9 สิงหาคม 2551 15:11 น.
วิสกี้ เลอ ฟองเบียร์
กูเสียดายฝ้ายขาวที่ผูกแขน
ญาติพี่น้องสุขแสนกับเราสอง
คำอวยพรหมื่นพันวันกินดอง
เป็นกิ่งทองใบหยก อกตื้นตัน
กูสงสารพ่อแม่ที่แก่เฒ่า
รู้สึกเศร้าที่กูต้องประคองฝัน
แบกปัญหาภาระสารพัน
โดยไม่มีมึงนั้นหันมาแล
แบกอิฐหินปีนป่ายฝ่าไอแดด
ถูกเผาแผดไม้เว้น มือเป็นแผล
ทั้งหวัดไอหนาวร้อนหลอนรังแก
กูไม่แพ้ กูจะสู้อยู่ลำพัง
เห็นสมุดการบ้านของลูกน้อย
ได้เก้าสิบเต็มร้อยเติมรอยหวัง
เหลือสิ่งเดียวเยียวยาแรงพลัง
เป็นที่ตั้งที่นำความอดทน
พายกระเป๋าไปโรงเรียนไม่ง้อพ่อ
น้ำตาคลอเห็นลูกกล้าวิ่งฝ่าฝน
หนาวหรือร้อนไม่เสื่อมคลายวินัยตน
มึงดูไว้ สิ่งที่คนเขาเป็นกัน
พ่อมันหรือมือว่างห่างจอบพลั่ว
ไปเกลือกกลั้วหุบเหวเลวมหันต์
เมาเมรัยไฟมารการพนัน
ไปสวรรค์ชั้นกะหรี่หนีลูกเมีย
ค่าอาหารกลางวันลูกที่ผูกไว้
ปวดใจแท้แม่ไร้เงินไปเสีย
ได้ครูบาประจำชั้นท่านช่วยเคลียร์
กูร้องไห้ใจละเหี่ยคิดเสียใจ
เห็นลูกหยอดกระปุกหมูสู้ออมอด
จะช่วยปลดหนี้แม่อย่าร้องไห้
แม่เป็นสาวก่อสร้าง ช่างประไร
ไม่เคยคิดอายใครว่าแม่จน
เคยส่งลูกหน้าโรงเรียนในตอนเช้า
ไม่กล้าเข้าไปใกล้ ใจสับสน
เสื้อเปื้อนฝุ่นปูนทรายละอายตน
ลูกยังบอกเพื่อนทุกคนว่าแม่เรา
แบกคอนกรีตหนักเหน็บเจ็บกระดูก
ร้าวมดลูกร้อนแดดที่แผดเผา
แต่คิดถึงลูกรัก หนักเป็นเบา
กูไม่เศร้า กูจะสู้ อยู่เพื่อมัน
แม้ชีวิตความรักกูเหลวแหลก
แต่กูแบกคำว่าแม่ไม่แปรผัน
ลูกเคารพรักกูก็แล้วกัน
จะเลี้ยงมันให้ได้ดี มึงคอยดู
แต่วันนี้มึงผุดมาจากนรก
พาอีนั่นมายกกระปุกหมู
ยิ้มระรื่นทุบกระปุกของลูกกู
มึงโปรดรู้...กูเจ็บ แทบขาดใจ
ซากกระปุกถูกปูน แตกเป็นเสี่ยง
ได้ยินเสียงลูกช็อกแล้วร้องไห้
มองดูพ่อบังเกิดเกล้าก้าวเดินไป
ลงนรกหมกไหม้บ่อนพนัน
มือกร้านดำแตกแห้งแรงปูนกัด
โอบกอดรัดลูกรักพลางเรียกขวัญ
หยุดร้องไห้เถิดคนดีดวงชีวัน
ทนอดกลั้นเหมือนแม่เถิดดวงใจ
แม่จะกินข้าวน้อยลงกว่านี้
จะซื้อหาให้ลูกมีกระปุกใหม่
มีเงินซื้อขนมเคี้ยวไม่อายใคร
คือสัจจาจากใจแม่จนจน
พระคุณแม่เหนือกว่ามหาสมุทร
ไพศาลสุดแสนกว้างดั่งเวหน
เจ้าเปิดตำราเรียนเพียรอดทน
น้ำตาหล่นฟังลูกหัดอ่านร้อยกรอง
ไม่คิดง้อขอให้ใครเติมฝัน
แม่กับลูกผูกพันกันเพียงสอง
จำเอาไว้ ถึงพ่อมันไม่หันมอง
ลูกกูต้องมีเงินไปโรงเรียน
******************************************
9 สิงหาคม 2551
แด่สัญชาตญาณสากล ของคนเป็นแม่นะครับ
รักแม่ที่สุดในโลก
8 สิงหาคม 2551 12:43 น.
