14 เมษายน 2547 18:41 น.
N_BOoK
คนทำสวนที่โรงเรียนนี้ เขาเป็นคนที่ดูแปลกประหลาดคือเวลาที่ใครมายุ่งหรือทำลายสนามหญ้าแม้แต่เล็กน้อย เขาจะจัดการกับเด็กพวกนั้นอย่างสาสม แอน แครอท และอารีนากำลังจะเป็นรายต่อไปที่โดนจัดการ "พวกเธอจะต้องโดนไม้กวาดทางมะพร้าวอันแข็งแกร่งของฉันสักหน่อยน่ะ"ว่าแล้วคนทำสวนก็ถือไม้กวาดวิ่งไล่ตามเด็กพวกนั้น ช่างน่าสงสารเหลือเกินเพราะแอนเป็นคนที่วิ่งช้าที่สุดในกลุ่มเธอวิ่งไม่ทันจึงตัดสินใจกระโจนลงไปในบ่อนําที่ไว้สำหรับปลูกดอกบัว คนสวนวิ่งไปหยุดข้างหน้าบ่อและตัดสินใจเดินจากไปเพราะเขาคิดว่าคงไม่คุ้มค่าหรอก ถ้าจะเสื้อเปียกเพราะเด็กพวกนี้ เขาจึงตัดสินใจวิ่งตามแครอทไปจนทัน "ผึ้งๆ !! โหเป็นฝูงเลย"แครอทตะโกนแล้วรีบวิ่งจากไป ขณะที่คนสวนหันไปข้างหลังแล้วพูดว่า"ไหนๆ ไหนล่ะผึ่ง"เขาคงเจ็บใจมากเพราะกว่าจะหันกลับมาแครอทก็วิ่งไปไกลแล้ว "ไม่เป็นไรเหลืออีก1 คราวนี้ฉันจะไม่ให้พลาดเลย"อารันาเห็นคนสวนวิ่งตามมาข้างหลัง เธอวิ่งเร็วพอสมควรแต่คนทำสวนวิ่งเร็วกว่าอารีนาจึงตัดสินใจปีนขึ้นไปบนต้นไม้ "ลงมาเลยนะเจ้าหนู ถ้าเธอไม่อยากให้ฉันไปฟ้องครู แค่เธอลงมาสัมผัสกับความแข็งแกร่งของไม้กวาดฉันเพื่อล้างความผิดของเธอ อ่อแล้วก็เพื่อนที่หนีไปอีก 2 คนของเธอ ฉันก็จะให้อภัยแล้ว"คนสวนพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม "เปาะ" เสียงกิ่งไม้ที่อารีนาเกาะอยู่หักลงมา ไม่รู้ว่าโชคดีหรือร้ายที่เธอตกลงมาทับร่างอันอุดมสมบูรณ์ของคนสวนเลยทำให้เธอปลอดภัย ส่วนคนทำสวนก็กำลังฝันเห็นดาวหมุนอยู่รอบศรีษะเขา ในที่สุดทั้ง3ก็ปลอดภัยและได้กลับบ้านเพื่อวางแผนการวันพรุ่งนี้ต่อ
"สวัสดีแอนพูดอยู่ค่ะ"แอนวิ่งไปกับโทรศัพท์มือถือของเธอ "ฮัลโหล แอนเหรอ ฉันแครอทนะ เรามาวางแผนพรุ่งนี้กันเถอะ โอ๊ะ!เดี๋ยวๆ โทรศัพท์บ้านของฉันดัง สงสัยอารีนาโทรมา"แครอทบอกแอนพร้อมกับวิ่งไปคุยกับอารีนา"หวัดดีอารีนา ฉันคิดไม่ผิดเลยว่าเธอต้องโทรมา เรา..