27 พฤศจิกายน 2547 02:16 น.

… พี่ขอโทษ …

Love Is...Never Die.

ณ จุดหนึ่งของ กรุงเทพ ที่ที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองฟ้าอมร  เจริญรุ่งเรือง  เพียบพร้อมไปด้วยความงดงาม ความสะดวกและทันสมัย  แต่  จะมีใครรู้บ้างไหมว่า ณ ที่แห่งนี้  มีคน คนคนหนึ่งที่รู้สึกเหมือนกับว่า ชีวิตนี้เกิดมาเพื่อรอ  อะไรบางอย่าง  ซึ่งผมก็ยังไม่รู้ว่าผมรออะไรและเมื่อไหร่  การรอคอยนี้จะสิ้นสุดลงเสียที

ขอโทษค่ะ   หญิงสาวคนหนึ่ง เรียกผม
ครับมีอะไรหรอครับ  ผมหันมาตอบเธอ  แต่ก็ต้องอึ้งกับเธอคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าตัวผมเองในขณะนี้ ผมรู้สึกแปลกๆ กับผู้หญิงคนนี้  ผมรู้สึกเหมือนกับว่า  ผมได้พบ  พบกับสิ่งที่รอมานานแล้ว  ผมไม่ต้องค้นหาอะไรต่อไปอีกแล้ว ทำไมผมรู้สึกแบบนี้ก็ไม่รู้สิครับ
อืมม   คือว่า  หอประชุมค่ะ  หอประชุมไปทางไหน เธอถามผม
ครับ  หอประชุมเดินไปทางอาคารอำนวยการนะครับ  ชั้นสองครับ ผมตอบด้วยความเต็มใจ  พร้อมกับใบหน้าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม
ค่ะ ขอบคุณค่ะ  เธอตอบ  แล้วเดินห่างออกไปจนลับตาของผม 
เธอชื่อหวานครับ หวานเธอเป็นหญิงสาวที่ผมรู้สึกแปลกๆกับเธอ  เหมือนว่าเราเคยรู้จักกันมานาน  นานมาก  แม้จะเป็นการพบกันเป็นครั้งแรกก็ตาม ผมไม่รู้ว่าตลอดชีวิตผมรออะไรอยู่  แต่วันนี้  ผมขอสรุปมันว่า ผมอยู่มาจนถึงทุกวันนี้ เพื่อรอเธอ ผมไม่รู้เธอจะรู้สึกเหมือนว่าเกิดมารอใคร  เหมือนกับที่ผมเป็นรึเปล่า  ส่วนผม  ผมจะทำให้เวลาที่ผมเจอเธอ  เป็นเวลาที่มีค่าที่สุดสำหรับผม (และเธอ)


 เริ่มเรียนเป็นสัปดาห์แรก  วันนี้ต้องเลือกกิจกรรม 

	ตัวผมอยู่กิจกรรมดนตรี  การขับร้องและบรรเลงเพลงสากลเบื้องต้น  จะมีใครรู้บ้างไหมว่า หวานก็เลือกกิจกรรมนี้เช่นกัน   และเธอก็เดินตรงมาที่ผม และพูดว่า 
	อ้าว  พี่นี่เอง พี่ พี่  หวานทักทายรุ่นพี่ที่เพิ่งได้เจอกันเมื่อวันแรกที่เปิดเทอม  ด้วยอาการอ้ำอึ้ง ..
	พี่ชื่อ หนึ่ง ครับ ผมตอบกลับด้วยอาการเก้อเขิน  อย่างไม่เคยเป็นกับหญิงคนใดมาก่อน
	ค่ะ  พี่หนึ่ง เธอตอบพร้อมกับมองหน้าผมแล้วยิ้ม  
เธอจะรู้บ้างไหมว่า คนคนนี้ ที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอตอนนี้  รู้สึกกับเธอยังไง ผมขอเรียกความรู้สึกที่ผมมีอยู่นี้ว่าเป็น ความรัก แล้วกันนะครับ ถึงแม้ผมจะคิดไปเองข้างเดียวก็ตาม คุณเชื่อในรักแรกพบมั้ย หล่ะครับ ส่วนตัวผมไม่เคยเชื่อนะครับแต่ตอนนี้ผมเชื่ออย่างสนิทใจเลยครับ 
ใกล้พักกลางวันแล้วครับ เป็นโอกาสของผมแล้วครับ ผมจะชวนเธอไปทานข้าวกับผมให้ได้ 
ตอนนี้ก็พักกลาวันแล้ว  หวานไปทานข้าวเที่ยงกับพี่ได้ไหมครับ ผมชวนเธอแบบอายๆ
หวานเธอก็หยุดคิดไปนานเหมือนกันนะครับ ผมนึกว่าผมจะต้องทานสมหวังแล้วนะครับตอนนั้น  สมหวัง  งงหรือเปล่าครับ ก็แห้ว!!!ไง แต่ ฟังดูสิครับ 
ค่ะ ได้ค่ะ พี่หนึ่ง   แล้วพี่หนึ่งไม่ไปทานกับเพื่อนๆพี่หรอค่ะ   เธอหันมาถามผมด้วยหน้าที่มีแต่ความน่าสงสัยในตัวของผม ดูน่ารักไปอีกแบบ 
อ๋อ ไม่หรอกครับ  เพื่อนพี่ทานเร็วครับ  พี่ทานไม่ทัน  เลยนั่งทานคนเดียวสบายใจมาตลอดครับ 
หวาน เธออมยิ้มแล้วหัวเราะเบาๆ  ช่างดูน่ารักอะไรขนาดนี้  
อะไรกันนะ  ที่ทำให้เธอพูดคุยกับผมอย่างกับเป็นคนสนิท  เคยรู้จักกันมาก่อน  แล้วอะไรกันที่ทำให้ผมมีความสุขมากมายถึงขนาดนี้ 
เราทั้งคูต่างคบหากันมาเรื่อยๆ ไม่รีบเร่ง ผมก็มีสังคมเพื่อน เธอก็มีสังคมเพื่อนของเธอเช่นกัน แต่มันไม่เคยทำให้ผมรู้สึกว่าห่างไกลกับเธอเลยแม้แต่วินาทีเดียว และวันนี้ ผม 

