13 ธันวาคม 2549 00:20 น.
Maimao
หนังสือเล่มหนึ่ง
ฉันเปิดอ่านดู
และเมื่ออ่านจบ
ฉันกลับพบว่า.....
มันคือความว่างเปล่า
แต่อีกเล่มหนึ่ง
ฉันเปิดอ่านดู
และเมื่ออ่านจบ
ฉันกลับพบว่า.....
ฉันจะได้อะไรอีกมากมายที่ไม่ใช่ตัวหนังสือ
13 ธันวาคม 2549 00:00 น.
Maimao
สวัสดีครับ... ผมชื่อ ตูบ
คุณอาจจะบอกว่า ชื่อผมธรรมดาจัง ธรรมดาเกินไป หาที่ไหนก็ได้
ใช่ครับ ผมยอมรับว่ามันจริง ผมเองก็เป็นแค่หมาธรรมดาๆตัวนึง ไม่ได้วิเศษไปกว่าหมาตัวอื่นๆที่ไหนนี่ครับ
แล้วคุณจะมาคาดหวังอะไรกับหมาธรรมดาๆอย่างผมล่ะ?
คนที่ตั้งชื่อให้ผม ก็คือเพื่อนผมเองแหละ แต่พวกมนุษย์ดูจะชอบเรียกว่าเป็น "เจ้านาย" กันนะ
แต่ที่แน่ๆ ผมเชื่อว่า เพื่อน หรือเจ้านายของผม ก็คิดแบบเดียวกับผมน่ะแหละ ว่าเขาเป็นเพื่อนกับผม ไม่ใช่เจ้านาย
เพื่อนผมคนนี้ ก็เป็นคนธรรมดาๆคนนึงเหมือนกัน
ผมกับเพื่อนผมสนิทกันมาก เรารักกันมาก ผมอยู่กับเขามาตั้งแต่ยังเด็ก
ไม่ว่าเขาจะมีเรื่องอะไร คิดอะไรอยู่ เขาก็มักจะบอกเล่าให้ผมฟังอยู่บ่อยๆ
เรามักจะเดินทางไปไหนมาไหนด้วยกันเสมอ ถ้ามีเขาก็ต้องมีผมอยู่ด้วย
เขามักจะพูดให้ผมฟังอยู่เสมอ ว่ามนุษย์มักจะติดอยู่กับสิ่งที่ตาเห็น จึงทำให้มองไม่เห็นความเป็นจริงที่ซ่อนอยู่ข้างหลัง
เขายังบอกอีกด้วยว่า ภาพที่เราเห็นว่าสวยงามนั้น บางทีมันอาจจะอาบไว้ด้วยยาพิษก็ได้
ไม่มีใครไม่ชอบสิ่งสวยงามหรอก เขาบอกอย่างนั้น
เขาว่า แต่ความสวยงามที่แท้จริง ไม่ได้มองเห็นด้วยตา แต่สัมผัสและรับรู้ถึงมันได้ด้วยใจ
ถ้าเรารู้จักกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งดีจริงๆแล้ว นั่นแหละ เราถึงจะมองเห็นความจริงแท้ของสิ่งนั้นๆ
เขายังยกตัวอย่างให้ผมฟังด้วย ว่าตัวเขาเองนี่แหละ ที่เป็นข้อพิสูจน์
เขาบอกว่า ถ้าตาเขามองเห็น เขาก็จะเข้าใจไปว่าสิ่งที่เขาเห็นคือความจริง ว่ามันเป็นอย่างนั้นอย่างนี้
แล้วคิดไปเองว่านั่นคือความจริง เราจะสุขหรือทุกข์ก็ด้วยสิ่งนี้นี่แหละที่หลอกให้เราเป็น
แต่เป็นเพราะตาเขามองไม่เห็น ภาพที่เกิดจากจิตใจที่เขาวาดขึ้นมานั้น จึงอาจจะแตกต่างไปจากสิ่งที่เห็นกันด้วยตาก็ได้
และนี่ก็เป็นสิ่งที่ทำให้เขาอยู่ได้อย่างมีความสุข ผิดจากคนอื่นๆ
ตอนนั้นผมเองก็ยังไม่ค่อยเข้าใจอะไรหรอก ผมได้แต่คิดว่าพวกมนุษย์นี่ ทำไมถึงชอบพูดหรือทำอะไรให้เข้าใจยากกันจังเลยนะ
เท่าที่ผมเห็น บางคนบอกว่าเพื่อนผมน่าสงสาร แต่กลับกำลังยิ้มเยาะหัวเราะเพื่อนผมอยู่ก็มี
หรือบางคนที่เพื่อนผมเผลอเดินไปชนแล้วของของเขาตกกระจาย แถมยังเจ็บตัว แต่กลับบอกว่าไม่เป็นไรก็มี
ผมไม่เข้าใจจริงๆ ทำไมคนที่เดือดร้อนกลับบอกว่าตัวเองไม่เดือดร้อน
แต่คนที่ไม่เดือดร้อน กลับทำตัวเหมือนกับว่ากำลังจะเป็นจะตาย
แต่แล้ว.... วันหนึ่งผมก็ได้เข้าใจในสิ่งที่เพื่อนผมคอยพูดให้ผมฟังอยู่ตลอดมา
วันนั้น เพื่อนผมถูกรถชน แต่ลับไม่มีใครสนใจ ทุกคนล้วนแต่มองแล้วผ่านไป
บ้างก็ซุบซิบนินทา...
บ้างก็มองอย่างสมเพช...
เท่าที่ผมได้ยินมานะ
เขาพูดกันว่า โธ่! ก็แค่คนตาบอด ไม่มีอะไรหรอก ดีแล้วล่ะที่ตายไปซะได้
พวกคุณไม่รู้หรอกเหรอ ว่าเพื่อนผมมีค่ากับผมแค่ไหน ถึงแม้ว่าใครต่อใครจะพากันมองว่า
เพื่อนผมตาบอด ไม่มีประโยชน์ต่อพวกคนอย่างคุณ แต่เพื่อนผมก็มีค่า มีความดี
คนอย่างพวกคุณ เคยมั้ย ที่จะเก็บเอาลูกหมาผู้หิวโหยใกล้จะตายที่น่าสงสารมาดูแล
แล้วเคยมั้ย ที่จะนึกสงสารเพื่อนร่วมโลกที่มีชะตาชีวิตที่น่าสงสารกว่าคุณ
พวกคุณน่ะ มองแต่ตัวเอง เห็นก็แต่ตัวเอง คิดว่าตัวเอง ทุกข์เป็น ลำบากเป็นอยู่คนเดียวรึไง
พวกคุณไม่รู้จักเพื่อนผมดีล่ะสิ ถึงได้พูดกันอย่างนั้น ก็แค่ตาของคุณที่เห็นว่าเป็นคนตาบอด แล้วสรุปว่าเขาไม่ดี
ใช่แล้วล่ะ ผมรู้จักความดีงามของเพื่อนผมได้ด้วยใจ ไม่ใช่ด้วยตา....
......ผมเข้าใจแล้ว......
......เพื่อนรัก เรารักนายนะ......