15 มิถุนายน 2548 18:10 น.
N_BOoK
แต่ก่อนเราคิดว่าทุกคนก็ต้องมีการเข้าใจคนอื่นอยู่ลึกๆเหมือนกัน ในโลกนี้เวลาเรามีความสุข บางครั้งก็ทำให้เกือบลืมนึกถึงคนที่รักเรามากที่สุด ตรงข้ามกันในเวลาที่มีความทุกข์ ความสุขเล็กๆน้อยๆในครอบครัวดูมีค่าเหลือเกิน
เราอยากจะจดจำและทำให้ความสุขมันมีค่าอย่างนี้ตลอดไปเพื่อที่จะแยกได้ว่าอะไรเป็นความสุขที่แท้จริง
จริงๆแล้วบทความสั้นๆนี้จะไม่มีความหมายอะไรนักกับคนที่มีความสุขในชีวิตอยู่แล้ว แต่คนที่กำลังมีปัณหาเรื่องเพื่อนหรือเรื่องการเข้าสังคมคงจะเห็นด้วยกระมัง
ถ้าเราเป็นคนคนหนึ่ง ที่รับอะไรหลายๆอย่างไม่ได้ เช่นคำพูดที่เดี๋ยวนี้ใช้กันมากๆ เช่น ประมาณว่า แมร่ง หรือด่าถึงโคตรไรงี้อะไร เวลาที่คนพวกนี้ไม่พอใจก็จะพูดออกมา แต่บางคนดูเงียบๆใช่ว่าจะพูดดีเสมอไป บางคนเคยบอกไว้ว่าใครทำอะไรไม่ดีกับเขาไว้ จะโดนทำคืน 3 เท่า ฟังแล้วดูเหมือนแน่ใจในตัวเองมาก ก็คงจริง
บางทีการปรับตัวคงช่วยเราได้ จริงๆแล้วที่เราpostเรื่องนี้ก็แค่อยากให้คนที่มีความทุกข์รับรู้ว่าโลกนี้มันเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาเราต้องพยายามปรับตัว และปรับตัวในทางที่ดีด้วย
บนโลกนี้ไม่ได้ดีอย่างที่เราคิดไว้เหมือนตอนเด็กๆจริงๆ ถ้าทุกคนดีกันหมดแบบที่เราคิดโลกนี้คงมีความสุขกันมาก จริงๆนะ
แต่ยังไงก็เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว ดังนั้นเราจึงอยากเป็นคนๆหนึ่งที่จะอธิบายความรู้สึกต่างในด้านการมองโลกตั้งแต่เด็กกับปัจจุบัยมันต่างกันมากมาย
จริงๆเรายังมีอีกหลายเรื่องที่จะอยากจะพูดถึงแต่ตอนนี้ต้องไปทำการบ้านแล้ว ติดตามอ่านต่อไปนะ
31 ธันวาคม 2547 23:34 น.
N_BOoK
ผมรู้สึกว่าปีที่ผ่านมาผมทำอะไรไม่ค่อยเต็มที่ แต่ปีที่จะถึงผม...จะเริ่มใหม่ 2วันที่แล้วผมนั่งจิบกาแฟอยู่ในร้าน มองออกมาทางกระจกของร้านกาแฟ ท้อวฟ้าเริ่มคลื้ม และอีกไม่นานฝนก็ตกปรอยๆ ไอนํ้าเริ่มเกาะกระจก ผมยังไม่รีบร้อนที่จะกลับบ้าน หลังจากนั้น20นาทีผมก็เดินไปที่รถสีนํ้าเงิน กระจกรถก็มีไอนํ้าเกาะด้วยเช่นกันผมกะว่าปีใหม่จะไปหาหนังสือที่คลายเครียสมาอ่าสักเรื่องนึง และช่วงวันหยุดปีใหม่ผมก็ตัดสินใจไปซื้อ3ก๊กมาอ่านเล่น ความจริงผมควรจาอ่านมันตั้งนานแล้ว ชีวิตผมก็เรื่อยๆ อยู่ไปวันๆ ผมเป็นคนที่ไม่ค่อยหลอกตัวเองเท่าไหร่ผมจังยอมรับว่าชีวิตผมผ่านไปโดยไม่มีอะไรเปผ็นชิ้นเป็นอันสักที เคยคิดอะไรบ้างไหม ผมเคยสงสัยว่าอะไรเป็นสิ่งที่ใหญ่ที่สุด มันเป็นคำถามที่ยากมากๆ คำถามนี้ผุดขึ้นมาในใจผม คำตอบแรก ผมตอบอย่างไร้สติ ว่ามันคือจักรวาลซึ่งหาจุดจบไม่ได้ แต่พอผมคิดลงไปลึกๆแล้วผมว่ามันน่าจะมีบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่านั้นที่หุ้มห่อจัรวาลเอาไว้ หรือมีบางสิ่งที่หุ้มห่อสิ่งที่ห่อหุ้มจักรวาลไว้อีกมันอาจเป็นเยี่ยงนี้อย่าไม่มีจุดจบ ผมว่ามันเป็นคำตอบที่ตอบมากกว่าไก่กะไข่อะไรเกิดก่อน คำถามนี้ผมตอบได้อย่างที่ผมคินะ ผมว่าไข่เกิดก่อนเหตุผลก็เพราะ
