14 กันยายน 2548 20:20 น.
mild
เป็นเวลานานเท่าไหร่ไม่รู้ที่ผูกพันธ์กับการเขียน . . อาจเป็นเพราะผู้ชายที่ได้ชื่อว่า " คุณพ่อ " ของชั้นท่านรักการอ่าน ปลูกฝังแววที่มีตั้งแต่เด็กของชั้นว่า ถ้าอยากจะเขียนให้เก่ง ต้องอ่านให้เยอะเข้าไว้ หลังจากนั้นชั้นก็รักสิ่งเหล่านี้มาตลอด จากวัยเด็กสู่วัยรุ่นที่ทำให้ชั้นได้พบกับโลกแห่งการสื่อสารที่ยิ่งใหญ่ มันคงเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก " อินเตอร์เนต " โลกแห่งความฝันที่เป็นเหมือนดาบสองคม . . .
การท่องอยู่บนโลกใบนี้ ชั้นได้พบเจอสิ่งใหม่ๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็นความรู้ใหม่ เพื่อนใหม่ และสิ่งอื่นๆอีกมากมาย แต่สิ่งที่ชั้นสนใจเป็นพิเศษคงไม่พ้นการอ่านหรือเขียนอีกอยู่ดี และ " ไดอารี่ออนไลน์ " ก็มีทั้งสองอย่างครบอยู่ในตัว เราสามารถเขียนสิ่งที่เราอยากเขียนได้ อีกทั้งยังสามารถอ่านไดอารี่ของคนอื่นได้อีกต่างหาก . . ชั้นค้นพบแล้ว " ความสุข " ที่สร้างด้วยตัวเอง
ทุกๆอย่างผ่านไปทำให้ชั้นอยากใช้ประโยคที่ว่า . . อะไรก็เกิดขึ้นได้ . . ซะเหลือเกิน เพราะเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงได้เกิดขึ้นแล้ว ไดอารี่ออนไลน์ที่ชั้นเขียนมาตลอดเวลา 2 ปีได้ปิดลงอย่างกระทันหัน เนื่องจากเว็บมาสเตอร์มีปัญหาภายใน สิ่งที่เป็นดั่งกิจวัตรประจำวันก็ต้องหยุดทำซะดื้อๆ เล่นเอาคนอย่างชั้นช๊อคไปหลายวันกว่าจะทำใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้
มาถึงตรงนี้หวังว่าคนอ่านจะเข้าใจถึงจุดประสงค์ที่ชั้นเขียแล้ว หลายๆคนที่เขียนไดอารี่ออนไลน์ได้บันทึกสิ่งที่ตัวเองเขียนเก็บไว้ เพื่อว่ามันจะหายไป ชั้นเป็นคนนึงที่ไม่เคยคิดว่าจะต้องเก็บ แต่เมื่อกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้จึงอยากจะเตือนเพื่อนๆทุกคน
อยากเก็บตัวอักษรที่ไม่ต่างไปจากกล่องความทรงจำใบใหญ่ของชั้นไว้ . . ให้นานเท่านาน ยังคงมีความหวังที่ว่าทุกๆอย่างจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม คนเราต้องสูญเสียหลายๆอย่างไปตามกาลเวลา แต่ขอให้ความหวังเป็นสิ่งสุดท้ายที่เราจะเสียไป
ปล . ความสุขอยู่กับคุณทุกคน ^^
1 กันยายน 2547 18:07 น.
mild
ใต้ต้นไม้ใหญ่ บรรยากาศร่มรื่น มีโต๊ะหินอ่อนวางเรียงรายเป็นแนว
มีนักศึกษาจับกลุ่ม บ้างคุยกัน บ้างอ่านหนังสือ
บ้างหยอกล้อกินขนมกัน...