ได้เวลากลับบ้านแล้ว

	หวาน  บ้านอยู่ที่ไหนหน่ะครับ  พี่ขอไปส่งได้มั้ยครับ   ผม ออกปากขออย่างหน้าไม่อาย
	อยู่ราชประสงค์ค่ะ ถ้าพี่หนึ่งอยากไปส่งหวานก็ได้ค่ะ  เธอตอบพร้อมกับถามถึงบ้านผม
	พี่อยู่คลองเตยครับ วันหลังหวานจะไปส่งพี่ที่บ้านก็ได้นะครับ  พี่อยากอยู่ใกล้ๆหวานนะครับ
วันนั้น  ผมได้ไปส่งเธอ  และทุกๆ วัน ผมก็ได้ไปส่งเธอ 
	หวานเธอเป็นคนน่ารัก  เรียนเก่ง  หนุ่มๆแต่ละคนก็ต่างเข้ามารุมจีบเธอกันทั้งนั้น  แต่ทำไมนะ เธอไม่สนใจใครสักคน ทั้งที่ทุกคนก็รวย  และนิสัยดีทั้งนั้น ผมคอยเฝ้าดูเธอต่างหากในทุกๆวัน เพราะอาคารเรียนของเราก็ไม่ได้ไกลกันมากนัก ทุกครั้งที่ผมเห็นใครมาเข้าใกล้เธอ ผมรู้สึกว่าผมจะหมดหวังในตัวเธอมากขึ้นทุกๆที ผมไม่มีอะไรที่จะพอสู้ใครได้เลย ผมเคยนั่งคิด  คิดไปเรื่อยๆว่าเธอจะเป็นคนที่ผมรอจริงหรอ  แล้วเธอจะเกิดมาเพื่อรอผมหรือเปล่า  แล้วทำไมเธอไม่เลือกผู้ชายพวกนั้นไปควงกับเธอ ทำไมเธอมักจะเดินคู่กับผมเสมอ ผมไม่รู้จริงๆว่าผมจะได้อยู่ใกล้ๆเธอแบบนี้ได้ไปอีกนานเท่าไหร่ เราอาจจะต้องห่างหายไปกันเอง เป็นแค่คนรู้จัก เท่านั้น ผมกลัว ผมอยากบอกรักเธอจริงๆครับ ผมกลัวว่าเธอจะไม่อยู่ให้ผมได้บอกรักกับเธอ 
 วันนี้ผมก็ไปรับเธอที่ห้องเรียนของเธอตามปกติ  เพื่อไปส่งเธอที่บ้านเหมือนเคย แต่

