16 ตุลาคม 2550 11:07 น.
Miloz (ไมลอซ)
วันนี้ฉันนั่งเซิร์ชหาเพื่อนชาวต่างชาติ แหม โลกของเราพัฒนาไปไกลจังนะ สามารถติดต่อกันข้ามประเทศได้ในไม่กี่นาที จนตอนนี้ฉันมองไม่เห็นขอบเขตของการสื่อสารแล้วล่ะ ก็ไกลซะจนคนละขั้วโลกเลย
แล้วฉันก็ได้พบกับเพื่อนคนหนึ่งซึ่งอยู่เกาหลีใต้ เราพบกันโดยบังเอิญบนเว็บไซต์หาเพื่อนต่างชาติแห่งหนึ่ง ฉันเริ่มคุยกับเขา เริ่มคุ้นเคยและแลกเปลี่ยนทัศนะในเรื่องต่างๆ อยู่ๆ เขาก็ถามฉันว่า คิดยังไงกับการสื่อสารสมัยนี้
ฉันก็ตอบไปตามตรงว่า มันพัฒนาไปไกลมากจนน่าตกใจ น่าแปลกที่เราสามารถคุยกันได้ทั้งที่คนละประเทศแท้ๆ เขาเองก็ตอบมาว่าเห็นด้วยและเล่าเรื่องของพี่สาวของเขาให้ฟัง
พี่สาวเขาเป็นคนหัวอินเตอร์ พอเจอไฮสคูลก็ไปต่อนอก และได้พบกับผู้คนมากมาย แต่หาคนเป็นเพื่อนแท้ ไปไหนไปด้วยกันไม่ได้เลย แถมแฟนก็เปลี่ยนใหม่เร็วอย่างกับเปลี่ยนกางเกงใน จะเรียกว่าไงดีล่ะ ความจริงใจน่ะมีจริงนะ แต่ความยาวนานที่หาแทบไม่เจอเลย
ฉันเลยลองมานั่งคิดๆ ดู โลกการสื่อสารมันพัฒนาไปไกลก็จริง แต่จิตใจคนไม่ได้พัฒนาตามมันไปด้วยเลย จริงอยู่ที่เราสามารถติดต่อกับผู้คนได้หลากหลายสัญชาติ แต่ก็แทบหามิตรแท้หรือรักแท้ใกล้ตัวไม่ได้เลย เพราะงั้นอย่าไปหวังกับพวกที่นั่งอยู่อีกฟากของจอคอมพิวเตอร์ว่าเขาจะรักเราจริง
อย่าไปรักไปหลงคนในโลกไซเบอร์ง่ายๆ นะ โอกาสประสบความสำเร็จมันถูกเหยียบจนแทบมิดดินเลยล่ะ เพื่อนแท้... รักแท้หายากจริงๆ ไม่ว่าจะในโลกไซเบอร์หรือโลกจริงของเรา มันทำให้ฉันได้ข้อคิดที่ว่า
ติดต่อได้ไกลแต่ใจไม่จริง
งงล่ะสิ ช่างเถอะ ถ้าเจอคนดีๆ ก็นับว่าขุดเจอเพชรแท้ในดินเหนียวเลยล่ะ จับพวกเขาไว้ดีๆ เพราะพวกเขาจะอยู่กับคุณไปอีกนานในโลกไร้แพรมแดนนี้
Miloz (ไมลอซ)
16 ตุลาคม 255
12 ตุลาคม 2550 20:19 น.
Miloz (ไมลอซ)
ผมยังจำได้ดี วันที่เราเดินจูงมือกันไปบนเส้นขนาน
...เจ้าหญิงตัวน้อยๆ ของผม...
_____ท่ามกลางท้องฟ้าสีคราม สายลมโบกพัดอย่างหนักหน่วง เด็กหญิงตัวน้อยๆ ผิวขาวละเอียดในชุดกระโปรงสีชมพู หมวกฟางสีน้ำตาลปลิวไหวเบาๆ ทว่ามืออิ่มเอมสีขาวนวลยึดมันไว้กับศีรษะ
_____ดวงตาใสรื้นหยาดน้ำอย่างอดไม่ได้ ริมฝีปากเม้มเป็นเส้นตรงสั่นสะท้าน ผมยืนมองเธอในอ้อมกอดของมารดาคนสวยที่ค่อยๆ ปลอบประโลมก่อนจะเบนสายตาไปที่ว่าวสีชมพูเข้มบนต้นไม้
_____ไว้เราค่อยไปซื้อใหม่ก็ได้นี่จ๊ะ เป็นเด็กดีนะแพม อย่างอแง
_____ผมเดินที่ต้นไม้ ใช้สองมือเล็กเกาะเกี่ยวมันและปีนขึ้นไปยังกิ่งไม้ท่ามกลางเสียงกรีดร้องของพ่อแม่ ผมเอื้อมมือไปหยิบว่าวมาได้สำเร็จ ทว่าลมกลับแรงขึ้นจนมือลื่นๆ ของผมพลัดหลุดจากต้นไม้ร่วงลงมา