คือฉันหมายถึงฉันกับแอนน่ะกำลังวางแผนจะแกล้งครู เอ้ยไม่ใช่แผนที่จะทำให้ครูของเราไม่เครียสกับการสอนมากเกินไปในวันพรุ่งนี้อยู่น่ะ" แครอทพูดอย่างรวดเร็ว เธอแทบจะไม่เว้นช่วงให้คนที่โทรเข้ามาพูดบ้างเลย "สวัสดี ฉันไม่ใช่อารีนาหรอกนะ"เสียงที่ดังมาจากโทรศัพท์มันคุ้นมาก คุ้นมากๆ เหมือนกับเสียงของ อาจารย์เมอเรีย! "สวัสดีค่ะ คุณครูคือเมื่อกี้หนูกำลังซ้อมพูดละครทำรายงานอยู่ค่ะ"แครอทแตว Wเมื่อกี้เธอจะพูดอะไรก็ช่างเหอะ เพราะฉันใช้โทรศัพท์สาธารณะมันไม่ค่อยชัดเลย ฮัลโหลๆ แครอทถึงฉันจะไม่ได้ยินเธอ แต่ฉันรู้ว่าเธอได้ยินฉัน พรุ่งนี้เรามาเคลียกันเรื่องรอยหญ้าแหว่งในสนามนะ เตรียมตัวไว้ดีๆเถอะ แย่จังเตรียมเงินค่าโทรศัพมาคืนฉันด้วยล่ะ" เสียงนั้นหายไป แครอทใจเต้นรัว เธอทั้งดชคดีที่ครูไม่ได้ยินเสียงที่เธอคิดว่าเธอต้องเตรียมทำเวร3 เดือน แต่เธอก็โชคร้ายที่ต้องเตรียมตัวจัดการกับเรื่องหญ้าแหว่ง
โปรดติดตามตอนต่อไป
14 เมษายน 2547 12:39 น.
N_BOoK
กลางสนามหญ้าที่โรงเรียนจะมีเนินหญ้าอยู่2 -3 เนิน แอน แครอท อารีนา ทั้ง3ต่างพากันไปนั่งเล่นบนเนินหญ้าในเย็นวันนี้"ฉันเบื่อจริงๆเลย พรุ่งนี้มีแต่วิชาที่เรียนหนักๆ ทั้งนั้น"อารีนากล่าวด้วยนําเสียงอู้อี้นับเพื่อน "อืม อืม ใช่" แครอทสนับสนุน "แต่ฉันว่ายังไงๆเราก็เรียนไปเถอะ เดี๋ยวพอเลิกเรียนเราก็เป็นอิสรแล้ว"แอนเอ่ยขึ้น "พรุ่งนี้เรามาหาอะไรสนุกๆทำกันดีกว่า"แครอทพูดด้วยสีหน้าที่มีบางสิ่งอันชั่วร้ายแอบแฝง "อิๆ "อารีนาหัวเราะเพราะรู้ว่าแครอทกำลังคิดอะไรอยู่ "แอน เดี๋ยวพรุ่งนี้เธอช่วยหยิบเจ้าแคม(แคมเป็นหนูตัวเล็กสีขาวที่แอนรักมาก)มาด้วยนะ อารีนาฉันว่าหมากฝรั่งรสทุเรียนของเธอช่างหวานหอมเหลือเกิน พรุ่งนี้เอามาแบ่งฉันกินมั่งนะ ส่วนฉันเองจะเอากบปลอมมา อิๆๆๆ 5555"แครอทหัวเราะปากกว้าง "นี่ แครอท เธอจะแกล้วครูของเราเหรอ " แอนถาม "เปล่าสักหน่อยฉันแค่อยากให้ครูมีความสุข คือว่าไม่เครียสน่ะ"แครอทตอบเหมือนกับว่ากำลังแก้ตัวหลังจากได้ทำความผิดอันใหญ่หลวง พร้อมกับเอามือกำหญ้าแล้วดึงขึ้นมา แอนกับอารีนาเห็นว่าการดึงหญ้าเล่นน่าสนุกดีเลยลองบ้าง
"หยุดนะ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! พวกเธอ พวกเธอกำลังทำลายสนามหญ้าที่ฉันเพิ่งตกแต่งมันเสร็จ อ๊ากกกกกกกกกกก เดี๋ยวเถอะ"นั่นเป็นเสียงคนสวนของโรงเรียนที่นักเรียนแต่ละคนต่างเรียกเขาว่า "มังกรพ่นไฟ"
ติดตามตอนต่อไป
13 เมษายน 2547 17:21 น.