แต่วันนี้ มีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นกับเธอครับ 
                  เฮ้ย!! มึงจะทำอะไรผู้หญิงหน่ะ มึงเป็นผู้ชายหรือลูกหมาว่ะ  ปล่อยเธอเดี๋ยวนี้นะ ผมด่าพวกรุ่นเดียวกับผมที่กำลังจับแขน  จับมือของเธอแล้วล่วงเกินเธอต่อหน้าต่อตาผมที่ริมรั้วโรงเรียน  ขณะที่ผมเดินไปซื้อโปรดของเธอที่ผมซื้อให้ทุกวัน  คือ  น้ำแดง  นั่นเอง
                  จากนั้นผมก็เดินตรงเข้าไป  พร้อมกับไม้หน้าสามที่อยู่ ณ ที่นั้น  แล้วก็บันดาลโทสะ  ทั้งถีบ  ทั้งตี  ทั้งเตะ  ทั้งต่อย  ทั้งซ้อม  ผมก็ไม่รู้ว่าผมเอาเรี่ยวเอาแรงมาจากไหน  จากนั้นผมก็รีบคว้ามือเธอเพื่อจะวิ่งหนีไป  แต่ ไม่ทันครับ  พวกมันรีบลุกขึ้นจากพื้น  พร้อมกับชักมีดสั้นออกมา  แล้วตะโกนดังๆขึ้นมาว่า ไอ้สัตว์  เจอนี่หน่อยเป็นไร   
        แล้วพวกมันก็วิ่งตรงเข้ามาทางผมครับ หวานและผมหันหน้ามองพวกมันพร้อมกัน  แต่ หวาน หวานเอาตัวของเธอ  รับคมมีดที่กำลังจะแทงมาที่ผม.. ผมเห็นเธอโดนมีดแทงต่อหน้าผม  โดยที่ผม  เป็นผู้ชาย  แต่ปกป้องดูแลเธอไม่ได้แม้แต่น้อย
ทันทีที่พวกมันแทงมีดมาจนสุดด้ามมีด  แม่ค้าที่ขายน้ำให้กับผม  ก็เรียกให้คนอื่นๆช่วยเราสองคน 
แต่หวานสิครับ หวานทรุดตัวลงในอ้อมกอดของผม  ผมทำอะไรไม่ถูกนอกจากเรียกชื่อเธอดังๆและเรียกขอความช่วยเหลือ  หวาน เธอยิ้มให้ผม  แล้วหลับไปในอ้อมกอดของผม 

 ที่โรงพยาบาล 

               ผมนั่งเฝ้าเธอตลอดเวลา  พร้อมกับจับมือ  และโทษตัวเองตลอด  ถึงความผิดใหญ่หลวงที่ไม่อาจให้อภัยกับตัวเองได้ ผมคิดว่าจะต้องเสียเธอไปจริงๆ ผมรู้สึกว่าผมจะหมดโอกาสในการที่จะบอกรักเธอ  ดูแลเธออีกต่อไป 
ฟ้าส่งเธอมา เพื่อหยุดการรอคอยที่เลื่อนลอยของผม  แต่ แต่ผมไม่สามารถดูแล  ปกป้อง  และรักษาสิ่งที่มีค่า  และสำคัญสำหรับชีวิตผมได้  ขณะนั้น  ถ้าแลกได้  ผมอยากจะเป็นเธอ  ผมจะเจ็บแทนเธอ 
เวลาผ่านไป  วันแล้ว  วันเล่า  จนถึงวันนี้  หวานเธอฟื้นขึ้นมาพร้อมกับอาการมึนงงกับตัวเองว่าทำไมมาอยู่ตรงนี้  แล้วอยู่ตรงนี้มานานเท่าไหร่  แล้วทำไมมานอนที่โรงพยาบาล  คำถามที่พลั่งพรูออกจากปากของเธอ  เพื่อที่จะต้องการคำตอบ แต่ผมไม่ได้ตอบเธอ  ความรู้สึกของผม  คงไม่ต้องบรรยายหรอกครับ  ผมดีใจมากที่เธอฟื้น  ตลอดเวลา ผมสวดมนต์ทุกวัน ทุกคืน  เพื่อขอให้เธอกลับมา ผมรอมาตลอด  มันเป็นการรอคอยที่นานแสนนาน ผมไม่อยากจะตกอยู่ในสภาพแบบนี้อีกแล้วครับ 