1. เวลาไก่ปกติมันเกิดจะต้องอยู่ในไข่มาก่อน
2. แล้วถ้าคุณถามผมกลับมาคืนว่าแล้วก่อนจะมีไข่ใบนั้นไม่ได้มาจากไข่หรือ ผมจะตอบว่ามันอาจเกิดจากวิวัฒนาการของสัตว์ก็ได้ สิ่งมีชีวิตที่ลักษณะคล้ายไก่ช่วงนั้นอาจกำลังกลายพัน
ผมว่ารู้นะว่าคุณจะเห็นด้วยหรือเปล่า
ผมเหมือนคนไร้จุดหมายชอบคิดเรื่องไม่เป็นเรื่องอยู่เรื่อย แต่นี่ก็ยังคือตัวของผม ผมไปนอนล่ะ
21 กันยายน 2547 22:59 น.
N_BOoK
คาโรลัสเป็นคนหนึ่งที่มีความฝัน ครั้งหนึ่งเขาเคยวาดหวังที่จะก้าวไปสู่ยานอวกาศที่เขาสร้างขึ้นเอง มันเป็นสิ่งที่ง่ายมากๆ ง่ายสำหรับการฝันอย่างเดียว ดูแล้วมันยังคงเป็นความฝันที่เลือนลาง แต่จุดมุ่งหมายนั้นทำให้เขาทำเกรตเฉลี่ยวิชาวิทยาศาสตร์ทุกหมวดได้อย่างดีเยี่ยม มีคนมาถามมากมายว่าไปเรียนพิเศษที่ไหนมา เขาตอบไปว่าไม่ได้เรียน แต่ก็ไม่มีใครรู้หรอกว่าครูที่แท้จริงคือจุดหมายที่เขาวาดไว้เอง เวลาผ่านไป 4 ปี เมื่อเขากลายเป็นคนเก่งของทุกคน ไม่นานนักคะแนนก็เริ่มตกอีกครั้ง ราวกับว่าโชคชะตากลั่นแกล้งไม่มีใครรับมันได้ ถ้าคะแนนออกมาอย่างนี้ เพื่อนๆทุกคนที่เก่งๆต่างอยากเป็นหมอ สิ่งนั้นทำให้จุดมุ่งหมายของคาโรลัสเปลี่ยนไป เขาอยากทำงานด้านดาราศาตร์ แต่ทำไมตอนนี้ไม่รู้สึกอย่างนั้น ที่เรียนพิเศษที่ดีที่สุดกำลังจะโดนยึดกลับคืน มันนานเท่าไหร่กว่าที่จะสร้างมันขึ้นมาได้อย่างลงตัว ครูที่อยู่ในจิตใจกำลังจะย้ายไปสอนที่อื่น และแล้วครูคนนั้นก็จากไปจริงๆคาโรลัสไม่ได้เหนี่ยวรั้งให้ท่านอยู่ต่อ เพราะครูคนนั้นเป็นจุดมุ่งหมายเมื่อใจเราไม่ต้องการก็ไม่มีอะไรจะเหนี่ยวรั้งจุดมุ่งหมายนั้นไว้ได้ ตอนนี้เขาเหมือนคนที่ทำอะไรไปเรื่อยเปื่อย ทุกอย่างยังเป็นอะไรที่สบายๆ ไม่เครียสแต่ก็รู้สึกอึดอัดใจไม่น้อยที่วันๆทำแต่สิ่งไร้สาระ คาโรลัสตัดสินใจจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ โดยพยายามไปตามหาครูคนเดิมให้เจอ และแล้ววันหนึ่งเขาก็ได้พบกับครูคนนั้นตอนที่เขากำลังอ่านหนังสือเกี่ยวกับดาราศาสตร์ ครูหรือที่เรียกว่าจุดมุ่งหมายนี้ไม่ได้หนีไปไหนแต่อยู่ข้างในลึกๆ ในตัวของคาโรลัส รอจนกว่านักเรียนที่เขาสอนพบทางเดินที่แท้จริง สำหรับคาโรลัสเขาตัดสินใจเดินไปบนทางเดินเดิม และครูคนเดิม แม้ความฝันจะไกลเกินเอื้อม แต่เขาก็สามารถที่จะกระโดดคว้ามันไว้ได้นี่!!!