"เอ เย็นนี้แนนไปทำวิทยานิพนธ์กับเพื่อนนะ" แนนพูดพลางเก็บหนังสือ
"ไปทำวิทยานิพนธ์กับใคร" เอเงยหน้าขึ้นมองแนนทันที
"ไปกับกิ๊ฟกับฝนหนะ นะๆๆๆ" แนนพูดพลางเดินไปนั่งข้างๆเอ
เขย่าแขนเหมือนเด็กอ้อนวอนผู้ใหญ่
"ให้เอไปส่งมั้ย เอว่างนะ" เอพูดพลางยิ้ม ลูบผมแนนเบาๆ
"ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวฝนเอารถมา" แนนพูดพลางซบหน้าลงบนบ่าของเอ
"นี่ แล้วกินข้าวเสร็จแล้วอย่าลืมกินยาล่ะ เข้าใจมั้ย
กลับถึงบ้านก็อย่าลืมโทรมาบอกด้วย"
เอพูดพลางจ้องหน้าแนนด้วยสีหน้าจริงจัง
"ค่ะ หัวหน้า สั่งจร งๆเลย" แนนพูดพลางยิ้ม
เอามือหยิกจมูกเอด้วยความเขิน
"กิ๊ฟๆ แฟนแกเป็นงัยบ้าง" ฝนเอ่ยขึ้นท่ามกลางความเงียบภายในรถ
ขณะที่ตนอยู่หลังพวงมาลัย
"ปวดหัวสุดๆ เจ้าชู้เป็นบ้าเลย"
กิ๊ฟพูดปัดๆคล้ายกับไม่ค่อยพอใจในแฟนตัวเองนัก
"ทำไมไม่เลิกๆไปสิ จะได้ไม่กลุ้ม" ฝนเสนอความเห็น
มองหน้ากิ๊ฟผ่านกระจกมองหลัง
"หน่า.....ให้โอกาสสักครั้ง"
กิ๊ฟพูดพลางซบหน้าลงที่กระจกหันหน้ามองออกนอกรถด้วยอาการเอือมระอา
"โอกาสสักครั้ง รอบที่ล้าน" เสียงหัวเราะดังขึ้นเกือบพร้อมกันทั้งรถ
"แล้วแนนล่ะ แหม...เจ้าชายเธอเอาใจเธอดีนะ"
ฝนพูดขึ้นพลางหันไปมองแนนซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ
"โอ๊ย รายนั้นไม่รู้กี่ปีแล้ว
ยังจับไม่ได้สักทีว่ามีกิ๊กเก็บไว้ที่ไหน"
แนนพูดยิ้มพลางหันไปมองหน้าฝน
"แปลได้สองอย่าง...ถ้าแฟนเธอไม่รักเธอคนเดียว
เค้าก็เก่งมากที่หลอกเธอมานานหลายปี"
เสียงหัวเราะดังขึ้นแทบจะพร้อมกันทั่วรถ
"เอี๊ยยดดด......" เสียงเบรกลากล้อดังยาวจากด้านข้างตัวรถ
คนทั้งรถหันไปมองแทบจะพร้อมกัน
รถบรรทุกฝ่าไฟแดงพุ่งเข้าชนรถเก๋งของฝนอย่างจัง
แรงอัดทำให้กระจกทุกบานแตกละเอียด
ห้องโดยสารด้านหน้าฝั่งคนนั่งยุบเข้ามาอย่างเห็นได้ชัด....ร่างไร้สติของแนนยังค
งสงบนิ่งติดอยู่ในรถ
เก๋งขาดสองตอนมัจจุราชอาจฉุดวิญญาณเธอออกจากร่างได้ทุกเมื่อ
"แนนๆ" เสียงกระซิบเบาๆดังข้างหู ทำให้แนนค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้นมา
"อยู่ไหน....โอ๊ย เจ็บ" แนนค่อยๆอ้าปากพูด แต่ไม่ชัดนัก
เฝือกขาวถูกแต่งแต้มถามร่างกายของแนนคล้ายกับเป็นเครื่องประดับ
"ใจเย็นๆ แนน เธอสลบไปสองเดือน" ......สองเดือน สองเดือน
> แนนแทบไม่เชื่อหูตัวเอง.
...ฝนค่อยๆอธิบายเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้แนนฟัง.....