วิสกี้ เลอ ฟองเบียร์
พี่ก็รู้ว่าอั้มกลัวความอ้วน
พี่ไม่ควรจะทำอั้มคิดถึง
ทุกครั้งที่อั้มเผลอจิตคิดคำนึง
อั้มก็อ้ำไปคำหนึ่งพอเป็นยา
ลุกมาก่อนคนอื่นตื่นก่อนไก่
มาตั้งหม้อก่อไฟช่วยลุงป้า
ครึ่งหลับตื่นอยู่ข้างเตาเช้าคาตา
แล้วเปิดฝาเชื่อมน้ำต้มผสมน้ำตาล
ตั้มถั่วแดงถั่วเขียวเคี่ยวกะทิ
ฟังเข็มวิดีดเด้งเป็นเพลงหวาน
เสร็จเหนื่อยนั่งรอฤกษ์นกเบิกบาน
บินข้ามผ่านหลังคาไปหากิน
เหนื่อยที่อั้มทำของหวานนั้นจิ๊บจ๊อย
ยังเหนื่อยน้อยกว่าคอยชายคนใจหิน
ยิ่งคิดถึง ยิ่งรัก ยิ่งอยากกิน
รอพระบิณฑบาตเดินผ่านไป
ลูกค้าซื้อของหวานไปใส่บาตร
รอยใจบาดมีใครหนาหายาใส่
คนเคยชมว่าหุ่นพริ้งรักจริงใจ
ก็ห่างไกลเหลือเกินรอเนิ่นนาน
กินฝอยทองแพหนึ่งคิดถึงพี่
น้ำลายปรี่มองจวักตักของหวาน
กินบวดมันบวดกล้วยหลายถ้วยจาน
หมดแรงใจจะเผาผลาญให้ผอมเพรียว
ปากก็ซดลอดช่องจ้องสริ่ม
หอมปลากริมไข่เต่าใบเตยเขียว
ให้สะใจที่อั้มรักพี่ข้างเดียว
ยังไปเที่ยวทำเจ้าชู้นะผู้ชาย
เคี้ยวบัวลอยไข่หวานให้มันแหลก
ไข่แดงแตกรักที่คอยก็ลอยหาย
ตักกะทิราดของหวานมันกระจาย
แอบชะม้ายชายตาหาบางคน
พี่ก็รู้อยู่ว่าอั้มกลัวความอ้วน
อุ๊ย เต้าส่วน นั่นรวมมิตร จิตสับสน
มองแขนขาอวบอั๋นสังขารตน
หนีไม่พ้นเส้นเลือดจะตีบตัน
มองดูไขกะทิข้นเป็นมันย่อง
มันกำลังจะย่องเข้าท้องฉัน
หากพี่ชายปล่อยปละมาไม่ทัน
คงเร็ววันหุ่นอั้มไม่งามตา
เคยถูกชมว่าหุ่นเรียวเพรียวเหมือนหน่อย
คิดถึงบ่อย ก็กินบ่อย นั่งคอยหา
หากพี่เห็นหุ่นอั้มอีกสักครา
คงจะว่าหุ่นเหมือนหน่อย บุตรสุกร
มองชาวบ้านนิมนต์พระบิณฑบาต
หยิบทองหยอดในถาดใส่ปากป้อน
เคี้ยวจับจับทุนหายกำไรรอน
อั้มจะอ้วนเป็นหมูตอนให้พี่ตรม
รู้ทั้งรู้ว่าอั้มกลัวความอ้วน
หุ่นอั้มท้วนเป็นอึ่งยืนสุดขื่นขม
อยากเหมือนอั้ม พัชราภา น่าชื่นชม
ต้องตัวกลมอย่างนี้เพราะพี่ลวง
6 สิงหาคม 2551
7 สิงหาคม 2551 13:13 น.
