4 มีนาคม 2548 17:52 น.

เพื่อเธอ ... ผมจะทำ

Love Is...Never Die.

       โอ๊ย!!! ... 
       เป็นอะไรมากหรือเปล่าครับ 
       ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณมากนะค่ะ คุณ .... 
       อ่อ ... ผม "ป๋อง" ครับ ... แล้วคุณล่ะ ... ชื่ออะไร
       ค่ะ ชื่อ "ฟ้า" ค่ะ ... ขอบคุณมากนะค่ะป๋อง
       ครับไม่เป็นไร ... วันหลังเดินระวังๆ หน่อยนะครับ ... ใส่รองเท้าส้นสูงอันตรายนะครับ
        ค่ะ .. ขอบคุณค่ะ ... ป๋องกลับบ้านนั่งรถสายอะไร ถ้าจำไม่ผิด 84 ใช่มั้ย ??
        อื้มม ...
...
....
.....
......
.......
         กลับบ้านดี ๆ ป๋องส่งเท่านี้นะครับฟ้า 

          ผมรู้จักเธอด้วยการที่เธอเดินสะดุดกับก้อนอิฐบล็อกครับ ... เธอใส่ส้นสูงอ่ะครับ ... ผมรับเธอทันพอดีอ่ะครับ ... เราเรียนที่สถาบันเดียวกัน เราเจอกันบ่อยๆ ก็ยิ้มให้กันเสมอ ๆ ... แต่ไม่เคยจะทักกันสักที จนวันนี้ที่เธอมาสะดุดหน้าผมนี่ไง ... แต่เธอมีแฟนแล้วมั้งครับ ... ผมเห็นผู้ชายคนนึง สนิทกับเธอมาก ... แต่ทำไมวันนี้ฟ้าถึงกลับบ้านมืดมาก ... แล้วผู้ชายคนนั้น อยู่ไหน ทำไมไม่เดินมาส่งที่ป้ายรถเมล์ เหมือนทุก ๆ ครั้งที่เคยทำ ...

         อ้าว ... ป๋อง !! สวัสดีจ้า ... 
          ครับ สวัสดีครับ ... เจอกันอีกแล้ว ...
          แปลกจังเลยเนอะ ... เราเจอกันบ่อย ๆ หรือทุกครั้งที่ขึ้นรถไป - กลับ มหาวิทยาลัย ... แต่ทำไม เราเพิ่งจะคุยกัน ...
         ไม่รู้สิ ... คงจะเป็นเพราะว่า ... ฟ้าสะดุดมั้ง ผมเลยได้เป็นพระเอก ให้ฟ้าได้มาคุยด้วย ...
         อื้มม .. ( ยิ้ม ๆ ) ... สงสัยจะใช่มั้งค๊า ...
...
....
.....
....... ถึง มหาวิทยาลัยแล้ว ...
...............................................
...................................................

        โชคดีนะจ๊ะ ... แล้วเจอกันตอนเย็นที่ป้ายรถเมล์ ...
        ครับ!!! ...
               
           แล้วเมื่อตอนเย็นของวันนี้ ... ผมเห็นผู้ชายคนที่ผมคิดว่าเป็นแฟนเธอ ... จูบกับเธอยอย่างมีความสุข ... แต่ดูฟ้าเธอไม่ค่อยอยากจะยอมเลยนะครับ ขัดขืนเต็มที่ แต่ก็สู้แรงของผู้ชายไม่ได้หรอกครับ เพราะผู้ชายคนนั้นก็จับศีรษะเธอให้หันมาจนได้ ... จากนั้นก็ถอนปากออกจากปากเธอ แล้วตบหน้าเธออย่างแรง!! ... ทำไมผมใจหายได้ขนาดนั้น ... แต่ผมคงไม่รีรอหรอกนะครับ ...

         " เฮ้ย !! มึงตบผู้หญิงได้ไง ... ลูกผู้ชายหรือเปล่า ... ?? ..."
         " เสือกดีนักนะมึง "... ( ปั๊ก!! ... โดนเข้าไป 1 หมัด ) ...
         " ป๋อง !!! ... เจ็บมั้ย ?? " แล้วเธอก็มาประคองผม แล้วเอามือแตะที่แผลผมเบา ๆ ... มือเธอเบาอะไรขนาดนี้นะ ... แต่ปากเธอก็เลือดออกไม่น้อย ...
         " เอก !! ถ้าเอกยังพูดไม่รู้เรื่อง ... ไม่เชื่อฟ้า ... เราเลิกกันเลยดีกว่า "  ฟ้าตอบกลับอย่างไม่รีรอ ...
         " อ๋อ ... ไอ้นี่ใช่มั้ย ... ที่มันจะมาแย่งฟ้าไป ... ไอ้สัด!!" ... เอกเค้าหันมาทางผม ตั้งท่าจะอัดผมเต็มที่ แต่ ...
         " อย่านะเอก ... ป๋องเป็นเพื่อนกับฟ้านะ " ... พร้อมกับกันเอกเอาไว้ ...
         " ทำไมต้องทำร้ายฟ้าด้วย ... ฟ้าไปทำอะไรให้คุณ ... เป็นรักคนกัน ทำไมทำร้ายเค้าแบบนั้น " ...                   
         " แล้วมึงมาเสือกเหี้ยไรนักหนา ... มึงไม่อยากให้กูทำร้ายฟ้าใช่มั้ย ... ได้ ... ถ้างั้นมึงมาชกกับกูที่ห้องพลศึกษา ห้าโมงเย็น  พรุ่งนี้ 5 ยก ... ถ้ามึงชนะ .. กูจะไม่ทำอะไรฟ้าอีก ... ถ้ามึงแพ้ มึงอย่ามาให้กูเห็นหน้าอีก "... 
         " ได้ ... แล้วแต่ " ... ผมตอบไปทั้งๆ ที่ผมก็ต่อยมวยไม่เป็นนะครับ
         " ฟ้ากลับก่อนนะเอก ... วันนี้ที่บ้านมีนัด เดี๋ยวกลับไปไม่ทันจะโดนป๊ากะม๊าดุเอา "...
         " ที่รัก จะไปแล้วหรอจ๊ะ " .. มันถามแล้วทำหน้าหื่นๆ ใส่ฟ้า ...พร้อมกับกระชากฟ้ามาจูบต่อหน้าผมอีก 1 ครั้ง ...
 
....
.....
......
.......
         " เจ็บมั้ยป๋อง ... ฟ้าขอโทษนะ ... ทีหลังป๋องไม่ต้องมาช่วยฟ้าก็ได้ ... เจ็บตัวเปล่า ๆ "... เธอถามผมที่ป้ายรถเมล์ พร้อมกับเอาผ้าเช็ดหน้าของเธอเช็ดเลือดให้ผม ...
         " ไม่เจ็บหรอก ... แค่นี้เอง ... แล้วฟ้าล่ะ ... เจ็บมากมั้ยครับ ... ทำไมฟ้าถึงยอมให้เอกเอาเปรียบครับ ...  ผมถามพร้อมกับเอาผ้าเช็ดหน้าของผมเช็ดเลือดให้เธอเหมือนกัน ...
         " ฟ้ารักเอก " ... ฟ้าตอบ ...
              
           ผมอึ้งเลยครับ ... พูดอะไรต่อไม่ออกเลย ไม่รู้จะพูดอะไรด้วย ... ทำไมฟ้าถึงยังยอมรักผู้ชายที่เห็นแก่ตัวอย่างนั้นได้ ... เธอก็ยังร้องไห้อยู่นะครับ ... ผมก็ไม่กล้าจะซับน้ำตา หรือโอบกอด หรือพูดให้เธอดีขึ้นแล้ว ... เพราะคำตอบที่เธอตอบมันก็บอกอยู่แล้วว่าผมเป็นได้แค่ไหน ...

.... 17.00 น... ของ วันรุ่งขึ้น ...

          " มาแล้วหรอมึง ... มาเลยมา " ... เอกถามผม .. เวทีข้างเค้า ก็มีฟ้านั่งอยู่ ...
              
           ผมจะต่อยแล้วนะครับ ... ยังไงผมก็คงจะแพ้ ... แต่ผมก็ไม่รู้ว่าทำไมผมถึงต้องยอม ... 

            โช๊ะ !! .... ปั๊ก !! ... 1 ....2 ........ 3....... 4 ..... 
            ไอ้ป๋อง ... ลุกขึ้น .... มึงบอกกับกูว่ามึงชอบฟ้าไง ... มึงต้องชนะไอ้เอกให้ได้ ... ป๋อง โว่ย!!! ลุกสิ ... นั่นคือเสียงเพื่อนของผมที่มาเป็นกำลังใจให้ ...
          5  ....... 6 ผมลุกขึ้น ... " ชก " ...
        
           "อั๊ก!! ... เสียงหมัดของเอก ...
           ป๋อง .... งงงงงงงงง... เสียงของฟ้าเป็นเสียงสุดท้ายที่ผมได้ยิน ... ก่อนที่จะหลับ ...
....
......
........
วันต่อมา ...
             ไอ้ไก่อ่อน ... ไม่เจียมกะลาหัวมึงเลย ... เอกถากถางผมในวันรุ่งขึ้นที่หน้ามหาวิทยาลัย
            อื้มม ... ครับ ... ยังไงล่ะ ... ถึงกับอึ้งทึ่งเลย .. ผมมันไม่เจียมเองนี่ครับ ... ผมจะตัดใจจากเธอให้ได้ ... ในเมื่อเธอไม่เห็นคุณค่าของผมเลย
.....
.......
.........
...........
                ทุกครั้งที่ผมเหงา ... หรือว่าเหนื่อย ... ผมมักจะไปยืนดูแม่น้ำ ดูดาว ที่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ... ช่วงวัดอรุณราชวรราม ... สวยมากเลยนะครับ ตอนกลางคืนเนี่ย ... แต่ ...
  
            คุณ !!! คุณ .... คุณกำลังจะทำอะไรน่ะ... คุณ ณณณณณณ ....  ... ผมตะโกนเรียกผู้หญิงคนนึง ที่คิดว่ากำลังจะกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ... พร้อมกับวิ่งเข้าไปคว้าตัวเธอมา .. เพื่อที่จะพูดคุย ...
            ฟ้า ... นี่ฟ้าหรอ ... ตะกี้ฟ้ากำลังจะทำอะไรครับ ... แล้วร้องไห้ทำไม ... บอกป๋องได้มั้ย ... ผมถามเธอด้วยความเป็นห่วง ...
            ป๋อง ... (ร้องไห้) ... วันนี้ฟ้าเห็นเอกทำกับผู้หญิงคนอื่นเหมือนที่ทำกับฟ้า ... ป๋องว่าฟ้าควรจะทำยังไงดี ... เอกไม่รักฟ้าแล้วใช่มั้ย ... ใช่มั้ยป๋อง ... ป๋องตอบฟ้าสิ ... เธอทั้งตอบและถามผมด้วยน้ำตา ... ผมได้แต่อึ้งกับการกระทำของเอกที่ทำกับคนที่ผมรักแบบนี้ ... โดยที่ผมทำอะไรไม่ได้เลย ... ผมได้แต่โอบกอดเธอเบาๆ พร้อมด้วยกับคำปลอบว่า ...
            ฟ้าใจเย็นนะ ... เอกเค้าอาจจะหาคนอื่นมาเป็นของเล่น ... ส่วนฟ้าเป็นตัวจริงของเอกก็ได้นี่ครับ ... ฟ้าอย่าคิดมากสิครับ ... ด้วยไม่สวยนะ ... เอกเป็น playboy บางทีเค้าอาจจะยังต้องการความเป็นส่วนตัว หรือต้องการหาของเล่นใหม่ๆ บ้าง ... ฟ้าน่าจะทำตัวให้เข้าแข็ง ดูแล้วมีค่านะครับ ... เก็บน้ำตาเอาไว้ร้องไห้ให้กับคนที่เรารักและเราดีกว่านะครับคนดี ...
              ฟ้าเธอมองหน้าผม ด้วยประกายตาแวววาว ... ดูเต็มเปี่ยมไปด้วยคำขอบคุณและความหวัง พร้อมกับคำพูดที่ตอบกลับมาว่า ... ขอบคุณนะ ... จากนั้นเธอก็รีบผล่ะจากอ้อมกอดของผม แล้วเช็ดน้ำตา ... จากนั้นก็วิ่งไปที่ท่ารถเมล์เพื่อที่จะกลับบ้าน ...
               ผมดีใจนะครับที่ได้เป็นคนที่ช่วยเธอให้พ้นจากความเหงา .. จากการเข้าใจผิดในเรื่องความสุขของผู้ชาย ... ผมขอให้เอกรักเธอเป็นตัวจริงเหมือนที่ผมพูดกับฟ้า ... ไม่ใช่ว่าเพราะเอกเบื่อฟ้าแล้ว ...
....
......
.......
.........
.......
             เอกกำลังทำอะไรน่ะ ... ทำไมเอกทำแบบนี้ ... ฟ้าถาม .. ขณะที่เห็นว่าเอกกำลังกอดนัวเนียกับผู้หญิงคนหนึ่ง ...
             อะไรมึงว่ะอีนี่ ... กูเบื่อมึงแล้ว ... เอะอะก็ร้องไห้ ... บอบบางเหลือเกิน ... จะไปไหนก็ไปเลยไป ... เอกตวาดใส่ฟ้า ... พอดีกับที่ผมกำลังเดินผ่านมา
              อะไรนะเอก ... เอกเบื่อฟ้าแล้ว ... แล้วที่ผ่านมาล่ะ ... ที่ผ่านมาคืออะไร ... ทำไมเอกทำกับฟ้าแบบนี้ ... ฟ้าพูดแล้ว .. ก็ร้องไห้พร้อมกับวิ่งออกไปอย่างไม่คิดเลยว่าที่หน้ามหาวิทยาลัยน่ะ ... มีรถวิ่งผ่านตลอด
               ฟ้า ..... ... ผมตะโกนสุดเสียง เพราะกับวิ่งเข้าไปผลักเธอให้พ้นจากการที่จะโดนรถชน
...
.....

ที่โรงพยาบาล ...

              ฟ้า ... ผมละเมอเป็นชื่อเธอครับ ...	
              ป๋อง ๆ ๆ ... ป๋อง ... นี่ฟ้านะ ... เสียงของผู้หญิงคนหนึ่ง ... ขณะที่ผมกำลังขยับตัวได้เล็กน้อย ...
              ครับ ... ฟ้า
               ฟ้า ... ฟ้าเป็นอะไรหรือเปล่าครับ ... ผมถามด้วยเสียงตกใจ .. กลัวว่าเธอจะเป็นอะไร ...
               ฟ้าไม่เป็นอะไรหรอก ... เพราะป๋องช่วยฟ้าไว้ ... ป๋องช่วยฟ้าอีกแล้ว ... ขอบคุณมากนะ ... ฟ้าตอบ ...
               ดีแล้วครับ ... ผมตอบกลับด้วยความโล่งใจ และใจหาย ... ที่ผมทำให้เธอขนาดนี้เธอยังไม่รู้สึกอะไรกับผมสักนิด ...
....

ผ่านไป10 นาที ... ที่เรานั่งจ้องหน้ากัน ...
              ป๋อง ... ฟ้าถามอะไรป๋องได้มั้ย ... ฟ้าขอคำตอบ ...
              อื้มม ... ได้ ... จะถามอะไรล่ะ ว่ามาสิ ... ผมตอบกลับอย่างทันที ...
              ทำไมป๋องต้องทำดีกับฟ้าขนาดนี้ ....เธอจับมือผม แล้วถาม  ...
              แล้วฟ้าคิดว่าทำไมผมถึงต้องทำให้ฟ้าขนาดนี้ล่ะ ... ผมย้อนถาม
               ไม่รู้สิ ... ฟ้าไม่อยากคิดไปเอง ... และยังไม่อยากผิดหวัง เพราะถ้าหากวันนึงป๋องทำตัวเหมือนเอก ฟ้าจะทำยังไง ... ฟ้าตอบ
               ผมน่ะ ... รักคุณนะ ... ผมถึงทำให้ขนาดนี้ ... ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมรักคุณ แต่ผมก็ทำให้คุณได้ทุกอย่าง ... ผมตอบตามความในใจที่อยากบอกมานาน ...
                 ป๋อง ... ฟ้าเรียกชื่อผม พร้อมกับบีบมือผมไว้แน่น ... น้ำตาไหลพราก ...
                 ฟ้า ... ร้องไห้ทำไมล่ะครับ ... ผมเอามือเช็ดน้ำตาของเธอ ...
                 เปล่าอ่ะ ... ฟ้าไม่ได้ร้อง ... เธอตอบพร้อมกับเอามือรีบเช็ดน้ำตา ...
                 แล้วป๋องรักฟ้าได้หรอ ... ฟ้าไม่ได้เป็นคนแรกของป๋องนะ ... ฟ้าไม่ได้สะอาดหมดจด ... ฟ้าถามอย่างถอดใจ
                 ป๋องรักฟ้า ... ที่ฟ้าเป็นฟ้า .. ไม่ใช่เพราะว่าฟ้าสวยน่ารักกว่าใคร ๆ ... ป๋องจะรักฟ้า ... แล้วฟ้าจะรักป๋องมั้ย ?? ....
                 ถ้าป๋องรับฟ้าได้ ... ฟ้าจะรักป๋อง เหมือนที่ป๋องรักฟ้า ... ฟ้ายิ้มแล้วตอบ ... สายตาของเธอดูแน่วแน่และมั่นคงเสียจริง ๆ ....
                  ทานอะไรสักหน่อยนะป๋อง ... ไม่ได้ทานอะไรมาตั้ง 2 วัน แล้ว ... ฟ้าพูดพร้อมกับป้อนข้าวต้มผม ... ทำไมวันนี้ ข้าวต้มถ้วยนี้ถึงหวานนักนะครับ ... ผมมีความสุขจริง ๆ ..
...
.....
.......
..........
...........
กลับสู่สภาวะปกติ ...
                 ป๋อง ... วันนี้ไปเที่ยวที่ตรอกข้าวสารกันมั้ย ... ฟ้าชวนผม ... ดูเธอน่ารักและมีชีวิตชีวามากกว่าที่อยู่กับเอกนะครับ ...
                  ได้สิ ... งั้นไปเดี๋ยวนี้เลยมั้ย ... ผมอยากไปมานานแล้วครับ ... ทุกทีไปคนเดียวบ่อย ๆ เหงามากเลย แต่คงไม่เหงาแล้วครับต่อไป 
                  ป๋อง ... นี่สวยนะ ... เอาอันนี้ 2 อันค่ะ ... ฟ้าบอกผมแล้วก็ตกลงซื้อพวงกุญแจรูปหัวใจ เป็นหัวใจ 2 ดวงที่สามารถแยกพวงกันได้ ...
                  หัวใจดวงนี้เป็นของเราสองคนนะ ... ฝั่งนี้ใหป๋องเก็บไว้ ... อีกส่วนนึงฟ้าจะเก็บไว้ ... เวลาที่เธอมีความสุข ... เธอน่ารักมาจริง ๆ เลยนะครับ ...

