว ใ จ.. ท ร น ง
แ ส ง ริ บ ห รี่ จ ะ ม อ ด ล ง จ ง สู้ ไ ป
ท า ง ข้ า ง ห น้ า ยั ง อี ก ไ ก ล ใ ห้ เ ร า ฝ่ า
อ ย่ า ห ยุ ด แ ค่ ต ร ง ห น้า ไ ม่ ค ว้ า ไ ข ว่
เ กิ ด เ ป็ น ค น จ ะ อ่ อ น แ อ แ พ้ ไ ด้ ไ ง
ล้ ม แ ล้ ว ลุ ก ขึ้ น ม า ใ ห ม่ ใ ห้ พ ย า ย า ม..
*****************************************
12 ตุลาคม 2548 14:13 น.
namsai
ทำไมหัวใจฉันมันแปลกแปลก
ใจที่แหลกสลายกลับนิ่งเฉย
ไม่คิดถึงรักครั้งเก่าปวดร้าวเลย
ไม่คิดถึงคนคุ้นเคยเคียงข้างใจ..
ทำไมฉันลืมเขาได้สนิท
แค่ความคิดก็ไม่มีให้หวั่นไหว
เหมือนลมพัดผ่านมาแล้วผ่านไป
ไม่ยึดติดกับใครที่ไร้ตน
หรือฉันเป็นคนที่ไม่มีใจ
จะรวดร้าวยังไงก็ไม่สน
ไม่ย้ำคิดถึงถ้อยคำในกมล
เหมือนใบไม้ร่วงหล่นพ้นกิ่งรวง
เริ่มเข้าใจความเป็นไปของชีวิต
ไม่ยึดติดสิ่งใดไม่ใฝ่หวง
สิ่งที่เห็นล้วนเป็นแค่ภาพลวง
จะพ้นบ่วงกรรมได้ต้องปล่อยวาง