27 กุมภาพันธ์ 2547 15:32 น.
LUNA SEA
เมื่อชีวิตผิดหวังครั้งเก่านั้น
ทำให้ฉันรู้ซึ้งถึงใจหญิง
แรกว่ารักปักใจใคร่จริงจริง
ช่างกลอกกลิ้งจริงหนาเหล่านารี
เราสัมพันธ์มั่นไมตรีสองปีกว่า
เคยสัญญาให้เห็นเป็นสักขี
สุขสดชื่นคืนวันมั่นวจี
มาบัดนี้มีเพียงซาก. . .ไม่อยากมอง
22 กุมภาพันธ์ 2547 16:02 น.
LUNA SEA
พี่ซึ้งใจในคำน้องพร่ำแล้ว
พี่แน่แน่วทุกสิ่งนะมิ่งสมร
จะสมัครรักแท้แต่บังอร
ไม่ทอดถอนแม่งจิตคิดรักใคร
แม้รักเราเข้าใจไม่แปรผัน
คงสักวันเราสองครองสดใส
เอาสองผานมาร่วมรวมหนึ่งใจ
ครองสุขไปชั่วชีวิต. . .นิจนิรันดร์
22 กุมภาพันธ์ 2547 15:59 น.
LUNA SEA
หากไม่รักไม่อาลัยพี่ไม่ว่า
แต่ขออย่าเปรียบเปรยทำเย้ยหยัน
เพราะพี่ก็มีชีวิตจิตเหมือนกัน
ไม่สัมพันธ์ก็บอกอย่าหลอกลวง
แม้เธอคือว่าสวยรวยเสน่ห์
คือว่าเก๋กว่าใครใครในแดนสรวง
จะมาเย้ยเปรียบเราให้เศร้าสรวง
ขอพุ่มพวงคิดให้ดี. . .พี่ก็คน
22 กุมภาพันธ์ 2547 15:56 น.
LUNA SEA
ฉันก้าวมาไกลมากจากจุดเริ่ม
แผลพิษเพิ่มเชื้อไฟในตัวฉัน
ไฟที่ร้อนแรงจ้ากว่าตะวัน
โหมพลักดันให้เท้าก้าวย่างไป
เหลียวดูแนวรอยเท้าที่ก้าวไป
บางครั้งหวาน. . .บางครั้งนั่งร้องไห้
ค่าสำหรับเรียนรู้ดูใจใคร
คือเสียทั้งน้ำใจและน้ำตา
ผ่านวันแห่งความทุกข์มา. . .มากกว่ามาก
ฉัยซึ่งฝากแผลใจให้รักษา
ไร้คนคอยแลเหลียวช่วยเยียวยา
จนชินชาในอารมณ์จมแต่ทุกข์
พิษแผลใจแต่ละครั้งยังบ่มพิษ
คอยออกฤทธ์รังควานผลาญความสุข
แต่ละครั้งพิษร้ายขยายลุก
ได้ช่วยปลุกศรัทธามากกว่าเดิม
ศรัทธาที่สายรุ้งโค้งคุ้งฟ้า
เป็นศรัทธาแน่วแน่ตั้งแต่เริ่ม
พิษผิดหวังคอยก่อคอยต่อเติม
ให้ยิ่งเพิ่มความมั่นใจในวิญญาณ์
ฉันยังอยู่ไกลมากจากจุดหมาย
เริ่มเหนื่อยหน่ายที่จะก้าวเท้ามุ่งหน้า
ขอบคุณเธอที่ให้ทุกข์ปลุกศรัทธา
ถึงแม้ว่าจะเพิ่มแผลให้แค่ใจ
22 กุมภาพันธ์ 2547 15:50 น.
LUNA SEA
คุณหมดสิทธิ์อิสระที่จะรัก
โปรดจงพักหัวใจเอาไว้ก่อน
ฉันก็จักหักใจไม่อาวรณ์
จะซุกซ่อนหัวใจไว้เช่นกัน
คนมีสิทธิ์อิสระที่จะรัก
ไม่ประจักษ์แจ้งจิตชวนชิดฝัน
โลกจึงเหมือนมารยา. . .สารพัน
นึกหน้าขันหัวเราะ. . .เยาะตัวเอง