"แล้ว สรุปว่าฉันเจ็บคนเดียวใช่มั้ย" แนนพยายามพูด
เสียงพูดของแนนแทบจะไม่ได้ยิน
"อืม..." ฝนพยักหน้าเบาๆ กำมือแนนไว้นิ่งๆ
"เอ ล่ะ เออยู่ไหน" แนนเพิ่งนึกขึ้นได้ แฟนเธออยู่ไหน
"เอมาหาเธอครั้งเดียว วันแรกที่ชน แล้วหายไปเลย"
> ฝนพูดพลางลูบหัวแนนเบาๆ
"ไม่เป็นไรนะ ไม่มีเอ เราก็อยู่กันได้ จริงมั้ยเพื่อน"
ฝนพยายามพูดปลอบใจแนน
"อืม..." น้ำตาค่อยๆกลั่นตัวหยดลงมาจากนัยน์ตาของแนน
คำพูดของฝนตอนคุยกันในรถคงจะเป็นความจริง....เขาเก่งมากจริงๆ
เก่งมากที่หลอกแนนมาหลายปี
เก่งมากที่หลอกว่ามีแนนคนเดียว.....ทำไมผู้ชายทั้งโลกถึงนิสัยเหมือนกันหมดเลย
เสียดายเวลาที่อยู่ด้วยกัน เสียดายความรักที่มอบให้......เสียดาย
เสียดาย เสียดาย
"คุณแนน ค่อยๆก้าวนะครับ ช้าๆ" บุรุษพยาบาลพยายามพยุงแนนขึ้นเดิน
แนนยังคงไม่หายเจ็บดี ยังคงต้องทำการกายภาพบำบัดอีก
"ระวังล้มนะครับ จับผมไว้ดีๆ"
บุรุษพยาบาลเดินช้าๆเพื่อให้แนนเกาะแขนเดินตามช้าๆ.....ทำไมบุรุษพยาบาลถึงไม่ใช
่เอนะ....ทำไม
ทำไม ทำไม
"คุณบุรุษพยาบาลค่ะ นี่ฉันสลบไปนานถึงขั้นต้องกายภาพบำบัดกันเลยเหรอ"
แนนถามด้วยความสงสัย
"โห คุณไม่ได้เดินสามเดือนนี่ มันนานนะครับ"
บุรุษพยาบาลตอบด้วยความสุภาพ
"จะว่าอะไรมั้ยค่ะ ถ้าจะถามชื่อเล่น คือถ้าเรียกว่าคุณบุรุษพยาบาล
เกรงว่ามันจะยาวไป" แนนพูดพลางยิ้ม
"ผมชื่อ กอล์ฟ ครับ" บุรุษพยาบาลตอบด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
น้ำเสียงเรียบๆ
นับจากวันนั้น แนนและกอล์ฟเริ่มสนิทกัน
ทุกเย็นกอล์ฟจะพาแนนออกไปทำกายภาพบำบัด
ไม่นานแนนก็สามารถเดินเองได้และออกจากโรงพยาบาลในที่สุด....
"คุณแนนค่ะ น้ำดื่มค่ะ" พยาบาลชุดขาวเดินถือแก้วน้ำมาวางข้างๆเธอ
ขณะเธอนั่งรอกอล์ฟที่ล็อบบี้ของโรงพยาบาล
เธอได้แต่พยักหน้าและยิ้มให้ด้วยไมตรี
"กอล์ฟๆ ไปกินข้าวกัน" แนนพูดทันทีที่เห็นกอล์ฟเดินออกมา
มีพยาบาลหลายคนยกมือไหว้แนน แนนก็ได้แต่รับไหว้ด้วยสีหน้างงเล็กน้อย
"ไปสิครับ"
กอล์ฟพูดพลางค้อมตัวลงผายมือไปที่ห้องอาหารของทางโรงพยาบาล
ดูกอล์ฟค่อนข้างสุภาพและให้เกียรติแนนมาก.....มากจนน่าแปลกใจ
ท่าทางโรงพยาบาลนี้จะเข้มงวดเรื่องมารยาทกับพยาบาลมาก
แนนและกอล์ฟสนิทกันขึ้นเรื่อยๆ.....จนบางครั้งแนนก็อยากให้กอล์ฟมาแทนที่เอ
บ่อยครั้งที่แนนคิดถึงเอ เอก็ไม่โทรมา
บ่อยครั้งที่แนนอยากคุยกับเอ เอก็ไม่ติดต่อมา
บ่อยครั้งที่แนนนั่งเหงา อยากให้เอนั่งเป็นเพื่อน แต่เอก็ไม่ปรากฎตัว
เอ....เอ....เอ เอหายไปไหน???