 เธอกลับมาแล้ว 
              เธอกลับมาแล้ว  ผมจะไม่ทำให้เธอต้องเจ็บอีก  หากต้องเจ็บ  ผมจะเจ็บเอง  นับตั้งแต่วันนี้  หวานจะไม่เจ็บอีกต่อไปตลอดชีวิต  ผมให้สัญญากับตัวของผมเอง 
เมื่อเธอฟื้นขึ้น ผมไม่รอช้า  ในการที่จะเอ่ยความรู้สึกของผมที่มีต่อเธอ    ผมก็ตัดสินใจเอ่ยความในใจของผม  เพราะ  ผมกลัวว่า  ถ้าผมมีโอกาสบอก  แต่ผมไม่บอก  ถ้าวันนึง  ผมอยากบอก  ผมจะทำยังไง หล่ะ   ผมจับมือของเธอไว้  แล้วผมพูดกับเธอว่า 
                 หวาน  พี่รักหวานนะ  คำพูดของผมออกมาจากใจจริงเลยครับ ผมไม่รู้ว่าหวานจะรู้สึกยังไงกับผม แต่สำหรับผม  ผมได้บอกไปแล้ว 
ตลอดชีวิตของพี่  พี่เหมือนว่ารอใครสักคนที่จะเข้ามา  แล้วเมื่อมาเจอหวาน  พี่รู้สึกเหมือนกับว่า  พี่ค้นเจอแล้ว  ในสิ่งที่พี่รอ  ผมบอกเธอ  อย่างไม่มีฟอร์มแม้แต่น้อย 
                  หวาน  คือว่าหวาน  เธอเงียบไปพักใหญ่และอึ้งกับคำพูดของผม มันอาจเร็วไป
                  ไม่เป็นไรครับ  แค่พี่ได้รักและบอกกับหวาน  มันก็มากเกินไปสำหรับคนอย่างพี่แล้ว 
                   ผมเสียใจเล็กน้อย เธอคงไม่ได้รักผม 
จากนั้น  หวานและผมก็คบกันมาตลอด  ผมไม่เคยเห็นเธอไปไหนกับใคร  (ให้ผมเห็น  ถ้ามี)  กลับบ้าน  ผมก็ไปรับเธอกลับบ้านตลอด  ผมชอบเล่นกับเธอบ่อยๆ  ชอบแกล้ง  ชอบอำ  ที่ที่เธอชอบไปและมักจะชวนผมไปเสมอๆเลย  คือที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา  ช่วงวัดอรุณราชวราราม  เธอบอกว่าวัดนี้สวยดี  อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา  ดูเงียบสงบ  
ผมชอบเรียกเธอว่า คนดี

