20 เมษายน 2553 00:12 น.

สงสารจัง!

lelawadee

ขายคนหนึ่งกำลังคุ้ยหาของในถังขยะริมทางป้ายรถเมย์ ในปากก็เคี้ยวอะไรบางอย่าง ในขณะที่เราเดินผ่านเขาเงยหน้าขึ้นมาพอดีถึงแม้สายตาคุ๋นั้นไม่ได้สบมาทางเรา แต่เราก็ได้เห็นแววตาที่เปี่ยมด้วรอยยิ้มมีความสุข เคี้ยวสิ่งที่อยู่ในปากอย่างสุภาพเหมือนคนที่ได้รับการอบรมมาอย่างดี
      นอกจากที่เห็นก็ไม่ได้ใส่ใอย่างอื่นในตัวเขามากนัก แต่ในใจเกิดกระแสบางอย่างขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้มันเกิดขึ้นตามสัญชาติญาณ....เดินผ่านไปยังรถขายผลไม้ที่อยู่ไม่ไกลนัก  สามีเป็นคนจ่ายเงินค่าผลไม้ รับเงินทอนมาห้าบาท บอกสามีให้ชายคนนั้นนะ สามีปัฏิเสธ ด้วยเหตุผลขอทานมาเฟียร์   เราชะงักแต่ใจค้านด้วยซิกเซ้นว่าไม่ใช่ แต่ไม่ขัดใจสามี เดินกลับที่พักกัน  เอ้าลืมซื้อน้ำตาลล่ะพ่อ  พ่อกลับบ้านก่อนนะ คอนโดฯอยู่ไม่ไกลนัก เราย้อนกลับทางเดิมไปซื้อน้ำตาลทราย
      หันกลับ เขา..ชายคนนั้นย้ายมายืนตรงที่นั่งป้ายรถเมย์ก้มหน้าก้มตาค้นหนังสือหลายเล่มในกระเป๋านักเรียนที่ดูไม่เก่านัก  เราหยุดยืนตรงหน้าเขา..พิจรณาอย่างตั้งใจ นอกจากมีหนังสือเรียนดีๆหลายเล่ม ยังใส่เสื้อนักเรียนแต่เป็นเสื้อนักเรียนหญิง กางเกงขายาวสีดำเสื้อทับในกางเกงเรียบร้อย
  กระแสจิตที่พุ่งไปหาเขารู้สึกยะเยือกเข้าไปในอก...สงสาร...สงสารจับลึกเข้าถึงใจ  ??? ลูกใคร..ญาติใคร.. พี่รึน้องใครกัน ทำไมมาอยู่ตรงนี้? ...??...ยื่นเงินให้ยี่สิบบาท  ใช่ค่ะมันไม่มาก เราไม่มั่นใจหากให้มากเขาอาจไม่ปลอดภัยก็ได้  เขาชะงักนิดนึงมองหน้าเราเต็มตา เราพยักหน้าพร้อมยื่นเงินให้ ยกมือไหว้ก่อนรับเงิน  ไหว้สวยค่ะ กล่่าวขอบคุณครับ รู้สึกจุกขึ้นมาในอกจนต้องเมินหน้า หันหลังเดินผละออกไป..เสียง..ตามหลังมาอีกครั้ง  ขอบคุณครับ  เราหันกลับไป เขายกมือไหว้เราอีกครั้ง..น้ำตาแทบร่วงค่ะ..รีบจ้ำอ้าวไปซื้อน้ำตาลที่เซเว่นใกล้ๆ

ขากลับ..เสียงเรียก..คุณคะ..คุณคะ  ชายที่คุณให้เงินเมื่อกี้ เขาอยู่ใกล้บ้านหนูค่ะ หนูรู้จักเขา เขาเคยเป็นเด็กเรียนดีค่ะ ไม่ใช่ขอทานนะคะ เขาสติเสียเพราะอะไรไม่ทราบ...นั่นซิ ถึงมองออกพื้นฐานมาดีนี่เอง นี่ขนาดสติเสียไปแล้ว.....แล้วคนที่มีการศึกษาสติดีล่ะ ไงบางตนถึงส่อสถุนได้ใจแท้!!!				
19 เมษายน 2553 22:53 น.