....
......
.........
................
                   ฟ้า!! หลบ ... ผมบอกฟ้าเพราะผมเห็นคนๆ นึงเดินมาพร้อมกับปืนที่ยิงขึ้น ... แต่มันช้าไปแล้วนะครับ ... ฟ้าโดนยิงแล้ว ... พวกคนนั้นยิงพลาดทำให้กระสุนโดนฟ้า ...
                   ฟ้า ... ทำไมเป็นแบบนี้ ... ฟ้า ... ฟ้าถูกยิงหรอ ... ฟ้า!! ... ผมร้องไห้พร้อมกับเรียกชื่อเธอไปด้วย...

โรงพยาบาล อีกครั้ง!!!

               ผู้ป่วยเสียเลือดมากนะครับ ... เลือดสำรองในคลังเลือดของเราก็ไม่มีเลือดเพียงพอสำหรับเธอ ... เราอาจจะต้องเสียเธอไปนะครับ ... หมอเสียใจด้วย หมอบอกผม
               อะไรนะครับ ผมเหมือนถูกตบตบอย่างแรง น้ำตาไหลโดยไม่รู้ตัว
               ครับ ... คุณฟังไม่ผิด หมอเสียใจด้วย และที่สำคัญคือผู้ป่วยถูกยิงที่จุดสำคัญ ... ถ้าเธอรอด เธออาจจะพิการก็ได้ ... คืนนี้ถ้าเราไม่ได้เลือดเราก็ผ่าตัดไม่ได้ ... คืนนี้เธออาจไม่รอดอีกเหมือนกัน หมอย้ำอีกครั้ง
                หมอครับ!! เธอเลือดหมู่อะไรครับ ... ผมคิดได้ และหวังว่าเธอกับผมต้องเป็นเลือดหมู่เดียวกัน
                เอบีเนกกาทีฟครับ หมอตอบ
                เอบีเนกกาทีฟ!!หรอครับ ... ผมมีครับ เอาของผมไปเลยครับ ผมมีหวังที่จะได้เธอคืนมา
                 หรอครับ ... งั้นเข้าห้องผ่าตัดเลยนะครับ หมอพูดพร้อมกับยิ้มแล้วรีบพาผมเดินเข้าไปในห้องผ่าตัด
	ผมอยากร้องไห้จริงๆ เธออยู่กับผมแท้ๆ แต่ผมก็ช่วยอะไรเธอไม่ได้ ... ถ้าเธอเป็นอะไรไป ผมจะไม่ให้อภัยตัวเองจริงๆ ถ้าเธอต้องพิการ ผมก็จะดูแลเธอด้วยมือของผมเอง เพราะผมผิดเอง  จะว่าบ้าก็คงได้ ... ก็ผมรักเธอนี่ครับ ... ผมจะไม่ยอมให้เธอเป็นอะไรเด็ดขาด  ผมสัญญาต่อหน้าเธอก่อนจะไป

                เดี๋ยวหมอจะให้คุณให้เลือดเธอตลอดการผ่าตัดนะครับ ถ้าไม่ไหวก็บอกนะครับเพราะถ้าเธอไม่รอดแล้วคุณจะไม่รอดอีกคนหมอคงแย่นะครับ หมอพูด แววตาฝากความหวังไว้กับผม
                 ครับ ... รีบ ๆ เถอะครับหมอ ผมพูดพลางขอให้หมอช่วยผมได้จริงๆ
2 ชั่วโมง ผ่านไป

             หมอครับ ... ผมไม่ไหวแล้ว ขอน้ำให้ผมได้มั้ยครับ ผมกำลังจะหมดแรง ... เหนื่อยมากเลยครับ
             เกือบเสร็จแล้วนะครับ ... พยาบาลเอาน้ำให้คนไข้ด้วย ... แล้วถอดสายเลือดให้เลือดออกด้วยนะครับ หมอมีน้ำเสียงอ่อนนุ่ม น่าปลอดภัย
            ค่ะ .. หมอ .. พยาบาลตอบกลับพลางรีบเดินไปหยิบน้ำให้ผม
            ขอบคุณครับ ผมตอบกลับพร้อมกับดื่มน้ำ จากนั้นผมก็ไม่รู้สึกตัว ... ผมเพลียหลับไป

2 วันผ่านไปแล้ว ...
            นี่ก็ 2 วันแล้วนะครับฟ้า ... ฟ้าไม่คิดจะลุกขึ้นมาคุยกับผมแล้วหรอครับ ... หัวใจของเรา 2 คนต้องอยู่ด้วยกันนะครับ ... พวงกุญแจของผมยังรอพวงกุญแจอีกส่วนมาคู่กันนะครับ ... ผมรอคุณอยู่นะครับฟ้า ผมพูดกับเธอจนน้ำตาไหลลงมา .. ทำไมไม่เป็นผมครับที่โดนกระสุนนัดนั้น ทำไมต้องเป็นฟ้า ทำไมครับ ทำไม เพราะอะไร ผมไม่เข้าใจจริงๆ
             ป๋อง ... ป๋อง ... ป๋องอยู่ไหน .. ฟ้าละเมอ
             ป๋องอยู่นี่ไงฟ้า .. ป๋องอยู่นี่ ผมจับมือที่กำลังคว้าอยู่ในอากาศ ลงมือไว้ที่อก พร้อมกับร้ำตาที่เอ่อล้นออกมาด้วยความหวังที่ว่าฟ้าจะไม่เป็นไร
            ป๋อง ... ฟ้าค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมองผม  แล้วยิ้ม
            ครับฟ้า ... ป๋องอยู่นี่ ... เจ็บมากมั้ยครับ ผมพูดกับเธอพร้อมน้ำตาที่ไหลลงมาโดยไม่ต้องสั่ง
            ฟ้าไม่เป็นไรอ่ะ ... แต่ป๋องอ่ะ ร้องไห้เป็นเด็กเลย ... ฮ่าๆ ๆ ฟ้าเธอยิ้ม และ หัวเราะใส่ผมอย่างน่าหมั่นไส้เสียจริงๆ .. ผมหายเศร้าในทันที
            แหม!! ฟ้าอ่ะ ไม่ร้องก็ได้ ... ก็ผมเป็นห่วงคุณนี่ครับ ผมตอบไป ยิ้มไป เช็ดน้ำตาไป
            เดี๋ยวผมไปตามหมอมานะครับ ... ฟ้ารอผมแป๊บนึงนะ ผมบอกเธอ
             ป๋องเดี๋ยว ... อ้าว .. ป๋อง !! ฟ้าขยับตัวไม่ได้อ่ะ ป๋อง .. ฟ้าเป็นอะไร ทำไมฟ้าขยับตัวไม่ได้ เธอสีหน้าเสียไปในทันที หน้าซีดอย่างเห็นได้ชัด  พร้อมกับสายตาที่จ้องมองผมเหมือนว่าน้ำตาจะล้นออกมาให้ได้ ... ผมรีบวิ่งไปดูเธอ
             ฟ้า!! .. ขยับตัวไม่ได้จริงๆ หรอครับ ผมพูดพร้อมจับมือเธอแล้วประคองเธอมาอิงหลัง ...
             นี่ไง ... ฟ้าขยับขึ้นมานั่งได้นี่ครับ .. ผมปลอบเธอ ... ในใจก็เต็มไปด้วยความกังวล กลัวว่าเธอจะรับไม่ได้ที่อาจจะเดินไม่ได้
             มันไม่ใช่นะป๋อง ... เพราะป๋องช่วยฟ้า ... ฟ้าขยับตัวเองไม่ได้ ... ฟ้าพิการใช่มั้ย!! ฟ้าพูดแล้วร้องไห้
            ไม่เอาหน่า ... หมอยังไม่พูดอะไรเลย .. ฟ้าใจเย็นก่อนนะ ... อาจจะเป็นเพราะว่าฟ้าไม่ได้ขยับตัวมาหลายวันก็ได้นะ ... เดี๋ยวป๋องไปคุยกับหมอ แล้วให้หมอมาดูฟ้าดีมั้ย ผมบอกเธอพร้อมกับรีบเดินออกไป
             หมอครับ ... คนรักของผมฟื้นแล้ว ... แต่เธอขยับตัวไม่ได้ครับ ผมบอกหมอด้วยอาการตกใจ กลัวว่าคนรักจะเดินไม่ได้จริงๆ
             อ่อ ... ครับ เดี๋ยวไปดูอาการกันเดี๋ยวนี้เลยแล้วกันนะครับ ... ไป!! พยาบาล หมอบอกพร้อมกับเดินไป
            ไหนครับ ... หมอขอดูอาการหน่อยครับ หมอพูดกับฟ้า
             ค่ะหมอ .. หนูขยับตัวไม่ได้ค่ะ ฟ้าตอบด้วยน้ำเสียงสั่นๆ
หมอดูอาการสักพัก ...
              ไม่เป็นไรนะครับ ... ทำกายภาพบำบัดก็เดินได้แล้วครับ ... อาจจะนานหน่อยนะครับ ... คุณต้องให้กำลังใจผู้ป่วยนะครับ แล้วช่วยให้เธอทำกายภาพบำบัดบ่อยๆ ไม่เกิน 6 เดือนเธอก็เดินได้ตามปกติแล้วครับ หมอพูดเป็นการส่วนตัวกับผม พร้อมกับให้ความหวัง .. ซึ่งผมก็หวังให้เป็นเช่นนั้นจริงๆ
               หมอว่าป๋อง เธอถาม
              หมอบอกว่า ... ว่า ... ว่า ฟ้าไม่เป็นไรจ้า ... ทำกายภาพบำบัดก็เดินได้เหมือนเดิมแล้ว ... ฟ้าไม่ได้พิการนะ .. ผมตอบ
             ฟ้าเธอทำหน้าเศร้า ... เธอมองไปที่หน้าต่าง แล้วก็ก้มหน้าลง .. พร้อมกับน้ำตาที่หยดลงมา ... 
             ฟ้าเป็นอะไรครับ .. ผมถาม
            ฟ้าเป็นคนพิการยังไงล่ะป๋อง ... ป๋องได้ยินมั้ยว่าฟ้าเป็นคนพิการ .. เธอพูดแล้วร้องไห้ พร้อมกับตีขาตัวเองแรงๆ
             ฟ้า ... ฟ้าทำอะไร ฟ้าหยุดนะ ป๋องบอกให้หยุด ผมตะโกนสั่งเธอพร้อมกับจับมือเธอเอาไว้ไม่ให้ทำร้ายตัวเอง
             ฟ้าไม่ได้พิการนี่ครับ .. ทำกายภาพบำบัด แค่ 6 เดือนเอง ... เดี๋ยวฟ้าก็เดินได้เหมือนเดิมแล้ว ... ป๋องจะดูแลฟ้าเอง ... ป๋องจะอยู่ข้างๆ ฟ้า ไม่ไปไหน ...ผมบอกเธอ พร้อมกับกอดเธอไว้ในอก
              เลิกร้องได้แล้วนะครับ ... ผมไม่ทิ้งฟ้าไปไหนแน่นอน .. ฟ้าเชื่อผมนะ ผมบอกเธอ และกำลังจะทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับเธอก่อนที่จะผ่าตัดในวันนั้น
                ไม่จริงหรอก ... ใครจะมาทนอยู่กับคนพิการ ... ฟ้าพูด แล้วผลักออกจากอกผม
                ก็ป๋องนี่ไง ... จะทนอยู่กับฟ้า .. ผมสัญญาว่าจะรักฟ้า .. ผมจะดูแลฟ้าไง .. ผมบอกเธอ
                แล้วแต่ป๋องเถอะ ... ฟ้าไม่อยากบังคับใคร .. เธอตอบกลับผม
               ฟ้าหิวอ่ะป๋อง เธอหันมาบอกผม
               ก็แน่ล่ะ ... นอนไปตั้งหลายวัน .. ปล่อยคนแถวนี้นั่งรอร้องไห้ น้ำตาหมดไปเป็นปี๊บและ ผมแหย่เธอให้หายกังวล
                เอ้า ... ฟ้าว่าป๋องหรอ .. นี่แน .. ก็ใครให้ร้องไห้ล่ะ .. ช่วยไม่ได้นี่นา .. มาร้องไห้ให้เค้าเอง ฟ้าตอบผมพร้อมกับเอามือมาตีผม
                 อ่ะ .. นี่ ... ของโปรดของฟ้า ... ฟ้ารีบหายป่วยไวๆนะครับ ... เดี๋ยวจะได้ทำกายภาพบำบัดกัน แล้วถ้าฟ้าหายดีแล้วเดี๋ยวเราจะไปเที่ยวกัน 2 คน ... ดีมั้ย ผมป้อนเธอพร้อมกับปลอบเธอไปในเวลาเดียวกัน
1 อาทิตย์ต่อมา ...
                  แผลหายดีแล้วนะครับ ... ตอนนี้ก็เหลือแต่มาทำกายภาพบำบัดนะครับ ... หมอขอตัวก่อนแล้วกัน หมอพูด แล้วออกไปจากห้อง
                  เดี๋ยวตั้งแต่พรุ่งนี้ป๋องจะพาฟ้ามาทำกายภาพบำบัดนะ ... ผมบอกฟ้าพร้อมกับเก็บของ
...
.....
.......
              ป๋อง ... เหนื่อยมั้ย ฟ้าผม ท่ามกลางความเงียบในห้อง
              เหนื่อยอะไรล่ะครับ ... ที่ผมทำอยู่ผมทำเพื่อคนที่ผมรัก.. ไม่มีคำว่าเหนื่อยหรอกครับ ผมตอบเธอพร้อมกับเดินมาจับมือเธอเอาไว้
               อื้มม ... ขอบคุณมากนะป๋อง ... ที่ทำให้ฟ้าขนาดนี้ ... ฟ้าก็รักป๋องนะ .. ฟ้าตอบ
                ครับ ... ไปกันเถอะ ผมเก็บของเสร็จแล้ว .. ผมบอก

6 เดือน ผ่านไป ... เราก็เรียนจบกัน พร้อมกับการกายภาพที่สำเร็จ ... ฟ้าเดินได้แล้ว 
                ฟ้าเดินได้แล้วนี่ครับ ... ผมดีใจจังเลย ผมบอกเธอ
                ใช่ฟ้าเดินได้แล้ว ... และเราทั้งคู่ก็เรียนจบแล้ว เธอยิ้มตอบผม .. รอยยิ้มแบบนั้นผมไม่เคยได้เห็นมานานแล้ว ตั้งแต่วันนั้น จนวันนี้ ผมดีใจมากครับ เธอหลับมาร่าเริงเหมือนเมื่อก่อนแล้ว
                เพื่อเป็นการฉลอง .... ฟ้า อยากไปเที่ยวไหน .. เดี๋ยวป๋องพาไป ผมชวนเธอ
                ไปไหนดีล่ะ ... แล้วป๋องอยากไปไหนล่ะ .. ฟ้าถาม
                ไปวัดกันมั้ย ... ไม่ได้ทำบุญนานแล้ว .. ผมนิ่งคิดไปนานโดยได้คำตอบที่น่าตลกเสียจริงๆ
ล็อตเตอรี่ลุ้นล้านครับ ... ... 
                คุณช่วยผมซื้อหน่อยได้มั้ยครับ .. เหลือคู่สุดท้ายแล้วผมจะได้กลับไปหาลูก  เมีย ของผมซะที .. ถือว่าช่วยผมนะครับ คนขายล็อตเตอรี่พูดกับป๋อง
               ไม่อ่ะครับ ... ขอบคุณมาก ผมบอกเค้า
               เดี๋ยวค่ะลุง .. หนูซื้อเองก็ได้ ฟ้าเรียกลุงคนนั้น
               ป๋องอ่ะใจร้าย ... จะไม่ยอมให้แกกลับไปหาลูก  เมียเลยหรอ ฟ้าถามผม .. คิ้วขมวดกันเชียว น่ารักดีนะ
               อ้าว .. กลายเป็นว่าป๋องใจร้ายอีก .. เฮ้ออออ ผมตอบเธอทำหน้าทะเล้นใส่
                อ่ะ ... ฟ้าให้ป๋องนะ .... เผื่อถูกรางวัลมา .. ป๋องจะได้เอาไปขอฟ้าไง .. ดีมั้ย ฟ้าให้
               ไม่เอาอ่ะ .. ฟ้าซื้อก็ต้องเป็นของฟ้า ผมบอกเธอ
               ก็เพราะมันเป็นของฟ้าไง .. ฟ้าเลยให้ป๋อง .. ฟ้ายื่นให้พร้อมกับยัดใส่มือของผม
              อื้มม .. ก็ได้ .. ป๋องจะรับไว้นะ ... ถ้ามันถูกรางวัลจริงๆป๋องจะพาฟ้าไปเลี้ยงให้หมดเลย .. ผมให้สัญญาเธอ
              ไม่ต้องอ่ะ ... ถูกก็เก็บเอาไว้ .. ฟ้าบอก
              ขอบคุณมากนะ ผมบอก
              เย็นมากแล้ว .. กลับบ้านเถอะ ... เดี๋ยวที่บ้านฟ้าจะเป็นห่วง ผมชวนเธอหลับเมื่อเห็นท้องฟ้ามืดครื้ม กลัวว่าเธอจะเป็นไข้อีก .. เธอไข้ขึ้นบ่อยมากช่วงนี้ ... ผมไม่อยากให้เธอไปนอนโรงพยาบาลอีก หรือไปนอนโรงพยาบาลบ่อย ๆ ผมก็ไม่อยาก
                อืมม .. กลับก็กลับ .. ป๋องดูแลตัวเองด้วยนะ ฟ้าบอกผม .. แล้วเดินจนลับตาไป

1 อาทิตย์ต่อมา ..
	