วิสกี้ เลอ ฟองเบียร์
ใครใช้คุณเกิดมาเป็นแม่ฉัน
เป็นลิขิตของสวรรค์ ณ ชั้นไหน
ด้วยกงการเทวดานางฟ้าใด
คุณจึงให้ฉันเห็นเป็นมารดา
คุณรู้ไหมใครเกิดมาเป็นแม่ฉัน
ต้องแบกรับสารพันกับปัญหา
ฉันขี้โรคอ่อนแอแต่ลืมตา
คุณยังกล้าประคองประเคนจนเป็นคน
คนอย่างฉันควรดิ้นกินขี้เถ้า
คุณกลับเอาเลือดขาวอันเข้มข้น
บรรจงป้อนใส่ปากสู้ยากจน
บดพืชผลไข่กล้วยด้วยอาทร
เขาสาปฉันมาเกิดในโลกนี้
คุณยังมีน้ำใจให้ฟูกหมอน
อุ้มใส่อู่ไกวเปลกล่อมเห่นอน
เอาอกป้องหนาวร้อนที่ทำลาย
เรียนศัพท์แรกภาษาโลกคำว่า แม่
แปลกใจแท้สิ่งคุณทำให้ความหมาย
แอบซาบซึ้ง ถึงคุณตีจนฉันตาย
ก็ไม่คลายไปเรียกใครว่าแม่ตน
ฉันเติบโตอ่อนต่อโลกมลพิษ
เสี่ยงชีวิตหลงล้ำความสับสน
ลิ้นรักลวงหลอกเลียจนเสียคน
โลกมืดมนไม่เหลือใคร ฉันเหลือคุณ
น้ำใจคุณผ่องผุดพิสุทธิ์ใส
ขณะใครใจคล้ำแสนดำขุ่น
คำปลอบโยนจากรักแท้แปรเป็นทุน
ผลักให้โลกฉันยังหมุนไปอีกวัน
นางฟ้าควรสุขล้นอยู่บนฟ้า
ใครหนอดึงคุณลงมาจากสวรรค์
เพียงเพื่อมาหวังดีชั่วนิรันดร์
ฉุดดึงฉันพ้นทุกขเวทนา
ฉันจึงแอบเทิดทูนคุณเหนือหัว
ตราบวันตัวดับดิ้นดินกลบหน้า
รอดเป็นผู้อยู่เป็นคน คุณเมตตา
ขอบูชาเป็นพระเจ้าคุ้มครองใจ
เหนื่อยหน่อยนะที่ทนสู้เลี้ยงดูฉัน
แบกปัญหาสารพันไม่หวั่นไหว
ทุกครั้งที่ฉันก้มกราบพระรัตนตรัย
คุณรู้ไหมฉันกราบคุณไปพร้อมกัน
รู้ไหมฉันซึ้งในน้ำใจฟ้า
ที่วานคุณเกิดมาเป็นแม่ฉัน
เมื่อโลกลวงรุมรังแกจนแพ้มัน
ฉันอยากกลับไปหลับฝันในครรภ์คุณ
6 สิงหาคม 2551
คิดถึงแม่ที่สุดในโลก
2 สิงหาคม 2551 11:09 น.
วิสกี้ เลอ ฟองเบียร์
* ล่ะสายลำมูลหนอไหลโค้ง.... มาบรรจบลำโขง จั่งไหลโค้งลงทางใหม่
จุดระหว่างลาวไทย เมืองโขงเจียมเคยนั่งชี้ แนมสีน้ำที่แบ่งสอง...