N_BOoK
พอเราจะเข้านอนกันเตียงในโรงแรมมี2 เตียง เลยผมต้องไปนอนเตียงเดียวกันกับพี่ชาย พวกเราทั้ง3 ตัดสินใจเปิดไฟห้องนําไว้เพราะยังไม่ชินกับสถานที่ มันจะได้ทำให้ห้องดูสว่างขึ้นหน่อย อ่อ ผมลืมบอกไปว่าผมเป็นคนสายตาสั้นน่ะ คืนนี้ผมนอนไปสักพักก้หลับแล้วเพราะเหน็ดเหนื่อยจากการเล่นนําทะเล ผมนอนไปพักหนึ่งก็ฝันเห็นเด็ก2คนผู้หญิงกับผู้ชายอายุไล่เลี่ยกันผมคิดว่าเด็ก2 คนนั้นคงอายุประมาณ6-9ขวบ อยู่ๆก็เข้ามาในห้องผม แล้วความฝันของผมมันก็แปลกๆ เพราะมันมีบางอย่างที่ทำให้ผมต้องฆ่าเด็ก2คนนั้น แล้วจับพวกเขามาเป็นผีเฝ้าผ้าม่าน ผมงงกับความฝันตัวเองมากตาของผมเริ่มเปิดเล็กน้อยขณะที่ผมพยายามจะลืมตาให้มากกว่านี้แต่ทำไม่ได้ ผมเริ่มรู้สึกตัวเนื่องจากมีบางอย่างที่ทำให้ผมหายใจไม่ออก พอผมสามารถลืมตาได้นิดหน่อยมันทำให้ผมรู้ตัวอยู่ว่าผมนอนอยู่บนเตียงข้างๆผ้าม่านในโรงแรม ผมพยายามปลอบใจตัวเองว่าผมฝันไปเท่านั้น ขณะที่ผมพยายามจะหายใจลืมตาผมสังเกตุเห็นผ้าสีดำๆอยู่ข้างๆหนอนที่ผมกำลังหนุนอยู่ผมพยายามเพ่งมองมันและพบว่ามันเป็นเสื้อสูทสีดำอย่างดี แต่ผมมองไม่เห็นหน้าคนที่ใส่สูทนี้เพราะผมสายตาสั้นไม่ได้ใส่แว่นนอน แต่ที่ผมรู้ว่าเป็นเสื้อก็เพราะผมเห็นกระดุมสีดำติดอยู่ด้วย ผมมองขึ้นไปผมคิดว่าคนที่ใส่สูทนี้ตัวสูงมากเหมือนตัวเขายืดได้ ผมสงสัยและพยายามหายใจจนกระทั่ง พี่ชายที่อยู่ข้างๆลุกขึ้นไปเข้าห้องนําเลย ไม่รู้อะไรทำให้ผมสามารถตื่นขึ้นมาได้ แต่ผมก็ง่วงๆอยู่คราวนี้ผมตื่นไปเข้าห้องนําแล้วกลับมานอนต่อแต่ห่มผ้าหนาขึ้น ผมพยายามที่จะนอนแล้วผมก้ฝันไปว่าผมกำลังต่อสู้กับกลุ่มอะไรบางอย่าง และผมก็มีกลุ่มผู้คนต่อสู้ด้วยผมเป็น1ในคนที่ต่อสู้พอฝันอย่างนี้ไปอีกผมก็ตื่นขึ้นมาเหมือนคราวที่แล้วหายใจ ขยับตัวแล้วก้ลืมตายังไม่ค่อยได้เท่าไหร่นักแล้วเหลือบตาที่จะปิดไปที่ข้างหนอนผมเจอเหมือนเดิม โอออย ผมตกใจเล้กน้อยแต่ก็ทำอะไรไม่ค่อยได้แต่คราวนี้ผมพยายามเพ่งมองไปที่หน้าของเขามากขึ้นแต่ก้ไม่สามารถทำได้ ผมพยายามหายใจ ผมกลัว แต่ยังโชคดีที่ได้จังหวะที่แอร์ในดรงแรมตัดมันก็มีเสียงเกิดขึ้นแล้วแอร์ก็หยุดทำงาน เสื้อสูทตัวนั้นก็หายไปแต่ผมยังหายใจไม่ได้และอีกไม่นานนักผมก้เห็นอีก ผมไม่รู้จะพูดอย่างไรผมไม่รู้ว่าทำไมถึงผมเจอกับสิ่งที่ผมเห็นแต่สิ่งที่ผมจะต้องทำให้ได้ต้องนี้คือพยายามหายใจ ผมไม่รู้ว่าผมทำอะไรผิด ผมถึงเจอแต่ในที่สุดผมก็พยายามหายใจจนสำเร็จ ผมนอนจนเช้า พอตื่นก็ลงไปทานอาหารแล้วเช็กเอ้าออกกัน พออยู่บนรถผมก็เล่าให้น้องกับพี่ฟัง คุณว่าถ้ามีคนเจอเหมือนผมจริงๆ คุณคิดว่าเขาโกหกไหม บางครั้งคนที่เจออาจจะคิดไปเองก็ได้ แต่ผมไม่รู้ ไม่รู้จริงๆ ว่าทำไมถึงเจอ2ครั้งผมไม่รู้ว่าผมฝันไปหรือเปล่า แต่มันไม่น่าจะเป็นไปได้เพราะผมหายใจไม่ออกพอตอนลืมตาได้ฉากในห้องก็ยังคงเดิม ผมขอโทษถ้าผมทำอะไรผิดไป ผมขอโทษกับสิ่งที่ผมเจอ และขอโทษจริงๆ
13 เมษายน 2547 12:50 น.
N_BOoK
พวกเราไปถึงพัทยาประมาณบ่าย2 กว่าๆแล้วพักทานอาหารกัน ผมคิดว่าอาหารที่นั่นมันไม่ค่อยอร่อยเท่าไรนัก อาจเป็นเพราะพวกเราเป็นคนต่างถิ่นเลยไม่ค่อยรู้ที่กินเท่าไรนัก หลังจากนั้นเราก็ไปหาโรงแรมกันกะจะค้างที่นั่นสัก1 คืน ที่พักของเราเป็นโรงแรมชั้นหนึ่งเลยต้องประหยัดหน่อยห้อง1 อยู่กัน3คน
เพราะห้องพักคืนหนึ่งก็ราคา2400 แต่ดีที่มีอาหารเช้าให้2 ที่ ส่วนอีกคนหนึ่งต้องซื้อกินเอง ผมเป็นคนที่แปลกๆ เพราะผมมีความรู้สึกอยู่นิดหน่อยว่าตัวผมเองเป็นคนมีสัมผัสที่6 พอเราหาโรงแรมได้ก็ไปเล่นนําทะเลกัน หนุกมาก แต่ผมคิดว่าถ้ามันเป็นนําจืดคงจาดีกว่านี้ เพราะมันจะได้ไม่แสบตาเวลาเล่น ผมโตแล้วแต่พอยังคิดอะไรแปลกๆ เช่นว่า อาจมีฉลามโผล่มาอยู่ข้างๆ ผมก็เลยไม่กล้าว่ายออกไปห่างจากชายฝั่งมากนัก พอกลับเข้าห้องพักผมก็ได้แผลมา1แผลไม่รู้ไปโดนอะไรในทะเลบาดเอา วันนี้ก็สนุกดีไม่มีอะไรแย่มากไปกว่าตกดึก พอถึวคิวที่ผมจะต้องอาบนํา คุณต้องเข้าใจนว่าผมเป้นพวกชอบอาบนําอุ่นแบบเกือบเดือด เหอๆ ผมอาบไปเรื่อยๆ มันก็มีไอนําขึ้นกระจก ไอนํามันเริ่มเกาะมากขึ้นๆ จนกระจกมีแต่ไอนําผมมองไปต้องตกใจสุดขีดเมื่อ ที่กระจกมันเหมือนมีคนเอานิ้วไปเขียนพอไอนําขึ้นเลยเห็นชัดเจนเลย แต่ผมไม่กล้าอ่าน ผมพยายามทำเป็นมองไม่เห็นแล้วก้รีบอาบหลังจากนั้นก็รีบเผ่นออกมาให้เร็วที่สุด พอพี่ผมจะอาบผมก็บอกพี่ก่อนแล้วก็เจอเหมือนกัน แต่พี่ผมก้อ่านตัวหนังสือบนกระจกนั้น มันคล้ายๆกับว่าผู้หญิงคนที่เขียนกำลังขอบคุณใครสักคน และเราทั้ง3 ก็สรุปว่าตอนที่เขียนมือของผู้หญิงคนนั้นอาจเปื้อนอะไรมันๆ พอไอนําขึ้นเราก็เลยเห็นชัดเพราะนํามันคงไม่เกาะนํา หรือคุณว่าไง แต่พอตกดึกอ่ะ สงสัยจาเจอของจริงเลย เหอออ
1 มีนาคม 2547 16:01 น.