                 สวัสดีครับ .. ผม ดิน นะครับ .. น้องของพี่ฟ้า

                 พี่ฟ้าวันนี้วันเกิดดินน๊า ... พี่ฟ้าจำได้มั้ยอ่ะ ผมถามพี่สาวของผม
                 อ่อ ... ใช่ .. พี่ลืมไปเลย ... แล้วดินอยากไปไหนล่ะ .. เรากับพี่ไม่เคยไปเที่ยวไหนกันก็นานแล้วนี่นา ... พี่สาวคนเก่งถามผม
                  ผมหรอ .. อยากไปเที่ยว ... ไม่อ่ะ ... ผมอยากให้พี่ไปตรวจเช็คร่างกายประจำปีบ้าง ... เป็นไข้บ่อยๆ พี่ป๋องก็บอกนี่นา .. แต่พี่ไม่เคยไปเลย ... วันนี้พี่ต้องไปนะครับ ... ปีนี้ผมขอแค่นี้ ... ได้มั้ย?? ผมรบเร้าให้พี่ฟ้าไป
                   อืมม ... ก็ได้ก็ได้ ... เฮ้อออออ เสร็จน้องเลยฉัน .. พี่ฟ้าบอกกลับอย่างไม่สงสัยว่าตัวเองจะเป็นอะไรเลยสักนิด ... แค่อาการไข้ขึ้นบ่อย ๆ และเจ็บหลังบ่อยๆ เท่านั้น
                  งั้นพรุ่งนี้ สิบโมงเช้า ... ไปตรวงร่างกายที่โรงพยาบาลกันนะ .. ผมบอกพี่สาวพร้อมกับยิ้มให้อย่างมีความสุข

โรงพยาบาล แห่งหนึ่ง ...
                     เอ่อ .. หมอขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับ .. หมอพูดขึ้นให้น่าสงสัยเสียจริง ๆ ..
                    ทำไมหรอครับคุณหมอ ... พี่ผมเป็นอะไร .. ผมตกใจมาก
                    พี่คุณเป็นมะเร็งที่กระดูกสันหลังระยะที่ 2 ครับ ... หมอพูด
                    ห๋า ... อะไรนะครับ .. คุณหมอ ..หมอตรวจผิดหรือเปล่าครับ .. ผมถามเพื่อความแน่ใจ
                   ไม่ผิดครับ ... หมอตรวจซ้ำแล้ว .. หมอตอบนัยน์ตาเศร้าแทนผู้ป่วย
                    คุณอาจจะอยู่ได้ไม่เกิน 3 ปีนะครับ ... คุณมาช้าเกินไป .. หมอพูดกับพี่ฟ้า ..
                    ค่ะ .. .. พี่ฟ้าตอบด้วยน้ำเสียงหมดหวัง
ที่บ้าน ...
                    ไม่เป็นไรนะพี่ฟ้า ... อีกตั้ง 3 ปี .. พี่ต้องอยู่ถึงแน่ ๆ ผมเชื่อ .. ผมบอกพี่ผม
                   อืม .. พี่ฟ้าบอกผมเหมือนกับว่าผมช่วยอะไรไม่ได้แล้วยังจะพูดอีก
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป ...
                  ดิน !! ดินมีเพื่อนสนิทมั้ย?? พี่ฟ้าถาม อย่างมีแผน
                  มีอ่ะ .. ทำไมหรอ .. ผมชักสงสัย
                   แล้วพี่ขอให้เพื่อนดินช่วยอะไรพี่ได้มั้ย ... ขอหน้าแก่เท่าๆพี่หน่อยแล้วกัน พี่ฟ้าขอพลางยิ้มตลกไปเรื่อยเปื่อย ..
                   พี่จะทำอะไร .. ผมสงสัยจริงๆ นะ ..
                   เออ หน่า ... แล้วได้มั้ยล่ะ .. พี่ฟ้าชักหงุดหงิด
                    ได้สิได้ ... หน้าแก่เยอะไป ... ผมบอกพี่ฟ้า
                   อื้มม ... พี่ขอความช่วยเหลือเพื่อนดินไม่มากหรอกนะ... แค่จะเอามาควงให้ป๋องเข้าใจผิด ป๋องจะได้เลิกรักพี่ซะที .. พี่อยากให้เค้าเจอคนดี ๆ ที่ใช้ชีวิตกันได้ตลอดไป หรือไม่ก็อยู่ดูแลป๋องได้นานกว่าพี่ .. พี่ฟ้าตอบผม ... ผมตกใจเหมือนกันนะครับ ... แต่ผมก็คิดว่าดีเหมือนกัน .. พี่ป๋องจะได้มีอนาคตที่ดี .. ส่วนพี่ฟ้าถ้าจะไปจริง ๆ จะได้ไม่มีห่วงอะไรมากนัก
                     อื้มม .... แล้วผมจะช่วยนะ .. ผมรับปาก .. และคิดว่าเรื่องมันคงจะจบง่าย ๆ ที่พี่ป๋องจะเดินจากไป 
                   เริ่มด้วยวันนี้แล้วกันนะครับ ... เพื่อนผมชื่อ เอิง ครับ .... เริ่มด้วยการที่พี่ฟ้าวางแผนให้ผมนัดพี่เค้าไปทานข้าวที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง เพื่อที่จะบอกผลการตรวจร่างกายของพี่ผม  แล้วอ้างว่าพี่ฟ้าไปด้วยไม่ได้เพราะมีนัดกับที่บ้าน

ที่ร้านอาหารแห่งนั้น ... 
                  ฟ้า .. ฟ้ามากับไอ้หน้าจืดนี่ได้ไง ... ไหนฟ้าบอกว่าติดนัดกับที่บ้านไง ... ฟ้าโกหกป๋องทำไม .. เห็นป๋องเป็นไอ้โง่หรอ .. จะควงสักกี่คนก็ได้ ... ป๋องผิดหวังในตัวฟ้ามากนะ ..พี่ป๋องใส่พี่ฟ้าเป็นชุด .. 
                   ใจเย็นนะพี่ป๋อง ... พี่ฟ้าอาจจะมีเหตุผลที่ทำก็ได้ .. ผมพยายามทำให้พี่เค้าเย็นลง
                  ใจเย็นอะไร .. ก็เห็นอยู่เต็มตาเนี่ยดิน ... จะให้พี่เข้าใจว่ายังไง ... พี่ป๋องเดือดแล้ว ...
                   ว่าไงล่ะฟ้า ... ไหนล่ะเหตุผล ... ขอป๋องฟังหน่อย .. พี่ป๋องหันหน้ามาถามพี่ฟ้า
                   เหตุผลหรอ ... เหตุผลอะไร ... ฟ้าไม่มีหรอก .. ก็แค่อยากไปเที่ยวกับคนอื่นที่ไม่ใช่ป๋องไง .. ไม่เห็นจะยาก ... ป๋องน่าเบื่อ ... ได้ยินมั้ยว่าฟ้าเบื่อป๋องแล้ว ... จะไปไหนก็ไป ... ฟ้าจะทานข้าว ... อ่อ ... แล้วลืมฟ้าได้แล้วนะ ... ฟ้าไม่อยากรูจักป๋อง ฟ้าจะลืมป๋องเหมือนกัน .... เราจบกันเท่านี้นะ  พี่ฟ้าไล่พี่ป๋องได้อย่างเย็นชาเหลือเกิน
                     ทานข้าวกันเถอะค่ะเอิง ... พี่ฟ้าเมินหน้าหนีพี่ป๋องได้อย่างคนที่ไม่ได้รู้จักเลย
                    ครับ .. ฟ้า ... เอิงเพื่อนผมนี่สมบทบาทจริง ๆ ... ตอบกลับพี่ฟ้าพร้อมกับจับมือพี่ฟ้าทำให้พี่ป๋องหึงได้หน้าเขียวเชียว ... พี่ป๋องถึงกับอึ้ง ทำอะไรต่อไม่ได้นอกจากเดินออกนอกร้านไปเฉย  ข้างในตาแดงก่ำ
                   ดิน !! พี่ไม่มีค่าถึงขนาดที่ฟ้าจะต้องโกหกมาคบกับคนใหม่เลยหรอ .. พี่ป๋องถามผมในตาใส เหมือนอยากจะร้องไห้
                    ไม่หรอกพี่ ... พี่ฟ้าเค้าคงกลัวพี่เสียใจมากกว่าเลยต้องโกหก ... คิดดูนะ ถ้าพี่ไม่เจอเนี่ย ... เรื่องมันก็ไม่มีอะไรไม่ใช่หรอ ... แต่นี่พี่มาเห็นมันเลยเกิดเรื่องไง .. ผมตอบพี่เค้าพร้อมกับจับบ่าพี่เค้า
                    หรอ ... แล้วดินว่าพี่ควรทำยังไงดี .. พี่ป๋องถามคำถามได้เข้าทางจริง ๆ ...
                  พี่ก็เลิกกับพี่ฟ้าไง ... เพราะพี่เค้าเบื่อพี่ป๋องแล้วไง .. ผมตอบแทนพี่สาวผม .. เพื่อที่เค้าจะได้ตัดใจกันได้ไว ๆ 
                  เลิกหรอ ... ถ้าดินคิดว่ามันดีที่สุด .. พี่จะเลิกติดต่อกับพี่ของดิน  เลิกทุกอย่างแล้วลืมพี่ฟ้า  เหมือนที่พี่ฟ้ากำลังจะลืมพี่เหมือนกัน .. พี่ป๋องตอบอย่างมั่นใจ และจะทำให้ได้

ผ่านไป 2 ปีกว่าแล้ว ... เวลาของพี่ฟ้ากำลังจะหมดลง ...
	
                ตลอดเวลาที่พี่ฟ้ากับพี่ป๋องเลิกติดต่อกัน ... ผมไม่เคยเห็นคนไหนที่จะมีความสุขสักคน .... ในแววตาของทั้งคู่ไม่มีความสดใสเลย ... ความร่าเริงของพี่ฟ้า  การยิ้มเก่งของป๋อง .. ได้หายไปหมด ไม่เหลือแม้แต่น้อย .. พี่ป๋องก็ทำแต่งาน ... จนดูโทรมอย่างเห็นได้ชัด .. พี่ฟ้าก็นั่งเศร้าซึมและก็ต้องออกจากงานมาอยู่บ้านด้วยสภาพที่ไม่น่าดูสักนิด ... 
             พี่ฟ้าทำแบบนี้มีความสุขบ้างมั้ย ... แล้วพี่คิดว่าที่กำลังทำอยู่พี่ป๋องเค้ามาความสุขจริง ๆ มั้ย .. ผมถามเพื่อที่ต้องการจะทำอะไรสักอย่าง
              แล้วดินจะให้พี่ทำยังไง .. ในเมื่อพี่อยู่กับป๋องได้ไม่นานอยู่แล้ว ... จะให้พี่รั้งพี่ป๋องไว้ทำไม .. พี่ฟ้าหันหน้าจากหน้าต่างมาตอบผมด้วยอาหรน้ำตาคลอเบ้า ...
               อืมม ... นั่นสิเนอะ ... งั้นพี่ก็ทนต่อไปนะ .. 
               พี่ฟ้าเริ่มจะเข้าโรงพยาบาลบ่อยขึ้น บ่อยขึ้น ... จนตอนนี้ก็นอนที่โรงพยาบาลตลอด 24 ชั่วโมง ... จะทำยังไงได้ล่ะครับ .. วาระสุดท้ายของพี่เค้าแล้ว ... ส่วนพี่ป๋องก็หันมาดื่มเหล้า .. งานการเริ่มไม่ทำ  ดื่มแต่เหล้าทุกวัน  พี่ป๋องเปลี่ยนไปมาก  เปลี่ยนไปจริง ๆ ... และวันนี้  วันที่ผมจะทำอะไรสักอย่าง 
                พี่ป๋อง .. ดินมีอะไรจะบอก .. ผมเดินเข้าไปท่ามกลางขวดเหล้าที่วางเกลื่อนไปหมด
                 อา รายยย ของเมิงว่ะ อ้ายดิน น้องอีฟ้า .. เหอ ๆ ๆ ..พี่ป๋องตอบผมด้วยอาการเมาได้ที่เลยนะครับนี่ ... 
                  ไม่มีอะไรหรอกพี่ ... แค่ผมมีเรื่องสำคัญจะมาบอก .. ผมยังยืนยันที่จะบอก
                  มีไรว่ะ อีฟ้าจะตายรึไง ... จะให้กูไปดูใจมันรึไง ... หรือจะให้กูไปดูว่าใครมาดูแลมัน .. พี่ป๋องตอบเหมือนเก็นเลยนะเนี่ย ..
                  อื้มม ... พี่ฟ้าจะตายแล้ว ... อีกไม่เกิน 2 อาทิตย์หรอก .. ผมบอกพี่เค้าด้วยความน่าสมเพชในสภาพพี่เค้า ..
                   อะไรนะ ... ฟ้าจะตายแล้ว ... ฟ้าเป็นอะไร ... ดิน !! ฟ้าเป็นอะไร ... พี่ป๋องสร่างเมาในทันที
                   พี่ฟ้าเป็นมะเร็งที่กระดูกสันหลังน่ะ ... เป็นตั้งแต่ก่อนหน้าพี่เค้าจะแกล้งให้พี่เลิกกับเค้าอีก ... ผมให้พี่ฟ้าไปตรวจร่างกายเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว .. พี่พอจะจำได้มั้ย .. ผมชี้แจงให้พี่เค้าสว่างซะที
                   อะไรนะ ... แกล้งให้พี่เลิก หรอ ... ยังไงล่ะ พี่งงไปหมดแล้ว .. พี่ป๋องเริ่มมึน ๆ .
                  ก็ไอ่เอิงอะไรนั่น ... มันเพื่อนผม ... พี่ฟ้าเค้าให้ผมหามาเป็นคนที่ทำให้พี่เลิกกับเค้า ... เค้าอยากให้พี่ไปจีบคนใหม่ ให้ไปรักกับคนใหม่ ... ไม่ต้องเอาชีวิตที่เหลือมาจมอยู่กับเค้า ... พี่ป๋องก็แสนดีจริง ๆ ... ไม่ยอมมีใครแถมยังประชดชีวิตได้เยี่ยมจริง ๆ ... ผมขอโทษนะพี่ .. ที่เพิ่งจะมาบอก ... ผมบอกพี่เค้า  ในใจก็กลัวจะโดนต่อยจริง ๆ ..
                   แล้วทำไมดินเพิ่งจะคิดได้มาบอก ... ฟ้ายังอยู่ได้อีกกี่เดือน .. พี่ป๋องถามอย่างดุดัน .. จะฆ่าผมให้ได้
                    อยู่ได้ไม่เกิน 2 อาทิตย์!! .. ผมบอกพี่เค้า
                    อะไรนะดิน ... ดินกำลังจะทำอะไร ... ดินจะแกล้งพี่อีกใช่มั้ย ... พี่ฟ้ายังอยู่ได้นานกว่านั้นใช่มั้ย ... ดิน ... ใช่มั้ย .. พี่ป๋องจับแขนผมแล้วเขย่าตัวผมอย่างแรง น้ำตาของลูกผู้ชายไหลออกมา
                     ผมไม่ได้โกหกนะพี่ ... ตอนนี้พี่ฟ้าอยู่ในระยะสุดท้ายแล้ว ... ตลอดเวลาที่พี่ฟ้าไม่ได้อยู่กับพี่ ... ไม่ได้คุยกับพี่  พี่ฟ้าไม่มีความสุขเลย ... ผมไม่เคยเห็นพี่ฟ้ายิ้มได้เลย พี่ฟ้าคนนั้นหายไปแล้ว ... ผมบอกพี่เค้าเพื่อให้เค้าคิดทำอะไรบ้าง .. ก่อนที่พี่ฟ้าจะไป
	