18 เมษายน 2547 16:55 น.
N_BOoK
เหตุการณ์นี้มันเกิดขึ้นมานานจนฉันแทบจะลืมมันไปแล้ว แล้ววันนี้สิ่งที่ทำให้ฉันกลับคิดถึงเรื่องราววันหนึ่งขึ้นมาได้ ก็คือนกตัวหนึ่งบินมา แล้วก็เดินไปเดินมาอยู่ไม่ห่างจากหน้าต่างเท่าไรนัก มันเป็นเหตุให้ฉันนึกถึง เพื่อนรักคนหนึ่ง
เพื่อนรักตัวนี้ไม่ใช่มนุษย์หรอก มันเป็นสัตว์ปีก ก็ใช่นะสิ มันคือนก ฉันคงไม่เห็นนกแล้วคิดถึงแมวหรอก เอ่ออ วันนั้นน่ะ ฉันยังเด็กอยู่ ไม่รู้เป็นไรเวลาเห็นคนเลี้ยงสัตว์ก็อยากเลี้ยงบ้างแต่ไม่มีโอกาสได้เลี้ยงเพราะมันจะเพิ่มภาระให้ครอบครัว พอดีวันนั้นฉันเกิดอยากเลี้ยงสัตว์มากๆ แล้วก็ตะโกนไปว่า"อยากเลี้ยงม๋าจังเลย!!! " แต่มันก็คงเป็นไปไม่ได้ที่แม่จะซื้อสุนัขให้ ฉันเลยลองอ้าปากตะโกนอีกที "งั้นนกสักตัวก็ยังดี"(แต่ถ้าเป็นตอนนี้ฉันคงไม่มีทางตะโกนแบบนั้นเด็ดขาด คุณคงรู้ใช่ไหมเรื่องไข้หวัดนกน่ะ) พอฉันเอ่ยปากตะโกนไปไม่นาน มันก็เกิดเหตุการณที่น่าแปลกและน่าดีใจยิ่งสำหรับเด็กอย่างฉันและน้อง เพราะว่ามีนกตัวหนึ่งบินเข้ามาในบ้าน ฉันกับน้องเลยวางแผนปิดประตู ปิดหน้าต่าง แล้ววิ่งไล่จับเจ้านกตัวนั้น เราใช้เวลาไล่จับมันเกือบ 2 ชม. มันเป็นอะไรที่เหนื่อยมากๆเพราะว่าวิธีการจับของเราก็คือเอาถุงใส่กับมือ(พวกเราไม่กล้าจับเจ้านกตัวนั้น แบบมือเปล่าน่ะ) จากนั้นก้วิ่งไล่มัน พอมันไปเกาะชั้นวางของก็ต้องปีนเก้าอี้ขึ้นไป แต่ไม่สำเร็จหรอกถ้าวันนั้นฉันไม่เอาจักรยานไว้ในบ้าน เพราะเจ้านกตัวนั้นมันบินไปติดกับตะกร้าใส่ของของจักรยาน เราเลยจับนกตัวนั้นมาไว้ใน ฝาชีครอบอาหาร!!!!!! แล้วเอาแตงกวาให้มันกิน นกตัวนั้นมันเป็นสีดำกับสีขาวสวยมากเลยนะ แต่ดูมันคงไม่ชอบที่ครอบอาหารเท่าไหร่ มันพยายามจะบินออก แม้รู้ว่าอับจนหนทาง มันบินไปมาจนชนนู่น ชนนี่ หางมันหลุดออก พอดีฝนก็ตกหนักมากเลยข้างนอก ฉันเป็นพวกกลัวเสียงฟ้าร้องน่ะ ฉันคิดว่าถ้าปล่อยมันไปตอนนี้มันคงต้องตากฝน เลยตัดสินใจให้มันอยู่ในนั้นก่อน พอฝนใกล้จะหยุดตก ฉันก็กลับไปดูมันอีกครั้ง แต่ แต่ แต่!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!1 มันบินไปชนน่นชนนี่ จนเหลือขนหางแค่เส้นเดียว น่าสงสารมัน ไม่น่าเลย เรา2พี่น้องตัดสินใจปล่อยมันไป พร้อมกับตั้งชื่อมันว่า "เจ้าหางเดี๋ยว"
15 เมษายน 2547 13:32 น.