ดีใจ..จนใจหาย

lelawadee

ดีใจ..จนใจหาย
สามีป้าพูดไทยได้นิดหน่อย ชอบถามชอบจำคำไทยทีี่มีความหมายแปลกๆ..ก็ไอ้คำหบายนั้นล่ะค่ะและจำเก่งซะด้วยซิ..อย่าเพิ่งตำหนิป้านะคะ..ว่าสอนทำไม
    เวลาป้าโมโหป้าจะเสียงดังแล้วใล่ลุงไปไกลๆ..บอกฉันหายโมโหแล้วค่อยมาพูดกันนะ แต่ลุงเธอไม่เชื่อหรอก จะยื่นหน้าอ้วนกลมมาใกล้แล้วพูดแบบทำหน้าล้อ
ครัก  ครัก ครัก ครักคุณแม่นะ  ไอ้ครักๆๆๆของคุณเธอน่ะแปลว่ารักค่ะ ทำเอาป้าหายโมโหไปครึ่งนึงค่ะ ฮ่าๆๆ..เลยต้องตั้งต้นสอนกันใหม่ รักนะ ไม่ใช่ครัก

เช้าวันหนึ่ง...อากาศดีทีเดียวลุงอ้วนอาบน้ำ
พรมน้ำหอม .หอมฟุ้งไปทั่งบ้าน  แล้วเธอก็เรียกเสียงกระเส่า...คุณแม่ๆ( พูดไทยค่ะ ชัดด้วย) come come แข็งแล้วๆเร็วๆ......เร๊ว  ใจป้าเต้นโครมครามขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินเสียงลุง(อึ๊ย! ...!!!)ทำไมต้องทำเสียงแบบมีความหมายชวนพาอารมย์ตามด้วยนะ..คิดค่ะคิด
นึกไปก็...หลายวันแล้วไม่ได้ทำผีผ้าห่มกันเลยก็ถลาเข้าหาลุงตามเสียง..มาหยุดกึกตรงหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง...(คิดอีก..ตรงนี้เลยรึ หน้ากระจก...แต่....เปล่าหรอก! ไม่ใช่อย่างที่คิด  .คือคิดเร็วไปนิดนึงน่ะค่ะ ..ขอโทษ...ค่ะด้วย
ไอ้ที่แข็งน่ะ..หลังค่ะ ไม่ทราบคุณเธอไปเอี้ยวตัวท่าไหน..เส้นยึดค่ะ แบบท่าไหนท่านั่นเลย  ตกใจซิคะ รีบหามส่งหมอในบัดดล หยุดงานไปหลายวันส่งไปกายภาพบำบัด

ป้ามาขยายความคิดในใจให้ลุุงฟังทีหลัง ..ขำกลิ้งค่ะ..แถมตอกย้ำกันซะอีก  คุณแม่ที่รักครับ รักครับ แต่ขอหลังแข็งหายก่อน แล้วไอ้ที่อยากให้แข็งน่ะค่อยว่ากันนะครับ
ป้ารักลุงค่ะ..				
19 เมษายน 2553 08:26 น.

แม่ รักลูกนะ.........

lelawadee

แม่ รักลูกนะ.........

ไม่ว่าลูกจะเป็นอย่างไร.
ไม่ ว่าลูกจะโกรธจะงอนแม่ ขนาดไหน
ไม่มีสักวันที่แม่จะไม่คิดถึงลูก..คิดถึง ทุกวัน
..มาถึงวันนี้..ถึงแม้ แม่จะน้อยใจเสียใจ..ที่หาเหตุผลไม่ได้ ว่าทำไมลูกถึงปั่นปึ่งกับแม่ไม่เลิกสักที
เมล์หา ก็ไม่ตอบ โทรหาก็ไม่รับ..ขอร้องแล้วก็หลายครั้งให้เราหันหน้ามาพูดกัน
ลูกโตเป็น ผู้ใหญ่เต็มตัวแล้ว.....แม่รู้ลูกแม่เก่ง  แม่รู้ลูกแม่มีความมั่นใจ เอาตัวเองรอด
แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลที่แม่จะต้องหยุดรักลูก และเช่นกันก็ไม่ใช่เหตุที่ลูกต้องห่างจากแม่ไป

