20 มิถุนายน 2548 14:37 น.
วิสกี้ เลอ ฟองเบียร์
โอกาสหน้าถ้ายังควงดวงอาจตก
อาจโดนเตะล้มหกถูกโขกหัว
อยากเล่นของลองได้ถ้าไม่กลัว
มีที่ไหนมาใช้ผัวร่วมกับเฮา
ยังลอยหน้าทำให้พี่คันหัว
ระวังตัวอาจถูกยีเหมือนบี้เหา
วันนี้เตือนด้วยคำพูดสูตรบางเบา
ถึงจะแก่แต่ไม่เก่า อย่าก้าวกราย
ดูตาม้าตาเรือแหน่เด้อน้อง
ควงข้าวของเขามั่วหัวอาจหาย
พี่ไม่เต่ง ไม่ตึง ยังไม่ตาย
ผัววายร้ายก็พาโล...บักโตดี
เดี๋ยวจับอมประทัดจัดไฟจุด
จับไปมุดเมรุเผาสุสานผี
พ่อว่อแพ่แว่ เล่นกับไฟอาจตายฟรี
เจออีกทีนางยักษ์จับหักคอ
แย้มกระหยิ่มยิ้มย่องน้องคนสวย
ยิ้มคนซวยสวยอีหลีเพียงนี้หนอ
ผัวเฮานำ จับได้...ไม่เหลือตอ
อย่ามาล้อกับเดอะเมียอาจเสียใจ
ได้โปรดรักศักดิ์ศรีสตรีสวย
วานน้องช่วยปล่อยสามีพี่ได้ไหม
จะว่าพี่พูดเล่นไม่เป็นไร
ครั้งต่อไปพี่ทื่นแหลกแจกใบแดง
พอเถอะพอขอร้องล่ะน้องเอ๊ย
คู่กกเกยมีทั่วหัวระแหง
เฮาสาวสวยกิ๊บเก๋เสน่ห์แฮง
บ่แห้งแล้งอกชายให้แอบอิง
เตือนน้องแล้วเจอครั้งหน้าชะตาขาด
หากประมาทลืมรักศักดิ์ศรีหญิง
อย่าว่ายเลยคลองนี้มันมีปลิง
บอกจริงๆ นั่นผัวพี่ที่น้องควง
16 มิถุนายน 2548
แหน่เด้อ = (phrase) หน่อยนะ หน่อยสิ บ้างนะ
โทรหาแหน่เด้อ = โทรหาบ้างนะ
พาโล = Adj ร้ายกาจ ฉกาจฉกรรจ์ พาล
บักโตดี = (phrase) ไอ้ตัวดี ไอ้ตัวแสบ
พ่อว่อแพ่แว่ = Adv.ผลุบๆโผล่ๆ ลับๆล่อๆ
อีหลี = Adj.จริงจริง
Adv. อย่างจริงๆ อย่างมากๆ
ผัวเฮานำ = (phrase) สามีเราด้วย ,รวมสามีเราอีกคน
ทื่น = V. กระทืบ กระแทก เหยียบ ตะบันตี
20 มิถุนายน 2548 13:56 น.
วิสกี้ เลอ ฟองเบียร์
ซองชมพูการ์ดรักจากบ่าวสาว
เหมือนซองขาวเขียนคำ "ห้ามเกี่ยวข้อง"
ตอกย้ำว่าชื่อคนบนหน้าซอง
ถูกทั้งสองไล่ออกมานอกใจ
จะไม่ไปก็จะเห็นไม่เป็นมิตร
นอนครุ่นคิดปิดห้องแอบร้องไห้
ด้วยคำว่าเพื่อนบ้านสานสายใย
จึงต้องไปช่วยงานวันวิวาห์
เปิดหน้าต่างอาเจียนเวียนกลิ่นการ์ด
ใจจะขาดซบลงตรงข้างฝา
นั่งร้องไห้ร่ำระงมแล้วดมยา
ถึงไม่กลัวก็ไม่กล้าแบกหน้าไป
คือผลกรรมจากความเหงาสาวข้างบ้าน
เชื่อคนรักยากจะต้านจะทานไหว
คำแม่เตือนไม่เคยจำ นำใส่ใจ
จึงเสียวัยสวยหวานนั้นฟรีฟรี
เขารักเพื่อนร่วมชั้นที่หมั้นไว้
เราผิดไปที่ไม่รักในศักดิ์ศรี
สุกก่อนห่ามลามหนักไม่รักดี
โจทย์ข้อนี้เฉลยหรือคือน้ำตา
อยากกอดลาว่าที่พี่เจ้าบ่าว
แต่กลัวข่าวคาวโหมสมน้ำหน้า
ขอบคุณพี่ที่ให้เกียรติเจียดเวลา
จรดปากกาชื่อบางคนลงบนซอง
ซองชมพูการ์ดรักจากบ่าวสาว
เหมือนซองขาวห่อคำสั่งจากทั้งสอง
ไร้วาสนาได้พิมพ์ชื่อด้วยสีทอง
เตรียมชุดคลุมอุ้มท้องกินดองแฟน
20 มิถุนายน 2548
กินดอง = V.แต่งงาน
N.พิธีวิวาห์ งานแต่งงาน
20 มิถุนายน 2548 13:40 น.