โขงสีปูนมูลสีคราม ยังตำใจอีน้อง ยามได้ส่องดอกมองไกล
น้ำสองสีคือชาย ผู้แบ่งใจ....เป็นสองก้ำ....
มองดูสายแม่น้ำมูลที่ไหลโค้ง
มาบรรจบแม่น้ำโขงเป็นสองสี
โอ้ความรักไหลลับกับวารี
ผ่านเดือนปีสู่ทะเลแห่งเวลา
สาวอำเภอโขงเจียมเปี่ยมความเหงา
ตะวันเศร้าจมลับกับแผ่นหล้า
คิดถึงคนเคยเคียงทุกครั้งครา
บังเอิญมาประสบได้พบพาน
เพียงแรกพบสบตาคราประแป้ง
ดังฟ้าแกล้งให้หลงมนต์คนปากหวาน
เทใจรักจนหมดขันวันสงกรานต์
ใจเบิกบานชวนเที่ยวแคว้นแดนอุบลฯ
ชมแผ่นดินจูบแผ่นฟ้าที่ผาแต้ม
แล้วนั่งแนมน้ำสองสีพี่ใฝ่สน
สุริยนสนธยาช่างน่ายล
น้ำปริ่มล้นโขงเจียมเปี่ยมโขงใจ
เดินเลียบเลาะเกาะแก่งแห่งน้ำโขง
เห็นน้ำคดน้ำโค้งพาสงสัย
แม่น้ำเอ๋ยอยากเอ่ยพร่ำถ้อยคำใด
น้ำสองสีรินไหลไปลับลา
ชมเขาเขินเดินเที่ยวเราเกี่ยวก้อย
ยามค่ำคล้อยเที่ยวงานวัดถ้ำคูหาฯ
ไหว้หลวงปู่คำคะนิงอิงสัจจา
สาบานว่าจะรักกันตราบวันตาย
พอหนึ่งปีให้หลังความหวังวูบ
เห็นเถ้าธูปคราใดน้องใจหาย
เคยปักธูปกระถางนี้กับพี่ชาย
ธูปคับคล้ายอยากเอ่ยเผยวาจา
ลองเซียมซีเสี่ยงทายหัวใจพี่
อ่านเซียมซีแล้วมือสั่นขวัญผวา
ชายคนรักผู้ห่างไกลไร้สัจจา
ลืมสัญญาไปควงสาวผู้เยาว์วัย
รู้แล้วหนอที่สายน้ำร่ำวันนั้น
คงเตือนฉันว่าพี่ร้ายกว่าชายไหน
ธารสองสาย น้ำสองสี พี่สองใจ
ควงสาวใหม่เทียบชั้นขั้นนางงาม
ธูปสามดอกที่วัดคูหาสวรรค์
คงเตือนฉันว่ารักมีมือที่สาม
พี่ลืมสิ้นโขงสีปูนมูลสีคราม
ลืมถ้อยความที่กระซิบเสียดิบดี
มาถอนคำสัญญาหน้าหลวงปู่
หากท่านรู้พี่ใจดำน้ำสองสี
หลวงปู่คำคะนิง จุลมณี
คงไม่มีวันอภัยให้พี่ยา
ชื่อโขงเจียมบอกน้องเจียมกะลาหัว
ให้เจียมตัว เจียมชาติวาสนา
โขงสีปูนมูลสีคราม รองน้ำตา
สาวโขงเจียมที่คอยท่าริมวารี
มองดูสายแม่น้ำมูลที่ไหลโค้ง
มาบรรจบแม่น้ำโขงเป็นสองสี
สองธาราพยายามพร่ำวจี
เตือนน้องว่า น้ำสองสี - พี่สองใจ
1 สิงหาคม 2551
-------------------------------------------
*ท่อนเกริ่น จากกลอนลำ น้ำสองสีพี่สองใจ
ผลงานเพลงของราชินีหมอลำเสียงอ้อน ศิริพร อำไพพงษ์