15 มกราคม 2547 14:58 น.

ใกล้ถึงวาเลนไทน์อีกแล้ว

maruko_sos

เสียงเพลงเกี่ยวกับวันวาเลนไทน์แว่วมา ...ฉันเปิดเองแหละ
ตัวเองมีเบียร์ 1 ขวดกับฟุตลอง 1 อันเป็นเพื่อน
เหงาเมื่อไรมีสองอย่างนี้เป็นเพื่อนทุกที

วันวาเลนไทน์สินะ...วันนี้
		ฉันมองดาวบนฟ้า
		เหงาไหมดาราบนนั้น
		วาเลนไทน์กับวันไหนไหนก็เหมือนกัน
		คนช่างฝันก็ได้แต่นั่งมองดาว

ปีที่แล้วทำอะไรอยู่น้า- -

 14 กุมภาพันธ์ 2546
กำลังนั่งมองนังตัวดี
มันหลับไม่รู้เรื่องเลย

19.00 น. เหมือนนิ่มจะรู้ว่าไม่มีที่ไป มันสั่งให้มาที่ร้าน นึกว่าจะหวังดี ที่แท้ก็ให้มาช่วยงาน-เสี่ยวแดก
ที่ร้านมันคนเยอะมาก ก็เล่นทำผับซะบรรยากาศดีขนาดนี้ โรแมนติกขนาดนี้ ใครๆเขาก็อยากพาแฟนมา
ฉันวุ่นกับการจัดโต๊ะให้ลูกค้าตามที่จองไว้ ยังไม่ทันได้คุยอะไรกันเลยก็มีงานให้ทำเสียแล้ว
สามีของเพื่อนหัวฟูไม่แพ้กัน ฉันเห็นมันแอบซึ้งกันสองคน นึกเหรอว่าจะไม่อิจฉา...อิจฉานะเฟ้ย
21.00 น. ไม่มีเวลามานั่งมองใครเขาโรแมนติกกับใครหรอก ทอดเฟร้นฟรายจนหน้ามันอยู่ก้นครัวโน่น
จะแต่งหน้ามาทำไมก็ไม่รู้
22.00 น. ฉันสั่งสามีของเพื่อนเปิดเพลงที่ต้องการ ด่วน!!

"ฉันไม่คิดว่าฉันจะรู้ว่าคนเรานี้เกิดมีความรักอย่างไรกัน ราวกับเป็นดังเช่นนิทาน เรื่องราวเล่าขานว่ากาลครั้งหนึ่งวันนั้น เริ่มจากคนสองคนที่เดินเข้ามาสบตาต่อกัน สบตาประสานจิตใจเกิดเป็นความหมายต่อกัน อยากอยู่ใกล้ชิดผูกพันกันเรื่อยไป เกิดเป็นความรัก....ขึ้นในหัวใจ"

23.00 น. ลูกค้ายังไม่มีทีท่าว่าจะลดลง วาเลนไทน์บ้าอะไรก็ไม่รู้ กินเบียร์จนเมาแล้วเนี่ย ผู้ชาย เอ้ย ข้าวยังไม่ตกถึงท้องซักเม็ด
0.00 น. นิ่มเรียกไปรับโทรศัพท์ มันบอกว่าเรื่องนี้สำคัญกว่าที่ร้าน ให้ไปเรื่องนี้ก่อน มันเห็นเพื่อนรักเป็นตัวอะไรเนี่ย ฉันได้แต่เก็บความไม่พอใจเอาไว้ในใจอีกที

1.00 น. ของวันใหม่ ฉันมองหลังนังโมที่ถูกหิ้วขึ้นลิฟท์โดยแฟนของมัน
"แกไปเอามันก่อน ที่ร้านนี่เดี๋ยวฉันจัดการได้" ฉันลบความไม่พอใจในตัวเพื่อนรักเจ้าของผับทิ้งไป เปลี่ยนเป็นความไม่พอใจในตัวเพื่อนรักคนใหม่แทน

"พอดีมีประชุมด่วนน่ะ เลยทิ้งโมไปประชุม" เวรกรรม...
ป๊อดรับผ้าขนหนูไปเช็ดตัวให้แฟนสาวจอมเฟี้ยวของตัวเองที่นอนแน่นิ่งอยู่บนเตียงของฉัน ฉันได้แต่ภาวนาให้มันอย่าลุกขึ้นมาอ้วก
ป๊อดเล่าได้ความว่าคู่รักคู่นี้นัดดินเนอร์ใต้แสงเทียนกับครอบครัวของโม พอป๊อดไม่ว่าง เพื่อนรักของฉันเลยไปกินเหล้าเมาแอ๋ที่ไหนก็ไม่รู้แล้วโทรเรียกให้ป๊อดมารับ
"ไม่แน่จริงนี่หว่า" ฉันว่ามันในใจ
แล้วอยู่ดีๆมันก็ลุกขึ้นมาด่าแฟนตัวเองเฉยเลย ป๊อดได้แต่เงียบ ฟังมันด่า สงสัยชินแล้วมั้ง

โมด่าไปน้ำตาไหลไป ป๊อดใช้มือข้างนึงลูบหัวมันอย่างเอ็นดู ผ้าเช็ดตัวกลายเป็นผ้าซับน้ำตาไปโดยปริยาย
มันรู้ตัวมั๊ยเนี่ยว่ามันอยู่ที่ไหน
มันรู้ตัวมั๊ยเนี่ยว่ามันทำอะไรอยู่
มันรู้ตัวมั๊ยเนี่ยว่าแฟนมันยอมรับผิดแล้ว
มันรู้มั๊ยเนี่ยว่าแฟนมันอ่อนโยนกับมันมากขนาดไหน

ทั้งสองคนลากกันไปที่ระเบียง เอ้อ..ใช้คำผิด 
ทั้งสองคนประคองกันไปที่ระเบียง เหมือนจะบอกเป็นนัยว่าอยากอยู่กันตามลำพัง
สักพัก...นังเพื่อนรักก็หลับคาระเบียง

ฉันมองป๊อดอุ้มแฟนจอมเอาแต่ใจของตัวเองมาที่เตียง
มันจะรู้ตัวมั๊ยนะว่ามันโชคดี...

"โมเค้าจะนอนที่นี่น่ะ ฝากด้วยนะพู่" ไม่ต้องฝากก็ดูแล...ป๊อดเอ๋ย เพื่อนรักทั้งคน

3.00 น. นังนิ่มเพิ่งปิดร้าน ทิ้งสามีไว้ที่ไหนก็ไม่รู้แล้วรีบมาดูสภาพนังโม
มันว่ามันกับสามีมีวันแห่งความรักทุกวัน วันนี้ไม่อยู่ด้วยกันซักวันไม่เห็นจะเป็นไร
ฉันว่าความคิดมันเข้าท่า แต่ที่เข้าท่ามากที่สุดคงเป็น
"วันนี้ได้กำไรเยอะเลย เลยเอานี่มาฝากแก"
มันชูสตรอเบอรี่ไวน์ที่ฉันชอบ

เราสองคนนั่งชนไวน์ตรงระเบียง โชคดีที่นังโมไม่อ้วกไว้
"อยู่คนเดียวไม่เหงาเหรอวะ"นิ่มถาม
"ม่าย...สบายดีออก"

ช่าย...อยู่คนเดียวสบายใจดีออก
                                                                                   5.30 น.
                                                                              15 กุมภาพันธ์ 2546


 จะเอาอะไรมากมายกับความรัก
ฉันหยุดหามาตั้งนานแล้ว
เมื่อพบว่าไม่มีใครคิดจะรักษาและดูแลหัวใจให้ดีจริง
ทุกคนเข้ามาเพื่อจากไป

ดังนั้น ไม่ว่าวันวาเลนไทน์หรือวันไหนๆ
มันก็แค่วันธรรมดาๆวันนึง

ฉันมองท้องฟ้าสีดำอันว่างเปล่าอีกครั้งแล้วรินเบียร์ให้ตัวเอง
ขณะรินจึงนึกขึ้นได้ว่ากำลังถือศีล 5
เวรแล้ว...
				
13 มกราคม 2547 14:10 น.

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า...

maruko_sos

เช้าวันใหม่หลังจากการสอบ ฉันหยิบ "โลกของจอม" ขึ้นมาอ่านต่อ
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป จากที่เคยอ่านหนังสืออยู่กับโต๊ะ ก็เปลี่ยนมานอนกับพื้น 
"เหมือนอ่านหนังสือเรียนไม่มีผิด" ฉันหยอกตัวเอง 
อีกหนึ่งชั่วโมง ฉันพบว่าได้พาตัวเองออกมาที่ระเบียง นั่งบนถังน้ำขนาดใหญ่ไม่ใช้แล้วที่รองรับน้ำหนัก 50 โลกรัมได้ ตายังจับจ้องอยู่ที่ตำแหน่งหนึ่งของหน้า 55 
(จอมไม่เข้าใจว่าเหตุใด ด้วยสมองที่มากกว่าผีเสื้อล้านเท่า คนจำนวนมากจึงไม่เชื่อว่าทุกสิ่งในจักรวาลเป็นหนึ่งเดียว การทำลายสิ่งอื่นอย่างไม่ยั้งคิด สุดท้ายคนก็ต้องได้รับผลเสีย คนจำนวนมากปฏิเสธทฤษฎีควอนตัมฟิสิกส์ที่ว่า ทุกสิ่งในจักรวาลถูกผูกโยงกันไว้โดย"เส้นด้ายวิเศษ"(Superstring)ซึ่งเรามองไม่เห็น การเด็ดดอกไม้ดอกหนึ่งบนโลกจะสะเทือนถึงดวงดาว การฆ่าปลาวาฬตัวหนึ่งในทะเลเบอริ่ง(Bering sea)จะกระทบระบบนิเวศน์ทั่วจักรวาล)
จบย่อหน้านี้ที่หน้า 56

วันนี้วันอาทิตย์ ฉันคิดถึง"ข้างนอก"อย่างไม่มีเหตุผล
ว่าแล้วก็เปลี่ยนแปลงตัวเองให้อยู่สภาพพร้อมเดินทาง(ที่ยังไม่มีจุดหมาย)กับเป้ใบโปรด จุดประสงค์คือร้านกาแฟหรือร้านอะไรก็ได้ที่พอจะซุกตัวอ่านหนังสือเล่มนี้ให้จบก่อนมืดวันนี้

รถเมล์ยูโรสาย 59 ฉันเลือกนั่งริมกระจก มองทะลุออกไปด้านนอกตลอดเวลาที่รถวิ่ง มาถึงแค่บางเขน ฉันรู้สึกถึงความไม่ลื่นไหลบนท้องถนน หรือจะหยุดการเดินทางไว้แค่เซ็นทรัลฯ ลาดพร้าว ฉันถามตัวเอง เอาน่า ไหนๆก็ออกมาแล้ว ขอไปอีกหน่อย
ผู้หญิงที่อดทนต่อความอึดอัดได้น้อยอย่างฉันไปได้ไกลถึงจตุจักร ผู้คนมากมายในวันอาทิตย์สร้างความอึดอัด คนรอรถเมล์บนถนนยาวมากกว่า 500 เมตร พวกเขาออกมาชะเง้อมองหารถของขสมก.และบริษัทเอกชนในช่องทางเดินรถฝั่งซ้ายสุดแทนที่จะเป็นฟุตบาท รถติดสร้างความอึดอัด ฉันลงรถที่จตุจักรหวังจะนั่งBTSต่อจนถึงสยามเพราะไม่สามารถทนรถติดได้ แล้วก็ต้องเปลี่ยนใจเมื่อเห็นผู้คนต่อคิวซื้อตั๋วจากเครื่องขายตั๋วอัตโนมัติ นึกถึงสภาพโบกี้เล็กๆที่หนาแน่นไปด้วยผู้คน 
ฉันตัดใจกลับหอท่ามกลางสภาพอากาศขมุกขมัว สามชั่วโมงที่ผ่านมาไม่ได้หนังสือสักหน้า