N_BOoK
แครอทวางหูโทรศัพท์ลงด้วยความตกใจ "ฮัลโหลแอนเหรอ เมื่อกี้อ.เมอเรียโทรมาคุยกับฉัน ครูเค้าบอกว่าให้พวกเราเตรียมตัวเคลียกับครูวันพรุ่งนี้ แย่จัง"แครอทบอกแอนให้รู้ถึงโชคชะตาของพวกเขาในวันพรุ่งนี้ "นี่แครอท ถ้าเรายอมรับความจริงก็ไม่เป็นไรหรอก เพราะมันก็แย่หญ้าแหว่งๆ กองเดียว ครูคงจะไม่ทำอะไรมากหรอกน่า"แอนพูด "แอนเดี๋ยวฉันมานะ โทรศัพท์ดังอีกแล้ว สงสัยอ.เมอเรียโทรมา ฉันจะทำไงดี" ว่าแล้วแครอทก็รีบวิ่งไปรับโทรศัพท์ "สวัสดีค่ะ "แครอทพยายามทำเสียงให้เรียบร้อยและดูน่าสงสาร "หวัดดีแครอทฉันอารีนานะ เมื่อกี้ฉันคงหูฝาด สงสัยตั้งแต่ที่ฉันตกต้นไม้ฉันรู้สึกว่าตัวเองบ้องๆไงก็ไม่รู้ อีกอย่างมันคงเป็นไปไม่ค่อยได้ที่เธอทำเสียงเรีบยร้อยมากขนาดนั้น"อารีนาพูด "คืออารีนา พรุ่งนี้เราคงต้องเตรียมตัวจัดการแก้ตัวกับครูเรื่องดึงหญ้าแล้ว"แครอทพูด "แต่ฉันว่าบางทีฉันกับแอน อาจโดนหนักกว่าเธออีกนะแครอท"อารีนากล่าวด้วยนําเสียงกังวลเล็กน้อย "ทำไมล่ะ"แครอทถาม "ก็ฉันทำกิ่งไม้หัก เพราะปีนต้นไม้ แล้วฉันก็เห็นแอนกระโดดลงไปในสระบัว แต่ช่างเถอะแครอทฉันว่าอย่างมาก เราก็ต้องโดนว่า 2 ชั่วโมงกับทำเวรอีก2อาทิตย์น่ะ"อารีนาพูดพร้อมกับแกะห่อช็อกโกแล็ตมากิน "เธอพูดยังกับว่าเธอรู้"แครอทถามอย่างฉงน "ฉันรู้น่ะ เชื่อฉันรึเปล่า เธอก็รู้นี่นาแครอทว่าฉันเป็นคนที่มีลางสังหรค่อนข้างแม่นยำนะ"นําเสียงของอารีนาดูมั่นใจมาก "อืม ฉันจะพยายามเชื่อเธอนะ พรุ่งนี้เจอกัน ฉันคุยกับแอนอยู่"แครอทบอก "บ้ายบาย"อารีนาเอ่ยลาแครอท "อืม บาย"แครอทพูดแล้วรีบวิ่งไปคุยกับแอน "แอนพรุ่งนี้เราจะโดนว่า 2 ชั่วโมงติดกันแล้วก็จะโดนทำเวร 2 อาทิตย์ งั้นบายนะ เดี๋ยวมาคุยกันพรุ่งนั้ ส่วนแผนแกล้งครูเก็บไว้ก่อนดีกว่าไม่งั้นมีหวังต้องเรียนนอกห้องแน่"แครอทพูด "บายนะ"แอนพูด "บาย"แครอทตอบพร้อมกับวางสาย