ไหนล่ะ หัวใจที่เอบอกว่าจะให้แนน
ไหนล่ะ หัวใจที่เอเคยเขียนไว้บนฝ่ามือแนน
มันคงหายไปแล้ว.....หายไปพร้อมกับเอ
หายไปพร้อมกับผู้ชายโกหก....ผู้ชายเจ้าชู้
ทำไมผู้ชายเหมือนกันทั้งโลก.....ทำไม ทำไม ทำไม
ใกล้วาเลนไทน์เข้าไปทุกที ปีนี้ไม่เหมือนกับปีก่อนๆ
ไม่มีเอคอยให้ดอกกุหลาบแดง ไม่มีอีตาบ๊องทำท่าเขินอายให้ดู
"แนนๆ วาเลนไทน์ปีนี้ ว่างหรือเปล่าครับ"
เสียงกอล์ฟดังตามสายโทรศัพท์
"ว่างค่ะ ทำไมค่ะ" แนนตอบด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
"พอดีผมมีของจะให้แนนนะครับ
เดี๋ยววันวาเลนไทน์บ่ายสามโมงเจอกันที่สยามนะครับ" กอล์ฟเสนอความเห็น
"ตกลงค่ะ" แนนพูดพลางกดวางสาย
สีหน้าแววตาเปี่ยมด้วยความหวัง.....หวังว่ากอล์ฟคงจะมาแทนที่เอได้เสียที
วันวาเลนไทน์ วันที่กุหลาบแดงบานสะพรั่งพร้อมกันทั่วโลก
แม้ในลานที่สยามหรือที่วัยรุ่นเรียกกันสั้นๆว่า "เซนเตอร์พอยต์"
ยังถูกละเลงด้วยดอกกุหลาบสีแดง...นักเรียน
นักศึกษาต่างถือกุหลาบแดงในมือเดินกันขวักไขว่ทั่วลาน
"ขอโทษค่ะ มาสาย" แนนพูดพลางยิ้มก่อนดึงเก้าอี้ออกมานั่ง
"ไม่เป็นอะไรครับ" กอล์ฟพูดพลางยิ้ม
"อืม...ว่าแต่มีอะไรจะให้แนนเหรอ"> แนนพูดพลางจ้องตากอล์ฟ...หากกอล์ฟมีพิรุธ แนนจะจับได้ทันที
"อันนี้ของแนนนะครับ" ดอกกุหลาบสีแดงถูกดึงออกมาจากถุงอย่างช้าๆ
วางลงบนโต๊ะอย่างนิ่มนวล
"หมายความว่ายังไงค่ะ จะขอหัวใจแนนเหรอ" แนนพูดติดตลกพลางยิ้ม
เธอคิดว่าเธออ่านเกมส์ออกหมด
"ผมคงไม่กล้าขอหัวใจแนนหรอก" กอล์ฟพูดพลางยิ้ม แต่กลับทำให้แนนงง
"อ้าว....แล้วกุหลาบสีแดงนี่..." ไม่ทันแนนจะพูดจบ
กอล์ฟต่อคำพูดของเขาทันที
"ผมไม่กล้าขอหัวใจแนนหรอกครับ เพราะหัวใจของแนนไม่ใช่ของแนน"
ปั้ง...เหมือนมีแผ่นเหล็กหนาหลายฟุตทุบลงกลางศีรษะ
แนนเริ่มงงกับความหมายขึ้นไปทุกที...มันแปลว่าอะไร???