 
               สวัสดีครับ ... จำผมได้มั้ย ... ผม ป๋อง นะครับ ... ช่วงสุดท้ายของคนรักของผม ... ผมจะใช้เวลาที่มีอยู่ฝห้คุ้มค่ามากที่สุด .. ก่อนที่ผมจะไม่ได้ทำอะไรให้เธออีก 

                 ฟ้า ... ผมเปิดห้องเข้าไป .. พร้อมกับเรียกเธอ 
                 ป๋อง .. เธอเรียกผมพร้อมกับยิ้มด้วยความดีใจ ... แต่ก็หยุดยิ้มไปเสียงั้น  พร้อมกับตอบกลับมาอีก
                 ป๋อง ... มาทำไม .. ที่นี่ไม่ต้องรับคุณ .. ฟ้าถามผมสายตามองออกไปที่นอกหน้าต่าง
                 ผมรู้เรื่องหมดแล้ว ... ไม่ต้องปิดผมแล้ว ... ดินบอกผมหมดแล้วนะครับ .. ผมจับมือเธอพร้อมกับเอ่ยปากคุยกับเธอ
                  ผมไม่ได้รังเกียจฟ้า  ที่ฟ้าเป็นโรคนี้ ... และไม่เคยที่จะคิดไปจากฟ้าเมื่อฟ้าเป็นแบบนี้ ... ที่จริงมันต้องเป็นผมดูแลคุณจนวินาทีสุดท้ายด้วยซ้ำ ... ถ้าผมรู้ .. ผมจะไม่ให้คุณต้องเผชิญกับโรคร้ายแบบนี้โดยลำพังหรอกนะครับ ... ผมนี่แย่จังเลย ... มันน่าจะตายพร้อม ๆ กับคุณจริง ๆ ... ไม่ก็น่าที่จะตายแทนคุณมากกว่า .. ผมสำนึกผิดจริง ๆ ..
                  ไม่เอาอ่ะป๋อง .. อย่าพูดเรื่องตายให้ฟ้าได้ยินอีกนะ ... ป๋องต้องอยู่อีกนาน  อยู่เพื่อฟ้านะ .. ฟ้าขอร้อง
                  ก็ได้ครับ ... แต่ฟ้าต้องอยู่ให้นานกว่านี้นะครับ ... ฟ้าต้องอยู่เพื่อป๋องเหมือนกัน .. ผมจับมือเธอมาไว้ที่อก 
                  โอ๊ย!! .. ฟ้าปวดอ่ะป๋อง ... ป๋องตามหมอให้ฟ้าทีได้มั้ย .. ฟ้าดูท่าทางเจ็บมากนะครับ .. ผมอยากเจ็บแทนเธอจริง ๆ ... ทำไมไม่เป็นผม 

หลังจากให้ยาเธอ ...
                   หมอขอคุญอะไรกับญาติผู้ป่วยหน่อยนะครับ .. หมอพูดกับทุกคนที่มาเฝ้าดูอาการของฟ้า ... รวมทั้งผม
                    หมอคิดว่า ผู้ป่วยคงอยู่ได้ไม่เกิน 2 วันนี้แน่ ๆ นะครับ .. รายนี้รวดเร็วจริง ๆ หมอขอโทษนะครับ ที่คาดว่าผู้ป่วยจะอยู่ได้นานกว่านี้มาก ..หมอพูดโดยที่ไม่มีอาการอ้ำอึ้งสักนิด
...
.....
.......
                   แม่ครับ พ่อครับ มีอะไรหรอตาป๋อง
                    ผมไม่อ้อมค้อมนะครับ  ผมขอแต่งงานกับฟ้านะครับ .. ผมพูดได้ไม่อายเลยจริง ๆ ... จะขอลูกเค้ายังไม่มีฟอร์มอีก
                    อะไรนะลูก  จะเอาชีวิตมาทิ้งกับฟ้าทำไม  ยังไงฟ้าก็อยู่มีครอบครัวกับป๋องไม่ได้หรอกนะลูก พ่อแม่ถามผมเพื่อให้คิดใหม่อีกครั้ง
                    ผมคิดดีแล้วครับ .. ผมรักฟ้า  ผมจะใช้ชีวิตกับเธอ  ผมจะทำให้เธอไม่ต้องเดียวดายต่อไป  ผมจะเป็นคนที่อยู่ข้าง ๆ เธอจนวินาทีสุดท้าย  เท่าที่คนบนฟ้าจะให้เราสองคนได้อยู่ด้วยกัน  ผมพูดไปโดยรู้ตัว
                   ก็ได้  ตามใจนะลูก พ่อแม่ไม่ขัด  เพราะท่านก็รู้ว่าเรารักกันมากแค่ไหน

                   เย็นวันนี้ผมก็ไปบอกพ่อกับแม่ผมว่าให้มาขอฟ้าที่โรงพยาบาล ในวันพรุ่งนี้  พร้อมกับนัดนายอำเภอให้ท่านมาจดทะเบียนสมรสนอกสถานที่
            
                  วันนี้ก็คงจะเป็นวันที่ผมและฟ้ามีความสุขที่สุด งานของเราจัดขึ้นท่ามกลางสักขีพยานน้อยนิด  ฟ้านอนอยู่นอนเตียง  ผมสู่ขอฟ้าเป็นที่เรียบร้อย  พร้อมด้วยสินสอดที่เป็นเงินที่ได้มาจากล็อตเตอรี่ที่ฟ้าซื้อให้ผมในวันนั้น  ใครจะไปเชื่อล่ะครับ  ผมถูกทั้งรางวัลที่เป็นเลขชุดด้วย .. ได้หลายบาทแหละครับ  เหลือกินเหลือใช้แน่นอน  ผมให้เธอเซ็นชื่อลงในทะเบียนสมรสคู่กับผม ให้เธอลงชื่อเป็นคนบริจาคเงินเข้าการกุศลหลาย ๆ โดยเงินที่ได้จากการถูกรางวัล ผมสวนแหวนให้เธอ
                  ผมรักฟ้านะครับ ... ผมจะอยู่กับฟ้าตลอดไป ... ฟ้าจะอยู่ไหน  ผมจะอยู่ที่นั่น ผมจะไม่ปล่อยให้คุณอยู่คนเดียวอีกต่อไป  คุณจะเป็นคนแรกและคนเดียวของผมตลอดไป ...
   	 
                  ฟ้าเธอยิ้มให้ผม ... ใบหน้าที่มีความสุขกลับมาอีกครั้ง  พร้อมกับอาการพยักหน้า  ผมรู้ว่าเธอจะต้องไปจากผมในวันนี้และตอนนี้แน่นอน  ใจผมมันหวิวทุกที  ผมกำลังจะเสียเธอไปใช่มั้ย ... และเธอก็เธอหลับไปแล้ว
                 ฟ้า ... , พี่ฟ้า .. , ฟ้าลูก ฟ้า ... เสียงเรียกที่ดังขึ้นพร้อม ๆกัน  ตามมาด้วยเสียงที่ร้องไห้ระงม  ดังไปทั่วห้อง  ... ผมรักเธอ เธอจะเป็นคนที่ผมร้องไห้ให้  เพราะเธอเป็นคนที่ผมรัก  และเธอก็รักผมเช่นกัน  ผมเชื่อ ... จากนั้นผมหยิบปืนที่พกมา  พร้อมกับบอกว่า ฟ้ารอผมก่อนนะ  ผมจะตามคุณไปเดี๋ยวนี้แหละ ... ขอโทษนะครับพ่อ  แม่ ... ผมอยู่ดูแลพ่อกับแม่ไม่ได้  ผมขอโทษ  ผมจ่อปืนไปที่ขมับพร้อมกับเหนี่ยวไกปืน  ....  พี่ป๋อง ,  ป๋อง ... อย่านะลูก ... แต่มันคงสายไปแล้ว  ผมไม่อยู่ฟังท่านห้ามต่อไป ...

               
                 ศพของเรา 2 คนถูกฝังไว้ใกล้ ๆ กัน  เราจะได้อยู่ด้วยกันตลอดไป  ผมจะไม่ทิ้งเธอไปไหน  แค่ระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านไป  โดยที่ผมไม่ได้ดูแลเธอ  ผมก็ไม่รู้จะทดแทนให้เธอยังไง  หวังว่าเรื่องของผมคงจะเป็นอุทาหรณ์ ให้คนที่มีความรักอยู่  ได้ดูแลและให้ความรัก  การดูแลเอาใจใส่กัน  ก่อนที่จะไม่ได้ทำให้กันอีกต่อไป  หรือใครที่เป็นพวกแอบ  หรือ  พวกที่ไม่กล้า  ได้ลองเข้าไปดูแลเค้า  ในตอนที่มีโอกาส  อย่าให้เหมือนผมที่ไม่ทำ ... ขอบคุณมากครับ  ที่อ่านมาจนจบ ...				
6 กุมภาพันธ์ 2548 00:18 น.

ช่วยอ่านแล้วเม้นหน่อยนะครับ

Love Is...Never Die.

ผม รู้ จัก เด็ก คน นี้ เมื่อ สิงหาคม 2547 นะ ครับ ...
ทาง MSN ... 


ตอน แรก ผม คิด ว่า เค้า เป็น ผู้ ชาย ...
ต่อ มา เค้า ก็ คุย หวาน ๆ ผม เลย ถาม ว่า เป็น ผู้หญิง หรือ ผู้ชาย ... เป็น ผู้ หญิง นะ ครับ ...

ผม อายุ ห่าง กับ เธอ 2 ปี ครับ ...

เธอ คุย น่า รัก ๆ ๆ .. ตลก ๆ นิด ๆ ... 
เธอ โทรศัพท์ หา ผม 1 เดือน 1 ครั้ง ... ครั้ง ละ 2 ชั่วโมง ... ผิด กับ ผม ที่ ไม่ เคย โทร หา เค้า เลย ...
ผม ประสบอุบัติเหตุ ... เค้า ก็ โทร มา อีก ... ไม่ รู้ ว่า ทำ ไม เค้า ถึง โทร ได้ จังหวะ พอ ดี ที่ ผม ประสบอุบัติเหตุ ... เธอ ถาม ผม ว่า ทำ ไม ไม่ ระ วัง ... ถ้า พี่ เป็น หนัก กว่า นี้ เธอ จะ ทำ ยัง ไง ...

และ อีก หลาย ๆ อย่าง ที่ เค้า ทำ ให้ ผม ...



ผม รัก เธอ มาก ขึ้น ทุก วัน ๆ ๆ ... มัน เกิด ขึ้น ได้ อย่าง ไร ผม ไม่ รู้ ... 
แต่ ผม รู้ ว่า วัน นี้ ... ผม รัก เธอ ... 

ผม ตัด สิน ใจ บอก เธอ ว่า รัก ... แต่ เธอ กลับ ดัน บอก ว่า ...
วัน นี้ ไม่ ใช่ วัน ที่ 1 เมษายน นะ ...

ผม ก็ ยัง ยืน ยัน ว่า ผม รัก เธอ ... เธอ ก็ เริ่ม เชื่อ ว่า ผม พูด ความ จริง ...

เธอ อึ้ง และ เปลี่ยน เรื่อง ใน ทัน ที ...

แต่ ก่อน เปลี่ยน เรื่อง นั้น เธอ บอก ว่า ...
" ___ รัก พี่ แบบ พี่ นะ " ( ที่ ว่าง ไว้ คือ ชื่อ ของ เธอ )...

ผม รู้ ว่า ผม คง ผิด หวัง ... ผม ไม่ กล้า ที่ จะ คุย กับ เธอ อีก ...

ผม ห่าง จาก เธอ ... ผม อยาก ตัด ใจ ... ผม ไม่ เข้า MSN อีก ...
แต่ โทรศัพท์ ก็ ดัง ขึ้น วัน ละ 4 เวลา ... ตรง กัน ทุก ครั้ง ใน แต่ ละ วัน ....
7.00
12.00
17.00
21.00

เว ลา ละ 10 ครั้ง ขึ้น ไป ... ไม่ ต้อง บอก ว่า ของ ใคร นะ ครับ ... ก็ ต้อง เป็น น้อง คน นั้น ...

ผม ทำ ใจ ไม่ ได้ ที่ จะ หยุด ติด ต่อ กับ เธอ ...

ผม กลับ ไป คุย กับ เธอ อีก ครั้ง ... 

___________________________________________________________

แล้ว วัน หนึ่ง ... ผม โดน รถชนอีก ครั้ง .... แต่ ครั้ง นี้ ผม ตั้ง ใจ อยาก ตาย ... ผม จะ ได้ ไม่ ต้อง เจ็บ อีก ต่อ ไป ...

แต่ ผม เเค่ แขน หัก ... เท่า นั้น เอง ...
เพื่อน ผม รู้ ว่า ผม ชอบ น้อง คน นั้น ... เพื่อน ผม จัด การ บอก เรื่อง ที่ ผม โดน รถ ชน ให้ เธอ รู้ ...

เธอ โทร มา ถาม อาการ ของ ผม ... มัน ยิ่ง ทำ ให้ ผม รัก เธอ ... ที่ เธอ ยัง ห่วง ผม ... 
ผม มี เธอ เข้า มา ใน ชีวิต ... เธอ ไม่ รัก ผม ... แต่ เธอ ก็ ยัง ดี กับ ผม ... มัน เจ็บ มาก ...

ผม โกรธ เพื่อน ที่ บอก เค้า ... ไม่ รู้ ว่า ทำ ไม ต้อง โกรธ ...

ผม ไม่ รู้ ว่า เพื่อน คน ไหน ... เพราะ เรา มี กัน 3 คน ..

น้อง คน นั้น ไม่ บอก ผม .. กลัว ว่า ผม จะ ไป ว่า เพื่อน ที่ บอก เรื่อง ของ ผม ให้ เธอ รู้ ...
เธอ ไม่ ยอม บอก ... เธอ บอก ว่า ..

พี่ จะ ขอ อะไร ก็ ได้ ... แต่ อย่า ขอ ให้ เธอ บอก ว่า คน ๆ นั้น ที่ บอก เธอ เป็น ใคร ...

ผม ขอ ให้ เธอ เป็น แฟน ของ ผม ... ขอ ให้ เธอ รัก ผม ...

เธอ ตอบ กลับ มา ว่า ได้ ... พี่ ขอ แล้ว และ เธอ ได้ รับ ปาก ไป แล้ว ..

ผม รู้ ว่า เธอ  ไม่ ได้ ชอบ ผม ...

ผม คง เลว เกิน ไป ... 

คุณ จะ ทำ ยัง ไง ดี .. เมื่อ เค้า บอก ว่า ... คุณ เป็น ได้ แค่ พี่ ... แต่ เค้า รับ ปาก ว่า จะ เป็น แฟน คุณ... ถ้า คุณ ต้อง การ ... เธอ ทำ แบบ นั้น เพื่อ อะไร ...

เป็น คุณ คุณ จะ ทำ ยัง ไง ...				
27 พฤศจิกายน 2547 02:16 น.

… พี่ขอโทษ …

Love Is...Never Die.

