15 กรกฎาคม 2554 01:04 น.
loly
ต่อไปนี้เป็นเรื่องราว การเล่าของจ้อนนะคแต่ขอเกริ่นนิดนึงว่าเมื่อสมัยเรียนมหาวิทยาลัย เขาไม่ค่อยมีเพื่อน ในที่แห่งนี้นัก เลยตัดสินใจจะไปเอ็นท์ใหม่ เพราะคิดว่าสังคมมหาวิทยาลัยเอกชนไม่ดี จริงโดดเรียนมาเต็มๆๆ1เดือน เมื่อไปเรียนก็ออกจากเด๋อนิดๆ
ณ.ตึกใหญ่สีขาวแอร์เย็นเฉียบ จ้อนเดินเข้าไปในห้องเรียน มองหาที่นั่ง โซนที่จะหลบหน้าอาจารย์ผู้สอนได้ก็พอดีเห็นตรงมุมห้องด้านขวา เลยเดินเข้าไป ขอโทษครับตรงนี้มีคนนั่งไหมครับ ชายหนุ่มถาม ไม่มีนะนั่งเลยจ๊ะ เสียงสาวใสๆๆตอบ
จ้อนจึงหย่อนตัวลงจะนั่ง เอ....เราว่าเราไม่เคยเห็นหน้านายนะ นายเรียน คณะนิติหรือเปล่า เสียงสาวคนนั้นถาม จ้อนเลยบอกว่า ใช่เราเรียนนิติอ่านะแต่เราว่าสังคมที่นี่ไม่ดีเลยคิดจะเอ็นท์ใหม่ อ้าวแล้วทำไมวันนี้มาเรียนอ่า หญิงสาวเซ้าซี้ ก็...เบื่อๆๆที่หอลองมาเรียนดู จ้อนตอบแบบเซ็งๆ เออนายเราชื่อเอฟนะเรียนนิติเหมือนกันยินดีที่ได้รู้จัก หญิงสาวแนะนำตนเอง ครับ จ้อนได้แต่พยักหน้ารับ ต่อมาในชั่วโมงอาจารย์ให้ทำแบบทดสอบ แล้วส่ง เอ...คุณภูริชคุณพึ่งมาเข้าวิชากฏหมายแพ่งคาบแรกสิเนี่ยไม่มีงานส่งเลย เอ้ออออครับๆๆๆๆ จ้อนรับ อ้อคงยังปรับตัวไม่ได้สินะ อาจารย์สูงวัยถามด้วยท่าทีเป็นมิตร ครับๆๆๆอาจารย์คืออออว่าๆๆผมไม่ชินกับการเรียนแบบตัวใครตัวมันของที่นี่ผมนึกว่าเราจะมีเป็นซุ้มเป็นคณะแบบพวกจุฬา-ธรรมศาสตร์ ครับ จ้อนยอมรับตามตรง อ้อสงสัยคงดูหนังมากไป จริงผมอยากให้คุณลองเรียนดู1เทอมนะถ้าการอยู่ที่นี่มันsosadมากก็ค่อยเอ็นท์ดีไหม อาจารย์ผุ้สอนพูดแบบมีจิตเมตตา ครับได้ครับจ้อนรับ เดี๋ยวก่อนนะต้องให้คุณหากลุ่มก่อนขาดไปเกือบเดือนหากไม่มีติวเตอร์จะต่อไม่ติด อาจารย์ท่านก็เลยมองหา อาจารย์คะไงให้หนูเป็นติวเตอร์ช่วยเขานะ เอฟเสนอตัว อ้อดีเลยวนาวัลย์ลองช่วยตานี่หน่อยนะผมไม่อยากเสียลูกศิษยืที่ยังไม่ทันเรียนก็หนีเอ็นท์ ค่ะอาจารย์ เอฟรับปาก เมื่อหมดชั่วโมง เรายังไม่รู้ชื่อเล่นนายอ่า เอฟ ถาม เราชื่อจ้อน จ้อนแนะนำตัว เออเอางี้ตอนเย็นนายมาติวที่หน้าหอเรานะมีร้านกาแฟจะได้ทันคนอื่น เอฟบอก ได้ได้ขอบคุณมากนะทำไมเจอกันครั้งแรกเอฟใจดีจัง จ้อนถามก็เมื่อก่อนเราซิ่วมาจากเกษตรเพราะแบบนายอ่าพอดีเห็นนายตอนนี้เลยนึกถึงเมื่อก่อนเลยอยากช่วยไม่งั้นนายจะคิดผิดแบบฉันที่ขอแค่เอ็นท์ให้ติดพอไปเรียนมันไม่ใช่สิ่งที่รัก เอฟพูด อ้อขอบคุณอีกครั้งนะ
นั่นแหล่ะเพชรคือการพบกันครั้งแรกของฉันกับเขา จ้อนเล่าให้ฉันฟัง เอ้อรักในวัยเรียนเลยเหรอ ฉันถามเขา อืมจริงๆๆก็เริ่มที่พบครั้งแรกก็คือตอนเรียนอ่านะจ้อนบอก อืมชักน่าสนใจเรื่องราวของนายแล้วสิ ฉันพูด ก็ดีถ้าเธอยินดีฟังฉันก็จะเล่าแต่ตอนนี้ลมหนาวเริ่มโชยมาหนาวไหม จ้อนถามฉัน หนาวดิฉันตอบ เอ้อกินกาแฟอุ่นๆๆไหมเดี่ยวฉันเดินไปเอามาให้บางทีฉันย้ายมานั่งตรงเธอเลยนะเผื่อจะเธอจะฟัง ต่อ จ้อนบอก โอเคขอบคุณเลยดีจะได้ฟังต่อนะชักน่าสนใจ ฉันตอบ
จบตอนที่2 รอตอนต่อไปนะจ๊ะ
13 กรกฎาคม 2554 00:22 น.
loly
หลังจากที่ฉันลาออกจากเงินที่ทำมาตลอด5ปีและไม่มีวันพัก ช่วง5ปีก่อนนั้นเป็นอะไรที่ฉันทุ่มเทเพื่องาน และเงิน โดยหวังว่ามีเงินจะมีความสุข กับคนที่รัก แต่ไม่ใช่เช่นนั้น ฉันเสียคนที่รักที่สุดไปเพราะคำว่าไม่มีเวลา และคนที่จะใช้ชีวิตร่วมกันก็เสียไปด้วยคำว่าเราห่ากันและไม่มีเวลาให้ เจนกระทั่งพี่ชายของฉันได้เตือนว่าคนเราอายุน้อยนัก ควรใส่ใจหาความสุขมากกว่า ที่จริงฉันไม่ได้รักงานของฉันหรอกอ้อลืมบอกงานของฉันคือโอเปอเรเตอร์สายการการบินหนึ่ง แต่ฉันชอบและรักที่จะออกท่องเที่ยวและถ่ายรูปสัมผัสผู้คนไปเรื่อยๆๆแต่ที่ต้องมาทำงานนี้เพราะรู้สึกว่าบ้านเราจะสบายหากเรามีเงินมากกว่านี้ ฉันจึงยอมเอาตัวเข้าไปเป็นทาส ทุนนิยม แต่ตลอด5ปีฉันเสียโอกาสไปมากมาย เมื่อลาออกจากงานฉันจริงตัดสินใจที่จะทำในสิ่งที่รัก ฉันตีตั๋วรถไฟมุ่งหน้าไปที่เชียงใหม่ บ้านเกิดของฉัน ระหว่างที่นั่งมาในรถไฟ ก็มีเสียงทักฉัน เฮ้ใช่เพชรไหมนี่ ฉันตอบไปว่า ค่ะ โอ้ใช่เพชรจริงๆๆด้วย ไม่ได้เจอตั้งนาน ข่าวว่าเอ็นท์ติดมาเรียนกรุงเทพไม่ค่อยกลับไปบ้านเรานะ ชายคนนั้นทักแบบรู้จัก เอ่อคุณเป็นใครคะ ฉันถาม อ้าวจำเราได้ไหม จ้อนไง จ้อนที่เมื่อก่อนมีบ้านอยู่หน้าวัดพระสิงห์ไง เขาร้องทวน เอ้อจำได้ละนายจ้อนว่าไง มาทำไรอะไรอ่าไมได้เจอนานเลย ฉันตอบไป อ้อเราน่ะเหรอ ผิดหวังจากความรักจะกลับบ้านแระ เขาตอบแบบเซ็ง นายมาอยู่กรุงเทพแต่เมื่อไหร่ ก็กิจการร้านอาหารที่บ้านนายก็ดีนี่นา ฉันถาม อ้อเพชร จริงๆๆเราเรียนจบแต่เอนท์ไม่ติดเมื่อเห็นว่าเพื่อนๆๆในโรงเรียนลงมากรุงเทพเราเลยมาเรียนมหาวิทยาลัยเอกชนในกรุงเทพอ่า จ้อนตอบ เออถึงว่าเพื่อนที่เชียงใหม่บอกนายหายไป ฉันพูด ฮืมใช่ฉันลงมากรุงเทพไม่ได้บอกเพื่อนที่โน้นเท่าไหร่ เขาตอบ เออนี่นายบอกว่าเซ็งผิดหวังจากความรักมันเป็นอย่างไรเหรอ ฉันถาม ถ้าเพชรอยากฟังเราจะเล่าให้ฟังนะ
จบตอนปฐมบท โปรดติดตามอ่านตอนที่2 จ๊ะ