7 มีนาคม 2549 19:57 น.
milkkyway
..หนาวเย็นเกินกว่าน้ำขั้วโลก
พัดโบกเสียงความห่วงหาห่างหาย
ยินเพียงเสียงลมพัดผิวกาย
ลมหายใจที่แผ่วไหวบางเบา...
...มองดูรอบกายไร้เสียง
ตาลืมกลับเพียงความหงอยเหงา
ดั่งความมืดที่คุ้นเคยแต่ก่อนเก่า
รุ้มเร้าแม้ยามหลับไร้แสงใด...
..นิ่งมองตรองดูตัวใจตัวเอง
ความกลัวเกรงที่ก่อให้หวั่นไหว
นั่งมองดูเวลาที่ผ่านไป
ด้วยดวงใจเต็มตื่นหวานละมุน...
...แม้กายอยู่ไกลมิเชยชิด
แต่ดวงจิตส่งรักอันหอมกรุ่น
ความอาทรห่วงหาช่วยค้ำจุน
สร้างอบอุ่นแม้รู้ดีอาจเดียวดาย...
...เต็มตื่นชื่นฝันรอวันฟื้น
หากผ่านคืนมิเคยจืดจางหาย
แม้อาจเหงาเศร้าอยู่ก็กลับกลาย
คือความหมายดีดีมีแด่เธอ...
...ดวงจิตตั้งมั่นตรงคงมิเปลี่ยน
ผ่านคืนวันหมุนเวียนมิพลั้งเผลอ
มีแค่หนึ่งดวงใจให้เพียงเธอ
แม้รู้ว่าอาจละเมอเข้าข้างตัว...
..ยามคืนค่ำพร่ำส่งความห่วงหา
ปรารถนาให้เธอสุขอย่าหมองมัว
ส่งความสุขรายล้อมรอบข้างตัว
อย่าหวาดกลัวจงสมดั่งฝันตั้งใจ...
..ขอให้ฝันเธอสมดั่งที่ตั้งหวัง
ให้มีแรงพลังก้าวเดินอย่าหวั่นไหว
แม้วันหนึ่งอาจต้องเดินไกลห่างไป
แต่หัวใจและสองมือนี้มิอยู่ไกลจากใจเธอ...
------------------------------
..ขอให้สิ่งที่หวังสมดั่งคิด
จากดวงจิตที่อยากให้เธอสมหวัง
ขอให้รักค้ำชูเป็นพลัง
ให้ความหวังของเธอมิอยู่ไกล...ด้วยใจจริง...
..คือกำลังใจจากฉันที่ส่งให้จากใจ
แม้มิได้เอ่ยคำพูดใดใด
อาจมีเพียงภาษาทางกายและการกระทำ
ที่กระทำไปตามความรู้สึกจากหัวใจ...
...ผ่านห้วงเวลาที่แสนยาวไกลไปถึงเธอ...
1 มีนาคม 2549 21:53 น.
milkkyway
...คิดถึงแต่เหมือนจะพูดออกมาไม่ได้
เพราะไม่รู้ว่าหัวใจเธอกำลังเปลี่ยนไปหรือเปล่า
ดูเหมือนความไกลห่างจะมากีดกั้นเรา
หรือว่าความเปลี่ยวเหงารุมเร้าให้ยิ่งห่างไกล...
...ตลอดเวลาสิ่งต่างต่างที่ผ่านมาฉันรับรู้
ฉันเฝ้าดูและห่วงใยอยู่มิได้จากไปไหน
หากแต่วันนี้ดูเหมือนมีบางสิ่งเปลี่ยนไป
เพราะความห่างไกลหรือว่าใจเราเริ่มจะไกลกัน...