ณ จุดหนึ่งของ กรุงเทพ ที่ที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองฟ้าอมร  เจริญรุ่งเรือง  เพียบพร้อมไปด้วยความงดงาม ความสะดวกและทันสมัย  แต่  จะมีใครรู้บ้างไหมว่า ณ ที่แห่งนี้  มีคน คนคนหนึ่งที่รู้สึกเหมือนกับว่า ชีวิตนี้เกิดมาเพื่อรอ  อะไรบางอย่าง  ซึ่งผมก็ยังไม่รู้ว่าผมรออะไรและเมื่อไหร่  การรอคอยนี้จะสิ้นสุดลงเสียที

ขอโทษค่ะ   หญิงสาวคนหนึ่ง เรียกผม
ครับมีอะไรหรอครับ  ผมหันมาตอบเธอ  แต่ก็ต้องอึ้งกับเธอคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าตัวผมเองในขณะนี้ ผมรู้สึกแปลกๆ กับผู้หญิงคนนี้  ผมรู้สึกเหมือนกับว่า  ผมได้พบ  พบกับสิ่งที่รอมานานแล้ว  ผมไม่ต้องค้นหาอะไรต่อไปอีกแล้ว ทำไมผมรู้สึกแบบนี้ก็ไม่รู้สิครับ
อืมม   คือว่า  หอประชุมค่ะ  หอประชุมไปทางไหน เธอถามผม
ครับ  หอประชุมเดินไปทางอาคารอำนวยการนะครับ  ชั้นสองครับ ผมตอบด้วยความเต็มใจ  พร้อมกับใบหน้าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม
ค่ะ ขอบคุณค่ะ  เธอตอบ  แล้วเดินห่างออกไปจนลับตาของผม 
เธอชื่อหวานครับ หวานเธอเป็นหญิงสาวที่ผมรู้สึกแปลกๆกับเธอ  เหมือนว่าเราเคยรู้จักกันมานาน  นานมาก  แม้จะเป็นการพบกันเป็นครั้งแรกก็ตาม ผมไม่รู้ว่าตลอดชีวิตผมรออะไรอยู่  แต่วันนี้  ผมขอสรุปมันว่า ผมอยู่มาจนถึงทุกวันนี้ เพื่อรอเธอ ผมไม่รู้เธอจะรู้สึกเหมือนว่าเกิดมารอใคร  เหมือนกับที่ผมเป็นรึเปล่า  ส่วนผม  ผมจะทำให้เวลาที่ผมเจอเธอ  เป็นเวลาที่มีค่าที่สุดสำหรับผม (และเธอ)


 เริ่มเรียนเป็นสัปดาห์แรก  วันนี้ต้องเลือกกิจกรรม 

	ตัวผมอยู่กิจกรรมดนตรี  การขับร้องและบรรเลงเพลงสากลเบื้องต้น  จะมีใครรู้บ้างไหมว่า หวานก็เลือกกิจกรรมนี้เช่นกัน   และเธอก็เดินตรงมาที่ผม และพูดว่า 
	อ้าว  พี่นี่เอง พี่ พี่  หวานทักทายรุ่นพี่ที่เพิ่งได้เจอกันเมื่อวันแรกที่เปิดเทอม  ด้วยอาการอ้ำอึ้ง ..
	พี่ชื่อ หนึ่ง ครับ ผมตอบกลับด้วยอาการเก้อเขิน  อย่างไม่เคยเป็นกับหญิงคนใดมาก่อน
	ค่ะ  พี่หนึ่ง เธอตอบพร้อมกับมองหน้าผมแล้วยิ้ม  
เธอจะรู้บ้างไหมว่า คนคนนี้ ที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอตอนนี้  รู้สึกกับเธอยังไง ผมขอเรียกความรู้สึกที่ผมมีอยู่นี้ว่าเป็น ความรัก แล้วกันนะครับ ถึงแม้ผมจะคิดไปเองข้างเดียวก็ตาม คุณเชื่อในรักแรกพบมั้ย หล่ะครับ ส่วนตัวผมไม่เคยเชื่อนะครับแต่ตอนนี้ผมเชื่ออย่างสนิทใจเลยครับ 
ใกล้พักกลางวันแล้วครับ เป็นโอกาสของผมแล้วครับ ผมจะชวนเธอไปทานข้าวกับผมให้ได้ 
ตอนนี้ก็พักกลาวันแล้ว  หวานไปทานข้าวเที่ยงกับพี่ได้ไหมครับ ผมชวนเธอแบบอายๆ
หวานเธอก็หยุดคิดไปนานเหมือนกันนะครับ ผมนึกว่าผมจะต้องทานสมหวังแล้วนะครับตอนนั้น  สมหวัง  งงหรือเปล่าครับ ก็แห้ว!!!ไง แต่ ฟังดูสิครับ 
ค่ะ ได้ค่ะ พี่หนึ่ง   แล้วพี่หนึ่งไม่ไปทานกับเพื่อนๆพี่หรอค่ะ   เธอหันมาถามผมด้วยหน้าที่มีแต่ความน่าสงสัยในตัวของผม ดูน่ารักไปอีกแบบ 
อ๋อ ไม่หรอกครับ  เพื่อนพี่ทานเร็วครับ  พี่ทานไม่ทัน  เลยนั่งทานคนเดียวสบายใจมาตลอดครับ 
หวาน เธออมยิ้มแล้วหัวเราะเบาๆ  ช่างดูน่ารักอะไรขนาดนี้  
อะไรกันนะ  ที่ทำให้เธอพูดคุยกับผมอย่างกับเป็นคนสนิท  เคยรู้จักกันมาก่อน  แล้วอะไรกันที่ทำให้ผมมีความสุขมากมายถึงขนาดนี้ 
เราทั้งคูต่างคบหากันมาเรื่อยๆ ไม่รีบเร่ง ผมก็มีสังคมเพื่อน เธอก็มีสังคมเพื่อนของเธอเช่นกัน แต่มันไม่เคยทำให้ผมรู้สึกว่าห่างไกลกับเธอเลยแม้แต่วินาทีเดียว และวันนี้ ผม 

ได้เวลากลับบ้านแล้ว

	หวาน  บ้านอยู่ที่ไหนหน่ะครับ  พี่ขอไปส่งได้มั้ยครับ   ผม ออกปากขออย่างหน้าไม่อาย
	อยู่ราชประสงค์ค่ะ ถ้าพี่หนึ่งอยากไปส่งหวานก็ได้ค่ะ  เธอตอบพร้อมกับถามถึงบ้านผม
	พี่อยู่คลองเตยครับ วันหลังหวานจะไปส่งพี่ที่บ้านก็ได้นะครับ  พี่อยากอยู่ใกล้ๆหวานนะครับ
วันนั้น  ผมได้ไปส่งเธอ  และทุกๆ วัน ผมก็ได้ไปส่งเธอ 
	หวานเธอเป็นคนน่ารัก  เรียนเก่ง  หนุ่มๆแต่ละคนก็ต่างเข้ามารุมจีบเธอกันทั้งนั้น  แต่ทำไมนะ เธอไม่สนใจใครสักคน ทั้งที่ทุกคนก็รวย  และนิสัยดีทั้งนั้น ผมคอยเฝ้าดูเธอต่างหากในทุกๆวัน เพราะอาคารเรียนของเราก็ไม่ได้ไกลกันมากนัก ทุกครั้งที่ผมเห็นใครมาเข้าใกล้เธอ ผมรู้สึกว่าผมจะหมดหวังในตัวเธอมากขึ้นทุกๆที ผมไม่มีอะไรที่จะพอสู้ใครได้เลย ผมเคยนั่งคิด  คิดไปเรื่อยๆว่าเธอจะเป็นคนที่ผมรอจริงหรอ  แล้วเธอจะเกิดมาเพื่อรอผมหรือเปล่า  แล้วทำไมเธอไม่เลือกผู้ชายพวกนั้นไปควงกับเธอ ทำไมเธอมักจะเดินคู่กับผมเสมอ ผมไม่รู้จริงๆว่าผมจะได้อยู่ใกล้ๆเธอแบบนี้ได้ไปอีกนานเท่าไหร่ เราอาจจะต้องห่างหายไปกันเอง เป็นแค่คนรู้จัก เท่านั้น ผมกลัว ผมอยากบอกรักเธอจริงๆครับ ผมกลัวว่าเธอจะไม่อยู่ให้ผมได้บอกรักกับเธอ 
 วันนี้ผมก็ไปรับเธอที่ห้องเรียนของเธอตามปกติ  เพื่อไปส่งเธอที่บ้านเหมือนเคย แต่

แต่วันนี้ มีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นกับเธอครับ 
                  เฮ้ย!! มึงจะทำอะไรผู้หญิงหน่ะ มึงเป็นผู้ชายหรือลูกหมาว่ะ  ปล่อยเธอเดี๋ยวนี้นะ ผมด่าพวกรุ่นเดียวกับผมที่กำลังจับแขน  จับมือของเธอแล้วล่วงเกินเธอต่อหน้าต่อตาผมที่ริมรั้วโรงเรียน  ขณะที่ผมเดินไปซื้อโปรดของเธอที่ผมซื้อให้ทุกวัน  คือ  น้ำแดง  นั่นเอง
                  จากนั้นผมก็เดินตรงเข้าไป  พร้อมกับไม้หน้าสามที่อยู่ ณ ที่นั้น  แล้วก็บันดาลโทสะ  ทั้งถีบ  ทั้งตี  ทั้งเตะ  ทั้งต่อย  ทั้งซ้อม  ผมก็ไม่รู้ว่าผมเอาเรี่ยวเอาแรงมาจากไหน  จากนั้นผมก็รีบคว้ามือเธอเพื่อจะวิ่งหนีไป  แต่ ไม่ทันครับ  พวกมันรีบลุกขึ้นจากพื้น  พร้อมกับชักมีดสั้นออกมา  แล้วตะโกนดังๆขึ้นมาว่า ไอ้สัตว์  เจอนี่หน่อยเป็นไร   
        แล้วพวกมันก็วิ่งตรงเข้ามาทางผมครับ หวานและผมหันหน้ามองพวกมันพร้อมกัน  แต่ หวาน หวานเอาตัวของเธอ  รับคมมีดที่กำลังจะแทงมาที่ผม.. ผมเห็นเธอโดนมีดแทงต่อหน้าผม  โดยที่ผม  เป็นผู้ชาย  แต่ปกป้องดูแลเธอไม่ได้แม้แต่น้อย
ทันทีที่พวกมันแทงมีดมาจนสุดด้ามมีด  แม่ค้าที่ขายน้ำให้กับผม  ก็เรียกให้คนอื่นๆช่วยเราสองคน 
แต่หวานสิครับ หวานทรุดตัวลงในอ้อมกอดของผม  ผมทำอะไรไม่ถูกนอกจากเรียกชื่อเธอดังๆและเรียกขอความช่วยเหลือ  หวาน เธอยิ้มให้ผม  แล้วหลับไปในอ้อมกอดของผม 

 ที่โรงพยาบาล 

               ผมนั่งเฝ้าเธอตลอดเวลา  พร้อมกับจับมือ  และโทษตัวเองตลอด  ถึงความผิดใหญ่หลวงที่ไม่อาจให้อภัยกับตัวเองได้ ผมคิดว่าจะต้องเสียเธอไปจริงๆ ผมรู้สึกว่าผมจะหมดโอกาสในการที่จะบอกรักเธอ  ดูแลเธออีกต่อไป 
ฟ้าส่งเธอมา เพื่อหยุดการรอคอยที่เลื่อนลอยของผม  แต่ แต่ผมไม่สามารถดูแล  ปกป้อง  และรักษาสิ่งที่มีค่า  และสำคัญสำหรับชีวิตผมได้  ขณะนั้น  ถ้าแลกได้  ผมอยากจะเป็นเธอ  ผมจะเจ็บแทนเธอ 
เวลาผ่านไป  วันแล้ว  วันเล่า  จนถึงวันนี้  หวานเธอฟื้นขึ้นมาพร้อมกับอาการมึนงงกับตัวเองว่าทำไมมาอยู่ตรงนี้  แล้วอยู่ตรงนี้มานานเท่าไหร่  แล้วทำไมมานอนที่โรงพยาบาล  คำถามที่พลั่งพรูออกจากปากของเธอ  เพื่อที่จะต้องการคำตอบ แต่ผมไม่ได้ตอบเธอ  ความรู้สึกของผม  คงไม่ต้องบรรยายหรอกครับ  ผมดีใจมากที่เธอฟื้น  ตลอดเวลา ผมสวดมนต์ทุกวัน ทุกคืน  เพื่อขอให้เธอกลับมา ผมรอมาตลอด  มันเป็นการรอคอยที่นานแสนนาน ผมไม่อยากจะตกอยู่ในสภาพแบบนี้อีกแล้วครับ 

 เธอกลับมาแล้ว 
              เธอกลับมาแล้ว  ผมจะไม่ทำให้เธอต้องเจ็บอีก  หากต้องเจ็บ  ผมจะเจ็บเอง  นับตั้งแต่วันนี้  หวานจะไม่เจ็บอีกต่อไปตลอดชีวิต  ผมให้สัญญากับตัวของผมเอง 
เมื่อเธอฟื้นขึ้น ผมไม่รอช้า  ในการที่จะเอ่ยความรู้สึกของผมที่มีต่อเธอ    ผมก็ตัดสินใจเอ่ยความในใจของผม  เพราะ  ผมกลัวว่า  ถ้าผมมีโอกาสบอก  แต่ผมไม่บอก  ถ้าวันนึง  ผมอยากบอก  ผมจะทำยังไง หล่ะ   ผมจับมือของเธอไว้  แล้วผมพูดกับเธอว่า 
                 หวาน  พี่รักหวานนะ  คำพูดของผมออกมาจากใจจริงเลยครับ ผมไม่รู้ว่าหวานจะรู้สึกยังไงกับผม แต่สำหรับผม  ผมได้บอกไปแล้ว 
ตลอดชีวิตของพี่  พี่เหมือนว่ารอใครสักคนที่จะเข้ามา  แล้วเมื่อมาเจอหวาน  พี่รู้สึกเหมือนกับว่า  พี่ค้นเจอแล้ว  ในสิ่งที่พี่รอ  ผมบอกเธอ  อย่างไม่มีฟอร์มแม้แต่น้อย 
                  หวาน  คือว่าหวาน  เธอเงียบไปพักใหญ่และอึ้งกับคำพูดของผม มันอาจเร็วไป
                  ไม่เป็นไรครับ  แค่พี่ได้รักและบอกกับหวาน  มันก็มากเกินไปสำหรับคนอย่างพี่แล้ว 
                   ผมเสียใจเล็กน้อย เธอคงไม่ได้รักผม 
จากนั้น  หวานและผมก็คบกันมาตลอด  ผมไม่เคยเห็นเธอไปไหนกับใคร  (ให้ผมเห็น  ถ้ามี)  กลับบ้าน  ผมก็ไปรับเธอกลับบ้านตลอด  ผมชอบเล่นกับเธอบ่อยๆ  ชอบแกล้ง  ชอบอำ  ที่ที่เธอชอบไปและมักจะชวนผมไปเสมอๆเลย  คือที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา  ช่วงวัดอรุณราชวราราม  เธอบอกว่าวัดนี้สวยดี  อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา  ดูเงียบสงบ  
ผมชอบเรียกเธอว่า คนดี