 ปีการศึกษาต่อมา 

	สวัสดีค่ะ  นี่หวานเอง  ต่อไปนี้  จะเป็นหวานเล่าเรื่อง  จนจบนะค่ะ ช่วยฟังกันหน่อย 
	หวานอยากบอกกับพี่หนึ่งจริงๆค่ะ ว่า ไม่ใช่แค่พี่คนเดียวนะ  ที่รู้สึกว่ารอใครบางคน  หวานก็รู้สึกอย่างนั้น  เหมือนกัน  แต่ความรู้สึกนี้  มันจะสิ้นสุดกับคนที่ชื่อหนึ่งมั้ย  หรือว่า  หวานต้องเดินทางตามหาคนที่ใช่  และหยุดความรู้สึกของการที่รอคอยใครบางคน  ต่อไปอีก   และวันนี้ฉันตัดสินใจอะไรบางอย่าง 
	วันนี้หวานขอไปส่งพี่บ้างนะ ฉันถามพี่หนึ่ง และหวังให้คำตอบที่จะออกมานั้น เป็นคำตอบที่ฉันไม่ผิดหวัง
	ครับ ได้ครับ  พี่หนึ่งตอบกลับมาอย่างไม่รีรอ  ด้วยสีหน้าที่แสนจะดีใจ  แต่ฉันดีใจมากกว่า เพราะมันเป็นคำตอบที่ฉันรอฟังอยู่  
	คลองเตยในตอนนั้น  มันยังคงเป็นชุมชนแออัด  ทางเดิน  เดินได้คนเดียว  เป็นไม้กระดานปูไปตลอดทางจนถึงบ้านพี่เค้า  ซึ่งรอบๆตัวเต็มไปด้วย  คนแก่  เด็ก  คนพิการ  และน้ำเน่า  แต่ตอนนี้ มันเปลี่ยนไปแบบไหนแล้ว  ฉันก็ไม่รู้  เท่าที่ฉันจำได้  วันนั้น  ขณะที่เดินอยู่  เป็นเวลาบ่ายๆเกือบเย็น  พระอาทิตย์กำลังส่องแสงจ้าส่งความร้อนมาถึงฉัน  แต่พี่หนึ่งเค้า  ก็เดินมาข้างหน้าฉันเพื่อบังแดดให้ และพร้อมกับจับมือฉันไว้ เพราะลำพังตัวเค้าคนเดียว คงบังแดดให้ฉันได้ไม่สนิททั้งตัว จึงต้องใช้อุปกรณ์เสริม  ไม่ว่าจะเป็นแฟ้ม หรือ กระเป๋าก็ตาม  ด้วยเหตุนี้  ฉันเลยม่มีอะไรที่จะต้องถือแม้แต่อย่างเดียว พี่หนึ่งมองฉันไม่เห็น  เพราะฉันเดินตามหลังเค้า  พี่หนึ่งเลย จับมือจูงฉันเดินไปเรื่อยๆ มันเป็นความรู้สึกที่ไม่รู้จะบอกยังไงดี ถ้าคุณได้จับมือคนที่คุณรัก คนจะรู้จะยังไงหล่ะ พี่หนึ่งจับมือฉันมาตลอดทาง จนถึงบ้านของเค้า  บ้านพี่หนึ่ง ที่ที่ฉันใฝ่ฝัน อยากจะมาเห็นสักครั้งนึง 
	น้ำครับคนดี  เป็นน้ำเปล่าที่พี่หนึ่งส่งให้กับมือ  น้ำเปล่า  ที่หวานไม่แพ้กับน้ำแดงที่พี่หนึ่งซื้อให้ฉันทุกวัน 
	ขอบคุณค่ะ ฉันรับน้ำแก้วนั้นจากมือพี่หนึ่งแล้วยกดื่มอย่างรีบเร่ง
	พี่เค้านั่งเล่าเรื่องตลกให้ฉันฟังหลายต่อหลายเรื่อง  พร้อมกับเล่นกีตาร์และร้องเพลง  Soul  mate  ของ  Playground ให้ฉันฟัง  ซึ่งเป็นเพลงที่มีความหมายตั้งแต่ชื่อเพลงแล้ว  เพลงนี้  มันเหมือนกับเพลงประจำตัวพี่หนึ่ง  เพราะพี่หนึ่งจะร้องเพลงนี้เมื่อขึ้นแสดงบนคอนเสิร์ตของโรงเรียนเป็นเพลงแรก  ถ้าเข้าตู้คาราโอเกะ  พี่หนึ่งก็จะร้องเป็นเพลงแรกเช่นกัน  มันทำให้ฉันรู้สึกว่า  ฉันได้เข้าไปใกล้  เข้าไปรู้จักผู้ชายคนนี้มากขึ้น   มากขึ้น  ฉันรู้จักตัวตนของเขามากขึ้น แล้วฉันก็ประทับใจในตัวตนของเค้า มากขึ้นทุกทีและทุกวัน 
	เวลาแห่งความสุข มักจะหมดไปอย่างรวดเร็วเสมอๆ คุณว่ามั้ยหล่ะค่ะ 
	เย็นมากแล้ว  กลับบ้านเถอะ เดี๋ยวพี่ไปส่งที่บ้านนะ พี่หนึ่งพูดกับฉันพร้อมกับสายตาที่เป็นห่วง กลัวว่าจะมีอันตราย 
	พี่ส่งแค่หน้าปากซอยก็พอแล้ว เดี๋ยวหวานกลับเองได้ค่ะ ไม่เป็นไรค่ะ ฉันตอบ
	ก็ได้ครับ คนดีของพี่ งั้นเราออกไปเดี๋ยวนี้เลยแล้วกัน พี่หนึ่งพูดและจูงมือของฉัน 
	การกลับบ้านของฉันจะต้องข้ามถนนไปขึ้นรถอีกฝั่งหนึ่ง  แต่ทำไมที่นี่ยังไม่มีสะพานลอยนะ ฉันคิดในใจ แล้วฉันก็กำลังจะข้ามถนน  
ทันใดนั้นเอง!!!รถขับมาจากทางไหนฉันก็ไม่รู้  กำลังวิ่งเข้ามาทางฉันอย่างแรง  เมื่อพี่หนึ่งเห็นอย่างนั้นก็รีบวิ่งออกมาผลักฉัน  ไม่ให้ฉันโดนรถชน  แต่จะมีใครรู้บ้างไหมว่า  
เหตุการณ์ในวันนั้น  มันทำให้ชีวิตของฉันเปลี่ยนไปตลอดกาล พี่หนึ่งโดนรถชน ศีรษะกระแทกกับตัวรถอย่างรุนแรง พี่หนึ่งสูญเสียความทรงจำทั้งหมด  ความทรงจำในทุกเรื่อง แม้กระทั่งเรื่องของฉัน  ก็ยังไม่มีหลงเหลือในความทรงจำของเค้าแม้แต่น้อย 
พี่หนึ่ง  พี่หนึ่ง จำฉันไม่ได้ ไม่ได้แม้แต่น้อยนิด พี่หนึ่งมองหน้าฉันอย่างกับคนที่เกลียดกันมานาน  สายตาเฉือดเฉือน  ดูน่ากลัวอย่างบอกไม่ถูก  ฉันกลายเป็นคนอื่น ฉันกลายเป็นคนนอก ฉันมันไม่มีค่าสำหรับเค้าต่อไปแล้วใช่มั้ย 
                    ทำไมนะ  ทำไมฟ้าแกล้งเราทั้งคู่แบบนี้  ทำให้ฉันได้พบกับคนที่ชื่อหนึ่ง  คนที่ฉันรอมาแสนนาน  คนที่ฟ้าส่งมาให้ฉัน  แต่ว่าตอนนี้  เธออยู่ที่ใดบนโลกนี้ที่มันช่างกว้างใหญ่ และฉันต้องรออีกนานเท่าใด นานแค่ไหนที่เค้าจะกลับมา  กลับมาสักทีเถอะ พี่หนึ่ง หวานรอพี่อยู่ตรงนี้ พี่หนึ่งจะรู้มั้ย 
เราทั้งคู่เริ่มห่างไกลกันออกไปเรื่อยๆ  ฉันกลับบ้านกับลูกชายของเพื่อนพ่อที่ชื่อต๊อบ  แทนที่จะเป็นพี่หนึ่ง  บ้านของต๊อบรับทำธุรกิจเกี่ยวกับโรงแรมที่ได้กำไรมาก  บ้านของต๊อบมีฐานะดีมาก สาวๆเห็นต๊อบแล้วก็ถึงกับหลงรัก  เพราะทั้งหล่อและรวยมาก แต่สำหรับฉันไม่ใช่ ต๊อบก็ไม่เคยชอบผู้หญิงพวกนั้น ต๊อบบอกว่าชอบฉัน ชอบในตัวตนของฉัน 
                 ส่วนพี่หนึ่งก็กลับบ้านกับเพื่อนสาวในห้องที่แอบชอบพี่เค้ามานาน  คือพี่กิ๊ฟ แต่พี่หนึ่งเค้าก็ไม่ชอบพี่กิ๊ฟ แต่แล้ววันนี้  ตอนนี้  ขณะนี้  ทำไมมันเปลี่ยนไปทุกอย่าง  จากวันนั้น  ถึงวันนี้  ฉันเสียใจ ที่ฉันไม่บอกรักพี่หนึ่งตั้งแต่วันนั้น   ถ้าฉันบอกรักพี่เค้าไป  พี่หนึ่งอาจจะมีบางอย่างหลงเหลืออยู่กับฉันบ้าง   แต่ถึงจะคิดได้ตอนนี้ มันคงสายไปแล้ว เพราะ ตอนนี้ทุกอย่าง  มันเปลี่ยนไปแล้ว 