_____พี !!
_____คุณแม่วิ่งมาหาผมเป็นคนแรก โอบล้อมรอบคออย่างห่วงหา แพมเดินยิ้มๆ มาหาผม ผมจึงส่งว่าวใบโปรดให้เธอ แพมกอดศีรษะผมอย่างอ่อนโยน
_____ขอบใจมากนะพี แพมรักพีที่สุดเลย
_____ผมยิ้ม สองมือน้อยๆ ของแพมลูบคิ้วของผมซึ่งมีรอยบาดเล็กๆ ซึ่งในเวลาต่อมา มันกลายเป็นแผลเป็นแห่งความทรงจำของผม
_____ผมดีใจที่เห็นเธอยิ้ม ผมดีใจที่เห็นเธอหัวเราะ จะให้ผมทำอย่างไรก็ได้ที่สามารถปกป้องรอยยิ้มนั้นได้ตลอดกาล... อย่างที่พวกคุณคิด ผมหลงรักน้องสาวของผม... น้องสาวฝาแฝดนามว่าแพม หรือพิมพ์พิตรา ยศวิจัยกุล
_____ผมเฝ้ามองเธอตั้งแต่เธอยังเล็ก ผมหลงรักทุกๆ อย่างในตัวเธอและคอยแต่งแต้มเธอให้งดงามสมใจผม ในวันที่แพมร้องไห้ ผมจะยืนจับมือเธอและบีบอย่างอ่อนโยน ส่วนในวันที่ผมท้อแท้ เธอจะเดินเข้ามากอดและลูบศีรษะผม
_____สายสัมพันธ์ของเราแน่นหนาเกินกว่าจะมีใครทำลายได้ง่ายๆ
_____ผมจะยอมทำทุกอย่าง... เพื่อหญิงอันเป็นที่รัก
_____คนที่ล่วงรู้ความรู้สึกนี้ของผม มีแต่ตัวผมเองกับธนพลหรือพล เพื่อนคนสำคัญอีกคนของผม
+-+-+
_____ห้องม.๓๐๒ โรงเรียนมัธยมชื่อดังแห่งหนึ่ง
_____ไอ้พี ถามจริงๆ เหอะว่ะ แกยังจะดันทุรังชอบน้องสาวตัวเองอีกเหรอวะ พลถามผมขณะเราสองคนเดินกลับบ้านด้วยกัน ผมไม่ได้ตอบ มันคงจะรู้อยู่แก่ใจถึงถอนใจอย่างเหนื่อยหน่าย ระวังไว้หน่อยนะเว้ย เห็นว่าไอ้แด็กห้องเจ็ดเล็งแพมไว้อยู่ว่ะ
_____ผมหูผึ่ง แต่ก็เก็บงำความกังวลใจไว้เงียบๆ ปกติแพมจะกลับบ้านกับเพื่อนๆ ที่ผมค่อนข้างไว้ใจ วันนี้แพมก็กลับมาถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ ผิวขาวสวย ดวงตากลมโตน่ารัก ผมดำขลับนิ่มสลวยแม้จะสั้นเท่าติ่งหูก็ตาม
_____หวัดดีพี
_____อือ ผมตอบรับยิ้มๆ วันนี้แพมก็น่ารักอีกแล้ว ไม่ถึงอึดใจเพื่อนสาวกลุ่มเบ้อเริ่มของเธอก็พากันยกขโยงเข้าบ้าน และยังเข้ามานั่งอย่างถือวิสาสะ ผมที่นั่งเล่นคอมพิวเตอร์ในห้องรับแขกหมุนเก้าอี้สีดำตัวโปรดอย่างงุนงง
_____หวัดดีจ้าพี ขอรบกวนหน่อยน้า เยลลี่ เพื่อนคนสนิทของแพม เป็นสาวนักแต่งตัวคนหนึ่ง แต่ด้านนิสัยก็ใช้ได้เลยล่ะ แถมเธอยังชอบมองผมด้วยสายตาหยาดเยิ้มอีกต่างหาก ผมงี้ขนลุกเชียว
_____งั้นพวกเธอนั่งนี่ คุยกับพีไปก่อนนะ เดี๋ยวฉันไปเอาน้ำมาให้
_____รับทราบจ้า เยลลี่ตอบรับ พวกเธอทั้งกลุ่มหันมองผมเป็นตาเดียว
_____มีอะไร ผมถามไปตรงๆ พยายามเลี่ยงสายตาหลบ หากพวกเธอไม่จ้องจิกขนาดนั้นนะ อยากพูดอะไรก็พูดมาสิ
_____ก็แหม พีอ่ะ น่ารักจะตาย หล่อเท่ดังในหมู่สาวๆ มากเลยด้วย ไหงไม่ยักจะมีแฟน เยลลี่ลากเสียง พูดอ้อมแอ้มน่าถีบ นี่ล่ะมั้งที่พวกผู้หญิงเรียกกันว่าอาการแอ๊บแบ้ว
_____ก็คนมันไม่อยากมีนี่ ผมตอบเรียบๆ ถ้าไม่มีอะไรจะพูดแล้ว ผมขอตัวก่อนนะ
_____เดี๋ยวสิพีก็ ! เยลลี่ร้อง กระโจนมากุมมือผมไว้ รู้อะไรไหม แพมกำลังจะมีแฟนเป็นตัวเป็นตนแล้วน้า
_____ใคร
_____จะใครที่ไหนอีกล่ะ ก็อีตาแด็กไง ตามตื๊อแพมทุกเวลาก่อนหลังอาหารเช้ากลางวัน ฮะๆ เยลลี่หัวเราะ แต่ผมกำลังเครียดเลยนะเนี่ย พอเห็นแพมเดินมา ผมก็สะบัดมือออกแล้วขอตัวขึ้นไปชั้นสอง
_____หนึ่งสัปดาห์ผ่านไปไวเหมือนโกหก ทุกอย่างยังปกติดี เว้นแต่แพมที่แต่งตัวใส่กระโปรงสั้นจู๋ดูวาบหวิวสีชมพู เสื้อรัดติ้วสีดำเน้นทรวดทรงกับประเป๋าสะพายข้างลายตารางดำขาว