23 กันยายน 2545 01:22 น.
monki
อยากมีเพื่อนสักคนในคืนหนาว
มาผลัดกันเล่าเรื่องราวความเจ็บช้ำ
ปล่อยความเศร้าให้รินไหลกับกลิ่นไอความทรงจำ
ใช้น้ำตาแทนถ้อยคำ.. ปลอบความช้ำให้บรรเทา
มานั่งร้องไห้ด้วยกันตรงนี้
เป็นของขวัญที่มี ให้กับเสียงดนตรีในคืนเหงา
ใต้ผืนฟ้าบรรเลง เพลงฝนหล่นเบาเบา
รวมกับท่วงทำนองของความเศร้า จากเรา... จากหัวใจ
มาร่วมฟังบทเพลงจากสายฝน
ถ่ายทอดสิ่งที่มีในใจคน...สองคนให้หลั่งไหล
ไม่ต้องมีภาษาหรือคำพูดจาใดใด
เพียงกุมมือกันไว้... แล้วปล่อยให้ความอ่อนไหวเข้าใจกัน
17 กันยายน 2545 20:52 น.
monki
ฉันทรุดกายใต้ต้นไม้
ปล่อยความเหนื่อยล้าถูกขับไล่..จากขาทั้งสี่ข้าง
จ้องมองไปข้างหน้า..ผ่านสองตาฝ้าฟาง
ฉันเห็นความอ้างว้าง..บนถนนหนทางวุ่นวาย
วันหนึ่งเธอจากไปในถนนสายนี้
คือภาพความทรงจำที่มี..ภาพสุดท้าย
สัมผัสหน้าผากจากมืออุ่น..ยังละมุนไม่เสื่อมคลาย
ก่อนเธอโบกมือบ๊ายบาย..แล้วเลือนหาย..ไม่กลับมา
เนิ่นนานเท่าไร...ไม่อาจรู้
กี่ครั้งที่ตะวันเคียงคู่..แล้วลาฟ้า
กี่ก้าวย่างที่ห่างจาก~บ้าน~ของเรามา
กี่ครั้งที่รีบวิ่งตามใครข้างหน้า...เพราะนึกว่าเป็นเธอ
หมาเก่า..หมาแก่ตัวนี้
ยังจงรักภักดี...กับเธอเสมอ
ลมหายใจที่ยังพอมี...จะใช้ทั้งหมดนี้ตามหาเธอ
เฝ้าคอยเวลาได้พบเจอ..กลับไปเป็นฉันและเธอเหมือนวันเก่า
รัตติกาลคืบคลานมา
ฉันฝืนพยุงตัวเดินต่อไปข้างหน้า...ฝ่าความหนาว
แสงจันทร์นวลผ่อง..สะท้อนร่องน้ำเป็นเงา
แว่วเพลงที่เธอเคยคลอเบาเบา..ยิ่งเหงาจับใจ
โอละหนอ โอละเห่
คืนนี้หมาว้าเหว่...จะร่อนเร่ไปถึงไหน
เดินมาเหนื่อยนัก...จะพักใต้ชายคาบ้านใคร
น้ำท่าใครจะหาให้..ข้าวปลาใครจะดูแล
ฉันยังคงเดินซัดเซไปตามถนน
ผ่านความสับสน...กับสายตาของผู้คนที่มองอย่างไม่แยแส
ความหวังเล็กเล็กในใจของหมาแก่
ก็มีเพียงแค่..ได้พบเธอก่อนถึงปลายทาง
15 กันยายน 2545 17:47 น.
monki
เช้านี้.. ฉันลืมตาขึ้นมา
พร้อมรอยยิ้มระบายบนใบหน้า และหัวใจที่สดใส
แดดอ่อน อ่อนยามเช้าลอดม่านเข้ามาทักทาย
วูบหนึ่งของสายลมปะทะกาย...ฉันสัมผัสกลิ่นอายที่คุ้นชิน
ที่รัก เป็นเธอใช่ไหม
ที่ฝากข่าวมาให้ จากดินแดนแสนไกลในหุบหิน
พร้อมแสงตะวันทาบขอบฟ้า มากับนกตัวแรกที่ออกบิน
ให้ฉันรับรู้... การเคลื่อนไหวเหนือพื้นดิน... ของเธอ
ฉันแนบหน้ากับหน้าต่าง
อยากใกล้ชิดกับไอเบาบางที่รอมาเสมอ
นานเท่าไหร่แล้วนะ ที่เราไม่ได้พบเจอ
รู้ไหม ฉันจดจ่อรอเธอ ทุกวันเวลา
ข้างนอก ต้นไม้กำลังคุยกัน
ถึงเรื่องราวที่ผ่านผัน และคืนวันแห่งการปลดปล่อยความเหนื่อยล้า
นกน้อยส่งเสียงใส เตรียมต้อนรับเพื่อนใหม่ที่จะผ่านมา
ต้นหญ้ารอเวลา จะผลิดอกเริงร่า ท้าสายลม
ข้างใน หัวใจฉันกำลังกระโดดโลดเต้น
กับทุกสิ่งที่เห็น ด้วยแววตาสุขสม
ที่รักจ๋า ข่าวเธอกำลังจะมา -- จากฟากฟ้าและสายลม
ฉันรับรู้และคอยชื่นชมด้วยความยินดีปรีดา
ฤดูชีวิตของฉันกำลังจะเริ่มต้น
ภาพสีมัวหม่นจะถูกปลดลงจากท้องฟ้า
โลกทั้งโลก จะปกคลุมด้วยไอเย็นเมื่อเธอก้าวมา
และฉันคงจะมีความสุขที่สุดในหล้า... ในวันเธอมาเยือน
10 กันยายน 2545 00:21 น.