ทุกครั้งที่แม่โทรหาลูก..หากแม่ต้องโทรไปที่ที่ทำงานลูก
ลูกพูด กับแม่เหมือนเสียไม่ได้..แต่แม่ก็ดีใจที่ได้ยินเสียงลูก
ลูกบอกแม่..ไม่ ต้องห่วง..ไม่มีอะไรร้ายแรงไม่ต้องโทรมา...
มีอารมย?อยากพูดอยากบอก เมื่อไร..จะโทรหาเอง
แค่นั้น...แค่นั้นจริงๆ..ที่ทุกครั้งแม่ได้ยินเช่น นี้
น้ำตาแม่ร่วงอีกแล้ว...แม่ร้องไห้...แม่ สะอื้น....
ลูก..อย่าให้แม่รอจนถึงวันที่แม่หมดแรงจะบอกว่า....ยังไงๆลูก ก็ยังเป็นลูกของแม่
แม่แก่ลงทุกวัน..ยิ่งอายุมากขึ้น โรคภัยก็แทรกแซง
แม่ ต้องเดินทาง..ใครจะรู้มั๊ยว่าสักวันอะไรจะเกิดกับแม่บ้าง
อย่าให้ถึงวัน ที่แม่ต้องมากระซิบข้างหูลูกว่า..
ลูกแม่..หากลูกคิดว่าแม่ทำผิดโดยที่ แม่ไม่รู้ว่าความผิดนั้น..คือ?????
ลูกคิดคนเดียวว่าแม่..ผิด
วันนั้น อาจเป็นวัน ที่แม่มีแค่..เสียงจากวิญญาณ................????????????
จบตอน

				
19 เมษายน 2553 06:57 น.

เก้าอี้โยกตัวนั้น!!

lelawadee

   ปกติก็เป็นคนกลัวผีนะ....แต่ ตัวเองก็จะสัมผัสกับเรื่องเร้นลับมาตั้งแต่ เด็ก...จนมามาความรู้สึกกลัวน้อยลงเมื่อไม่กี่ปีมานี่
เหตุ เพราะ คุณแม่สามีมาเสียในอ้อมกอดนั่นเอง...ด้วยสัมผัสกับสิ่งที่มองไม่เห็นส่วนมาก จะเป็นฝันที่ชัดเจนและได้รับความรู้สึกจริงๆเวลาตื่นว่านั่นใช่ในสิ่งที่เขา มาบอกหรือต้องการสื่อสารกับเรา

ค่ะเข้าเรื่อง....ก่อนวันปีใหม่ ปี2009 .................. ก่อนคืนวันบอกกล่าวจาก โอปาติกะ  (ในภาษาธรรมใช้เรียก บุคคลผู้อื่นที่ล่วงลับไปแล้วหรือยังมีชีวิตอยู่..เรียกได้เช่นกัน)

ด้วยว่ากลางคืนจะนั่งหน้าคอมฯเป็นเวลานาน  
ดูหนัง..เล่นเกมส์ แชทกับเพื่อนๆ  จะนั่งเก้าอี้ธรรมดาและบางครั้งปวดหลังจริงๆ  ไม่รู้ เป็นไงซิเกิดนึกถึงเก้าอี้โยกที่ไม่เคยใช้เลย 
คิด ถึง..นึกถึงเก้าอี้ตัวนี้อยู่สองวันที่และที่ยังไม่ได้เอาอี้ตัวนี้ออกมาใช้ เพราะเอาไปเก็บไว้อีกห้องนึง คือคิดอยากใช้ อยากนั่งมันคงโยกสบายมีผ้าขนสัตว์หมอนนุ่มอุ่นให้กอด................ที่ช้า เพราะขี้เกียจค่ะ.ฮิ...............แต่ดูเหมือนยิ่งขี้เกียจความรู้สึกอยากนั่งโยกก็มีมากขึ้นทวีคูณ
ด้วยว่ากลางคืนจะนั่งหน้าคอมฯเป็นเวลานาน  ดูหนัง..เล่นเกมส์ แชทกับเพื่อนๆ  ป้าหมอจะนั่งเก้าอี้ธรรมดาและบางครั้งปวดหลังจริงๆ  ไม่รู้ เป็นไงซิเกิดนึกถึงเก้าอี้โยกที่ไม่เคยใช้เลย แต่ได้รับมรดกจากแม่สามีมีประมาณห้าปีกระมัง เป็นเก้าอี้โยกสวย ไม้อย่างดี รูปแบบค่อนข้างสมัยเก่าและเป็นตัวโปรดที่แม่ลุงใช้นั่งสมัยที่มีชีวิต อยู่................ผู้อ่านอย่าเพิ่งนึกค่ะ..............ไม่ใช่อย่างที่ คิดหรอก???
คิด ถึง..นึกถึงเก้าอี้ตัวนี้อยู่สองวันที่และที่ยังไม่ได้เอาอี้ตัวนี้ออกมาใช้ เพราะเอาไปเก็บไว้อีกห้องนึง คือคิดอยากใช้ อยากนั่งมันคงโยกสบายมีผ้าขนสัตว์หมอนนุ่มอุ่นให้กอด................ที่ช้า เพราะขี้เกียจค่ะ.ฮิ...............แต่ดูเหมือนยิ่งขี้เกียจความรู้สึกอยาก นั่งโยกก็มีมากขึ้นทวีคูณ.....เอาเป็นว่าเลิกทำตัวขี้เกียจ???จัดแจงกับ เก้าอี้ได้ดังใจ...ฮ่าๆๆสบายจังอุ่นด้วย บอกลุงว่าดูซิทำไมไม่เอามาใช้ซะตั้งนานแล้ว