 แล้วตอนนี้ก็จบมัธยมศึกษาปีที่ 6 ฉันเลือกเรียนมหาวิทยาลัยที่ฉันตั้งใจจะเข้าศึกษา 

                   พี่หนึ่งและฉัน  ยังโดนฟ้าดินกลั่นแกล้งไม่เลิกรา  เราทั้งคู่ได้เลือกเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยเดียวกัน  คณะเดียวกัน  คือ  คณะดุริยางคศิลป์  เอกดนตรีสากล
                   ฉันคิดว่าจะต้องตัดใจจากพี่เค้าให้ได้ และเมื่อย้ายมาที่ใหม่ อดีตมันคงจางหายไปเอง 
                  ฉันเข้ามาเรียนที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้พร้อมกับพร้อมกับต๊อบและเช่นเดียวกัน พี่หนึ่งก็เข้ามาเรียนที่นี่  พร้อมกับเพื่อนที่สามารถเรียกได้เต็มปากว่าเค้าทั้งคู่เป็นแฟนกัน  คือพี่กิ๊ฟ  แต่ฉันคิดว่าพี่กิ๊ฟก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมากกับความรักของเค้าและพี่หนึ่ง  เพราะพี่กิ๊ฟก็รู้เรื่องของพี่หนึ่งและฉัน  พี่กิ๊ฟเตรียมใจไว้เสมอ ถ้าถึงวันต้องจากกับพี่หนึ่ง  ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอันใดก็ตาม ... พี่กิ๊ฟยินดีเสมอ 
                 ฉันเดาได้ว่า  พี่กิ๊ฟก็อยากจะแทนที่ฉัน  แต่ก็ด้วยความเป็นคนดี  ก็อยากจะให้เรื่องของเค้ากับพี่หนึ่งค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป  และถ้าในวันใดที่พี่หนึ่งจำเรื่องราวทั้งหมดได้  เค้าก็คงเต็มใจเดินออกไปจากชีวิตพี่หนึ่งทันที  ฉันเชื่ออย่างนั้น 
                  และฉันก็เล่าเรื่องของฉันกับพี่หนึ่งให้ต๊อบฟัง  และพูดกับต๊อบเสมอว่า ต๊อบกับหวาน เราเป็นได้แค่เพื่อนกันเท่านั้นนะ ต๊อบเหมือนไม่ยินดี  เพราะต๊อบก็ชอบฉัน ฉันเชื่อในสิ่งที่ฉันรู้สึกได้ 