เธอแต่งหน้าหน่อยๆ ออกไปเที่ยวกับเพื่อนๆ ผมกังวลเลยหาข้ออ้างออกสะกดรอยตามโดยบังคับพลเพื่อนซี้ตามมาด้วย
_____นี่แกห่วงมากจนยอมเป็นสโตกเกอร์เลยเหรอวะ แค่สาวๆ เที่ยวกัน ไม่มีอะไรหรอกน่า ถ้ากังวงมากก็โน่นไป ไปขอแจมเลยเป็นไง
_____ผมมองพลตาขวาง แกจะบ้ารึไง พักนี้มีอะไรแพมไม่เคยบอกฉันเลยนะ เหมือนกับมีความลับจะปิดฉันงั้นแหละ กลายเป็นเด็กแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไรนะ
_____แกก็กลายเป็นไอ้พวกขี้หวงไปตั้งแต่เมื่อไรวะ พลสวนกลับเล่นเอาผมสะอึก เราสะกดรอยตามมาเงียบๆ พอไม่มีอะไรจริงๆ ผมก็คิดจะกลับ แต่พวกแด็กก็เดินตรงเข้ามาหากลุ่มเบ้อเริ่ม เริ่มมีหยอกล้อ หอมแก้ม โอบบ่า แด็กเห็นแพมก็เดินเข้าไปทักและเดินคู่กับแพมตลอดทาง
_____ผมเลยเปลี่ยนใจหันมาสะกดรอยตามต่อ พวกเขาไปคาราโอเกะ เล่นเกมเซ็นเตอร์และโปรแกรมสุดท้ายก็ดูหนัง ผมกับพลก็ซื้อตั๋ว แต่มายืนรอด้านหน้าโรงหนัง ไม่ได้เข้าไปดู เพราะหนังมันน้ำเน่าซะเหลือเกิน
_____ไม่ถึงอึดใจ แด็กก็เดินจูงมือแพมออกมาจากโรงหนัง พาน้องสาวคนสำคัญของผมไปตรงตรอกมืดๆ แถวห้องน้ำปราศจากผู้คน
_____แด็กจะพาแพมไปไหน ! แพมร้อง ยื้อสุดกำลัง ไหนว่าจะไปซื้อป๊อบคอร์นไง ทำไมพาแพมมาที่ห้องน้ำล่ะ
_____แด็กยิ้มอย่างหื่นกามให้แพม เราไปมีความสุขกันสองคนเถอะนะแพม
_____ไอ้ผู้ชายบ้ากามนั่นเปิดกระโปรงแพมขึ้นจนเห็นกางเกงในสีขาว มันค่อยๆ บรรจงใช้มือลูบไล้กับของสงวนน้องสาวผม แพมก็ตอบสนองด้วยกันร้องครางอย่างอดไม่ได้
_____หยุดนะแด็ก ! อย่านะ แพมโดนแด็กตรึงมือไว้ไว้กับกำแพง
_____ไม่เห็นเป็นไรเลย นิดเดียวเอง
_____ไม่นะ ! พี ! พี !! แพมร้องเรียกผม
_____ก่อนที่มันจะทำอะไรมากกว่านั้น ผมปรี่เข้าไปชกหน้ามันเต็มแรงอย่างโมโหโทโส แด็กมองหน้าผมอย่างหงุดหงิด แพมวิ่งเข้ามากอดผมเต็มแรงพร้อมกับสะอื้นไห้อย่างหวาดกลัว
_____ไม่เป็นไรนะแพม ผมปลอบเธอ ลูบศีรษะเด็กหญิงขี้แยที่บัดนี้โตเป็นเด็กสาวเต็มตัว
_____พี... ฮึก พี
_____แด็กทำท่าจะเข้ามาแย่งแพมไปจากผม แต่พลกลับเข้ามาขวางไว้แล้วจ้องแด็กเขม็ง ไสหัวไปสิวะไอ้แด็ก แล้วอย่าให้ข้าเห็นว่าเอ็งมายุ่งกับแพมอีกนะเว้ย ไอ้สัด
_____แด็กวิ่งหนีไป แม้พลจะดูเรียบๆ แต่หมอนี่ล่ะหัวหน้าแก๊งค์ตัวจริงเลย ผมพยักหน้าขอบคุณพลที่อุตส่าห์มาเป็นเพื่อนและยังช่วยอีก ผมไม่พูดพร่ำทำเพลง พาแพมกลับบ้านโดยเร็ว พลแยกกับเราตรงป้ายรถเมล์ ตลอดทางเธอสะอึกสะอื้นไม่หยุด ส่วนผมก็บีบมือเธอเบาๆ
_____ขอบคุณนะพี แพมพูดเบาๆ ถ้าไม่มีพี แพมก็ไม่รู้จะทำยังไงดี ตอนนั้นมัน... น่ากลัวจริงๆ สมองแพมขาวโพลนไปหมดเลย
_____ไม่ใช่ความผิดของแพมหรอก ผมยิ้ม โอบศีรษะเธออย่างทะนุถนอม ต่อให้แพมตกอยู่ในอันตราย ก็ขอให้เรียกพีนะ พีจะรีบไปช่วยแพมให้เร็วที่สุด ก็เรามีกันสองคนพี่น้องนี่เนอะ
_____อื้อ แพมยิ้มให้ผม
_____ผมรู้ดี... แพมไม่เคยมองผมในฐานะผู้ชายคนหนึ่ง ผมจึงเป็นแค่พี่ชายผู้แสนดีที่คอยปกป้องเธอ...ก็เท่านั้น
_____ไม่กี่วันถัดมา แพมก็กลับมาร่าเริงอีกครั้ง และพลก็ไปสืบจนรู้มาว่าพวกเยลลี่เป็นตัวการจัดฉากและแนะนำแผนให้แด็ก แต่พลก็จัดการเรื่องราวให้เรียบร้อย พวกเยลลี่ก็ไม่มายุ่งกับแพมอีกเลย แม้แพมจะเจ็บปวด แต่มันก็ใกล้จะจบม.๓ อยู่แล้ว