คืน นั้นนั่งโยกเยกดูทีวี สบายใจสบายกายจริงเรา....นั่งดูทีวีสักพัก ไม่รู้ว่าด้วยความสบายโยกเยกๆรึเปล่า แหม..ง่วงจัง ไม่ไหวล่ะย้ายไปนอนบนโซฟาใกล้ๆดีกว่า
ประมาณการได้ว่า นอนหลับไม่น่าจะนาน เพราะทีวียังไม่ไปถึงไหนเลย..............
มาค่ะ...มาจริงๆ ฝัน ค่ะฝันแต่ทำไมถึงชัดเจนเหมือนอยู่ในเหตุการณ์จริงเช่นนี้  ในฝัน...เอ??นี่ มันเก้าอี้โยกของเรานี่มีใครมานอนอยู่ล่ะ ชายแก่สูงอายุนอนอยู่มีผ้าขาวคลุมร่างมิดชิด เห็นแค่มือนิ้วยาวขาวซีดเล็บยาวดำโผล่ออกมาให้เห็นข้างนึง  เข้าไปดูใกล้
เอ้า????ใครกัน??ไหงมานอนตายบนเก้าอี้นี้ล่ะ  ด้วยความรู้สึกในฝันโกรธ มากกว่ากลัว แต่ที่กลัวคือ..คิดว่าหากมีใครมาบ้านคงไม่ดีแน่เขาคงกลัว แต่ที่โกรธๆเพราะนั่นเก้าอี้ของเรา....และในทันใดนั่นแม่ลุงก็เดินเข้ามาบอกป้าว่าไม่ต้องกังวลเดี๋ยวแม่ช่วย.......................
แล้วแม่ก็ลากเก้าอี้พร้อมชายคนนั้นออกไปไว้หลังบ้านแล้วบอกว่าพรุ่งนี้เอาไปทิ้งซะ นะ แล้วแม่ก็หายไป  ป้าสะดุ้งตื่น แต่ด้วยความอยากนอนต่อเผลอหลับไปด้วยความสะลึมสะลือ
เคลิ้มหลับ...เอ??รู้สึกเหมือนมีอะไรย่ำมาบนผ้าห่ม ตึบ...ๆๆ ..ผงกหัวขึ้นดู
.นิ้วยาวขาวซีดเล็บดำปื๊อ เลื้ยยขึ้นมา....ขึ้นมา...อะไรกันนี้ เกิดการต่อสู้กัน..ป้ากับนิ้วประหลาด พร้อมกันป้าหก็ร้องตะโกนใส่ ฉันไม่กลัวหรอกมาซิ ตะโกนเสียงดังจนลุงเข้ามาเขย่าตัว ถามว่าเป็นไร  ละเมอซิ..
เล่าให้ลุงฟัง....และบอกให้ลุงเอาเก้าอี้ไปเก็บที่เดิม  ลุงก็ช่วยเหลือด้วย ดี...ถามลุงเรื่องความเป็นมาของเก้าอี้โยก...ลุงไม่ทราบ ทราบเพียงแค่แม่ลุงใช้มานานและโปรดมาก ก่อนหน้านี้ความเป็นมา..มืด!.....เอาะล่ะ ป้าจะไปถามพ่อกะน้าของลุง.....
เก้าอี้ตัวนั้นได้กลับไปอยู่ในห้องตากผ้าเหมือนเดิมแล้ว ป้าก็ยังคงเดินเข้าออกห้องนี้วันละหลายรอบ สวดมนต์แผ่เมตตาให้ลุงบนเก้าอี้ทุกวัน

สัพเพสัตตา สัตว์ทั้งหลาย ที่เป็นเพื่อนทุกข์เกิดแก่เจ็บตาย....ฯลฯ ต่างคนต่างอยู่นะ				
19 เมษายน 2553 05:52 น.

