14 สิงหาคม 2546 15:14 น.
วิสกี้ เลอ ฟองเบียร์
ขอบคุณที่เธอศรัทธา มองเห็นคุณค่าในตัวฉัน
เมื่อฉันรู้ว่ามีค่าต่อใครสักคน ฉันภูมิใจสุขล้น ทุกคืนวัน
เธอทำให้ปัญหาอันหน่วงหนัก เบาบางด้วยความรัก ความผูกพัน
เธอทำให้สิ่งเล็กน้อยที่ไร้ราคา กลับมีคุณค่าสำหรับฉัน
ทำให้ฉันยิ้มได้แม้พ่ายแพ้ ไม่แคร์ความเจ็บปวดร้อยพัน
ขอบคุณรอยยิ้ม แววตา ความศรัทธาจากใจเธอนั้น
เธอเป็นคนที่เดินเข้ามา ทำให้ 24 ชั่วโมงของฉันมีค่าทุกวัน
14 สิงหาคม 2546 15:06 น.
วิสกี้ เลอ ฟองเบียร์
ใครใครก็ต้องการความสุข มีใครต้องการความทุกข์เสียที่ไหน
ต่างก็ภาวนาขอให้สุขนั้นยืนยาว ฉันให้รักของเรามั่นคงตลอดไป
เราเรียนรู้และศึกษากันเสมอ ฉันและเธอมีความรักความเข้าใจ
เราไม่ใช่ผู้วิเศษในเทพนิยาย หลีกข้อผิดพลาดได้เสียเมื่อไร
ทางสายที่เราเดินนั้น อาจจะแตกต่างกันฉันรับได้
แต่เราก็มีทางสายกลาง ให้เดินร่วมทางอย่างสบายใจ
ฉันหวังว่าเราเข้าใจกันและกัน เธอและฉันสามารถเข้ากันได้
ต่างก็ต้องมีผิดพลาดกันทั้งคู่ เธอรู้ฉันรู้และพร้อมอภัย
14 สิงหาคม 2546 14:56 น.
วิสกี้ เลอ ฟองเบียร์
แสงแดดแผดเผาน้ำค้าง
น้ำค้างระเหยเหือดหาย ร่ายมนต์ฤดูใบไม้ร่วง กังวาน แว่วหวิว - หวีดหวิว
ง่ามกิ่งกรีดกรายฟ่องฟ้อน ใบไม้เหี่ยวแห้งร่ายรำ - ร่วงโรย
เถาวัลย์เลื้อยกอดรัดกิ่งก้านสาขา ทอดยอดสีเขียวอ่อนออเซาะ - ซอนซบ
ใบไม้แห้งแดงกรอบ ปลิดปลิว หล่นคว้าง
ความนึกคิดหลุดลอย เคว้งคว้างสู่เวิ้งจินตนาการ
สายลมพัดกวัดไกว ใบไม้ร่วงลง - ร่วงโรย
สายลมบรรเลงบทเพลงอ่อนหวาน - อ่อนไหว
ใบไม้เดียวดาย อำลาอ้อมแขนกิ่งก้าน ร่วงโรย
นกในรังหลั่งน้ำตา อำลา - อาลัย
แย้มยิ้มส่งเสียงใสต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ
ใบไม้สีส้มปล่อยตัวแห้งกรอบทีละน้อย อาบแสงแดดแจ่มจ้าเร่าร้อน
ใบไม้สีเขียวกรีดกรายร่ายรำ ทะเยอทะยาน
ใบไม้อ่อนสีน้ำตาลผลิออกมาใหม่
ใบไม้สีเหลืองเหยียดแขนขาอ้อนแอ้น อ่อนช้อย
เพลงป่าบรรเลงทำนอง หล่อเลี้ยงจังหวะชีวิตพืชพรรณ - พฤกษ์ไพร
ฤดูกาลเวียนหมุน ใบไม้สีน้ำตาลแก่ร่วงลงซบอกผืนดิน
ทับถมกัน เปื่อยยุ่ย ผุพัง เน่าสลาย เป็นปุ๋ยดี ดินดำ อุดมสมบูรณ์
หล่อเลี้ยงต้นไม้ ดอกไม้ ให้แตกกิ่งก้านสาขา
ผลิใบอ่อนสีน้ำตาล มาร่ายระบำลำนำใบไม้ป่า
ท่วงทำนองชีวิตยังดำเนินต่อไปอย่างไพเราะ
จังหวะการเต้นของหัวใจยังเริงร่า - เริงรื่น
นิทรากาล น้ำค้างโปรยสายพร่างพรมห่มใบไม้
วิญญาณหนาวเย็นหลับไหลในอ้อมอกอากาศ
รุ่งราง แสงแดดแผดเผาน้ำค้าง
น้ำค้างระเหยเหือดหาย ร่ายมนต์แห่งฤดูกาล
กังวานแว่วหวิว - หวีดหวิว
13 สิงหาคม 2546 18:14 น.