 นี่ก็เป็น  ปีสี่แล้ว  ปีสุดท้าย ฉันคงไม่มีโอกาสบอกรักเค้าใช่ไหม 

                   พี่กิ๊ฟและพี่หนึ่งคบหากันมาก็นาน  แต่พี่กิ๊ฟก็เป็นคนที่ไม่เร่งรีบและพูดน้อย  มันเลยทำให้พี่ทั้งสองคน  ผูกพันธ์กันก็จริง  แต่เหมือนกับว่าในลักษณะที่เป็นเพื่อนมากกว่าเป็นแฟน แต่ทั้งคู่ก็ต่างเชื่อว่า ความรู้สึกที่มีให้กันเล็กๆ น้อยๆ เหมือนเพื่อน  มันคือความรักฉันชู้สาว ไม่ใช่ฉันเพื่อน 
ส่วนต๊อบและฉันก็คงไม่มีอะไรเกินเลย  ยกเว้นแต่ต๊อบที่รบเร้าอยากจะให้พ่อจัดงานแต่งงานของฉันกับเค้า  โดยไม่สนว่าฉันจะยินยอมหรือไม่  และทั้งทางฝ่ายผู้ใหญ่ก็เห็นพ้องต้องกัน  แต่ ฉันจะไม่รักใครอีกแล้ว  นอกจากพี่หนึ่งเท่านั้น 

 เหลืออีกเดือนเดียวเท่านั้น  ที่เราจะเรียนจบ และฉันจะต้องแต่งงาน  ในอีกไม่ช้า 
                วันหนึ่ง  ที่หน้าอาคารเรียน  ตอนเย็น  เย็นมากแล้ว  ต๊อบกำลังจะพาฉันกลับบ้าน  ฉันเห็นพี่หนึ่งกำลังหยิบกีตาร์ขึ้นมา  มันเป็นกีตาร์ตัวเดียวกับที่พี่หนึ่งใช้เล่นและร้องเพลงให้ฉันฟังในวันนั้น  พี่หนึ่งจะเล่นกีตาร์ให้พี่กิ๊ฟฟังแล้วหรอ พี่หนึ่งตายจากฉันไปแล้วจริงๆหรอ ฉันไม่อยากจะเชื่อ 
และเมื่อฉันเดินเข้ามาใกล้ ฉันเห็นหน้าพี่หนึ่งเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่างออกแล้วก็ ปวดศีรษะอย่างรุนแรง พี่หนึ่งต้องจำอะไรได้แล้วแน่ๆ ฉันเชื่อ และฉันก็วิ่งเข้าไปดูอาการของพี่เค้า  จากนั้นกีตาร์ก็หล่นลงพื้น  แล้วไม่สามารถใช้ได้อีก  เพราะถึงกับแตก  ใช้ไม่ได้อีก ไม่มีผู้หญิงคนใดที่จะได้ฟังพี่หนึ่งเล่นกีตาร์ตัวนั้นอีกแล้ว จะเป็นเพียงฉันคนเดียวที่ได้ฟัง
หนึ่ง  หนึ่ง  หนึ่ง  หนึ่งเป็นอะไรหน่ะ  หนึ่งบอกกิ๊ฟสิ  พี่กิ๊ฟถามพร้อมกับใช้มือจับแขนของพี่หนึ่งพร้อมกับเสียงถามสั่นๆ  และใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตา  ที่กลัวว่าพี่หนึ่งจะจากไป 
                 โอ๊ย !!! ปวดหัวมากเลยหน่ะกิ๊ฟ   พี่หนึ่งพูดพร้อมกับเงยหน้ามองพี่กิ๊ฟ  แล้วก็สลบไป 
                 ฉันรีบประคองตัวพี่หนึ่งขึ้นมาแล้วก็ปฐมพยาบาลในเบื้องต้น  พี่กิ๊ฟและต๊อบ  ต่างยืนมองฉันด้วยสีหน้าไม่พอใจ(ต๊อบ) และใบหน้าที่นิ่งเฉย (พี่กิ๊ฟ)
ฉันบอกให้ต๊อบช่วยฉันประคองพี่หนึ่งไปห้องพยาบาล  แล้วก็ให้พาพี่กิ๊ฟไปส่งที่บ้าน 