"หัวใจของคุณ คือเจ้าของกุหลาบดอกนี้"
กอล์ฟพูดต่อ....แนนทำหน้างงๆไม่เข้าใจความหมายแม้แต่นิดเดียว
"ตอนคุณประสบอุบัติเหตุเข้ามาที่โรงพยาบาล
คุณเสียเลือดมาก...หัวใจคุณเต้นอ่อนจนแทบจะล้มเหลว
พวกผมและหมอพยายามเยียวยาจนถึงที่สุด"
กอล์ฟเริ่มอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้น.....เรื่องที่แนนไม่เคยรู้
"มีผู้ชายคนนึง วิ่งเข้ามาบอกว่าเป็นแฟนคุณ เขาบอกให้ช่วยคุณให้ได้
เสียเงินเท่าไหร่ไม่ว่า...เขายอมจ่ายไม่อั้น ไม่ว่าทางเราจะขออะไร
เขาจะจัดหาให้หมด.....คำพูดของเขาทำให้ผมประทับใจมาก"
กอล์ฟหยุดพูดชั่วครู่...แนนรู้ทันทีว่ากอล์ฟหมายถึงเอ
"ผมยอมแลกทุกอย่างกับชีวิตเธอ - เขายอมแลกทุกอย่างกับชีวิตคุณ"
กอล์ฟพูดพลางจ้องหน้าแนนนิ่ง แต่แนนยังคงทำสีหน้างงอยู่
"เขายอมทุกอย่างจริงๆ ทีแรกหมอบอกว่าทางเราหาเลือดไม่พอให้คุณ
เขาวิ่งตามหาเลือดให้คุณไปทั่วทุกโรงพยาบาล
แต่กลับไม่พบว่ามีเลือดถุงไหนที่ตรงกับเลือดคุณ"
กอล์ฟพูดด้วยน้ำเสียงปกติ สายตามองไร้จุดหมาย
"สุดท้ายเราตรวจเลือดของเขา พบว่าตรงกับของคุณพอดี
เขาบอกให้ทางเราเอาไป เอาไปให้คุณ....ไม่ต้องห่วงว่าเขาจะเป็นอย่างไร
ขอแค่คุณปลอดภัยก็พอ"
กอล์ฟหยุดพูดชั่วครู่พยายามกลั้นน้ำตา....แต่นัยน์ตาแนนเริ่มเจิ่งนองไปด้วยน้ำใสๆ
"ต่อมา....ตอนพวกผมถ่ายเลือดให้คุณ หัวใจคุณเต้นอ่อนลงเรื่อยๆ
จนหมอต้องเดินออกไปบอกให้เขาทำใจ.....ทำใจว่าเขาจะต้องเสียคุณ"
กอล์ฟพยายามเล่าต่อไปเรื่อยๆด้วยน้ำเสียงปกติ นัยน์ตาแนนเริ่มแดงก่ำ
"เขาถามหมอว่า เธอต้องการอะไร....." ใช่ เอถามหมอว่าแนนต้องการอะไร
"เธอต้องการ หัวใจครับ หัวใจเธอเต้นไม่ปกติ การสูบฉีดล้มเหลว
เราหาเลือดให้เธอช้าไป เพราะฉะนั้นสิ่งที่เธอต้องการคือ หัวใจ"
หมอหวังว่าเอคงจะเลิกหวังในตัวแนน...หยุดเล่นเกมกับมัจจุราชเสียที
"ตกลง ผมหาให้ - เขาตอบสั้นๆโดยไม่ลังเลเลย"
ตกลงผมหาให้....เอจะหาหัวใจให้แนน
ทั้งๆที่รู้ว่าคงเป็นไปไม่ได้...เขาไม่ลังเลแม้แต่วินาทีเดียวเพื่อจะทำให้เธอ
"คุณรู้มั้ย ว่าคำพูดของเขาทำให้ผมและหมออึ้งกันไปหมด
โรงพยาบาลยังหาหัวใจให้คุณไม่ได้
เขาจะมีปัญญาที่ไหนหาหัวใจให้คุณได้"