 ปีการศึกษาต่อมา 

	สวัสดีค่ะ  นี่หวานเอง  ต่อไปนี้  จะเป็นหวานเล่าเรื่อง  จนจบนะค่ะ ช่วยฟังกันหน่อย 
	หวานอยากบอกกับพี่หนึ่งจริงๆค่ะ ว่า ไม่ใช่แค่พี่คนเดียวนะ  ที่รู้สึกว่ารอใครบางคน  หวานก็รู้สึกอย่างนั้น  เหมือนกัน  แต่ความรู้สึกนี้  มันจะสิ้นสุดกับคนที่ชื่อหนึ่งมั้ย  หรือว่า  หวานต้องเดินทางตามหาคนที่ใช่  และหยุดความรู้สึกของการที่รอคอยใครบางคน  ต่อไปอีก   และวันนี้ฉันตัดสินใจอะไรบางอย่าง 
	วันนี้หวานขอไปส่งพี่บ้างนะ ฉันถามพี่หนึ่ง และหวังให้คำตอบที่จะออกมานั้น เป็นคำตอบที่ฉันไม่ผิดหวัง
	ครับ ได้ครับ  พี่หนึ่งตอบกลับมาอย่างไม่รีรอ  ด้วยสีหน้าที่แสนจะดีใจ  แต่ฉันดีใจมากกว่า เพราะมันเป็นคำตอบที่ฉันรอฟังอยู่  
	คลองเตยในตอนนั้น  มันยังคงเป็นชุมชนแออัด  ทางเดิน  เดินได้คนเดียว  เป็นไม้กระดานปูไปตลอดทางจนถึงบ้านพี่เค้า  ซึ่งรอบๆตัวเต็มไปด้วย  คนแก่  เด็ก  คนพิการ  และน้ำเน่า  แต่ตอนนี้ มันเปลี่ยนไปแบบไหนแล้ว  ฉันก็ไม่รู้  เท่าที่ฉันจำได้  วันนั้น  ขณะที่เดินอยู่  เป็นเวลาบ่ายๆเกือบเย็น  พระอาทิตย์กำลังส่องแสงจ้าส่งความร้อนมาถึงฉัน  แต่พี่หนึ่งเค้า  ก็เดินมาข้างหน้าฉันเพื่อบังแดดให้ และพร้อมกับจับมือฉันไว้ เพราะลำพังตัวเค้าคนเดียว คงบังแดดให้ฉันได้ไม่สนิททั้งตัว จึงต้องใช้อุปกรณ์เสริม  ไม่ว่าจะเป็นแฟ้ม หรือ กระเป๋าก็ตาม  ด้วยเหตุนี้  ฉันเลยม่มีอะไรที่จะต้องถือแม้แต่อย่างเดียว พี่หนึ่งมองฉันไม่เห็น  เพราะฉันเดินตามหลังเค้า  พี่หนึ่งเลย จับมือจูงฉันเดินไปเรื่อยๆ มันเป็นความรู้สึกที่ไม่รู้จะบอกยังไงดี ถ้าคุณได้จับมือคนที่คุณรัก คนจะรู้จะยังไงหล่ะ พี่หนึ่งจับมือฉันมาตลอดทาง จนถึงบ้านของเค้า  บ้านพี่หนึ่ง ที่ที่ฉันใฝ่ฝัน อยากจะมาเห็นสักครั้งนึง 
	น้ำครับคนดี  เป็นน้ำเปล่าที่พี่หนึ่งส่งให้กับมือ  น้ำเปล่า  ที่หวานไม่แพ้กับน้ำแดงที่พี่หนึ่งซื้อให้ฉันทุกวัน 
	ขอบคุณค่ะ ฉันรับน้ำแก้วนั้นจากมือพี่หนึ่งแล้วยกดื่มอย่างรีบเร่ง
	พี่เค้านั่งเล่าเรื่องตลกให้ฉันฟังหลายต่อหลายเรื่อง  พร้อมกับเล่นกีตาร์และร้องเพลง  Soul  mate  ของ  Playground ให้ฉันฟัง  ซึ่งเป็นเพลงที่มีความหมายตั้งแต่ชื่อเพลงแล้ว  เพลงนี้  มันเหมือนกับเพลงประจำตัวพี่หนึ่ง  เพราะพี่หนึ่งจะร้องเพลงนี้เมื่อขึ้นแสดงบนคอนเสิร์ตของโรงเรียนเป็นเพลงแรก  ถ้าเข้าตู้คาราโอเกะ  พี่หนึ่งก็จะร้องเป็นเพลงแรกเช่นกัน  มันทำให้ฉันรู้สึกว่า  ฉันได้เข้าไปใกล้  เข้าไปรู้จักผู้ชายคนนี้มากขึ้น   มากขึ้น  ฉันรู้จักตัวตนของเขามากขึ้น แล้วฉันก็ประทับใจในตัวตนของเค้า มากขึ้นทุกทีและทุกวัน 
	เวลาแห่งความสุข มักจะหมดไปอย่างรวดเร็วเสมอๆ คุณว่ามั้ยหล่ะค่ะ 
	เย็นมากแล้ว  กลับบ้านเถอะ เดี๋ยวพี่ไปส่งที่บ้านนะ พี่หนึ่งพูดกับฉันพร้อมกับสายตาที่เป็นห่วง กลัวว่าจะมีอันตราย 
	พี่ส่งแค่หน้าปากซอยก็พอแล้ว เดี๋ยวหวานกลับเองได้ค่ะ ไม่เป็นไรค่ะ ฉันตอบ
	ก็ได้ครับ คนดีของพี่ งั้นเราออกไปเดี๋ยวนี้เลยแล้วกัน พี่หนึ่งพูดและจูงมือของฉัน 
	การกลับบ้านของฉันจะต้องข้ามถนนไปขึ้นรถอีกฝั่งหนึ่ง  แต่ทำไมที่นี่ยังไม่มีสะพานลอยนะ ฉันคิดในใจ แล้วฉันก็กำลังจะข้ามถนน  
ทันใดนั้นเอง!!!รถขับมาจากทางไหนฉันก็ไม่รู้  กำลังวิ่งเข้ามาทางฉันอย่างแรง  เมื่อพี่หนึ่งเห็นอย่างนั้นก็รีบวิ่งออกมาผลักฉัน  ไม่ให้ฉันโดนรถชน  แต่จะมีใครรู้บ้างไหมว่า  
เหตุการณ์ในวันนั้น  มันทำให้ชีวิตของฉันเปลี่ยนไปตลอดกาล พี่หนึ่งโดนรถชน ศีรษะกระแทกกับตัวรถอย่างรุนแรง พี่หนึ่งสูญเสียความทรงจำทั้งหมด  ความทรงจำในทุกเรื่อง แม้กระทั่งเรื่องของฉัน  ก็ยังไม่มีหลงเหลือในความทรงจำของเค้าแม้แต่น้อย 
พี่หนึ่ง  พี่หนึ่ง จำฉันไม่ได้ ไม่ได้แม้แต่น้อยนิด พี่หนึ่งมองหน้าฉันอย่างกับคนที่เกลียดกันมานาน  สายตาเฉือดเฉือน  ดูน่ากลัวอย่างบอกไม่ถูก  ฉันกลายเป็นคนอื่น ฉันกลายเป็นคนนอก ฉันมันไม่มีค่าสำหรับเค้าต่อไปแล้วใช่มั้ย 
                    ทำไมนะ  ทำไมฟ้าแกล้งเราทั้งคู่แบบนี้  ทำให้ฉันได้พบกับคนที่ชื่อหนึ่ง  คนที่ฉันรอมาแสนนาน  คนที่ฟ้าส่งมาให้ฉัน  แต่ว่าตอนนี้  เธออยู่ที่ใดบนโลกนี้ที่มันช่างกว้างใหญ่ และฉันต้องรออีกนานเท่าใด นานแค่ไหนที่เค้าจะกลับมา  กลับมาสักทีเถอะ พี่หนึ่ง หวานรอพี่อยู่ตรงนี้ พี่หนึ่งจะรู้มั้ย 
เราทั้งคู่เริ่มห่างไกลกันออกไปเรื่อยๆ  ฉันกลับบ้านกับลูกชายของเพื่อนพ่อที่ชื่อต๊อบ  แทนที่จะเป็นพี่หนึ่ง  บ้านของต๊อบรับทำธุรกิจเกี่ยวกับโรงแรมที่ได้กำไรมาก  บ้านของต๊อบมีฐานะดีมาก สาวๆเห็นต๊อบแล้วก็ถึงกับหลงรัก  เพราะทั้งหล่อและรวยมาก แต่สำหรับฉันไม่ใช่ ต๊อบก็ไม่เคยชอบผู้หญิงพวกนั้น ต๊อบบอกว่าชอบฉัน ชอบในตัวตนของฉัน 
                 ส่วนพี่หนึ่งก็กลับบ้านกับเพื่อนสาวในห้องที่แอบชอบพี่เค้ามานาน  คือพี่กิ๊ฟ แต่พี่หนึ่งเค้าก็ไม่ชอบพี่กิ๊ฟ แต่แล้ววันนี้  ตอนนี้  ขณะนี้  ทำไมมันเปลี่ยนไปทุกอย่าง  จากวันนั้น  ถึงวันนี้  ฉันเสียใจ ที่ฉันไม่บอกรักพี่หนึ่งตั้งแต่วันนั้น   ถ้าฉันบอกรักพี่เค้าไป  พี่หนึ่งอาจจะมีบางอย่างหลงเหลืออยู่กับฉันบ้าง   แต่ถึงจะคิดได้ตอนนี้ มันคงสายไปแล้ว เพราะ ตอนนี้ทุกอย่าง  มันเปลี่ยนไปแล้ว 

 แล้วตอนนี้ก็จบมัธยมศึกษาปีที่ 6 ฉันเลือกเรียนมหาวิทยาลัยที่ฉันตั้งใจจะเข้าศึกษา 

                   พี่หนึ่งและฉัน  ยังโดนฟ้าดินกลั่นแกล้งไม่เลิกรา  เราทั้งคู่ได้เลือกเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยเดียวกัน  คณะเดียวกัน  คือ  คณะดุริยางคศิลป์  เอกดนตรีสากล
                   ฉันคิดว่าจะต้องตัดใจจากพี่เค้าให้ได้ และเมื่อย้ายมาที่ใหม่ อดีตมันคงจางหายไปเอง 
                  ฉันเข้ามาเรียนที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้พร้อมกับพร้อมกับต๊อบและเช่นเดียวกัน พี่หนึ่งก็เข้ามาเรียนที่นี่  พร้อมกับเพื่อนที่สามารถเรียกได้เต็มปากว่าเค้าทั้งคู่เป็นแฟนกัน  คือพี่กิ๊ฟ  แต่ฉันคิดว่าพี่กิ๊ฟก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมากกับความรักของเค้าและพี่หนึ่ง  เพราะพี่กิ๊ฟก็รู้เรื่องของพี่หนึ่งและฉัน  พี่กิ๊ฟเตรียมใจไว้เสมอ ถ้าถึงวันต้องจากกับพี่หนึ่ง  ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอันใดก็ตาม ... พี่กิ๊ฟยินดีเสมอ 
                 ฉันเดาได้ว่า  พี่กิ๊ฟก็อยากจะแทนที่ฉัน  แต่ก็ด้วยความเป็นคนดี  ก็อยากจะให้เรื่องของเค้ากับพี่หนึ่งค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป  และถ้าในวันใดที่พี่หนึ่งจำเรื่องราวทั้งหมดได้  เค้าก็คงเต็มใจเดินออกไปจากชีวิตพี่หนึ่งทันที  ฉันเชื่ออย่างนั้น 
                  และฉันก็เล่าเรื่องของฉันกับพี่หนึ่งให้ต๊อบฟัง  และพูดกับต๊อบเสมอว่า ต๊อบกับหวาน เราเป็นได้แค่เพื่อนกันเท่านั้นนะ ต๊อบเหมือนไม่ยินดี  เพราะต๊อบก็ชอบฉัน ฉันเชื่อในสิ่งที่ฉันรู้สึกได้ 

 นี่ก็เป็น  ปีสี่แล้ว  ปีสุดท้าย ฉันคงไม่มีโอกาสบอกรักเค้าใช่ไหม 

                   พี่กิ๊ฟและพี่หนึ่งคบหากันมาก็นาน  แต่พี่กิ๊ฟก็เป็นคนที่ไม่เร่งรีบและพูดน้อย  มันเลยทำให้พี่ทั้งสองคน  ผูกพันธ์กันก็จริง  แต่เหมือนกับว่าในลักษณะที่เป็นเพื่อนมากกว่าเป็นแฟน แต่ทั้งคู่ก็ต่างเชื่อว่า ความรู้สึกที่มีให้กันเล็กๆ น้อยๆ เหมือนเพื่อน  มันคือความรักฉันชู้สาว ไม่ใช่ฉันเพื่อน 
ส่วนต๊อบและฉันก็คงไม่มีอะไรเกินเลย  ยกเว้นแต่ต๊อบที่รบเร้าอยากจะให้พ่อจัดงานแต่งงานของฉันกับเค้า  โดยไม่สนว่าฉันจะยินยอมหรือไม่  และทั้งทางฝ่ายผู้ใหญ่ก็เห็นพ้องต้องกัน  แต่ ฉันจะไม่รักใครอีกแล้ว  นอกจากพี่หนึ่งเท่านั้น 

 เหลืออีกเดือนเดียวเท่านั้น  ที่เราจะเรียนจบ และฉันจะต้องแต่งงาน  ในอีกไม่ช้า 
                วันหนึ่ง  ที่หน้าอาคารเรียน  ตอนเย็น  เย็นมากแล้ว  ต๊อบกำลังจะพาฉันกลับบ้าน  ฉันเห็นพี่หนึ่งกำลังหยิบกีตาร์ขึ้นมา  มันเป็นกีตาร์ตัวเดียวกับที่พี่หนึ่งใช้เล่นและร้องเพลงให้ฉันฟังในวันนั้น  พี่หนึ่งจะเล่นกีตาร์ให้พี่กิ๊ฟฟังแล้วหรอ พี่หนึ่งตายจากฉันไปแล้วจริงๆหรอ ฉันไม่อยากจะเชื่อ 
และเมื่อฉันเดินเข้ามาใกล้ ฉันเห็นหน้าพี่หนึ่งเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่างออกแล้วก็ ปวดศีรษะอย่างรุนแรง พี่หนึ่งต้องจำอะไรได้แล้วแน่ๆ ฉันเชื่อ และฉันก็วิ่งเข้าไปดูอาการของพี่เค้า  จากนั้นกีตาร์ก็หล่นลงพื้น  แล้วไม่สามารถใช้ได้อีก  เพราะถึงกับแตก  ใช้ไม่ได้อีก ไม่มีผู้หญิงคนใดที่จะได้ฟังพี่หนึ่งเล่นกีตาร์ตัวนั้นอีกแล้ว จะเป็นเพียงฉันคนเดียวที่ได้ฟัง
หนึ่ง  หนึ่ง  หนึ่ง  หนึ่งเป็นอะไรหน่ะ  หนึ่งบอกกิ๊ฟสิ  พี่กิ๊ฟถามพร้อมกับใช้มือจับแขนของพี่หนึ่งพร้อมกับเสียงถามสั่นๆ  และใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตา  ที่กลัวว่าพี่หนึ่งจะจากไป 
                 โอ๊ย !!! ปวดหัวมากเลยหน่ะกิ๊ฟ   พี่หนึ่งพูดพร้อมกับเงยหน้ามองพี่กิ๊ฟ  แล้วก็สลบไป 
                 ฉันรีบประคองตัวพี่หนึ่งขึ้นมาแล้วก็ปฐมพยาบาลในเบื้องต้น  พี่กิ๊ฟและต๊อบ  ต่างยืนมองฉันด้วยสีหน้าไม่พอใจ(ต๊อบ) และใบหน้าที่นิ่งเฉย (พี่กิ๊ฟ)
ฉันบอกให้ต๊อบช่วยฉันประคองพี่หนึ่งไปห้องพยาบาล  แล้วก็ให้พาพี่กิ๊ฟไปส่งที่บ้าน 

 พี่หนึ่งฟื้นขึ้นมาแล้ว ฉันดีใจมาก   

                 ตลอดเวลาที่พี่หนึ่งหลับตา  ฉันรู้สึกเลยว่าการที่ต้องมานั่งเฝ้าคนที่ตัวเองรักให้ฟื้นขึ้นมาอย่างไม่มีกำหนดเวลาว่านานแค่ไหน  มันรู้สึกอ้างว้างยังไง  ตอนนี้ฉันคงเป็นพี่หนึ่ง  ที่เคยนั่งเฝ้าฉันเมื่อตอนที่ฉันโดนทำร้ายในวันนั้น  ที่รอให้ฉันฟื้นขึ้นมาไวๆ
                 พี่หนึ่ง พี่หนึ่ง พี่หนึ่งนี่หวานนะ  หวานไงพี่หนึ่ง   พี่หนึ่งกำลังค่อยๆลืมตาขึ้น แต่หวานดีใจมากพูดพร้อมกับจับมือพี่หนึ่งไว้แน่น
                 ครับ  หวาน หวาน หวาน หวาน . พี่หนึ่งเรียกชื่อฉันซ้ำๆแล้วก็มองมาที่หน้าฉัน ด้วยสายตาอบอุ่น  อย่างที่ฉันเคยได้รับ  เมื่อตอนก่อนจบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย 
                  กี่โมงแล้วเนี่ย แล้วเราหน่ะจะกลับบ้านยังไงพี่ไปส่งมั้ย คำถาม  คำพูดของพี่หนึ่ง เหมือนคนเดิม พี่หนึ่งเริ่มจะเหมือนคนเก่าแล้ว  พี่หนึ่งจะกลับมาแล้ว .ใช่มั้ย !!...
                  เกือบทุ่มนึงแล้วค่ะ ไปส่งก็ดีค่ะ  ฉันรีบตอบ
                  ไป  งั้นไป  เดี๋ยวพี่ไปส่ง  พี่หนึ่งตอบ
                   จากนั้น  พี่หนึ่งก็ลุกขึ้นจากเตียงนอนพัก  แล้วก็เดินไปพร้อมฉัน 
                   ทันใดนั้นเอง ก็มีรถขายน้ำอัดลม  ฉันเลยซื้อให้พี่หนึ่งทานบ้าง  เพื่อหวังว่าพี่เค้าจะจำอะไรได้มากขึ้นกว่านี้ 
                   ขณะที่ฉันกำลังส่งถุงน้ำอัดลมให้พี่หนึ่งก็มีพวกนักเรียนตีกัน  ยิงปืนขึ้น ฉันเอาตัวของฉันรับกระสุนที่กำลังจะพุ่งมาหาคนรักของฉัน แล้วฉันก็ทรุดตัวลง  ลงที่อ้อมกอดของพี่หนึ่งอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ฉันอาจจะหลับอยู่ในอ้อมกอดของเค้านานสักนิด 
                     ใครจะไปเชื่อหล่ะ  ว่าเหตุการณ์นี้ มันทำให้ความทรงจำของใครบางคนกลับมาได้ทั้งหมด พี่หนึ่งเรียกชื่อฉัน   แล้วเรียกฉันว่า 
                     คนดี 
                     คนดีของพี่  อย่าทิ้งพี่ไปนะ  พี่จำเรื่องของเราได้แล้ว หวาน หวาน.  ฉันดีใจมาก ฉันยิ้มอย่างดีใจมาก 
                      พี่ขอโทษ  พี่รักหวานนะ คนดี ให้โอกาสพี่นะ อย่าทิ้งพี่ไป พี่รักหวานนะ 
                      ทุกประโยค ทุกคำพูดนั้น ฉันจำได้ขึ้นใจ  ติดอยู่ในใจ 
                      พี่หนึ่งรีบพูดทุกอย่าง  เพื่อรั้งหวานไว้ แต่มันคง สายเกินไปเสียแล้ว 
                       ตอนนั้นฉันไม่รู้ว่าจะบรรยายยังไงดีถึงความรู้สึกที่ที่มีอยู่ในขณะนั้น  พี่หนึ่งจำฉันได้แล้ว  พี่หนึ่งกลับมาแล้ว  พี่หนึ่งยังอยู่  พี่หนึ่งยังไม่ทิ้งฉันไปไหน  ฉันรอมาเกือบชีวิต ที่จะให้พี่หนึ่งจำฉันได้ ชีวิตที่สามารถแลกให้ได้กับใครบางคน มันเป็นการรอคอยที่สิ้นสุดลง สิ้นสุดลงแล้ว ฉันหยุดหายใจ และหลับตาลงในอ้อมกอดของเขา ฉันดีใจที่ได้อยู่ในอ้อมกอดเขา ฉันจะอยู่ในความทรงจำของเขาใกล้ๆ อย่างนี้ ตลอดไป

หวานรักพี่หนึ่ง คนเดียว 

อ่านแล้วเม้นต์ให้หน่อยนะ ...				
21 กันยายน 2547 13:56 น.