_____...ไม่มีอะไรต้องกังวลหรอก...
+-+-+
_____พอเราขึ้นมหาวิทยาลัย งานที่ต้องรับผิดชอบก็เยอะ แถมเรียนคนละคณะ จึงยากที่จะได้เจอกัน แพมเรียนนิเทศศิลป์ ผมเรียนวิศวะเหมือนพล คณะนี้ก็เหมาะกับแพมดี นับวันเธอยิ่งสวย ยิ่งน่ารัก กระทั่งวันหนึ่ง... วันหยุดของเราก็ตรงกัน แพมเดินเข้ามานั่งใกล้ๆ ผม
_____เพิ่งจะสังเกตนะเนี่ย พีหล่อขึ้นเยอะเลย
_____อือ ขอบใจ
_____ทำไมพีไม่คิดจะมีแฟนบ้างล่ะ โสดมาตั้งแต่เกิด แพมอยากเห็นหน้าแฟนพีจังเลยแฮะ แพมโน้มตัวลงหอมแก้มผมเบาๆ
_____แพม เราไม่ใช่เด็กๆ แล้วนะ ผมเผลอตัวตวาดเธอไป แพมทำหน้าสำนีกผิดแล้วขอโทษผม ไม่กี่วันถัดมา แพมก็พาเพื่อนมาเที่ยวบ้าน เธอคนนี้ชื่อนิ้ง เป็นคนที่สวยไม่แพ้แพม แต่ที่ผมแปลกใจคือหนุ่มหน้าหล่อแบบลูกครึ่งท่าทางผู้ดี ตาสีน้ำตาลประหลาด
_____แต่นแต้น~! นี่แดน แฟนแพมเองจ้า ส่วนนี่นิ้งเพื่อนแพมเอง น่ารักใช่ม้า โสดซะด้วย พอดีเลย พีกับนิ้งก็คบกันซะเลยสิ
_____ผมถึงกับพูดอะไรไม่ออก แพมมีแฟนตอนไหน... ทำไมเธอไม่เคยบอกผม แล้วยังจะยัดเยียดผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้มาให้ผมอีก
_____นิ้งหันไปหยิกแพม แก้มแดงๆ ของเธอก็น่ารักดี จะบ้าเหรอแพม พูดงี้ได้ไง พี่ชาย...เอ๊ะ ใช่ไหม
_____อื้อ แฝดแพมเอง
_____ผมยิ้มให้นิ้ง งั้นพีจะรับนิ้งไว้พิจารณานะแพม
_____จริงอ่ะ เย้~!! แพมกระโดดกอดผมจนเซ ไม่ว่าจะเป็นตอนไหน แพมก็ยังสดใสร่าเริง ยังคงเสมอต้นเสมอปลาย และเสน่ห์ในความน่ารักสดใสนี่แหละ ที่ทำให้ผมหลงรักเธอเข้าเต็มเปา
_____ขณะที่สองสาวเข้าห้องครัวไปจัดเตรียมขนม ผมกับแดนก็นั่งบนโซฟาเงียบๆ
_____นายชอบแพมตรงไหนเหรอ ผมถามไปตรงๆ เป็นคนเปิดประเด็นสนทนาขึ้นมา
_____แดนตะกุกตะกัก ก็... ตรงที่สดใสน่ารัก ล่ะมั้งครับ
_____เหรอ
_____นี่ผมกำลังโดนสอบสวนเหรอเนี่ย แดนยิ้มให้อย่างขวยเขิน ผมมองหมอนี่อย่างไม่ไว้ใจ ผมไม่เคยไว้ใจผู้ชายหน้าไหนที่เข้าใกล้แพมทั้งนั้น ไอ้พวกผู้ชายบ้ากามนั่นก็หวังเพียงสรีระกับอาศัยความสดใสร่าเริงของแพมกันทั้งนั้น
_____เว้นแต่พล เจ้าเพื่อนคนสนิท
_____มาแล้วจ้า น้ำแดงเย็นๆ มาแล้วจ้า
_____เราคุยเล่นกันจนเพลิน พอผมขับรถไปส่งสองคนนั้นที่ป้ายรถเมล์ ผมก็พูดกับแพมตรงๆ
_____แพม ระวังแดนไว้หน่อยก็ดีนะ พีว่าไม่ค่อยน่าไว้ใจ
_____พูดว่าอะไรนะพี แพมเหลียวมองผมตาปริบๆ ลดเสียงเพลงลง แพมไม่ไว้ใจแดนเหรอ แดนเค้าเป็นคนดีนะ ไม่มีทางหลอกแพมด้วย ฟังนะพี พียังไม่เคยมีแฟนไม่รู้หรอกว่าใครๆ ก็มีความดีในตัวกันทั้งนั้น พีน่ะชอบมองคนอื่นในแง่ร้าย พีลองมีแฟนแล้วพีจะเข้าใจความรู้สึกของแพมนะ
_____ผมมองหน้าเธอ เป็นครั้งแรกที่แพมพูดกับผมด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง จริงจังและไม่พอใจ พอมาถึงบ้าน แพมเปิดประตูรถ ก่อนที่เธอจะก้าวออกไป แพมหันมาพูดทิ้งท้ายไว้กับผม
_____เลิกก้าวก่ายชีวิตแพมได้แล้วนะพี
_____แล้วเธอก็วิ่งขึ้นห้องนอนไป ผมเม้มปากแน่น กดเบอร์โทรศัพท์นัดพลไปผับ เราไปนั่งปรับทุกข์กัน ซึ่งพลก็แนะนำผมว่าให้ลองมองหาสาวๆ มาเป็นหวานใจตามที่แพมว่า
_____พีหรือเปล่าคะ
_____เสียงใสๆ เดินเข้ามาทางพวกผม ผมหันไปมองเห็นนิ้งในชุดสายเดี่ยวโชว์ผิวขาว ผมยาวหยักศกรับกับใบหน้าคมสวย
_____เอ่อ... นิ้งใช่ไหม
_____ว้าว บังเอิญจังเลยเนอะ ไม่คิดว่าคนอย่างพีจะมาที่แบบนี้ด้วย นิ้งยิ้มให้ผม นั่งลงบนเก้าอี้ข้างๆ แล้วกุมมือของผมขึ้น
_____ก็จะมาช่วงที่เซ็งๆ น่ะ
_____งั้นไปเต้นกันหน่อยไหม ให้หายเซ็งน่ะ นิ้งเปิดทางให้ผม ซึ่งพลก็โบกมือเป็นเชิงว่าไม่เป็นไร พลนั่งมองพวกเราเงียบๆ พอถึงเวลากลับ เราสองคนก็ไปส่งนิ้งถึงบ้าน พลแอบอมยิ้มจิ้มแก้มผมแล้วบอกว่านิ้งก็น่าสนใจดี กลางวันหวานกลางคืนเปรี้ยว มีชีวิตชีวาดี
_____จากนั้นเราสองคนก็นัดเจอกันบ่อยขึ้น นิ้งเป็นคนจริงใจ ตรงไปตรงมาและน่ารัก คอยห่วงใยคนอื่นเสมอ เป็นครั้งแรกละมั้งที่ผมเห็นว่ามีหญิงอื่นดีกว่าแพม หากเป็นแบบนี้ต่อไป ผมอาจจะรักนิ้งมากกว่าแพมก็ได้ ตลอดเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน นิ้งทำให้โลกหม่นหมองของผมสดใสขึ้น ผมจึงตัดสินใจเป็นแฟนกับนิ้ง
_____ฮั่นแน่ แอบหลงรักนิ้งเข้าล่ะซี่ แพมยิ้มกว้างแล้วเดินมาหยอกเย้าผม
_____ประมาณนั้นมั้ง ผมยิ้ม นึกถึงหน้านิ้ง ผมคงเป็นโรคจิต ชอบกดดูเบอร์โทรศัพท์ของเธอจนจำขึ้นใจ
_____พี ฝากบอกแม่ด้วยนะ วันนี้แพมอาจกลับดึก
_____จะไปไหนน่ะ
_____ความลับ แพมยิ้มให้ผมอย่างตื่นเต้น ด้วยสัญชาตญาณลูกผู้ชาย ผมรู้ได้ทันทีว่าแพมต้องไปกับแดนแน่ๆ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรเพราะกลัวจะทำร้ายจิตใจน้องสาว แพมโตเป็นหญิงสาวแล้ว ผมไม่มีสิทธิ์ไปล้ำเส้นชีวิตส่วนตัวของเธอ ก็พวกเรา... ไม่ใช่เด็กๆ แล้วนี่
_____หน้าที่องครักษ์อย่างผม... คงต้องสิ้นสุดลงตรงนี้กระมัง
_____ผมนั่งมองนาฬิกามาสามชั่วโมงกว่า ห้าทุ่มสิบนาที แพมยังไม่กลับบ้าน นั่นทำให้ผมยิ่งกระวนกระวายใจกว่าพ่อแม่เสียอีก แม่ถามผมว่าทำไมไม่รีบไปนอน แพมไปค้างบ้านเพื่อน แต่ผมโทร.ถามนิ้งแล้ว นิ้งบอกว่าไม่ได้มา แสดงว่าแพมโกหกพ่อแม่ และผมมั่นใจว่าเธอต้องกลับมา ในคืนนี้
_____ผมกดโทร.ออกหาเธอหลายร้อยครั้ง ตั้งแต่สามทุ่มยันห้าทุ่ม เธอไม่ได้ปิดเครื่อง แต่ก็ไม่ได้รับ นั่นทำให้ผมยิ่งหงุดหงิดใจ เวลาประมาณเกือบหกโมงเช้า แพมเดินเข้ามาในบ้าน ด้วยชุดเดิมที่เธอใส่ไปเมื่อคืน ผมมองดูขาของเธอ
_____เอ๊ะ มีอะไรเหรอพี แพมถาม มองแพมทำไมเหรอ แพมเขินนะ
_____เมื่อคืนไปไหนมา ! ผมตะคอกใส่แพม เดินไปเขย่าไหล่เธออย่างโมโห แต่พอรู้สึกตัว ผมก็ซบใบหน้าลงกับบ่าของเธอ ตอนที่โทร.ไป รับสายหน่อยก็ดีนะ อย่าทำให้ต้องเป็นห่วงนักสิ...
_____เอ๋ โกหกน่า นี่พีนั่งรอแพมตลอดทั้งคืนเลยเหรอ
_____ก็เออสิ ผมบอกอย่างหงุดหงิดใจ มือนุ่มๆ อันแสนอ่อนโยนที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงของแพมลูบศีรษะของผม เธอเขย่งขึ้นเล็กน้อยเพราะผมสูงกว่าเธอมาก
_____นะๆ อย่าโกรธแพมนะ แพมรักพีนะ แพมดีใจที่สุดเลยที่พีเป็นห่วงแพมขนาดนี้ เธอบอก แต่ไม่มีอะไรหรอก เมื่อคืน...ไม่มีอะไรจริงๆ
_____เสียงเธอในตอนท้ายดูสั่นๆ แต่ผมก็ไม่ได้เอะใจอะไร แพมยังคบกับแดนไปด้วยดี ผมกับนิ้งก็เป็นไปอย่างราบรื่น
_____นี่นิ้ง พีถามหน่อยสิ แพมตอนอยู่มหาลัยเป็นไงมั่งเหรอ
_____ก็ดีนี่ จี๋จ๋ากับแดนตลอดเวลา แต่พักหลังๆ นี่ดูสวีทกันน้อยลงนะ ไม่รู้มีอะไรรึเปล่า ทำไมเหรอ พีมีอะไรอยากรู้เหรอ นิ้งถามผม
_____ไม่มี... ไม่มีหรอก ผมตอบกลับยิ้มๆ เราแยกกันตอนเย็น วันนี้คุณแม่บอกว่าแพมพาแฟนมา อยู่ข้างบน ผมเลยขึ้นไปเก็บของ ประตูห้องนอนแพมแง้มอยู่ ผมก็ลองมองลอดดู ผมเห็นแดนกำลังจับหน้าอกแพมแล้วจูบเธอ พอถอนปากออกก็เริ่มซอกไซ้ต้นคอ
_____หยุดนะแดน เดี๋ยวพีมาเห็นหรอก
_____ช่างเขาสิ ก็เรารักกันนี่ เมื่อคืนนั้นเธอเจ๋งมากเลย ไม่อยากจะเชื่อว่าเป็นครั้งแรก
_____ผมยืนมองเงียบๆ ผมคิดว่าผมควรจะเปิดประตูเข้าไปขัดดี แต่คำพูดในตอนนั้น... คำพูดของแพมที่บอกว่าผมไม่มีสิทธิ์ไปก้าวก่ายชีวิตเธอแล่นเข้ามาอีกครั้ง ไหนจะเสียงที่เปล่งเรียกแต่แดนๆ ไม่ใช่ชื่อผมเหมือนแต่ก่อน ทำให้ผมต้องก้มหน้ายอมรับความจริงและเป็นฝ่ายเดินจากไป
_____ใช่สิ... พี่ชายฝาแฝดอย่างผม ไม่มีทางเข้าไปยืนในใจเธอ... ในฐานะผู้ชายคนหนึ่งได้หรอก
_____ผมนั่งรอพวกเขาเงียบๆ ในคืนนั้นแพมหายไปนอนกับแดน แต่แดนก็ไม่ได้ทิ้งแพมเพราะได้ทำลายพรหมจรรย์ของเธอไป หากแดนทิ้งแพมล่ะก็... ผมจะชกให้หน้าหงายเลย ผมนั่งเล่นเกมรอ พอเห็นทั้งสองลงมาก็ย่นหน้า
_____อ้าว พี กลับมาตั้งแต่เมื่อไร
_____นานแล้วล่ะ ผมตอบ ไม่สบตาแดนที่กำลังยิ้มอวดชัยชนะ แต่ไม่อยากเข้าไปรบกวน
_____แพมหน้าแดงเถือกในพริบตา เธอปราดเข้านั่งข้างๆ ผมแล้วกระซิบ อย่าบอกแม่นะพี นะๆ แพมขอร้องล่ะ
_____ก็ได้ ผมตอบเรียบๆ
_____ไม่กี่วันถัดมา ผมกับนิ้งก็ออกมาเดทกันอีกครั้ง เราเดทกันถี่ขึ้นเรื่อยๆ ส่วนใหญ่ผมจะเป็นคนชวน เพื่อที่จะได้ลืมเรื่องของแพมเสียที แต่อยู่ๆ นิ้งก็ทำท่าไม่พอใจผม
_____นี่พี ! เธอตวาด เดี๋ยวนี้พีดูเหม่อๆ ชอบกลนะ พอเจอหน้ากันก็ถามแต่เรื่องแพมๆ อย่าบอกนะว่าหลงรักน้องตัวเองเข้าน่ะ เธอพูดแทงใจผม ถามจริงเถอะ พีรักนิ้งบ้างรึเปล่า เวลาที่พีอยู่กับนิ้ง ตัวพีอยู่ก็จริง แต่ใจพีลอยไปหาใครแล้วล่ะ ถ้าพีได้คำตอบเมื่อไร เราค่อยมาเจอหน้ากันก็แล้วกัน !
