17 กุมภาพันธ์ 2546 21:11 น.
m&m
ฉันเคยได้ยินมาว่าชีวิตคนเราก็เปรียบได้กับฤดูทุกฤดู มีร้อนหนาว ฝนฟ้าคะนองเมฆฝนที่น่ากลัว ชีวิตเราก็เช่นกัน มีเจ็บปวด ทุกข์ สุข ผิดหวัง และสมหวัง ในเวลาที่เราผิดหวัง ท้อแท้ ก็เปรียบได้กลับฤดูฝนที่ยาวนาน รอคอยการกลับมาของดวงอาทิตย์ ที่จะทอแสงพอให้เราเดินผ่านความทุกข์ไปได้ เมื่อเราผ่านความทุกข์ไปได้ ก็เหมือนดวงอาทิตย์ได้โผ่พ้นการบดบังอันหนาทึบของเมฆทมึนมาได้
ในเวลาที่โดดเดี่ยว อ้างว้างก็เหมือนกับฤดูหนาวที่ดูเงียบงันเศร้าเหงา และรอคอยใครสักคนยื่นผ้าห่มหรือฝ่ามืออุ่น ๆ ก็ทำให้ใจมีพลังอีกครั้ง
และก็มีคนไม่น้อยที่แทบจะยอมแพ้กับพายุและความโหดร้ายของฤดูต่าง ๆ ที่เข้ามากล้ำกลาย
ขอเพียงว่าอย่ายอมแพ้กับสิ่งที่เกิดขึ้นกับคุณ เพราะถ้าคุณยอมแพ้คุณจะไม่ได้พบกับแสงอาทิตย์และท้องฟ้าที่สวยงาม แต่ถ้าคุณคิดและพร้อมที่จะต่อสู้ชัยชนะและความสุขก็จะเป็นของคุณ
ในขณะเดียวกันคุณก็อย่าลืมที่จะเป็นผ้าห่มอุ่นและฝ่ามืออุ่น ประคองและห่อหุ้มคนที่หนาวเหน็บ และเป็นร่มคันใหญ่ที่ช่วยบังแดดลมฟน เพราะคุณอาจเป็นคนที่ช่วยให้เขาเหล่านั้นได้ผ่านพ้นความทุกข์อันแสนสาหัสไปได้
15 กุมภาพันธ์ 2546 22:06 น.
m&m
บ่อยครั้งที่คุณตอบตัวเองไม่ได้ว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่ ทำเพื่อใคร ทำเพราะอะไร และทำไปทำไม ฉันก็เช่นกัน บางครั้งรู้สึกเหนื่อยท้อกับสิ่งที่ทำอยู่ เพราะฉันจ้องที่จะหาแต่คำตอบเหล่านั้น พอตอบไม่ได้ก็เริ่มท้อแท้ หรือตอบได้ก็ไม่ได้เป็นอย่างที่ใจต้องการก็ท้ออีก แต่พอมาคิดดูอีกที ถ้าเรามามัวแต่จมอยู่กับสิ้งเหล่านี้ นอกจากไม่ได้คำตอบที่พอใจเรายังอาจจะเสียอย่างอื่นมากกว่าคำตอบที่ได้
ทำไมเราไม่มาเริ่มคิดว่าทำในสิ่งที่เราอยากทำและทำให้ดีที่สุดอย่าท้อหรืออย่าถอดใจกับสิ่งที่ทำถึงแม้สิ่งนั้นจะยากลำบากเพียงไหนเพราะถ้าเราตั้งใจที่จะทำในสิ่งนั้นอย่างจริงจังผลที่ออกมาก็คือคำตอบที่เราพยายามค้นหา และมันก็คือความสำเร็จที่คุณรอคอย