กอล์ฟพูดพลางพยายามหลบสายตาแนน....ตอนนี้กอล์ฟเริ่มกลั้นน้ำตาไม่อยู่แล้ว
เขาถามเลขบัญชีของโรงพยาบาลกับหมอ....เขาไม่ได้โอนเงินมาซื้อหัวใจเทียมให้คุณ
แต่เขาโอนมาตั้งมูลนิธิการกุศลให้โรงพยาบาล
มูลนิธิช่วยเหลือผู้ป่วยด้านหัวใจเทียม "นานา" คุณดูดีๆ คำว่า แนน
และ เอ ถ้าเขียนติดกัน มันคือ "นานา" นี่คือความปรารถนาสุดท้ายของเขา
เขาอยากให้ตัวเขาเองเป็นคนสุดท้ายที่ไม่ได้อยู่กับคนที่เขารัก...เพราะไม่มีหัวใจเทียมสำรอง"
เปี๊ยง....แนนโดนสะกิดต่อมความจำเข้าเต็มเปา...เธอเคยเห็นป้ายมูลนิธิขึ้นหราที่
โรงพยาบาล
แต่เธอไม่เคยเฉลียวใจสักนิด...มิน่า
ทำไมหมอและพยาบาลต้องให้เกียรติและดูแลเธอดีเสียจนน่าแปลกใจ
ทั้งๆที่เธอไม่มีส่วนได้เสียกับโรงพยาบาลแม้แต่บาทเดียว
"ทันทีที่มีการยืนยันว่าเงินเข้าบัญชีทางโรงพยาบาล
เขาก็ยิงตัวตายในห้องน้ำโรงพยาบาลครับ ทิ้งโน้ตไว้ว่า......
มอบหัวใจให้เธอ
- เขามอบหัวใจของเขาให้คุณ" ทันทีที่กอล์ฟพูดจบ
แนนปล่อยโฮออกมาเหมือนไม่มีใครอยู่ข้างๆ
โต๊ะรอบข้างหันมามองแนนเป็นตาเดียว....
เอคือเจ้าของหัวใจ
หัวใจที่อยู่ในร่างของแนน
"เขายอมแลกทุกอย่างกับคุณจริงๆ"
กอล์ฟพูดพลางวางของทั้งหมดที่เอเคยฝากไว้กับทางโรงพยาบาลคืนให้กับแนน
มีทั้งเครื่องเล่นเทป ม้วนเทป จดหมาย.....
"ผมคงไม่กล้าขอหัวใจคุณหรอก หัวใจคุณเป็นของเขา หัวใจเขาเป็นของคุณ"
ใช่ หัวใจเอเป็นของแนน
เป็นของแนนจริงๆ...ตอนนี้หัวใจแนนตายไปเรียบร้อยแล้ว ตายไปพร้อมกับเอ
ตายไปพร้อมกับผู้ชายที่ยอมทุกอย่างเพื่อเธอ
"กุหลาบดอกนี้ เขาบอกผมก่อนไปเข้าห้องน้ำว่า...วาเลนไทน์ที่จะถึง
รบกวนซื้อกุหลาบสีแดงให้คุณสักดอก
ขอแค่ดอกเดียวก็พอ...เป็นคำขอร้องครั้งสุดท้ายของเขา"
กอล์ฟพูดพลางเช็ดน้ำตา
นั่งนิ่งๆสักพักก่อนลุกจากโต๊ะไป....ทิ้งแนนนั่งนิ่งอยู่เพียงลำพัง
"เอรักแนนนะ" "เอรักแนนนะ" "เอรักแนนนะ"
คำพูดซ้ำๆดังมาจากเครื่องเล่นเทป
เป็นคำพูดเดียวกันที่พูดกันซ้ำโดยไม่มีการตัดต่อทั้งเทป......เทป 120
นาทีโดยมีเพลงประกอบเบาๆ
แนนค่อยๆคลี่จดหมายออกอ่าน....จดหมายที่มีเนื้อความเพียงบรรทัดเดียว
"หัวใจเอ...เขียนคำว่ารักไว้ เขียนให้แนนคนเดียว"
1 มีนาคม 2547 18:58 น.