_____แล้วนิ้งก็วิ่งหนีไป ทิ้งให้ผมยืนเป็นเป้าสายตาชาวบ้านชาวช่อง ผมเลยรีบกลับ ผมนั่งคิดเรื่องนิ้งทั้งวันทั้งคืน ผมแค่คบกับนิ้งเพื่อให้ลืมแพม แต่ยังไง คนที่ผมรักก็มีแต่แพมเท่านั้น... แพมคนเดียว
_____พอได้คำตอบผมก็รีบโทรศัพท์ไปหานิ้ง
_____นึกว่าจะไม่โทรมาแล้วซะอีก นิ้งประชดประชันใส่ผม
_____ก็กะจะทำอย่างนั้นอยู่ พีได้คำตอบแล้วนะ ผมบอกเธอ พีไม่ได้รักนิ้ง
_____เสียงนิ้งเงียบหายไป งั้นก็โอเค เราเลิกกัน ขอบใจที่อยู่เป็นเพื่อนมาตลอด แค่นี้นะ แล้วเธอก็วางสายไป ผมกำลังคิดว่าผมทำถูกไหม แต่เสียงของนิ้งดูสั่นเครือ ผมฟุบหน้าลงกับหมอนใบโปรดในห้องนอน เฝ้าคิดวันถึงชีวิตสวยหรูต่างๆ นานา
_____วันถัดมาแพมเดินเข้ามาหาผมในห้อง ขณะที่ผมกำลังนอนอ่านนิตยาสารรถ เธอเดินเข้ามาหน้าตาเซื่องซึม
_____มีอะไรเหรอ ผมถาม ลุกขึ้นนั่งพิงกำแพงอย่างงุนงง
_____พีเลิกกับนิ้งแล้วเหรอ
_____นึกว่าจะเรื่องอะไรเสียอีก ผมพยักหน้า ก็ใช่ เราไปกันไม่ได้
_____รู้ไหม นิ้งร้องไห้ทั้งวัน น่าสงสารมากเลยนะ นิ้งรักพีมากจริงๆ นะ นิ้งอยากคืนดีกับพี... จริงๆ นะ แพมร้องไห้ แล้วเข้ามาทุบตีผมอย่างโมโห แรงอันน้อยนิดของเธอที่ผมสามารถหยุดเธอได้ทุกเมื่อ
_____อยากให้พีไปขอคืนดีหรือไง พีทำได้นะ แต่ถ้าคบกันแบบนั้น นิ้งนั่นแหละจะเจ็บปวดที่สุด ผมบอกไปตรงๆ จับมือน้อยๆ สองข้างเธอวางลงบนตักของหญิงสาวสวย
_____แพมกัดปาก ทำไมล่ะ ทำไมพีไม่บอกแพมสักคำ !
_____ผมเลือดขึ้นหน้า แล้วทีเธอล่ะ ! ไม่เห็นบอกฉันสักคำเรื่องที่คบกับไอ้แดนนั่น !!
_____ผมหลุดปากใช้คำว่าเธอกับแพมไป น้องสาวผมร้องไห้อย่างน่าสงสาร ลุกขึ้นจากจุดที่เธอตกใจจนเข่าอ่อนล้มลงแล้วกุลีกุจอวิ่งกลับเข้าห้อง แม้ผมจะพยายามทุบประตุร้องบอกขอโทษ แต่แพมก็ไม่ยอมตอบรับผม
_____เราไม่ได้คุยกันเลยหนึ่งสัปดาห์ ผมว่ามันเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานมากๆ สำหรับผม พลเลยพาผมไปย้อมใจที่ร้านบาร์เปิดใหม่ไม่ไกลจากบ้านผมมากนัก ผมนั่งหมดอาลัยตายอยากที่โต๊ะคนเดียว แม้สาวๆ จะมาชวนผมไปดิ้น แต่ผมก็ปฏิเสธอย่างสุภาพ
_____แสงสีและเสียงดังโหวกเหวกแบบนี้... น่ารำคาญที่สุดเลย
_____ไอ้พี ! พลวิ่งหน้าตาตื่นมาหาผม
_____มีอะไรวะ
_____ฉันเห็นแพมด้วยว่ะ แต่มันมืด ไม่รู้ว่าใช่หรือเปล่านะ มากับผู้ชายหน้าฝรั่งๆ หน่อย
_____ผมพ่นลมออกจากจมูกอย่างละเหี่ยใจ ช่างเขาสิ
_____ฉันก็กะว่าจะช่างนะเว้ยไอ้พี แต่มีผู้ชายอีกสี่ห้าคนตามประกบอยู่อ่ะดิ
_____ผมสะดุ้งเฮือก วิ่งตามไปดูหลังร้าน เห็นแพมกับแดนกำลังยืนอยู่ท่ามกลางผู้ชายท่าทางโหดๆ อีกสี่ห้าคน โดยที่มือใหญ่ๆ ของแดนกำลังจับข้อมือบางๆ ของแพมอยู่
_____ไปชั้นสองกันเหอะแพม ไปสนุกกับพวกเรา
_____แพมมองผู้ชายรอบตัวเธออย่างหวาดกลัว ไม่ ! เธอร้อง แพมอยากมีอะไรกับแดนด้วยความรัก ไม่ใช่ขืนใจกันแบบนี้
_____แดนทุบกำแพงดังปึง แค่ขึ้นเตียงจะเป็นอะไรกันนักกันหนา ถ้าทำไม่ได้ก็จบกันแค่นี้แหละ
_____ไม่นะแดน ฟังแพมก่อน แพมคว้าแขนแดนมากอด
_____จะเอาอะไรนักหนาวะ นังนี่ แดนตบแพมอย่างแรงจนน้องสาวผมน้ำตาคลอ อย่าเล่นตัวไปหน่อยเลย กะอีแค่นอนแก้ผ้าบนเตียงทำไมจะทำไม่ได้วะ กับผู้หญิงอย่างเธอแค่ครั้งเดียวเขาก็เลิกกันแล้ว ไม่มีใครทนคบกับเธอแบบฉันหรอก บอกไว้ก่อนนะ ไม่มีใครเขาอยากเอาผู้หญิงโง่ๆ แถมยังจืดชืดแบบเธอหรอก
_____ผมเดินเข้าไปถีบหลังแดนอย่างแรง