 พี่หนึ่งฟื้นขึ้นมาแล้ว ฉันดีใจมาก   

                 ตลอดเวลาที่พี่หนึ่งหลับตา  ฉันรู้สึกเลยว่าการที่ต้องมานั่งเฝ้าคนที่ตัวเองรักให้ฟื้นขึ้นมาอย่างไม่มีกำหนดเวลาว่านานแค่ไหน  มันรู้สึกอ้างว้างยังไง  ตอนนี้ฉันคงเป็นพี่หนึ่ง  ที่เคยนั่งเฝ้าฉันเมื่อตอนที่ฉันโดนทำร้ายในวันนั้น  ที่รอให้ฉันฟื้นขึ้นมาไวๆ
                 พี่หนึ่ง พี่หนึ่ง พี่หนึ่งนี่หวานนะ  หวานไงพี่หนึ่ง   พี่หนึ่งกำลังค่อยๆลืมตาขึ้น แต่หวานดีใจมากพูดพร้อมกับจับมือพี่หนึ่งไว้แน่น
                 ครับ  หวาน หวาน หวาน หวาน . พี่หนึ่งเรียกชื่อฉันซ้ำๆแล้วก็มองมาที่หน้าฉัน ด้วยสายตาอบอุ่น  อย่างที่ฉันเคยได้รับ  เมื่อตอนก่อนจบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย 
                  กี่โมงแล้วเนี่ย แล้วเราหน่ะจะกลับบ้านยังไงพี่ไปส่งมั้ย คำถาม  คำพูดของพี่หนึ่ง เหมือนคนเดิม พี่หนึ่งเริ่มจะเหมือนคนเก่าแล้ว  พี่หนึ่งจะกลับมาแล้ว .ใช่มั้ย !!...
                  เกือบทุ่มนึงแล้วค่ะ ไปส่งก็ดีค่ะ  ฉันรีบตอบ
                  ไป  งั้นไป  เดี๋ยวพี่ไปส่ง  พี่หนึ่งตอบ
                   จากนั้น  พี่หนึ่งก็ลุกขึ้นจากเตียงนอนพัก  แล้วก็เดินไปพร้อมฉัน 
                   ทันใดนั้นเอง ก็มีรถขายน้ำอัดลม  ฉันเลยซื้อให้พี่หนึ่งทานบ้าง  เพื่อหวังว่าพี่เค้าจะจำอะไรได้มากขึ้นกว่านี้ 
                   ขณะที่ฉันกำลังส่งถุงน้ำอัดลมให้พี่หนึ่งก็มีพวกนักเรียนตีกัน  ยิงปืนขึ้น ฉันเอาตัวของฉันรับกระสุนที่กำลังจะพุ่งมาหาคนรักของฉัน แล้วฉันก็ทรุดตัวลง  ลงที่อ้อมกอดของพี่หนึ่งอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ฉันอาจจะหลับอยู่ในอ้อมกอดของเค้านานสักนิด 
                     ใครจะไปเชื่อหล่ะ  ว่าเหตุการณ์นี้ มันทำให้ความทรงจำของใครบางคนกลับมาได้ทั้งหมด พี่หนึ่งเรียกชื่อฉัน   แล้วเรียกฉันว่า 
                     คนดี 
                     คนดีของพี่  อย่าทิ้งพี่ไปนะ  พี่จำเรื่องของเราได้แล้ว หวาน หวาน.  ฉันดีใจมาก ฉันยิ้มอย่างดีใจมาก 
                      พี่ขอโทษ  พี่รักหวานนะ คนดี ให้โอกาสพี่นะ อย่าทิ้งพี่ไป พี่รักหวานนะ 
                      ทุกประโยค ทุกคำพูดนั้น ฉันจำได้ขึ้นใจ  ติดอยู่ในใจ 
                      พี่หนึ่งรีบพูดทุกอย่าง  เพื่อรั้งหวานไว้ แต่มันคง สายเกินไปเสียแล้ว 
                       ตอนนั้นฉันไม่รู้ว่าจะบรรยายยังไงดีถึงความรู้สึกที่ที่มีอยู่ในขณะนั้น  พี่หนึ่งจำฉันได้แล้ว  พี่หนึ่งกลับมาแล้ว  พี่หนึ่งยังอยู่  พี่หนึ่งยังไม่ทิ้งฉันไปไหน  ฉันรอมาเกือบชีวิต ที่จะให้พี่หนึ่งจำฉันได้ ชีวิตที่สามารถแลกให้ได้กับใครบางคน มันเป็นการรอคอยที่สิ้นสุดลง สิ้นสุดลงแล้ว ฉันหยุดหายใจ และหลับตาลงในอ้อมกอดของเขา ฉันดีใจที่ได้อยู่ในอ้อมกอดเขา ฉันจะอยู่ในความทรงจำของเขาใกล้ๆ อย่างนี้ ตลอดไป

หวานรักพี่หนึ่ง คนเดียว 

อ่านแล้วเม้นต์ให้หน่อยนะ ...				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟLove Is...Never Die.
Lovings  Love Is...Never Die. เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟLove Is...Never Die.
Lovings  Love Is...Never Die. เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟLove Is...Never Die.
Lovings  Love Is...Never Die. เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงLove Is...Never Die.