ครั้งแรกกับชายอื่นในต่างแดน

lelawadee

คุณโจบอกไว้หลายวันแล้วว่าจะพาไปหาชายหนุ่ม เขาเพียรพยายามโทรหาชายคนนั้นจนรู้แน่ชัดว่าจะไปพบ เขาได้วันไหน
...พอถึงวันนัด..คุณโจถามว่า..แน่ใจนะว่าอยากพบชายคนนี้ เจ็บนะ ถึงตายนะหรืออย่างน้อยๆจับไข้ขอเตือนไว้ก่อน นั่นๆๆขู่เราให้ปอดแหกน่่ะ??
แต่ด้วยความเป็นหญิงไทยใจโหด(ว๊ากไม่ใช่ค่ะ..ใจเด็ดต่างหาก) เดินหน้าลูกเดียว เป็นไงเป็นกั๊น never say No   
s]..หลังอาหารเที่ยงเราสองคนพากันไปหาชายคนนั้น ก่อนถึง..คุณโจถามเสียงละห้อน  แม่ๆเปลี่ยนใจได้นะพ่อกลัวแม่เจ็บนะ..พ่อ กลัว..
ไม่ค่ะ..ยืนยันเสียงหนัก go on ..ระหว่างเดินขึ้นบันได ใจก้เต้นตึกตัก..ตึกตั๊ก(เผลอเต้นไปครึ่งครั้ง..ตึกๆๆ  ตั๊กตัก  ตลกค่ะ)
แอ๊ด.............ด..ด ประตูเปิด ชายเยอรมันวัยกลางคนภูมิฐาน นั่งอยู่กลางห้องที่ดูสะอาดตา...มีเตียงด้วย  
Guten Tag! ชายคนนั้นมองด้วยสายตาแปลกๆไปนิดนึง แล้วหันไปคุยกับคุณ(โจที่ในครั้งนั้นตัวเรายังไม่เก่งภาษาเยอรมันแล้วคุณโจ ก็หันมาถาม แม่ๆ นานเท่าไรไรแล้วที่ไม่เคย? เขาสองคนถามไปตอบมาจนเขาแน่ใจว่าเราไม่ใช่คนเนปาลหรือฟิลิปปินส์อย่างที่เขา คิด
ชายแก่สูงใหญ่(คงใหญ่ไปหมดทุกส่วนล่ะซิ...(ใครคิดคะ? น่าเกลียดจัง???) หันมาบอกให้ถอดเสื้อ
ว๊าก.........หันไปขอความเห็นคุณโจ แหม??รายนั่นพยักหน้าหงึก..อย่างรู้เห็นเป็นใจ.เอ้าถอดก็ถอด มาถึงที่แล้วนี่ เขาบอกเพื่อความสะดวก ไม่ต้องอายนะแค่สองที เจ็บนิดหน่อย ไม่ต้องขึ้นเตียงตรงนี้แหละบนเก้าอี้นี่ก็สะดวกดี.....(วุ๊ย!เล่นท่าวะด้วย).....แลัวยังบอกก่อนว่าพรุ่งนี้จะระบมนิดหน่อยนะ
   ถอดเสื้อด้วยความเขินอาย..อูย..ต่อหน้าชายอื่นนะแถมสามียัง จ้องตาเป๋ง ฉึก..ฉึกสองฉึกเจ็บนิดหน่อยอร่อยดี ฮ่าๆโดนข้างละที(ต้นแขน) ใส่เสื้อกลับบ้าน
ป้องกันภัย ไข้หวัดใหญ่ ไข้หวัดนก อหิวา บาดทะยัก โปลิโอ ฯลฯ  ไปอีกสิบปี
ขอขอบคุณสามีที่กลัวภรรยา เจ็บ
ขอบคุณคุณหมอค่ะ
ทราบภายหลังว่าที่คุณโจพร่ำบอกว่าเจ็บนะ จับไข้เชียวนะ น่ะไม่ใช่อะไรร๊อก เธอกลัวหากเราป่วยไม่มีใครทำกับข้าวให้กินนั่นเอง...
เฮ้อ.....รักนะ
				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟlelawadee
Lovings  lelawadee เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟlelawadee
Lovings  lelawadee เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟlelawadee
Lovings  lelawadee เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงlelawadee