28 มีนาคม 2548 19:27 น.
malijauna
Nothing hurt like love
๐ใดใดเจ็บปวดล้วน..........................กินความ
เท่าค่ารักนิยาม...............................เอ่อพ้น
เจ็บกายบ่นานยาม...........................หายขาด
ใจเจ็บเจ็บจนล้น..............................ยากให้หายหมอง ฯ
๐เสี้ยวรักแทงทิ่มเนื้อ.......................นวลสวรรค์
ฝังลึกรอยจาบัลย์............................บาดคล้อย
ย่ำวนแห่งห้วงฉกรรจ์........................แผลบ่ม
วันเพิ่มกลัดหนองน้อย......................บ่งช้ำชอกกลืน ฯ
๐ไผจากลาลับให้............................รอคอย
ฝันฝั่งดังเลื่อนลอย..........................ท่าไร้
เทียบจอดทอดสมอหงอย.................เหงาเงียบ
นั่งนับดาวเดียวไซร้.........................เหน็บแท้คำนึง ฯ
๐การะเวกวิเวกร้อง.........................สำเนียง
น้ำเยียบเย็นไหลเพียง.....................เสียดเค้น
รักเอยก่อนเคยเคียง........................กลับห่าง
วันว่างนั่นริบเล้น.............................คู่เจ้ากาลไหน ฯ
๐ลมวอนซ่อนข่าวร้าย.....................แผ่วเบา
หนาวเหน็บแผกลำเนา.....................ดั่งแสร้ง
อุ่นหนออุ่นยังเนาว์.........................ใจอยู่ ไหมหนอ
ฤๅแค่ลมพัดแล้ง............................หอบร้อนสุมทรวง
๐กอดกายคืนหม่นเศร้า..................แสงจันทร์
หมายมาดรังสิมันต์..........................ผ่องแผ้ว
รับอรุณอุ่นมานพลัน........................ไร้โศก
หนอเจ็บเท่ารักแคล้ว.......................ไป่ร้างหลาบจำ ฯ
21 มีนาคม 2548 18:46 น.
malijauna
วิกฤตการศึกษา
๐วิกฤตคำบ่งชี้.............................สถานการณ์
รอยต่อดีชั่วทาน..........................ทัดเลี้ยว
ราชบัณฑิตยสถาน......................พจน์กล่าว
กล้ำกึ่งน้อยนิดเสี้ยว......................สู่ร้ายนรกสวรรค์ ฯ
๐ภาษาธรรมแผกให้......................ติดตาม
วิกฤตดังนิยาม..............................ล่วงแล้ว
วิปริตผิดเคยความ..........................ปรกติ
วิกฤตการบ่แคล้ว...........................ประพฤติล้ำผิดทาง ฯ
๐การศึกษาเปลี่ยนเค้า.....................แนวโครง
หมายมั่นจักจรรโลง........................ภาพร้าย
หนุนเกื้อกอบให้โยง........................ใยครอบ คลุมนา
พื้นรากฐานแน่นคล้าย.....................ตึกค้ำฟ้าสูง ฯ
๐มนุษยธรรมไร้ร่าง........................จานเจือ
ปฎิรูปตายเป็นเบือ..........................ล่มร้าง
กระบวนใฝ่รู้เกลือ...........................ปลอมแปลก
ธรรมะแยกโครงสร้าง......................นั่นล้วนการเมือง ฯ
๐ดังบทเรียนซ้ำซาก.......................จำเจ
หลายยุคก็ไขว่เขว..........................อย่างนั้น
วิกฤตศึกษาเร................................รวนระบบ
ปฎิจจสมุปบาทขั้น..........................วิปริตแล้วถาวร ฯ
๐นักปราชญ์อีกนักรู้..........................เกลื่อนเมือง
ฤๅขาดปัญญาประเทือง......................ศาสตร์ล้น
บริหารสิรุ่งเรือง................................สามารถ
อย่าปล่อยให้กาลพ้น.........................ผ่านข้ามวันสมัย ฯ
๐สกลนี้ระบบนั้น.............................สองตอน
เฉลียวฉลาดปัญญาสอน...................สู่รู้
อาชีพมุ่งถาวร................................เป็นอยู่
หาใช่สร้างโลกกู้.............................เพริศแพร้วความประสงค์ ฯ
๐การศึกษาท่วมท้น.........................ปรารถนา
พัฒนจิตวิญญา...............................กอรปด้วย
สูงส่งนับคณา.................................ระบบคิด
ผลยั่งยืนตราบม้วย...........................นั่นแล้แนวทาง ฯ
อยากให้การพัฒนาการศึกษาในปัจจุบันควบคู่ไปกับการพัฒนาจิตใจและระบบความคิดด้วย หาใช่การสนใจเรื่องวัตถุนิยมอย่างเป็นอยู่ทุกวันนี้
27 ธันวาคม 2547 15:31 น.
malijauna
๐เรืองรองฟ้าเมลื่องเรื้อง......................อร่ามพิศ แม่เหวย
ทาบดั่งแถบทองสนิท............................แจ่มจ้า
เฟื้องฟ่อแอบฝากจิต............................ใฝ่มาส
นาพ่อแนบรักท้า.................................ร่มใต้งามจันทร์ฯ
๐จันทร์งามใต้ร่มท้า............................รักแนบ พ่อนา
มาสใฝ่จิตฝากแอบ..............................ฟ่อเฟื้อง
จ้าแจ่มสนิททองแถบ...........................ดั่งทาบ
เหวยแม่อร่ามพิศเรื้อง........................เมลื่องฟ้าเรืองรอง ฯ
19 ธันวาคม 2547 22:44 น.
malijauna
..เชคสเปียร์กล่าวอ้าง................รักเอย
บ้าดั่งคำช่วยเฉลย.....................วุ่นนั้น
โลกดั่งฉากเปรียบเปรย..............แสดงบท
ร่ายระบำฟ้อนครั้น....................ตกห้วงมายา ฯ
..ใครกำหนดคาดเค้น................ไป่มี
หน้ากากสวมฤดี......................ตอบได้
เขียนบทเพราะสวาทพลี............กำกับ
หลังม่านละครไซร้...................สมัครล้วนเล่นตาม ฯ
...จุ่งพ้นฉากรักเร้า...................โลมใจ
บาทบทที่แสดงไป...................เลิกร้าง
จริตจะหักกลไหน....................วานบอก
เสพสุขเสพขื่นบ้าง...................เช่นนี้วนเวียนฯ
ได้เค้าโคลง ฯ มาจาก บทกวีของท่านจิตร ภูมิศักดิ์ ชื่อ จุ่งพ้นฉากเข้ม
5 พฤศจิกายน 2547 14:43 น.
malijauna
ราตรีระดาษดาว นภพราวสว่างพลัน
มืดมนบ่นิรันดร์ ทุขะเช่นเป็นดังคืน
แผ่วพริ้วดนดรีศิลป์ วิเวกยินทะเลคลื่น
ถาโถมกระแทกครืน ก็เซาะหาดทลายลง
สังขารก็ฉะนั้น ระยะสั้นจงคิดปลง
กรรมชั่วละก็คง เจอะสวรรค์บ่นานรอ ฯฯ