ขอโทษว่ะ เผอิญว่ามีฉันคนหนึ่งที่ชอบ
_____ไอ้นี่... แดนหันมาจะชกผม ลูกน้องของเขาก็เช่นกัน
_____เฮ้ๆ โทษนะพรรคพวก อย่ามีเรื่องกันเลยนะ เดี๋ยวจะเจ็บตัวเปล่าๆ พลยิ้มกว้าง ลูกน้องจำนวนมากกรูเบียดกันแถวหลังร้านจนพวกแดนต้องถอยกรูดหนีหางจุกตูด พอแพมสบตาผม ผมก็รีบหันหลังเดินหนี
_____เดี๋ยวพี แอบตามมาช่วยแพมเหรอ
_____ผมส่ายหน้า เปล่า แค่บังเอิญผ่านมา ว่าแล้วก็รีบเดินนำลิ่วๆ แต่ร่างผอมบางของแพมรีบหรี่เข้ามาสวมกอดผมจากข้างหลัง มือผอมบางประสานรอบเอวผมก่อนจะซบใบหน้าลงกับแผ่นหลัง
_____เหมือนเลยนะ... เหมือนตอนแด็กเลย พีก็โผล่มาช่วยแพมแบบนี้ ถึงจะบังเอิญผ่านมา แพมก็ขอบคุณมากนะ ถ้าไม่ได้พี แพมคงจะแย่
_____อืม ผมพยักหน้า แกะมือเธอออก พลโบกมือไล่ลูกน้องและทิ้งเราสองคนไว้ตามลำพัง พอปลอดคนผมก็สวมกอดแพมอย่างโหยหา
_____พี แพมถามหน่อยสิ... ที่พูดนั่น จริงเหรอ
_____ผมไม่ได้ตอบ ซุกใบหน้าลงกับต้นคอหอมกลิ่นสาว แม้จะเคยผ่านชายอื่นมาแล้ว แต่ในสายตาผม เธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์แสนสวยคนหนึ่ง
_____แพมดีใจนะ แพมเองก็รักพีเหมือนกัน
_____ผมยิ้มสมเพชให้ตัวเอง สิ่งที่เธอพูดมาแต่ละคำช่างเสียดแทงใจผมจริงๆ มันล้วนแต่ทำร้ายจิตใจของผม หลายคำที่พร่ำบอกรัก แต่ผมไม่มีวันดีใจ... เธอมอบความรักให้ผมในฐานะพี่น้อง
_____ถึงแพมจะเสียไปแล้วก็ช่างเถอะ เธอคร่ำครวญกับตัวเอง เราเลยนั่งรถกลับบ้าน ผมแวะส่งพลก่อนจะวนเข้าบ้านตัวเอง คืนนี้แพมแอบมานอนห้องผมเหมือนสมัยเด็กๆ เธอนอนกอดผมก่อนจะครวญครางละเม้อเพ้อฝันไปต่างๆ นานา
_____ผมลุกขึ้นมองใบหน้าหวานๆ ของเธอด้วยแสงจันทร์ที่ลอดผ่านหน้าต่าง ผมลูบศีรษะของเธอเบาๆ ผมคงยังต้องปกป้องเธอเสมอ แม้ว่าวันคืนจะเคลื่อนผ่านไป ปั้นเธอให้งดงามสักเพียงไหน แต่คนเฝ้ามองอย่างผมจะยืนอยู่ตรงนี้ ยืนมองเธอจนถึงลมหายใจสุดท้ายของชีวิต...
_____เราโตเป็นผู้ใหญ่ ถึงวัยที่ควรมีครอบครัว ส่วนผมกับพลก็ยังคบกันตามประสาเพื่อนที่คบกันมาตั้งแต่เด็ก ผมรักพลพอๆ กับแพม ผมได้เจอสาวๆ มากหน้าหลายตา แต่ทุกคนต่างหลงใหลเพียงรูปลักษณ์ภายนอกของผม
_____กระทั่งข่าวดีของแพมก็มาถึง เธอพบรักกับเพื่อนร่วมงาน เขาเป็นคนเรียบร้อย ดูนิ่มๆ ติ๋มๆ และดูจริงใจ การจะแต่งงานกับใครสักคนแสดงว่าต้องมั่นใจว่าเขาคนนี้พร้อมจะใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน ผมเคารพการตัดสินใจของเธอ แม้ตนเองจะเจ็บปวดมากก็ตาม
_____ผมช่วยงานแต่งอย่างขมขื่น พลที่มาร่วมงานเข้าใจความรู้สึกของผมดี ขณะยืนรอรับเจ้าสาว พลบอกให้ผมเปิดใจให้กว้าง แพมกำลังจะมีความสุข พอแพมเดินเข้ามาในงาน ผมคิดว่าเธอสวยในทุกๆ วัน แต่วันนี้เธอสวยมากที่สุด เครื่องสำอางไม่หนามากทำให้ใบหน้าของเธอดูเรียบเนียน ชุดสีขาวสะอาดลากเป็นทางยาว รอยยิ้มหวานๆ แสดงถึงสุขอย่างที่สุด
_____แพมเดินเข้ามาหาผมแล้วกอดผมเต็มแรง
_____ขอบคุณมากนะพีที่ช่วยแพมมาตลอด ขอบคุณนะที่อยู่กับแพมจนถึงตอนนี้ แต่พีไม่ต้องห่วงนะ แพมดูแลตัวเองได้ เธอหลั่งน้ำตาให้กับผม ซึ่งผมก็ยกมือขึ้นปาดขอบตาเธอเบาๆ
_____ระวังหน่อยสิ เดี๋ยวเครื่องสำอางหลุด เดี๋ยวกลายเป็นเจ้าสาวอัปลักษณ์ไม่รู้ด้วยนะ ผมหัวเราะสั่นๆ
_____จะบ้าเหรอ
_____ผมยิ้มให้เธออย่างนุ่มนวลที่สุดก่อนจะลูบแผ่นหลังบางที่ผมเคยปกป้อง ยินดีด้วยนะแพม ขอให้มีความสุขมากๆ ล่ะ ผมเอ่ยคำอวยพรที่เชยที่สุดออกไปอย่างช่วยไม่ได้