monki
นกน้อยกางปีกถลาสู่ฟ้ากว้าง
มุ่งหน้ายังเส้นทางแห่งความฝัน
ใช้ชีวิต จิตวิญญาณเป็นเดิมพัน
ปลายรุ้งนั้น คือความฝันอันแสนไกล
เหลียวทางไหน เห็นแต่ฟ้ากว้างกว่ากว้าง
ความอ้างว้างคอยเคียงข้างแต่หนไหน
เจ้าก็ยังไม่ระย่อทดท้อใจ
โผปีกไปในฟ้ากว้างอย่างอดทน
ผ่านเปลวแดดแผดร้อนให้รอนล้า
ภาพในตาก็พร่าเลือนเหมือนสับสน
ปีกอ่อนล้า ขาอ่อนแรง แสงใจหม่น
เปลวร้อนรนหลอมละลายเอ่อนัยน์ตา
ยามพายุพัดโถมโหมกระหน่ำ
ใต้ฟ้าช้ำเจ้าซุกซบหลบซอกผา
หยาดฝนหนาวราวคมลิ่มทิ่มกายา
ปีกสะท้านรานล้าจนชาชิน
แสงตะวันรางเลือนมาเยือนหล้า
เจ้าลืมตามองฟ้าฝ่าซอกหิน
ค่อยค่อยคลี่ปีกชื้นเหนือพื้นดิน
แล้วเตรียมออกโผผินบินต่อไป
ทางข้างหน้านั้นอีกยาวไกลอยู่
หากใจสู้มุ่งมั่นไม่หวั่นไหว
ด้วยปีกที่แกร่งกล้าจะพาไป
ไม่ว่าไกลแค่ไหนไม่ไกลเกิน
7 กันยายน 2545 20:53 น.
monki
เราสองยืนบนถนนคนละด้าน
เฝ้ามองผ่านม่านหมอกที่ทอดหนา
สัมผัสอีกฟากฝั่งด้วยนัยน์ตา
หลายครั้งคราเราสบตากันและกัน
สิ่งที่เห็นงามงดและสดสวย
เต็มไปด้วยไออุ่นละมุนฝัน
พัดพาใจให้ล่องลอยทุกคืนวัน
ปรารถนาให้เรานั้นเดินร่วมทาง
ในความฝันสีขาวพราวไอหมอก
พริ้วระลอกกลีบดอกไม้ทุกก้าวย่าง
ดึงให้เราทะยานผ่านม่านเบาบาง
ความเลือนรางค่อยกระจ่างกลางหมอกควัน
ครั้นต่างคนต่างเข้ามาชิดใกล้
รู้ในใจว่าไม่เป็นเช่นที่ฝัน
ความรู้สึก จินตนาการ ในวารวัน
ไม่ใช่เธอ ไม่ใช่ฉัน อย่างที่เป็น
สายหมอกขาวจางจางคงพรางไว้
ความขัดแย้งข้างในมองไม่เห็น
ยิ่งเนิ่นนานความต่างช่างชัดเจน
ยิ่งซ่อนเร้น ยิ่งรวดร้าว ยิ่งเศร้าตรม
พันธนาการทั้งหลายที่ผูกมัด
ที่ร้อยรัดสองใจไว้เหมาะสม
ค่อยลุกไหม้ด้วยไฟแห่งอารมณ์
ที่ชื่นชม กลับขมขื่น กลืนน้ำตา
จึงต้องปล่อยรักเลือนหายในสายหมอก
กระซิบบอกลาฝันที่ตรงหน้า
หันหลังกลับทางเดิมที่จากมา
ด้วยดวงใจที่เจ็บล้าถึงสองดวง