14 กุมภาพันธ์ 2548 12:24 น.
maht
หยาดน้ำตา ที่ไหล วันนี้
เก็บอย่างดี ไว้ใน ขวดโหล
เป็นพยาน ของการ เติบโต
ไว้คุยโว เรื่องที่ เคยมี
ว่าครั้งหนึ่ง ชีวิต เดินผ่าน
ข้ามเชี่ยวธาร สะพาน ตรงนี้
เคยอ่อนล้า หมดแรง ที่มี
เหนื่อยสิ้นดี เรานี้ กัดฟัน
เผื่อไว้อวด ใครต่อ ใครเขา
ว่าตัวเรา ไม่ได้ ไหวหวั่น
เรื่องใดเกิด ก็เปิด ประจัญ
สารพัน ปัญหา ฝ่าไป
จะไม่ให้ ใครหมิ่น นินทา
ตราหน้าว่า ขี้แพ้ แค่ไหน
ปลุกปลอบขวัญ วันนี้ ผ่านไป
พบฟ้าใหม่ ไม้นี้ งอกงาม
13 กุมภาพันธ์ 2548 11:36 น.
maht
ดึกดื่นคืนคลุมคราวค่ำ
เมฆคล้ำครอบคลุมคลุ้มแสง
ฟ้าดึกเมฆดำสำแดง
มืดแทงคืนมืดมืดยัง
มืดต่อมืดมิอาจไล่
แต่แสงแจ้งไซร้ไล่ฉมัง
เมื่อฟ้าค่ำเมฆดำบัง
ต้องหวังแสงวันขับไป
รังเกียจคิดเกลียดเดียดฉันทน์
แสลงแหยงกันหมั่นไส้
ชิงต่อชังไล่ไม่ไป
เกลียดต่อเกลียดไซร้เกลียดคง
ใจเขม่นต้องใช้ใจรัก
หาญหักใจเกลียดเบียดส่ง
รักให้เกลียดหดปลดลง
เช่นไถงไล่ส่งราตรี
4 กุมภาพันธ์ 2548 16:36 น.
maht
ความฝันเหมือนสารละลาย
มุ่งหมายให้ได้บางสิ่ง
บางครั้งผลลัพธ์ที่จริง
ต่างยิ่งจากสิ่งประมาณ
หยิบนั่นจับนี่เข้าใส่
หวังให้ได้เป็นสสาร
รอผลทดลองเนิ่นนาน
สมมติฐานยังลอย
วางแผนให้เป็นอย่างหนึ่ง
ความจริงทะลึ่งกลับกร่อย
ผิดหวังหลายครั้งใช่น้อย
หลากรอยฝันพลอยยับเยิน
ยังลองยังรอเรื่อยเรื่อย
ผลึกตกเอื่อยนานเนิ่น
เมื่อตัวละลายเยอะเกิน
คำตอบคงเดินออกมา
จักแจ้งกระจ่างกว่าเคย
หวังเอยที่เคยควานหา
ยามเมื่อตะกอนตกมา
ที่ขุ่นมัวพร่าคงคลาย
3 กุมภาพันธ์ 2548 20:11 น.
maht
ช่วงเวลาที่เราได้พบกัน
อาจดูแสนสั้น แต่กระนั้นก็สวยใส
ทุกบททุกตอนที่ย้อนมองกลับไป
ยิ้มอ่้อนโยนในหัวใจมีแทรกไว้ทุกนาที
ความรักความอบอุ่นอ่อนละมุนในสัมผัส
ช่วยสาดซัดความหวาดหวั่นในใจนี้
มือแข็งแรงเยียวยาใจอ่อนล้าจนหายดี
ที่ยืนมั่นได้วันนี้ ก็เพราะมีเธอวันนั้น
ถึงแม้สุดท้ายเราจากไกลกันแสนห่าง
ด้วยต่างเส้นทางต่างคนมีความฝัน
ไม่คิดโกรธไม่โทษอะไรแค่ช่างมัน
ก็เท่านั้น เพียงแค่บทประพันธ์ของวันเวลา
ไม่ได้เสียใจเท่าไหร่
เพียงยอมรับความเป็นไปแล้วเดินหน้า
เพราะเก็บไว้แล้วเรื่องราวต่างต่างนานา
เผื่อไว้ค้นออกมา คราอ่อนล้าทดท้อใจ
ขอบคุณเหลือเกิน ขอบคุณที่สุด
กับมือเธอที่ฉุดให้ลุกเริ่มต้นใหม่้
เธอคือรักแท้ แม้ไม่มีอีกต่อไป
แต่รักอันพิสุทธิ์ใส จะอยู่ในใจตราบนิรันดร์
1 กุมภาพันธ์ 2548 19:48 น.
maht
ตะวันลับฟ้าแล้ว................ดาวดวงแก้ววาวแววใส
แสงจ้าลาฟ้าไป.................ราตรีใหม่ไล่เงียบงัน
จันทร์งามท่ามกลางดาว.....เวหาหาวราวสวรรค์
เลอล้ำคำประพันธ์.............ที่สร้างสรรค์พรรณนา
สัตว์ป่าพากันหลับ..............ต่างระงับรุกรับล่า
ถึงคราวเขานิทรา...............แสงนวลตาครองฟ้างาม
ลมเอยรำเพยพัด................โบกสะบัดตวัดหวาม
หนาวห่มเมื่อลมตาม..........จึงนิยามนามเหมันต์
แมงคืนฟื้นสู่ป่า..................ร้องเริงร่าพนาสันต์
กู่ก้องพร้องไพรวัลย์...........หลายเผ่าพันธุ์รวมกันแจง
สายน้ำวะวามวับ.................รวยระยับยามจับแสง
ดุจเก็จเพชรน้ำแพง............นำแสดงใหโลกชม
เลิศล้ำงามประหลาด..........ธรรมชาติวาดไว้สม
ยามท้อขอแค่ชม...............ก็คลี่ปมที่ถมทา
ทำนองของโลกสวย...........เป็นเพราะด้วยช่วยรักษา
เสพย์ไว้เพียงนัยน์ตา...........เพื่อวันหน้ามีค่าคง