วิสกี้ เลอ ฟองเบียร์
ความเหงาของคนไม่ใช่ความรู้สึกที่ไร้สาระ
แก่นกลางของมันมีความหมายอันยิ่งใหญ่แอบแฝง
บางคนรักความครึกครื้นเฮฮา รังเกียจและหวาดกลัวความเหงา
ในขณะที่บางคนพยายามตะกายไขว่คว้าความเหงา
เพราะภายในห้องแห่งความเหงา มีภาพหลากสีสัน เสียงอันไพเราะ
และความรู้สึกที่สวยงามซุกซ่อนอยู่
บางคนหลับไหลอย่างเป็นสุขในห้องแห่งความเหงา
ความเดียวดายทำให้เขาค้นพบสิ่งมีค่า
ที่ซุกซ่อนอยู่ภายในตัวตนของตนเอง
บางคนค้นพบจุดหมายปลายทางอันแสนไกลแม้สุดขอบจักรวาล
แต่ใจที่ซุกอยู่ในร่างกายของตนกลับค้นไม่พบ
ความเหงาแฝงเร้นด้วยดวงวิญญาณแห่งอิสระเสรีภาพ
ความเหงาสร้างอาณาจักรอันยิ่งใหญ่ได้ภายในห้องแคบๆ
ความสุขอันเร้นลับในความเหงาไม่อาจบอกออกมาด้วยถ้อยอักษรได้
ผู้ที่เสพรสความเหงาจึงยังคงใช้ชีวิตอยู่ในห้องแห่งความเหงาอย่างเป็นสุข
13 สิงหาคม 2546 17:58 น.
วิสกี้ เลอ ฟองเบียร์
ตู้ไปรษณีย์สีแดงยังคงยืนนิ่งอยู่กลางแดดลมฝน
มันไม่ปราศรัยทายทัก ฉอเลาะกับใคร
ไม่ขยับเขยื้อนตัว ไม่โกรธเด็กๆที่มาเคาะเล่น
ไม่สำลักกระอักควันไอเสียจากรถราบนท้องถนน
ไม่ปริปากบ่นถึงความลำบากลำบนใดๆ ของตัวเอง
มันยังคงเก็บความลับไว้เป็นอย่างดี
จดหมายหลายฉบับที่ซ่อนเร้นความลับไว้ภายใน
ถูกหย่อนทิ้งลงไปในปากเจ้าตู้ไปรษณีย์สีแดง
แม้ปากมันจะกว้าง แต่ก็ไม่เคยพูดพล่าม ตีแผ่ความลับของใคร
แม้ว่า อีกไม่กี่วัน ความลับนั้นจะถูกเปิดเผยอย่างพึงพอใจ
แต่เจ้าตู้ไปรษณีย์สีแดงก็ยังคงเงียบกริบ
เก็บงำความลับไว้เป็นอย่างดี
ปากคนเราเล็กกว่าปากตู้ไปรษณีย์
แต่กลับมีพละกำลังมหาศาล ครอบจักรวาล