ค่าของคำว่า...รัก

Love Is...Never Die.

แนน....เอ...กอล์ฟ...ทายสิ..เรื่องเป็นอย่างไร

แนนๆ ใกล้วาเลนไทน์แล้วนะ.... จอย เพื่อนร่วมงานของแนนหันมาคุย ขณะแนนกำลังง่วนอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ที่โต๊ะตัวเอง อืม...วาเลนไทน์อีกแล้วสินะ แนนเงยหน้าขึ้นสบตาจอยพลางยิ้มพูดเบาๆ วาเลนไทน์...14 กุมภาพันธ์ วันที่กุหลาบทั่วโลกบานพร้อมกัน วันที่ความรักงอกงามได้เร็วกว่าทุกวัน และเป็นวันที่กามเทพแผงศร ให้หลายๆคู่ได้สมหวัง 

แต่คงไม่ใช่แนน...เธอคนนี้แน่นอน ท่ามกลางความสับสนวุ่นวาย ความแออัดและตึกสูงในเมืองหลวง...มีหมู่บ้านจัดสรรเล็กๆกำลังก่อตัวขึ้น ก่อตัวขึ้นพร้อมกับความรัก ความรักของเขาและเธอ เธอๆ มาเล่นก่อกองทรายด้วยกันมั้ย เด็กผู้ชายตัวเล็กๆหน้าตามอมแมมกำลังนั่งเล่นบนกองทรายสูงท่วมหัว เธอชื่ออะไร เราชื่อเอ เด็กผู้ชายแนะนำตัวเองก่อน พลางกระโดดลงมาจากกองทราย ฉันชื่อแนน เด็กผู้หญิงแนะนำตัวเองบ้างพลางค่อยๆนั่งลง ทั้งคู่ค่อยๆก่อกองทราย เด็กผู้หญิงวิ่งไปเอาน้ำมารดให้ทรายเปียกชุ่ม เด็กผู้ชายค่อยๆเอาเศษไม้เกลี่ยให้ดินทรายที่เปียกค่อยๆก่อตัวเป็นรูปเป็นร่าง จนได้เค้าโครงของปราสาททรายที่ต้องการ เอ เดี๋ยวแนนประดับปราสาททรายเองนะ เด็กผู้หญิงวิ่งมาพร้อมกับก้อนหินสีสวยในกำมือ วางลงข้างๆปราสาททรายที่กำลังจะอวดโฉมออกมาเป็นรูปเป็นร่าง แนนๆ ตรงนี้เป็นห้องของแนนนะ ห้องของเจ้าหญิงงัย ส่วนตรงนี้เป็นห้องของเอ......อันนี้เป็นห้องประชุมนะ เอพูดพลางชี้ไปเรื่อยๆบนปราสาททราย.....กองทรายแห่งความฝัน เอๆ ต้องทำสวนดอกไม้ตรงนี้ด้วย เจ้าหญิงต้องมีสวนดอกไม้นะ แนนพูดแย้งขึ้นพลางชี้ไปตรงด้านหน้าปราสาททราย แนนอยากได้สวนอะไร....อยากได้ดอกไม้อะไร เอพูด เงยหน้าขึ้นมองหน้าแนนอย่างใจจดใจจ่อ เอาดอกอะไรดี...เอ ช่วยแนนคิดหน่อยสิ แนนมองหน้าเอด้วยแววตาใสซื่อ เด็กตัวเล็กๆสองคนกำลังสวมบทเจ้าหญิงและเจ้าชายกันอยู่ อืม...เจ้าหญิงต้องเหมาะกับดอกกุหลาบนะ เอพูดพลางทำท่าคิด ตกลงๆ สวนดอกกุหลาบนะ   เราจะทำสวนดอกกุหลาบที่ลานหน้าปราสาทของเรา   แนนพูดพลางยิ้ม ค่อยๆเกลี่ยทรายให้เรียบเพื่อทำเป็นลาน....ทั้งคู่สร้างปราสาททรายแห่งความฝันของพวกเขาอยู่นาน....นานจนกระทั่ง เอ ไปได้แล้ว พ่อเสร็จงานแล้วลูก เจ้าของโครงการบ้านจัดสรรเดินมาสะกิดลูกชายตัวเองเบาๆ พ่อๆ ให้เอเล่นกันแนนอีกแป๊บนะ ลูกชายออดอ้อนพ่อของตัวเอง หน่า ไปได้แล้ว เดี๋ยววันหลังมาเล่นใหม่ก็ได้นี่ พ่อของเขานั่งยองลง อธิบายให้ลูกชายฟังพลางลูบหัวเบาๆ ตกลงครับ เดี๋ยวให้เอบอกแนนก่อนนะ เด็กผู้ชายตัวมอมแมมพูดพลางวิ่งกลับหลังไปหาเพื่อนของเขา แนน เดี๋ยวพรุ่งนี้เอมาหานะ พรุ่งนี้เอจะเอาดอกกุหลาบมา มาทำสวนกุหลาบให้แนนนะ เอพูดพลางชี้นิ้วลงตรงลานหน้าปราสาททราย ตกลงๆ พรุ่งนี้เจอกันนะ แนนยิ้มพูดพลางพยักหน้า

 เด็กสองคนเล่นกันช่างดูน่ารักเสียนี่กระไร ทุกวัน เอและแนนจะมานั่งก่อปราสาททรายด้วยกัน ก่อสร้างความหวังบนมิตรภาพและความรัก ระหว่างลูกชายเจ้าของโครงการบ้านจัดสรรและลูกสาวนายช่างใหญ่   แนนๆ เมื่อวานแม่เราสอนให้เราเขียนหนังสือด้วยแหละ เด็กผู้ชายเสื้อผ้ามอมแมมคลุกฝุ่นและทรายเปียกเงยหน้าขึ้นมองเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆที่วิ่งเข้ามา ไหนๆ แม่ของเอสอนเขียนคำว่าอะไร แนนถามด้วยสีหน้าตื่นเต้น แม่เอสอนเขียนหลายคำ แต่เอจำได้คำเดียว เอพูดพลางทำเสียงเศร้าๆ เอคงอยากจำทุกคำมาเขียนให้แนนดู เอจำคำไหนได้ เขียนให้แนนดูหน่อยสิ แนนพูด เอค่อยๆก้มลงข้างๆกองทราย หยิบเศษไม้เล็กๆปักลงบนผืนทรายที่เพิ่งผ่านฝนเมื่อคืนแล้วตวัดเป็นจังหวะเพียงชั่วครู่ ปรากฎเป็นตัวอักขระลายเส้นบิดพลิ้ว คำว่า รัก ปรากฎบนผืนทรายราบเรียบที่เกาะตัวเหนียวด้วยหยดน้ำ เด็กตัวเล็กๆสองคนยืนมองด้วยความตื่นเต้น อ่านว่าอะไร เอ แนนพูดด้วยสีหน้าตื่นเต้นและแปลกใจ อ่านว่า รัก เอพูดกระซิบข้างหูแนนเบาๆ เหรอ อ่านว่ารักเหรอ....สอนแนนเขียนหน่อยสิ นะๆๆๆ แนนพูดพลางเกาะแขนออดอ้อนเอ มานี่ๆ เอจะสอน เอพูดพลางหยิบเศษไม้เล็กๆให้แนนจับไว้ มือเอและมือแนนจับประสานกัน ตวัดบนกองทรายให้เกิดเป็นอักขระบิดพริ้ว นี่ไง แนนเขียนได้แล้ว ดีใจจังเลย แนนพูดพลางหันหลังกลับไปกอดเอด้วยความดีใจ มันแปลว่าอะไรเหรอ เอ แนนยังคงสงสัยไม่หายในความหมายของมัน เอก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่แม่บอกว่ามันมีความหมายมากนะ มากจนอธิบายไม่ได้ ใช่สิ...ความหมายมันคงมากมายเกินกว่าเด็กห้าขวบจะรู้ หรือแม้แต่คนบางคนใช้เวลาทั้งชีวิต ก็ไม่อาจรู้ว่าคำว่ารักคืออะไร.... สักวัน เราจะรู้ความหมายมัน แม่เอบอก เอพูดพลางหันไปมองแนน เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆที่ยืนข้างๆตน อืม สักวันนะ แนนพูดพลางหันมายิ้มให้กับเอ ใช่ สักวันแนนและเอคงรู้ความหมายของมัน...... 

โอ๊ย...เจ็บ เด็กผู้หญิงผมเปียพูดขึ้นพลางจับผมเปียของตัวเองด้วยสีหน้าเซ็งๆ เธอโดนเพื่อนแกล้งดึงเปียผมของเธอประจำ ใครดึงผมเปียแนน เด็กผู้ชายนั่งข้างๆเธอหันขวับกลับไปมองแทบจะพร้อมกันกับเจ้าของผมเปีย เห็นเด็กผู้ชายวัยเดียวกันสามคนนั่งอยู่ข้างหลังหัวเราะกันคิกคักพลางชี้นิ้วมาที่แนน ทำไมๆ ข้าดึงเอง จะทำไม หนึ่งในเด็กสามคนพูดพลางชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง แกล้งผู้หญิง หน้าตัวเมีย เอยืนขึ้นชี้หน้าด่า แล้วจะทำไม เด็กทั้งสามกรูกันมายืนหน้าเอ ถีบโต๊ะเรียนกระจัดกระจายคนละทิศคนละทาง ไม่เอาเอ อย่าไปยุ่งกับพวกนั้น แนนพูดพลางเกาะแขนเอไว้แน่น เอเอามือจับแขนแนนออกจากตัวทันที... ปั้ง...หนึ่งหมัดปล่อยออกไป คล้ายเป็นการประกาศสงครามของคนสองกลุ่ม ทั้งสามคนกรูเข้ามารุมเอคล้ายหมาป่ากำลังรุมขยุ้มเหยื่อ โต๊ะเรียนที่กระจัดกระจาย ข้าวของทั้งของเอและแนนตกกระจายเกลื่อนกลาดคนละทิศคนละทาง 

หยุด!! เสียงหนึ่งดังมาจากด้านหลัง...มีอำนาจมากพอจะทำให้ทั้งสี่คนหยุดการตะลุมบอนกัน พวกเธอทำอะไรกัน อันธพาลกันใหญ่แล้วนะ ครูประจำชั้นเข้ามาห้ามทัพหมาป่าขยุ้มเหยื่อ แม้จะห้ามทัพได้ แต่ก็ได้ปรากฎเลือดไหลซิบๆที่คิ้วและโหนกแก้มของเอ เอ เจ็บมั้ย แนนวิ่งเข้ามาทันทีที่ครูประจำชั้นเดินออกไป ไม่เจ็บหรอก เอพูดพลางก้มหน้าหลบสายตาแนน ไม่เจ็บอะไร เลือดไหลใหญ่แล้ว ไปห้องพยาบาลนะ แนนจะทำแผลให้ แนนพูดพลางดึงตัวเอออกจากห้องเรียนไป เลือดไหลเป็นทางลงมาจากคิ้วและโหนกแก้มเปรอะเปื้อนเสื้อนักเรียนสีขาวของเอ โอ๊ย...เจ็บ อย่าจับสิ เอพูดโพล่งขึ้นขณะที่แนนกำลังกดดูความลึกของบาดแผล...แต่แนนกลับยิ้มออกโอ๊ยแสบเอโอดครวญด้วยความเจ็บปวดทันที เมื่อแนนค่อยๆกดสำลีชุบแอลกอฮอลงบนแผลของเอ แสบก็ทนสิ อยากหาเรื่องเค้านี่นา แนนพูดพลางยิ้ม ค่อยๆเช็ดแผลบนใบหน้าของเอช้าๆอย่างระมัดระวัง ทุกครั้งที่มีคนแกล้งแนน เอจะยืดอกปกป้องแนนเสมอ แม้จะต้องเจ็บตัวหรือตกอยู่ในภาวะเป็นรองก็ตามที.... 

 แนนๆ แฮปปี้วาเลนไทน์นะ ชายหนุ่มวัยรุ่นแต่งตัวภูมิฐานพูดห้วนๆพลางยืนกุหลาบแดงให้กับมือหญิงสาว อีตาบ๊อง อย่ามาทำหวานใส่ฉันหน่า แนนพูดกวนๆพลางยิ้ม เอได้แต่ยืนม้วนด้วยความอาย อ้าว ก็วันนี้วันวาเลนไทน์ ทำหวานให้เจ้าหญิงของตัวเองสักหน่อยจะเป็นอะไรไป เอพูดพลางยิ้ม ทำไมหนุ่มวัยรุ่นเวลาอายนี่ดูตลกดีแท้ ทั้งมือทั้งแขนแทบจะไม่มีที่เก็บ สงสัยถ้าแทรกแผ่นดินหนีได้คงหนีหายไปแล้ว หวานกับเค้าก็เป็นเหรอ เดี๋ยวนี้พัฒนาขึ้นนะ แนนพูดพลางยื่นมือไปหยิกจมูกเอด้วยความเขิน เอยังคงพยายามสำรวมอาการเขินอยู่ เอรักแนนนะ เอพูดพลางจับมือแนนขึ้นมาเขียนรูปหัวใจไว้ที่ฝ่ามือ ตอนนี้แนนเริ่มหน้าแดงขึ้นบ้างแล้ว แต่ยังพยายามกลบเกลื่อนสีหน้าตัวเอง เหรอ....เขียนคำว่ารักตรงนี้ ดูไม่ซึ้งเลย แนนพยายามบ่ายเบี่ยง ไม่เลิกแหย่เอ เดี๋ยวสักวัน เอจะเขียนไว้ตรงหัวใจแนนเลยนะ เอพูดประหม่า มองหน้าแนนพลางเอื้อมมือดึงตัวแนนเข้ามาโอบกอดไว้แน่น....สักวัน เอจะเขียนคำว่ารักไว้ในหัวใจแนนเลย

..... ใต้ต้นไม้ใหญ่ บรรยากาศร่มรื่น มีโต๊ะหินอ่อนวางเรียงรายเป็นแนว มีนักศึกษาจับกลุ่ม บ้างคุยกัน บ้างอ่านหนังสือ บ้างหยอกล้อกินขนมกัน... เอ เย็นนี้แนนไปทำวิทยานิพนธ์กับเพื่อนนะ แนนพูดพลางเก็บหนังสือ ไปทำวิทยานิพนธ์กับใคร เอเงยหน้าขึ้นมองแนนทันที ไปกับกิ๊ฟกับฝนหนะ นะๆๆๆ แนนพูดพลางเดินไปนั่งข้างๆเอ เขย่าแขนเหมือนเด็กอ้อนวอนผู้ใหญ่ ให้เอไปส่งมั้ย เอว่างนะ เอพูดพลางยิ้ม ลูบผมแนนเบาๆ ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวฝนเอารถมา แนนพูดพลางซบหน้าลงบนบ่าของเอ นี่ แล้วกินข้าวเสร็จแล้วอย่าลืมกินยาล่ะ เข้าใจมั้ย กลับถึงบ้านก็อย่าลืมโทรมาบอกด้วย เอพูดพลางจ้องหน้าแนนด้วยสีหน้าจริงจัง ค่ะ หัวหน้า สั่งจริงๆเลย แนนพูดพลางยิ้ม เอามือหยิกจมูกเอด้วยความเขิน กิ๊ฟๆ แฟนแกเป็นงัยบ้าง ฝนเอ่ยขึ้นท่ามกลางความเงียบภายในรถ ขณะที่ตนอยู่หลังพวงมาลัย ปวดหัวสุดๆ เจ้าชู้เป็นบ้าเลย กิ๊ฟพูดปัดๆคล้ายกับไม่ค่อยพอใจในแฟนตัวเองนัก ทำไมไม่เลิกๆไปสิ จะได้ไม่กลุ้ม ฝนเสนอความเห็น มองหน้ากิ๊ฟผ่านกระจกมองหลัง หน่า....ให้โอกาสสักครั้ง กิ๊ฟพูดพลางซบหน้าลงที่กระจกหันหน้ามองออกนอกรถด้วยอาการเอือมระอา โอกาสสักครั้ง รอบที่ล้าน เสียงหัวเราะดังขึ้นเกือบพร้อมกันทั้งรถ แล้วแนนล่ะ แหม...เจ้าชายเธอเอาใจเธอดีนะ ฝนพูดขึ้นพลางหันไปมองแนนซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ โอ๊ย รายนั้นไม่รู้กี่ปีแล้ว ยังจับไม่ได้สักทีว่ามีกิ๊กเก็บไว้ที่ไหน แนนพูดยิ้มพลางหันไปมองหน้าฝน แปลได้สองอย่าง...ถ้าแฟนเธอไม่รักเธอคนเดียว เค้าก็เก่งมากที่หลอกเธอมานานหลายปี เสียงหัวเราะดังขึ้นแทบจะพร้อมกันทั่วรถ 