ระหว่างต่อรถกลับหอ พบน้องสาวคนหนึ่งที่อยู่ในสังคมที่สระว่ายน้ำ เราส่งยิ้มให้กัน ทักทายกันเหมือนทุกครั้งหลังจากไม่เจอกันนานตั้งแต่อากาศเริ่มเย็น ฉันไม่รู้จักแม้ชื่อของเธอ จะว่าไม่เคยสนใจจะรู้จักเลยก็ได้ เพราะไม่ว่าเธอจะชื่ออะไร เธอก็คือเธอ ไม่ว่าจะเจอเธอที่ไหน เธอก็คือเธอ เป็นเพื่อนอายุน้อยที่ไม่เคยสร้างความลำบากใจให้ฉัน เรารู้จักกันจากการเดินทางของเวลาและกิจกรรมของเรา เหมือนเพื่อนบางคนของฉัน
เธอขอคำปรึกษาเรื่องเรียนต่อ ฉันเล่าเรื่องตอนม.ปลายของตัวเองให้ฟังนิดหน่อยก่อนจะแนะนำอะไรเล็กๆน้อยๆ
เธอกำลังกลัวการเปลี่ยนแปลง
การเปลี่ยนแปลงนั้นรวมถึงสังคมและวิถีชีวิต 
เธอเล่าจากคำบอกกล่าวที่เคยได้ยินว่าเด็กผู้หญิงจะถูกขึงเพื่อให้เด็กผู้ชายข่มเหง เมื่อรุ่นพี่ผู้หญิงสั่งเพราะไม่ชอบใจเด็กคนนั้น ฉันแนะนำให้เธออยู่ห่างๆ ทำตัวธรรมดา เธอว่ามันทำลำบากเพราะไม่มีวันรู้ว่ารุ่นพี่จะไม่ชอบหน้าเอาเมื่อไร
การจะชอบหน้าหรือไม่ชอบหน้าใครนี่มันก็พูดลำบากเหมือนกัน ครั้นจะบอกอาจารย์ก็อาจจะโดนหนักกว่าเดิมในภายหลัง ว่าแต่ระบบอาจารย์จะอ่อนแอขนาดนั้นเลยเหรอ จะอ่อนแอขนาดปกป้องลูกศิษย์ของตัวเองจากพวกเด็กอันธพาลไม่ได้เชียวหรือ ...อันนี้ตอบยากเพราะเราไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเมื่อไร
ทำไมอะไรก็ยากสำหรับฉันไปหมดเนี่ย

เด็กเขามีความกดดันของเขา เรื่องเด็กอันธพาลมีจริง ไม่มีปัญหาของใครเป็นเรื่องเล็ก มันกระทบถึงจิตใจ ปัญหาใหญ่ๆมาจากปัญหาเล็กๆ คนเราเกิดมาใครๆก็ต้องเจอปัญหากันทั้งนั้น ทุกคนต้องแก้ปัญหา ไม่มีใครสบาย เกิดมาไม่เคยเจอเรื่องทุกข์ใจเลย
ฉันได้แต่แนะนำน้องให้อยู่ห่างๆคนพวกนั้น ทำตัวให้เหมาะสม และตั้งใจเรียน วันหนึ่งเราจะชินกับสังคมแบบนั้นและรู้วิธีเอาตัวรอด

ก่อนจะจากกันเราลากันพอเป็นพิธี 

ฉันกลับหอพร้อมกับเรื่องที่ได้เรียนรู้ในวันนี้


นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า "อย่าออกไปไหนวันอาทิตย์"				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟmaruko_sos
Lovings  maruko_sos เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟmaruko_sos
Lovings  maruko_sos เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟmaruko_sos
Lovings  maruko_sos เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงmaruko_sos