mild
ตอนนี้ฉันมีแฟนอยู่หนึ่งคนเป็ฯคนที่ชีวิตฉันจะจริงจังด้วย ขนาดที่ว่าพาไปให้พ่อแม่รู้จัก ฉันรักเขามาก และทุกๆคนในครอบครัวและสังคมของฉันก็ยอมรับเขา แต่แล้วก้อมีเรื่องที่ฉันอึ้งกับคำว่าเพื่อนของฉันเอง วันหนึ่งฉันได้รับอีเมล์ที่ร้ายแรงที่สุดในชีวิตของฉัน คือพี่สาวของฉันบอกว่าเพื่อนของฉันแอบชอบแฟนของฉันเองโดยที่ไม่เคยบอกฉันและบอกพี่สาวของฉันว่าไม่ให้บอกฉัน ตอนที่ได้รู้เรื่องฉันไม่อยากจะเชื่อว่ามันจะเกิดกับฉันเพราะแฟนคนเก่าของฉัน ฉันเองก็โดยเพื่อนตัวดีแย่งไปแล้วเหมือนกัน ตอนนั้นฉันคิดไม่ออกเลยว่าจะทำอย่างไร หัวหมุนเลย ฉันส่งเมล์ไปหาเพื่อนตัวดี แต่แล้วก็ไม่เคยได้รับอีเมล์เลยสักฉบับเดียว ความกลัวเข้ามาเยือนฉันตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ แต่สิ่งที่ฉันกลัวคือฉันกลัวการที่จะสูญเสียเขามากที่สุด เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ ในความคิดของฉันฉันอยากจะหยุดเวลาไว้เลยล่ะ แต่อย่างที่บอกไว้ว่าเพื่อนคือคนที่ฉันแคร์มากที่สุด ฉันไม่อาจทำร้ายเขาได้ ได้แต่รอเวลาที่เขาจะเฉือดฉันอย่างช้าๆ เพื่อนคนนี้คนมีความเป็นเพื่อนที่ดีกับเขาอยู่บ้าง เขาจึงไม่แย่งแฟนคนที่ฉันรักและจริงจังไป มาถึงตอนนี้ ฉันโล่งอกแล้ว แต่อย่างไรก็ตามฉันไม่คิดจะติดต่อเพื่อนคนนี้อีกเท่าที่จะทำได้
เพื่อนๆของคุณเป็นคนดีแล้วหรือ อย่าให้เขามาทำร้ายชีวิตของคุณเป็ฯอันขาด
คนที่คุณจะเชื่อใจได้มีแต่ครอบครัวของคุณเท่านั้นหรือไม่คุณลองหาดู
แต่สำหรับฉัน พ่อและแม่เป็ฯคนเดียวที่ฉันจะไว้ใจ
24 ตุลาคม 2546 19:52 น.
mild
++โทรมา
++เราสัญญาไม่ได้
++ว่าจะทำให้เธอหัวเราะ
++แต่เราจะร้องไห้ไปกับเธอ
สักวันหนึ่งที่เธอรู้สึกอยากจะวิ่งหนีจากทุกสิ่ง
++ไม่ต้องกลัวที่จะโทรหาเรา
++เราไม่สัญญาว่าจะขอให้เธอหยุด
++แต่เราจะวิ่งไปกับเธอ
สักวันหนึ่งที่เธอรู้สึกไม่อยากจะฟังคำพูดของใคร
++โทรหาเรา
++เราสัญญาว่าจะอยู่กับเธอ
++และเราสัญญาว่าจะไม่พูดอะไร
แต่ถ้าวันหนึ่งเธอโทรมา
แต่ไม่มีใครรับสาย
++รีบมาหาเรา
++เพราะเราอาจต้องการเธอ
++เพราะเราไม่เคยปฏิเสธเธอ
ขอโทษ...