วิสกี้ เลอ ฟองเบียร์
มองกรวดหินดินทรายใจหายวาบ
ช่างเหมือนดั่งสภาพสาวรับเหมา
ดูต่ำต้อยน้อยค่าราคาเยา
จึงหงอยเหงาขาดชายปรายตามอง
หิ้วถังปูนรับจ้างก่อสร้างบ้าน
สร้างอาคารสูงใหญ่หน้าไหม้หมอง
อยู่เบื้องหลังความรุ่งเรืองแห่งเมืองทอง
มือจับต้องกองอิฐฉาบปิดปูน
อาคารเริ่มเป็นรูปร่างที่สร้างใหม่
หนุ่มรถเครนเป็นไฉนหายสาบสูญ
ติดกระจกเตรียมลงสีที่สมบูรณ์
รักเคยคูณถูกจับหารลบบั่นทอน
ปูนแห้งช้าฉาบง่ายเหมือนใจน้อง
เพราะง่ายไปน้ำตาหมองต้องเปียกหมอน
หนุ่มรถเครนชิมรักแล้วจากจร
ไม่รู้ว่าเราอาวรณ์นอนตรมตรอม
รักคลายเคลื่อนเดือนกว่าไม่มาแคมป์
น้องเอียงแก้มแดงสุกรอถูกหอม
หนุ่มรถเครนพูดซึ้งน้องจึงยอม
ถึงไม่พร้อมน้องก็พร้อมกายยอมพลี
ยืนร่อนทรายน้ำตาซึมอยากลืมเสีย
ข่าวลือมาพี่ได้เมียโรงงานสี
สาวกรรมกรหามเสาหนักแม้รักดี
ก็แพ้พ่ายเพราะใจพี่ยึดหน้าตา
น้องอกหักร้องไห้จนไร้เสียง
เหมือนถูกเกรียงตบตีที่ใบหน้า
ดีกรีแค่สาวรับเหมาเขาระอา
จบ ป.5 โง่ลึกปึกเหมือนควาย
มองกรวดหินดินทรายให้ซึมเศร้า
คงเหมือนเราด้อยค่าน่าใจหาย
ใครได้ควงสาวรับเหมาเขาคงอาย
ยืนก้มหน้าร่อนทรายน้ำตาซึม
20 มิถุนายน 2548
เกรียง = N. อุปกรณ์ฉาบปูน
ปึก = Adj. โง่
19 มิถุนายน 2548 21:41 น.
วิสกี้ เลอ ฟองเบียร์
เรียน ม.6 เทอมปลาย ใกล้จะปิด
สาวบุญตาสอบติดช่วงโควต้า
นับว่าโชคเกื้อหนุนสาวบุญตา
เดือนตุลาสอบติดพยาบาล
ทั้งสามล้อสองแถวที่เธอนั่ง
ต่างปลาบปลื้มกับความหวังของหมู่บ้าน
ญาติพี่น้องชาวนาล้วนหน้าบาน
สัมภาาษณ์ผ่านดีใจจะได้เรียน
พ่อยังไปคลอเคลียบ้านเมียน้อย
แม่เสียไพ่ถือไม้คอยจะสอยเศียร
พ่อกลับมาแม่ระเบิดเปิดสังเวียน
บ้านบุญตาโล่งเตียนเป็นแดนตาย
จำนำรถจำหน่ายทองจำนองที่
ทั้งทีวีตู้เย็นเคยเห็นหาย
ขึ้นไอ้อีกูเป็นวัวมึงเป็นควาย
เมื่อวันดีคืนร้ายได้มาเยือน
รู้หรือเปล่าบุญตาจะเรียนต่อ
รู้ไหมหนอบ้านหลังไหนก็ไม่เหมือน
อัดกันน่วมกลางลมหนาวและดาวเดือน
ครอบครัวเพื่อนถึงวายวุ่นแต่อุ่นดี
พ่อแม่ร้อนรู้ไหมว่าบุญตาหนาว
แม่ติดไพ่พ่อติดสาวเราติดหนี้
พ่อแม่หวังเรียนครบจบชั้นปี
ลูกคนนี้ต้องออกมาหางานทำ
จำลาชุดพยาบาลสง่าขาว
สวมชุดสาวโรงงานเช้ายันค่ำ
หนี้สินโหมบุญตาจนหน้าดำ
ครอบครัวช้ำเกินกว่าพยาบาล
18 มิถุนายน 2548
16 มิถุนายน 2548 11:40 น.
วิสกี้ เลอ ฟองเบียร์
หากลืมตามาพบสงครามโลก
ฉันคงโศกไม่ถีงหนึ่งส่วนแสน
เห็นรอยบ้านเรือนพังทั้งดินแดน
เลือดไหลแล่นรี่หลั่งจากร่างกาย
สองมือกำรอยปรักที่หักโค่น
สองขาโดนระเบิดซัดจนขาดหาย
บ้านเรือนเล่าก็ล่มแหลกแตกทลาย
น่าเสียดายที่มันเป็นเพียงภาพลวง
นี่ลืมตามาพบความว่างเปล่า
บนเตียงเก่าที่แสนจะแหนหวง
เช้าวันใหม่ที่ความสุขถูกถามทวง
ใจหนึ่งดวงถูกดองในน้ำตา
เหมือนเดินบนหนทางอันร้างไร้
ไฟถนนมืดไปทั้งซ้ายขวา
นอนกลางลมห่มควาามหนาวร้าวทรมา
ความเดียงสาถูกแทรกด้วยสีดำ
เมื่อพบว่าเธอหายไปจากห้อง
ไปจากคนเศร้าหมองร้องครวญคร่ำ
ทั้งชื่อเสียงเกลี้ยงกลายชดใช้กรรม
ได้ดื่มกินน้ำตาช้ำแทนน้ำชา
หากลืมตามาพบสงครามโลก
คงไม่โศกถึงแม้นเสียแขนขา
ดีกว่าเสียหัวใจที่ใช้มา
และลืมตามารับรู้ว่าถูกลืม
16 มิถุนายน 2548