16 กันยายน 2547 16:13 น.
milkkyway
ความว่างเปล่ากับความเหงา
คือความเศร้าบนตัวเรา
คุ้นเคยกับการมีเค้า
เหลือเพียงเรากับความสับสนในใจ...
จากบทเพลงที่กล่าวถ้อย
ใจน้อยน้อยจากห้วงลึก
น้ำตาพราวแม้ยามดึก
ครั้นเมื่อนึกถึงคนไกล...
วันนี้เค้าจากจร
ให้อาวรณ์และหวลไห้
ฤาเราทำผิด (เช่น)ไร
จึงไกลห้างร้าง (ตัว) ตน
ฤาเพราะฉันไร้ค่า
แม้เวลามิอาจถม
เป็นคนในยามตรม
เป็นแค่ลมที่เปล่าดาย
ความรักของเค้า-เธอ
ฉันคงเผลอใจอยากได้
หลงคิดเข้าข้างใจ
แท้เป็นได้แค่เงาจันทร์...
...ดึกดื่นเฝ้ากราบวิงวอนขอคุณพระคุ้มครองให้เธอกับเค้าสมหวังดั่งใจปอง...จากคนคนนี้ที่หวังดีมิเสื่อมคลาย...ส่วนฉันคงต้องขอหลบไปพักสักระยะก่อน แล้วจะมาอวยพรให้เธอในวันที่ฉันนั้นมีแรง...
14 กันยายน 2547 17:47 น.
milkkyway
ผ่านวันพ้นเพลามานานนัก
ได้รู้จักถิ่นฐานบ้านเรือนใหม่
ที่อบอวลหอบฟุ้งจรรโลงใจ
แต่ข้างในยังอาวรณ์ในถิ่นเดิม...
เป็นดั่งเช่นดอกหญ้ากลางป่าใหญ่
ลำเนาไพรที่พำนักแต่กาลก่อน
จนวันหนึ่งได้พบผู้พเนจร
มาเด็ดถอนนำเจ้าไปกับตัว...
ดอกหญ้าน้อยดอกนี้ยินดีนัก
แค่ได้ทักผู้ผ่านมาให้สุขสันต์
จะแบ่งบานรับวันคืนและตาวัน
คอยปลอบขวัญผู้มาเยือนให้ชื่นบาน...
จะเจียมตนเจียมใจมิผยอง
ไม่ลำผองว่าแปลกให้ชวนฝัน
ยินดีนักเป็นดอกไม้ปักแจกัน
แม้หนึ่งวันอาจต้องลาเพราะ...แรมโรย
จาก...ดอกหญ้า...
10 กันยายน 2547 14:19 น.
milkkyway
ยินเพลงแว่วสายลมโบกสะบัด
ลำนำพัดพระพายโบกวิโยคไหว
ฟังเสียงลมแลแสงดาวกล่อมหัวใจ
จากคนไกลโชยพัดผ่านกลางห้วงคืน...
บทเพลงกล่อมหัวใจให้ไหวหวั่น
คำรำพันเห่กล่อมวอนภาษา
ว่าให้เจ้ารักษาตนอยู่ทุกครา
แม้พี่มิเห็นหน้าก็ห่วงใย...
ใจของน้องคนนี้ก็คงมั่น
มิแปรผันเปลี่ยนแปรไปที่ไหน
ในค่ำคืนใจดวงนี้โบยบินไป
ถึงคนไกลเป็นเช่นไรในค่ำคืน...
ฟังสิเสียงสายลมแผ่วกระซิบ
ดาวไกลลิบนั้นก็ใช่ดวงตาฉัน
คอยมองเธอด้วยห่วงใยทุกคืนวัน
แม้ผ่านผันก็ห่วงหาคราอ่อนแรง...
8 กันยายน 2547 19:45 น.
milkkyway
เป็นเช่นความว่างเปล่า
เป็นเช่นเงาอยู่เคียงกาย
เป็นรูปรอยที่วางวาย
เป็น(สิ่ง) สุดท้ายที่ยลยิน...
ข้างในที่คุกกรุ่น
ในไออุ่นเอื้ออาทร
คิดแล้วให้สะท้อน
ให้ร้าวรอนอ่อนดวงใจ..
เก็บกักน้ำในตา
มิให้ปร่าลงหน้าได้
หวาดกลัวตัวกับใจ
จะแพ้ให้กับอารมณ์..
นั่งร่ายกลอนอักษร
ลงบทกลอนซ่อนความขม
กักเก็บความระทม
ให้หมักบ่มเป็นบทเรียน...
......ในอารมณ์ที่เปล่าดาย...
3 กันยายน 2547 19:19 น.
milkkyway
ยินเสียงแว่วแผ่วกระซิบว่าคิดถึง
พร่ำรำพึงออดอ้อนวอนภาษา
ว่าห่วงใยยิ่งนัก...เจ้ากานดา
ใยเจ้าราแรมโรยโหยอ่อนแรง
พี่เฝ้าส่งคำกลอนมาสอนสั่ง
อีกทั้งยังมีหวานซ่อนอ่อนไหว
ช่วยฟูมฟักรักเจ้าด้วยหัวใจ
ให้เจ้าได้ชื่นชอบออกทางกลอน....
ด้วยน้องนี้ด้อยนักในความรู้
ได้คุณครูสั่งสอนไม่ห่างหาย
คอยอบรมบ่มนิสัยบ่มิวาย
ช่วยผ่อนคลายยามบรรเลงเพลงกวี...