++ถ้าเราทำให้เธอรู้สึกแย่หรือเสียใจ
ขอโทษ
++ถ้าเราเคยคิดว่าเราดีกว่าหรือเหนือกว่าเธอ
เรารักเธอนะ...
อย่าลืมเรื่องนี้ล่ะ! ไม่ว่าจะในเวลาที่สุขหรือเศร้า
เราจะอยู่ที่นี่เพื่อเธอ
ขอโทษ...
++สำหรับความผิดทุกอย่างที่เราได้ทำไป
เราเขียนนี่ขึ้นมาเพื่อ ...
จะเกิดอะไรขึ้นถ้าไม่มีวันพรุ่งนี้
++ถ้าเราไม่มีโอกาสได้บอกลา
หรือกอดเธออีกซักครั้ง
++ถ้าเราไม่มีโอกาสได้พูด ขอโทษ หรือ รัก
เรารักเธอนะ
เพื่อนเสมอ
27 กันยายน 2546 12:01 น.
mild
เราเป็นคนหนึ่งที่เคยคิดอยากมีเพื่อนที่เข้าใจเราสักคนหนึ่ง
เพื่อนที่ไม่ได้หวังสิ่งของอะไรตอบแทน
เพื่อนที่เข้าใจในและยอบรับในความแตกต่างของเรา
ต่างฝ่ายต่างเข้าหากัน ทำความเข้าใจกัน
ไม่ทิ้งกันให้อีกฝ่ายต้องอยู่กับความโดดเดี่ยวทั้งๆที่ต่างฝ่ายต่างอยู่ใกล้กัน
เจอหน้าพูดคุยกันทุกวัน
... การพบเพื่อนก็เหมือนกับการคบแฟนที่ต้องอาศัยความเข้าใจ
การให้อภัย หลายคนทิ้งเพื่อนอย่างไม่ใยดี
ยามเมื่อมีแฟน
แต่เมื่ออกหักก็กลับมาในสภาพนกบาดเจ็บที่บินกลับรังใช้รังเป็นที่พักฟื้น
เมื่อหายดีก็บินออกไปอีกโดยไม่เหลียวแลรังเก่าๆ
ที่เคยปกป้องตัวมันจากอันตราย
แต่รังๆนั้นก็ไม่เคยนึกเกลียดเจ้านกตัวนั้นเลย
... ทำไมคนที่เราสนิทชิดใกล้กับกลายเป็นคนที่เราเกรงใจเค้าน้อยสุด
... ทำไมบางคนมีเพื่อนอยู่มากมายแต่ก็ต้องกลับรู้สึกโดดเดี่ยว เหมือนไม่มีใครเลย
... ทำไมเพื่อนสนิท เมื่อมีสุข ก็สุขร่วมกัน แต่เมื่อยามทุกข์ กลับไม่ทุกข์ร่วมกัน
... ทำไมสิ่งที่เราคิดว่ามีค่าที่สุดสำหรับเรา กลับกลายเป็นสิ่งที่น่าหัวเราะสำหรับคนบางคน
... ทำไมเมื่อเวลาเรามีสุขเราคิดถึงเค้าคนนั้นเป็นอันดับหนึ่ง แต่เมื่อเค้าคนนั้นมีสุขกลับคิดถถึงเราเป็นอันดับสุดท้าย
... ทำไม
... และทำไม..ไม่มีที่สิ้นสุด
หลายอย่างทำให้คนท้อใจ
หลายอย่างที่ทำให้คนเสียใจ
หลายอย่างทำให้คนๆหนึ่งเปลี่ยนไป
มันเป็นประสบการณ์ เป็นสิ่งสอนให้เราเป็นเรา
... แต่ก็มีบางคนที่รู้ว่าสิ่งๆนั้นทำให้เจ็บ ให้ปวด
แต่ก็ยินยอมที่จะเจ็บต่อไป เพราะคำว่ารัก
++ รักที่ไม่มีรูปแบบ ไม่ว่าจะรักแบบเพื่อน หรือรักแบบคนรัก ++
!!!!!!!!รักของคุณเป็นแบบไหนหาเจอรึยังคะ?!!!!!!!!