28 มกราคม 2548 11:10 น.
วิสกี้ เลอ ฟองเบียร์
ให้รักเขาแบบพาร์ทไทม์ยามเผลอซึ้ง
แล้วให้ฉันเป็นที่หนึ่ง...ไหวไหม?
ขอหนึ่งห้องให้ฉันนั่งอยู่ข้างใน
ห้องรักเธอฉันใช้ใจในการจอง
เป็นห้องหับที่ต้องห้ามด้วยความหวง
อาจจะห่วงแต่ไม่หึงสักหนึ่งห้อง
ให้นับหนึ่งที่ฉันผู้ยึดครอง
แล้วที่สอง ที่สาม ค่อยตามมา
เพียงรับรู้ว่าจุดนี้ยังมีฉัน
พร้อมเคียงฝันหันมองยังเบื้องหน้า
ยอมยืนอยู่แถวสุดท้ายของสายตา
เป็นเพลงช้าพริ้วแผ่วให้แว่วยิน
จะเอ็นดูพร่ำพลอดไว้กอดหอม
ทะนุถนอมแคร์ใคร่ไข่ในหิน
แม้รู้ตัวว่าเลี้ยงนกไว้โบกบิน
น้ำตารินรดหวังคือรางวัล
ไม่โกรธเธอที่แหวกฟ้าบินหารัก
หากปีกล้าโปรดมาพักบนตักฉัน
ฉันคูณรักจากน้อยเป็นร้อยพัน
เธอหารใจไว้แบ่งปันคนหมายปอง
เป็นที่หนึ่งฆ่าเวลาถ้าเขามั่น
ค่อยเบียดฉันคนนี้ไว้ที่สอง
หนูตัวหนึ่งอุทิศใจให้ทดลอง
วันหนึ่งเธออาจเผลอมองค่าของมัน
ลมปากเธอหล่อเลี้ยงใจฉันได้อิ่ม
จะเก็บเกี่ยวรอยยิ้มไว้พิมพ์ฝัน
เก็บสายใยไว้สานต่อทอคืนวัน
ไว้ให้เธอแบ่งปันใครต่อใคร
ให้รักเขาแบบพาร์ทไทม์ยามเผลอซึ้ง
แล้วให้ฉันเป็นที่หนึ่ง...ไหวไหม?
จะโอนคืนทุกหน่วยกิตของจิตใจ
แล้วรีไทร์ทันทีที่เขาชัวร์
14 กันยายน 2547
26 มกราคม 2548 17:48 น.
วิสกี้ เลอ ฟองเบียร์
ใช้หยาดน้ำตา ในการร้องไห้
และแรงเท่าไหร่ ในการโหยหวน
ใช้เสียงเท่าไร ในการคร่ำครวญ
ในการทบทวนใช้กี่นาที?
กี่ครั้งที่ความ คิดนึกสึกหรอ
กี่ครั้งที่ท้อ แต่ไม่หน่ายหนี
กี่ครั้งความผิด ลบล้างความดี
เก็บความผิดนี้ เป็นเครื่องเตือนใจ
โทษเท้าเราเถิด ที่เผลอเดินขวาง
รองเท้าเลือกทาง เดินเองไม่ได้
เราเองกำหนด เลวดีเพียงใด
ทุกการร้องไห้ คือผลงานเรา
ไม่ผิดใช่ไหม ที่ใครจะผิด
และมีชีวิต บนซีกโลกเศร้า
บางคืนพระจันทร์ อาจถูกบังเงา
ตะวันยามเช้า ยังคงเข้างาน
อย่าให้เงาดำ ครอบงำความคิด
ก่อนที่ชีวิต จะถูกปิดม่าน
ความทุกข์หน่วงหนัก แวะทักไม่นาน
ก็จำต้องผ่าน จากห้วงคำนึง
เก็บความหวั่นไหว ในห้องคุมขัง
ความสุขกำลัง เดินทางมาถึง
เพียงพร้อมก้าวผ่าน แรงยุดฉุดดึง
ในสักวันหนึ่ง ต้องถึงดวงดาว
ใช้น้ำตาเช็ด แผลความขมขื่น
เมื่อความสดชื่น ถูกยื่นซองขาว
เส้นลากผ่านฝัน ไม่สั้นไม่ยาว
พระเจ้าเว้นวรรค ให้เราก้าวไป
เพราะหยาดน้ำตา ไม่ใช่ลิกควิด
จะลบความผิด ก็คงไม่ไหว
ยังปรากฏชัด บนบรรทัดใจ
ขอเวลาไว้ ใช้ในการลืม
14 กรกฎาคม 2547
26 มกราคม 2548 17:15 น.
