10 กุมภาพันธ์ 2548 09:53 น.
LUNA SEA
เก็บความรักมากมาย...
เก็บความจริงใจทีละน้อย
เก็บความคิดถึงมากๆหน่อย
ปิดผนึกอย่างเรียบร้อย...
ทยอยส่งคืนเจ้าของเดิม
10 กุมภาพันธ์ 2548 09:41 น.
LUNA SEA
เธอเปลี่ยนไปแล้วใช่ไหม
ไม่ใช่คนที่เคยห่วงหา
มีเพียงความห่างไกลในสายตา
คงเหลือเพียงศรัทธาที่ลบเลือน
8 กุมภาพันธ์ 2548 13:43 น.
LUNA SEA
หมอกหนาคลุมฟ้ามืดมิด
ข้าแนบชิดความตรมกับลมหนาว
ศาลาริมน้ำไร้สิ้นกลิ่นดวงดาว
จอกเหล้ายังร้าวคราวข้าตรม
สายน้ำไหลแล้วไม่หวนกลับ
ข้ามีเหล้าดับความขื่นขม
สายลมเย็นเยือกก็เพียงลม
ความสุขความรมก็เคล้ากัน
หมอกหนาคลุมฟ้ามืดมิด
ข้าแนบชิดตัวเจ้าแต่ในฝัน
กี่ฟันลี้ที่เรานั้นห่างกัน
รอยรักรอยร้าวนั้นข้าไม่ลืม
8 กุมภาพันธ์ 2548 13:24 น.
LUNA SEA
เข้ามาซีความเศร้า
ฉันจะอยู่กับเจ้าซักวันหนึ่ง
พร้อมทุกลมหายใจให้ตอกตรึง
พลีดวงใจคิดถึงทั้งปวดร้าว
เข้ามาเลยความอ่อนไหว
มาเริงรำสำราญใจในดึกหนาว
เชิญดื่มด่ำหยาดรวงแห่งดวงดาว
แต้มประดับวับวาวตรงปลายตา
เข้ามาเถิดความจริง
มายืนยันทุกสิ่งที่ตรงหน้า
ฉันยอมแพ้แก่เธอเสมอมา
เช่นยอมรับอาญาแห่งอารมณ์
จะร้อนรุ้มคลุ้มคลั่งดั่งดินเดือด
พร้อมกรีดเลือดพุ่งพล่านผสานผสม
หล่นลิ่วปลิวคว้างกลางคลื่นลม
แล้วผลุบจมกระชากลมหายใจ
หรือดิ่งลึกสุดสะท้านธารน้ำแข็ง
แผดจ้าพร่าแสงสว่างไสว
ในเวิ้งหาวหนาวเย็นไม่เห็นไฟ
และไม่มีสิ่งใดให้เหนี่ยวคว้า
ตกลงฉันจะอยู่ตรงนี้
ที่คนดีอาจกลายเป็นคนบ้า
ผู้ระเบิดหัวเราะดังทั้งน้ำตา
กลับบางคราปาดแก้มแล้วแย้มยิ้ม
ตลกไหมข้างในนี้มีใครเห็น
ในความเยือกเย็นเสงี่ยมหงิม
มีใครรู้หรือว่าตาหลับพริ้ม
นั้นอาบอิ่มชุ่มฉ่ำจนก่ำแดง
ฉันจะไม่หนีเจ้าเหมือนก่อน
ทั้งเหน็บหนาวเร่าร้อนทุกหนแห่ง
สุมใส่สีให้สมอารมณ์แรง
เพียงแอบแฝงอย่าให้ใครเดือดร้อน
เราไปตายด้วยกันในวันเศร้า
จุดความจริงผลาญเผาเราไปก่อน
เอาเลยความอ่อนไหวร่ำไห้อาวรณ์
เพื่อจะจรจากกันวันพรุ่งนี้