_____จ้า
_____พอเธอเดินไปทักทายแขกเหรื่อคนอื่น ผมก็แทบทรุดลงร้องไห้ พลเดินเข้ามานั่งเป็นเพื่อนอยู่ตลอดทั้งงาน พอเสร็จสิ้นพิธี ก็ถึงช่วงที่ส่งทั้งสองเข้าเรือนหอ ผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้น ผมยืนส่งเธอเดินเข้าเรือนหอกับเจ้าบ่าว ผมรู้ดีว่าเมื่อเธอเดินเข้าไปในบ้านหลังนั้นแล้ว เธอไม่อาจกลับมาได้อีก
_____เธอไม่อาจกลับมาเป็นเด็กหญิงตัวน้อยๆ ที่ผมต้องคอยปกป้อง ทุกอย่างมันเปลี่ยนไป เธอจะไม่ปรากฏในสายตาผมอย่างเคย หน้าที่องครักษ์ของผมคงสิ้นสุดลงตรงนี้ ผมต้องส่งต่อให้เจ้าบ่าวรับเธอไปดูแลต่ออย่างช่วยไม่ได้
_____แพมจะกลายเป็นแม่คน แม้ผมจะรับรู้โชคชะตานี้มาตั้งแต่วันที่ผมหลงรักเธอ แต่ผมก็ไม่อาจระงับความขมขื่นที่บังเกิดขึ้นในใจ ทางเดินของเราคู่ขนานกันมาตั้งแต่เกิด ทางเดินของเราไม่อาจมาบรรจบกันได้เพราะมีสายใยบางๆ ที่เรียกว่าพี่น้องขวางกั้นเราเอาไว้
_____ดูแลแพมดีๆ นะ ! ผมตะโกนบอกเจ้าบ่าว แขกเหรื่อมองหน้าผมอย่างขุ่นเคืองก่อนจะหันไปส่งยิ้มให้เจ้าบ่าวเจ้าสาว เจ้าบ่าวหันมาพยักหน้าให้กับผมแล้วโอบไหล่แพมพาเดินเข้าเรือนหอ ผมเห็นดังนั้นก็อุ่นใจ เดินล้วงมือในกระเป๋าชวนพลไปด้วยกัน
_____ไปไหนวะไอ้พี ยังไม่ทันจะถึงประตูบ้านเลยนะเว้ย
_____ไม่รู้สิ แต่ฉันคิดว่าฉันต้องเดินไปต่อ เดินไปให้ถึงเป้าหมายของฉัน ผมยิ้มขำ พลเข้าใจความหมายนั่นดี
_____เขาตบบ่าผมทีหนึ่ง ให้ตายสิ แกนี่มันเอาแต่ใจจริงๆ เลยว่ะ
_____เราเดินหัวเราะไปด้วยกัน ผมหันหลังให้กับพวกเขาทั้งสอง แม้จะขมขื่นและเจ็บปวด แต่ผมก็คิดว่าผมทำในสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว มือของสองเราที่เคยกุมกันไว้ไม่ห่าง บัดนี้ผมจำต้องคลายมือเธอออกปล่อยให้เธอไปตามใจฝัน
_____ลาก่อน... เจ้าหญิงตัวน้อยๆ บนเส้นขนานของผม
+-+-+
_____ผมกำลังจะบอกว่า... ไม่ว่าวันเวลาจะผ่านไปสักแค่ไหน มีคนเดินเข้ามาในชีวิตก็ต้องมีการเดินจากไป เปรียบเสมือนคำเปรียบเปรยที่ว่ามีพบก็ต้องมีจาก แต่ชีวิตก็ยังต้องเดินต่อไป ใช่ แม้แพมจะจากผมไปแล้วอย่างถาวร แต่ผมก็ยังต้องเดินต่อไป ไปตามกระแสเวลาเท่าที่มันจะพาผมไปได้ และผมหวังว่าสักวัน... ผมจะได้ใครสักคนเข้ามาในชีวิตผมบ้าง
_____ขณะที่กำลังเดินซื้อของขวัญให้กับหลานคนใหม่ที่คุณแม่จอมทะเล้นของเขาตั้งว่าพีตามชื่อผม เพราะบอกว่าผมนั้นเหมือนวีรบุรุษในดวงใจ
_____หญิงสาวผมดำขลับยาวสลวย ใบหน้าหวานใส แม้จะไม่สวยมากแต่ก็จัดว่าพอดูได้ เธอผู้นั้นเดินชนผมอย่างแรงทำให้ถุงเครื่องประดับในมือของเธอหล่นกระจายเต็มพื้น
_____ว้าย ขอโทษค่ะ เธอยิ้มแหะๆ
_____ไม่เป็นไรครับ ผมก้มลงช่วยเธอเก็บถุงเครื่องประดับ เพราะหากไม่รีบเก็บ คนที่สัญจรผ่านไปมาในห้างสรรพสินค้าอาจเหยียบมันแตกได้
_____เอ๋ นี่ใช่คุณพีหรือเปล่าคะ
_____ผมขมวดคิ้ว ใช่ครับ รู้จักผมได้ไง
_____ก็ทำงานบริษัทเดียวกันนี่คะ แหม คุณพีน่ะ ดังจะตาย ทั้งหล่อทั้งเท่ ไม่คิดจะมีแฟนบ้างเหรอคะ เธอยิ้มอย่างเพ้อฝัน ตรวจสอบเครื่องประดับทุกชิ้นในถุง เอ้อ ดิฉันชื่อแพมค่ะ
_____ผมยักคิ้วนิดๆ แอบประหลาดใจกับชื่อของเจ้าหล่อน ผมยื่นมือให้เธอจับ ผมพี ตอนนี้กำลังรับสมัครแฟนอยู่ครับ สนใจไหม
_____เธอยื่นมือตอบให้ผม... จะเป็นมือคู่นี้หรือเปล่านะที่จะเคียงข้างผมตลอดเส้นทางชีวิตที่เหลือ
จบบริบูรณ์
Miloz (ไมลอซ)
25 กันยายน 2550