วิสกี้ เลอ ฟองเบียร์
เหม็นกลิ่นคารมหวานเธอหว่านไว้
หอมกลิ่นเลือดเดือดไหลจากตาฉัน
รักระเหิดเป็นอากาศกลุ่มก๊าซควัน
ดังรูปปั้นถูกฝนกรดรดละเลง
คำคมเธอเหมือนมีดกรีดมือฉัน
ความเงียบงันขู่ฆ่ามาข่มเหง
ฉันโอดโอยโรยเกลือเนื้อตัวเอง
ความกล้าเก่งฉับพลันอันตรธาน
มีหลายคนยืนออต่อคิวรัก
เสน่ห์เธอร้อนนักทั้งปากหวาน
แววตาวอนอ้อนออดทอดสะพาน
ฉันซื่อเซ่อเผลอผ่านบานประตู
มาอยู่ในห้องรักอันแสนอุ่น
หวานละมุนไม่สร่างซาลืมตาหู
อิ่มอุ่นรักที่รินหลั่งรดพรั่งพรู
เธอมีใครซ่อนไว้อยู่ไม่รู้ตัว
ฉันร้องไห้ภายใน ภายนอกยิ้ม
เหมือนร้อยเข็มพันลิ่มทิ่มแทงหัว
น้ำตาเคลื่อนเหมือนกลิ้งบนใบบัว
ร่วงรินรั่วร่ำไห้อาลัยลา
ปล่อยเธอไปเป็น ตัวตนของคนอื่น
มันแค่นขื่นขุ่นคลั่งข้อกังขา
หอมกลิ่นเลือดไหลนองจากสองตา
เหม็นคารมที่เข่นฆ่าควักคว้านใจ
คิดว่าเป็นตัวตนที่แท้ยิ่ง
อันที่จริงแม้แต่เงาก็ไม่ใช่
ปล่อยสสารรักระเบิดระเหิดไป
กลายเป็นไออากาศกลุ่มก๊าซควัน
27 กรกฎาคม 2547
26 มกราคม 2548 16:53 น.
วิสกี้ เลอ ฟองเบียร์
ฉันหยุดแล้วกับเรือนร่างและสังขาร
ธรรมชาติเริ่มประหารให้ฉันเห็น
พบหลายอย่างที่ร่างกายไม่เคยเป็น
ปรากฏเด่นเจนชัดให้ฉันปลง
เราคบกันฉันดูแล้วไม่ใช่รัก
มันหน่วงหนักเอียงข้างไปทางหลง
กายฉันนี้เปลี่ยนดังคลื่นไม่ยืนยง
เธอก็คงจะเลือกเขาผู้เยาว์วัย
ร่างกายนี้มีไว้ให้สังเวช
มันคือเหตุความทุกข์ที่ลุกไหม้
มีไว้เป็นทาสความคิดและจิตใจ
เป็นเครื่องมือถือไว้ใช้กระทำ
ฉันยอมแพ้แผลนี้ที่เธอให้
ฉันพลาดเจ็บเพราะเผลอใจไถลถลำ
หัวใจเธอสวยดีด้วยสีดำ
ฉันปวดใจใช้พระธรรมเป็นกำบัง
สู้ไม่ได้ฉันจึงหยุด จุดไม่สู้
เพราะฉันรู้รักนี้ไม่มีหวัง
ร่างกายฉันอ่อนแรงเหลือกำลัง
ขอหลบตั้งหลักใจคลายร้าวราน
อันร่างกายใช้แล้วทิ้ง จริงหรือเท็จ?
เมื่อสิ้นเสร็จสุขโศกโลกประหาร
ทะยานเหินเพลินได้แต่ไม่นาน
สิ้นวิญญาณก็ล้มดับลงทับดิน
หาประโยชน์ใดหนอจากร่างนี้
สิ้นชีวีก็ล้มนอนดังก้อนหิน
สถานีสุดท้ายของชีวิน
คงสุดสิ้นที่ความตายในสักคืน
เคยใช้กอดเมื่อโรยราหรือกล้าใกล้
ทุกสิ่งอันฉันเข้าใจและไม่ฝืน
เมื่อสิ้นลมก็ล้มนอนดุจท่อนฟืน
ใดยั่งยืนเลิศล้ำเท่าความตาย?
อโหสิกรรม คำนี้ที่จะให้
ความปวดใจที่เธอสร้างเริ่มจางหาย
เธอรักใครก็หมายจูบเพียงรูปกาย
สิ่งเลวร้ายฉันจะอดเพื่อหมดเวร
22 มกราคม 2548
21 มกราคม 2548 10:22 น.
วิสกี้ เลอ ฟองเบียร์
ขอโทษ...โปรดกลับไปอัพเดท
และอัพเกรดมันสมองล้าสมัย
ไม่มีเธอ ใช่ฉันนี้ไม่มีใคร
ขออภัยที่เจ็บน้อยกว่าเมื่อวาน
โลกของฉันทั้งใบหมุนไปแล้ว
ไม่มีแววจะหลงลุ่มหลุมคำหวาน
มดที่เคยดิ้นตายในน้ำตาล
มันกลับชาติมาอาจหาญด้วยปัญญา
เพราะความเจ็บเก็บเกี่ยวข้อมูลไว้
เสี้ยมสอนใจดวงนี้ให้มีค่า
เธอว่าเก่า เขาว่าใหม่ ธรรมดา
ฉันยังมีราคาต่อใครใคร
ความเจ็บปวดไม่ใช่ฉันเพิ่งพานพบ
คนประสบมาทุกยุคสมัย
ทิ้งฉันลงอย่าหลงผิดคิดดีใจ
ปัจจุบันฉันเจ็บได้แต่ไม่นาน
อาจจะจริง ฉันคนก่อนนอนร้องไห้
น้ำตาไหลล้างหน้ามหาศาล
เฝ้างอนง้อขอร้องและต้องการ
ให้เธอผ่านมาสมเพชเวทนา
ขอโทษ...โปรดกลับไปอัพเดท
และอัพเกรดมันสมองตรองน้ำหน้า
ฉันลงทุน เสียรักไปได้ปัญญา
มาอัพเกรดพัฒนาคุณค่าตน
21 มกราคม 2548