N_BOoK
ผู้ชายคนหนึ่งกำลังนั่งอยู่ข้างๆ โต๊ะทำงาน เขามีงานมากมายที่จะต้องทำ แต่มันไม่ใช่เขาเพียคนเดียวหรอก คนอีกมากมายก็ต้องอดทนทำงานเพื่อที่จะหาเงิน ตอนนี้เขานั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานที่บ้าน ทั้งๆที่ความจริงเขาอยากนั่งอยู่บนโขดหิน ที่อยู่ริมทะเล ช่วงนี้อะไรมันก็เป็นเงินเป็นทองไปหมด คุณว่าไหม
เขาอยากที่จะมีความสุขแต่เขาก็ต้องมีความทุกข์ หากวันไหนที่เขาอยากอยู่คนเดียวก็จะมีคนเข้ามาวุ่นวายกับชีวิตของเขา ทุกอย่างนี้มันเป็นสิ่งที่เราต้องบังคับตัวเองเพื่อความอยู่รอด เพราะเราต้องทำงานหาเงิน
และวันหนึ่งขณะที่ชายคนนั้นทำงานอย่างหนัก จนวูบลง ไม่มีใครเห็นเขาเพราะภายในห้องมีเพียงเขา กับโต๊ะ เก้าอี้ และสมุดงาน มันดีแล้วที่เขาได้วูบลงไปในช่วงนั้น การหลับอย่างสงบครั้งนี้ทำให้เขารู้สึกผ่อนคลาย ใช่ล่ะ ความฝันของเขาเป็นจริง ตอนนี้เขากำลังนั่งอยู่ข้างโขดหิน มันช่างมีความสุขเหลือเกิน ชายคนนั้นสูดลมหายใจรับกลิ่นไอของทะเลเข้าไปเต็มปอด และตอนนี้เขาก็อยากมีเวลาส่วนตัว และก็เป็นจริงเพราะทะเลที่เขากำลังอยู่ มันไม่มีคนเลย เขาถอนหายใจจากการที่ได้ใช้ชีวิตอยู่บนโต๊ะทำงานงานมานานแรมปีโดยไม่ค่อยใส่ใจตัวเองแล้วก็นั่งพิงโขดหินจนหลับไป พอตื่นขึ้นมาอีกทีก็ต้องพบกับชีวิตบนโต๊ะทำงานอย่างเคยมันช่างน่าเบื่ออะไรเช่นนี้ ความจริงการทำงานมันไม่ได้เป็นสิ่งเลวร้ายอะไรมากหรอก แต่เขาก็ไม่รู้จริงๆว่ามีอะไรที่มันเลวร้ายไปกว่าการทำงานโดยไม่หยุดพัก อะไรที่มันทำให้ชีวิตของเขาเป็นแบบนี้ เขาอยากกลับไปที่นั่นอีก ทะเล...ที่มีเพียงเขากับธรรมชาติที่ไม่สามารถมาพิพากวิจารณ์เขาได้ เขาอยากไปที่นั่นแต่มันคงไม่มีในโลกใช่ไหม ที่ๆไร้การพูดจาของคน ที่ๆไร้การเห็นแก่ตัว ที่ๆ มีความจริงใจ ชายคนนั้นพยายามฟุบตัวลงไปอีกเพื่อเขาจะได้ไปที่นั่นอีกครั้งและอีกไม่นานหลอดไฟที่โต๊ะทำงานของเขาก็กระพริบจากนั้นก็ดับลง เหลือไว้เพียงแต่ความมืดกับอีกหนึ่งความรู้สึกที่ไม่มีใครสักคนเข้าใจ