เอี๊ยยดดด..... เสียงเบรกลากล้อดังยาวจากด้านข้างตัวรถ คนทั้งรถหันไปมองแทบจะพร้อมกัน รถบรรทุกฝ่าไฟแดงพุ่งเข้าชนรถเก๋งของฝนอย่างจัง แรงอัดทำให้กระจกทุกบานแตกละเอียด ห้องโดยสารด้านหน้าฝั่งคนนั่งยุบเข้ามา อย่างเห็นได้ชัด.... ร่างไร้สติของแนนยังคงสงบนิ่งติดอยู่ในรถเก๋งขนาดสองตอน มัจจุราชอาจฉุดวิญญาณเธอออกจากร่างได้ทุกเมื่อ

>แนนๆ เสียงกระซิบเบาๆดังข้างหู ทำให้แนนค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้นมา อยู่ไหน....โอ๊ย เจ็บ แนนค่อยๆอ้าปากพูด แต่ไม่ชัดนัก เฝือกขาวถูกแต่งแต้มถามร่างกายของแนนคล้ายกับเป็นเครื่องประดับ ใจเย็นๆ แนน เธอสลบไปสองเดือน .....สองเดือน สองเดือน แนนแทบไม่เชื่อหูตัวเอง. ...ฝนค่อยๆอธิบายเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้แนนฟัง..... แล้ว สรุปว่าฉันเจ็บคนเดียวใช่มั้ย แนนพยายามพูด เสียงพูดของแนนแทบจะไม่ได้ยิน อืม... ฝนพยักหน้าเบาๆ กำมือแนนไว้นิ่งๆ เอ ล่ะ เออยู่ไหน แนนเพิ่งนึกขึ้นได้ แฟนเธออยู่ไหน เอมาหาเธอครั้งเดียว วันแรกที่ชน แล้วหายไปเลย ฝนพูดพลางลูบหัวแนนเบาๆ ไม่เป็นไรนะ ไม่มีเอ เราก็อยู่กันได้ จริงมั้ยเพื่อน ฝนพยายามพูดปลอบใจแนน อืม... น้ำตาค่อยๆกลั่นตัวหยดลงมาจากนัยน์ตาของแนน คำพูดของฝนตอนคุยกันในรถคงจะเป็นความจริง....เขาเก่งมากจริงๆ เก่งมากที่หลอกแนนมาหลายปี เก่งมากที่หลอกว่ามีแนนคนเดียว.....ทำไมผู้ชายทั้งโลกถึงนิสัยเหมือนกันหมดเลย เสียดายเวลาที่อยู่ด้วยกัน เสียดายความรักที่มอบให้.....เสียดาย เสียดาย เสียดาย 

คุณแนน ค่อยๆก้าวนะครับ ช้าๆ บุรุษพยาบาลพยายามพยุงแนนขึ้นเดิน แนนยังคงไม่หายเจ็บดี ยังคงต้องทำการกายภาพบำบัดอีก ระวังล้มนะครับ จับผมไว้ดีๆ บุรุษพยาบาลเดินช้าๆเพื่อให้แนนเกาะแขนเดินตามช้าๆ.....ทำไมบุรุษพยาบาลถึงไม่ใช่เอนะ....ทำไม ทำไม ทำไม คุณบุรุษพยาบาลค่ะ นี่ฉันสลบไปนานถึงขั้นต้องกายภาพบำบัดกันเลยเหรอ แนนถามด้วยความสงสัย โห คุณไม่ได้เดินสามเดือนนี่ มันนานนะครับ บุรุษพยาบาลตอบด้วยความสุภาพ จะว่าอะไรมั้ยค่ะ ถ้าจะถามชื่อเล่น คือถ้าเรียกว่าคุณบุรุษพยาบาล เกรงว่ามันจะยาวไป แนนพูดพลางยิ้ม ผมชื่อ กอล์ฟ ครับ 
บุรุษพยาบาลตอบด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม น้ำเสียงเรียบๆ นับจากวันนั้น แนนและกอล์ฟเริ่มสนิทกัน ทุกเย็นกอล์ฟจะพาแนนออกไปทำกายภาพบำบัด ไม่นานแนนก็สามารถเดินเองได้และออกจากโรงพยาบาลในที่สุด.... 

คุณแนนค่ะ น้ำดื่มค่ะ พยาบาลชุดขาวเดินถือแก้วน้ำมาวางข้างๆเธอ ขณะเธอนั่งรอกอล์ฟที่ล็อบบี้ของโรงพยาบาล เธอได้แต่พยักหน้าและยิ้มให้ด้วยไมตรี กอล์ฟๆ ไปกินข้าวกัน แนนพูดทันทีที่เห็นกอล์ฟเดินออกมา มีพยาบาลหลายคนยกมือไหว้แนน แนนก็ได้แต่รับไหว้ด้วยสีหน้างงเล็กน้อย ไปสิครับ กอล์ฟพูดพลางค้อมตัวลงผายมือไปที่ห้องอาหารของทางโรงพยาบาล  ดูกอล์ฟค่อนข้างสุภาพและให้เกียรติแนนมาก....มากจนน่าแปลกใจ ท่าทางโรงพยาบาลนี้จะเข้มงวดเรื่องมารยาทกับพยาบาลมาก แนนและกอล์ฟสนิทกันขึ้นเรื่อยๆ....จนบางครั้งแนนก็อยากให้กอล์ฟมาแทนที่เอ บ่อยครั้งที่แนนคิดถึงเอ เอก็ไม่โทรมา บ่อยครั้งที่แนนอยากคุยกับเอ เอก็ไม่ติดต่อมา บ่อยครั้งที่แนนนั่งเหงา อยากให้เอนั่งเป็นเพื่อน แต่เอก็ไม่ปรากฎตัว เอ....เอ....เอ เอหายไปไหน ไหนล่ะ หัวใจที่เอบอกว่าจะให้แนน ไหนล่ะ หัวใจที่เอเคยเขียนไว้บนฝ่ามือแนน มันคงหายไปแล้ว....หายไปพร้อมกับเอ หายไปพร้อมกับผู้ชายโกหก....ผู้ชายเจ้าชู้ ทำไมผู้ชายเหมือนกันทั้งโลก.....ทำไม ทำไม ทำไม ใกล้วาเลนไทน์เข้าไปทุกที ปีนี้ไม่เหมือนกับปีก่อนๆ ไม่มีเอคอยให้ดอกกุหลาบแดง ไม่มีอีตาบ๊องทำท่าเขินอายให้ดู 

แนนๆ วาเลนไทน์ปีนี้ ว่างหรือเปล่าครับ เสียงกอล์ฟดังตามสายโทรศัพท์ ว่างค่ะ ทำไมค่ะ แนนตอบด้วยน้ำเสียงเรียบๆ พอดีผมมีของจะให้แนนนะครับ เดี๋ยววันวาเลนไทน์บ่ายสามโมงเจอกันที่สยามนะครับ กอล์ฟเสนอความเห็น ตกลงค่ะ   แนนพูดพลางกดวางสาย สีหน้าแววตาเปี่ยมด้วยความหวัง....หวังว่ากอล์ฟคงจะมาแทนที่เอได้เสียที วันวาเลนไทน์ วันที่กุหลาบแดงบานสะพรั่งพร้อมกันทั่วโลก แม้ในลานที่สยามหรือที่วัยรุ่นเรียกกันสั้นๆว่า เซนเตอร์พอยต์ ยังถูกละเลงด้วยดอกกุหลาบสีแดง...นักเรียน นักศึกษาต่างถือกุหลาบแดงในมือเดินกันขวักไขว่ทั่วลาน ขอโทษค่ะ มาสาย แนนพูดพลางยิ้มก่อนดึงเก้าอี้ออกมานั่ง ไม่เป็นอะไรครับ กอล์ฟพูดพลางยิ้ม อืม...ว่าแต่มีอะไรจะให้แนนเหรอ แนนพูดพลางจ้องตากอล์ฟ...หากกอล์ฟมีพิรุธ แนนจะจับได้ทันที อันนี้ของแนนนะครับ ดอกกุหลาบสีแดงถูกดึงออกมาจากถุงอย่างช้าๆ วางลงบนโต๊ะอย่างนิ่มนวล หมายความว่ายังไงค่ะ จะขอหัวใจแนนเหรอ แนนพูดติดตลกพลางยิ้ม เธอคิดว่าเธออ่านเกมส์ออกหมด ผมคงไม่กล้าขอหัวใจแนนหรอก กอล์ฟพูดพลางยิ้ม 
แต่กลับทำให้แนนงง อ้าว...แล้วกุหลาบสีแดงนี่... ไม่ทันแนนจะพูดจบ กอล์ฟต่อคำพูดของเขาทันที 

ผมไม่กล้าขอหัวใจแนนหรอกครับ เพราะหัวใจของแนนไม่ใช่ของแนน 

ปั้ง...เหมือนมีแผ่นเหล็กหนาหลายฟุตทุบลงกลางศีรษะ แนนเริ่มงงกับความหมายขึ้นไปทุกที...มันแปลว่าอะไร??? 

หัวใจของคุณ คือเจ้าของกุหลาบดอกนี้ กอล์ฟพูดต่อ....แนนทำหน้างงๆไม่เข้าใจความหมายแม้แต่นิดเดียว ตอนคุณประสบอุบัติเหตุเข้ามาที่โรงพยาบาล คุณเสียเลือดมาก...หัวใจคุณเต้นอ่อนจนแทบจะล้มเหลว พวกผมและหมอพยายามเยียวยาจนถึงที่สุด กอล์ฟเริ่มอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้น.....เรื่องที่แนนไม่เคยรู้ มีผู้ชายคนนึง วิ่งเข้ามาบอกว่าเป็นแฟนคุณ เขาบอกให้ช่วยคุณให้ได้ เสียเงินเท่าไหร่ไม่ว่า...เขายอมจ่ายไม่อั้น ไม่ว่าทางเราจะขออะไร เขาจะจัดหาให้หมด.....คำพูดของเขาทำให้ผมประทับใจมาก กอล์ฟหยุดพูดชั่วครู่...แนนรู้ทันทีว่ากอล์ฟหมายถึงเอ ผมยอมแลกทุกอย่างกับชีวิตเธอ - เขายอมแลกทุกอย่างกับชีวิตคุณ กอล์ฟพูดพลางจ้องหน้าแนนนิ่ง แต่แนนยังคงทำสีหน้างงอยู่ เขายอมทุกอย่างจริงๆ ทีแรกหมอบอกว่าทางเราหาเลือดไม่พอให้คุณ เขาวิ่งตามหาเลือดให้คุณไปทั่วทุกโรงพยาบาล แต่กลับไม่พบว่ามีเลือดถุงไหนที่ตรงกับเลือดคุณ กอล์ฟพูดด้วยน้ำเสียงปกติ สายตามองไร้จุดหมาย สุดท้ายเราตรวจเลือดของเขา พบว่าตรงกับของคุณพอดี เขาบอกให้ทางเราเอาไป เอาไปให้คุณ....ไม่ต้องห่วงว่าเขาจะเป็นอย่างไร ขอแค่คุณปลอดภัยก็พอ 
กอล์ฟหยุดพูดชั่วครู่พยายามกลั้นน้ำตา....แต่นัยน์ตาแนนเริ่มเจิ่งนองไปด้วยน้ำใสๆ ต่อมา...ตอนพวกผมถ่ายเลือดให้คุณ หัวใจคุณเต้นอ่อนลงเรื่อยๆ จนหมอต้องเดินออกไปบอกให้เขาทำใจ.....ทำใจว่าเขาจะต้องเสียคุณ กอล์ฟพยายามเล่าต่อไปเรื่อยๆด้วยน้ำเสียงปกติ นัยน์ตาแนนเริ่มแดงก่ำ เขาถามหมอว่า เธอต้องการอะไร

..... ใช่ เอถามหมอว่าแนนต้องการอะไร เธอต้องการ หัวใจครับ หัวใจเธอเต้นไม่ปกติ การสูบฉีดล้มเหลว เราหาเลือดให้เธอช้าไป เพราะฉะนั้นสิ่งที่เธอต้องการคือ หัวใจ หมอหวังว่าเอคงจะเลิกหวังในตัวแนน...หยุดเล่นเกมกับมัจจุราชเสียที ตกลง ผมหาให้  เขาตอบสั้นๆโดยไม่ลังเลเลย ตกลงผมหาให้....เอจะหาหัวใจให้แนน ทั้งๆที่รู้ว่าคงเป็นไปไม่ได้...เขาไม่ลังเลแม้แต่วินาทีเดียวเพื่อจะทำให้เธอ 

คุณรู้มั้ย ว่าคำพูดของเขาทำให้ผมและหมออึ้งกันไปหมด โรงพยาบาลยังหาหัวใจให้คุณไม่ได้ เขาจะมีปัญญาที่ไหนหาหัวใจให้คุณได้ กอล์ฟพูดพลางพยายามหลบสายตาแนน....ตอนนี้กอล์ฟเริ่มกลั้นน้ำตาไม่อยู่แล้ว เขาถามเลขบัญชีของโรงพยาบาลกับหมอ....เขาไม่ได้โอนเงินมาซื้อหัวใจเทียมให้คุณ แต่เขาโอนมาตั้งมูลนิธิการกุศลให้โรงพยาบาล มูลนิธิช่วยเหลือผู้ป่วยด้านหัวใจเทียม นานา คุณดูดีๆ คำว่า แนน และ เอ ถ้าเขียนติดกัน มันคือ นานา นี่คือความปรารถนาสุดท้ายของเขา  เขาอยากให้ตัวเขาเอง เป็นคนสุดท้ายที่ไม่ได้อยู่ กับคนที่เขารัก...เพราะไม่มีหัวใจเทียมสำรอง 

เปี้ยง....แนนโดนสะกิดต่อมความจำเข้าเต็มเปา... เธอเคยเห็นป้ายมูลนิธิขึ้นหราที่โรงพยาบาล แต่เธอไม่เคยเฉลียวใจสักนิด...มิน่า ทำไมหมอและพยาบาลต้องให้เกียรติและ ดูแลเธอดีเสียจนน่าแปลกใจ ทั้งๆที่เธอไม่มีส่วนได้เสียกับโรงพยาบาลแม้แต่บาทเดียว ทันทีที่มีการยืนยันว่าเงินเข้าบัญชีทางโรงพยาบาล เขาก็ยิงตัวตายในห้องน้ำโรงพยาบาลครับ ทิ้งโน้ตไว้ว่า มอบหัวใจให้เธอ - เขามอบหัวใจของเขาให้คุณ ทันทีที่กอล์ฟพูดจบ
แนนปล่อยโฮออกมาเหมือนไม่มีใครอยู่ข้างๆ โต๊ะรอบข้างหันมามองแนนเป็นตาเดียว.... เอคือเจ้าของหัวใจ หัวใจที่อยู่ในร่างของแนน เขายอมแลกทุกอย่างกับคุณจริงๆ กอล์ฟพูดพลางวางของทั้งหมดที่เอ เคยฝากไว้กับทางโรงพยาบาลคืนให้กับแนน มีทั้งเครื่องเล่นเทป ม้วนเทป จดหมาย..... ผมคงไม่กล้าขอหัวใจคุณหรอก หัวใจคุณเป็นของเขา หัวใจเขาเป็นของคุณ ใช่ หัวใจเอเป็นของแนน เป็นของแนนจริงๆ... ตอนนี้หัวใจแนนตายไปเรียบร้อยแล้ว ตายไปพร้อมกับเอ ตายไปพร้อมกับผู้ชาย ที่ยอมทุกอย่างเพื่อเธอ กุหลาบดอกนี้ เขาบอกผมก่อนไปเข้าห้องน้ำว่า...วาเลนไทน์ที่จะถึง รบกวนซื้อกุหลาบสีแดงให้คุณสักดอก ขอแค่ดอกเดียวก็พอ...เป็นคำขอร้องครั้งสุดท้ายของเขา กอล์ฟพูดพลางเช็ดน้ำตา นั่งนิ่งๆสักพักก่อนลุกจากโต๊ะไป.... ทิ้งแนนนั่งนิ่งอยู่เพียงลำพัง เอรักแนนนะ เอรักแนนนะ เอรักแนนนะ คำพูดซ้ำๆดังมาจากเครื่องเล่นเทป เป็นคำพูดเดียวกันที่พูดกันซ้ำ โดยไม่มีการตัดต่อทั้งเทป..... เทป 120 นาทีโดยมีเพลงประกอบเบาๆ แนนค่อยๆคลี่จดหมายออกอ่าน.... จดหมายที่มีเนื้อความเพียงบรรทัดเดียว หัวใจเอ...เขียนคำว่ารักไว้ เขียนให้แนนคนเดียว				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟLove Is...Never Die.
Lovings  Love Is...Never Die. เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟLove Is...Never Die.
Lovings  Love Is...Never Die. เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟLove Is...Never Die.
Lovings  Love Is...Never Die. เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงLove Is...Never Die.