15 มิถุนายน 2551 17:02 น.
วิสกี้ เลอ ฟองเบียร์
โอ้ละเหนอ ลมหนาวมาแล้วหนอ
ทิวดอกอ้อพลิ้วไสวคล้ายสวรรค์
อยู่ริมโขงอาบแสงแห่งตะวัน
ปุยเจ้านั้นขาวล้ำดังสำลี
แผ่วเพลงพิณตะลิดต้อยติ๊ดโต่ง
ประโคมแคนกล่อมโขงฟังสุขี
เรือลำน้อยลอยรายในวารี
แดดอ่อนมี หนุ่มสาวเคียงฝั่งเชียงคาน
สาวขายของอยู่ริมโขงชื่อดอกอ้อ
นั่งใจท้อ ขายของฝากจากอีสาน
นักท่องเที่ยวเทียวซื้อหารับประทาน
มะพร้าวแก้วรสหวานอันโอชา
เมื่อปีกลายมีชายมากรายใกล้
มาบอกรักฝากใจให้ห่วงหา
แวะมาซื้อมะพร้าวแก้วกับแก้วตา
คำพูดจาเพราะเพียงเสียงดีดพิณ
อ้ายขี่รถฮอนด้ามาเบิ่งโขง
ยามฟ้าโล่งแดดร่มสมถวิล
ช่วยเก็บแผงเก็บเพิงเบิ่งวาริน
ลมปลายลิ้นหวานหูมิรู้เลือน
หนุ่มนิสิต ป.โท ม.โตใหญ่
ทำวิจัยลำเนาแนวพฤกษ์แถวเถื่อน
แวะผ่านมาผ่านไปนานหลายเดือน
จนเราเคลื่อนความสัมพันธ์ถึงขั้นแฟน
อ้ายพลอดพร่ำคำสัญญากลางลมหนาว
จะยืนยาวชั่วฟ้าคราสวมแหวน
อ้อมแขนนี้จะไม่ไปกอดใครแทน
ก่อนลาแดน คอนดง กลับคอนโด
เหลือแต่เพียงเบอร์โทร ชื่อที่อยู่
ไม่รู้อ้ายแอบมีชู้อยู่กี่โหล
มะพร้าวแก้วที่ส่งไปไม่ไฮโซ
อย่าลงโถลงถังชังน้ำใจ
ออกพรรษาผิดนัดอีกแล้วหนอ
หรือมัวง้อนักศึกษาที่หน้าใส
เด็กรั้ว ม.แห่งแรกประเทศไทย
คงถึงใจจนอ้ายปลื้มลืมเชียงคาน
งานแข่งเรือ เขาแข่งเรือแข่งพายไหว
วาสนาแข่งไม่ได้ ไม่อาจหาญ
โอ้อกเอ๋ย อกเรา สาวเชียงคาน
หรือตัวเราต้องร้าวรานบนคานทอง
ที่ชั้นแปดคอนโดไฮโซหรู
พี่คงพามากชู้มาสู่ห้อง
คนอย่างเราสาวเมืองเลยพี่เคยลอง
พี่คงเมินหมิ่นมองว่าน้องลาว
กายก็ง่าย ใจก็โง่ โธ่ชีวิต
ต้องทนพิษรักนี้อีกกี่หนาว
หมดวิจัย ก็หมดใจ ไม่ยืนยาว
ทุ่งดอกอ้อสีขาวหมดราคา
ลืมแล้วสาวที่อ้ายง้อขอโอบไหล่
ไปโอบเอวสาวใหม่ใจหรรษา
ฝนเดือนหกพรูพรั่งรินหลั่งมา
เมฆมืดดำครอบงำฟ้าฝั่งเชียงคาน
มะพร้าวแก้วแตกทลายกระจ่ายหล่น
สภาพคล้ายใจคนโดนประหาร
สาวบ้านนอกเจ็บแปลบแสบวิญญาณ
โอ้การรอ ทรมานกว่าการตาย
คมมีดเชือด เลือดชุ่ม ชอุ่มอ้อ
ชาตินี้หนอ งดงาม ต่ำความหมาย
ร่างดับดิ้น ซบดินแดน แสนเดียวดาย
วานปุยอ้อ จงพัดพรายไปคอนโด
---------------------------------------
ความตายช่วยให้เธอหายเจ็บแล้วล่ะครับ