8 กันยายน 2547 11:22 น.
วิสกี้ เลอ ฟองเบียร์
คืนนี้ฝนตก
เมื่อไม่มีเสียงเธอ ฉันได้ยินเสียงฝน
ร่วงหล่นลงบนหลังคา บางเบา
ละอองฝอยฝนพร่างพรมยอดไม้ใบหญ้า
กลิ่นไอเย็นฉ่ำ กล่อมฉันหลับใหล
ลมหนาวพราวพัดกลิ่นหอมมาสัมผัสกาย
อยากให้ผ้าห่มอุ่น มีค่าต่อฉันมากกว่าเธอ
รู้ไหมคนดี คืนนี้ฝนตก
ม่านฝนหล่นคว้างโอบคลุมโลก
กลีบดอกไม้บาง หล่นโรยโปรยดิน
ร่องรอยสายใยถูกกลบด้วยธารน้ำฝน
หากมีเธออยู่ทั้งคนคงคลายความสะท้านสั่นไหว
ฉันพบเพียงความเปล่าว่าง กว้างไกล
สองดวงตากักเก็บน้ำไว้... แต่ได้ไม่นาน
หวังใด หวังใด กับรักที่เปลี่ยนทิศ
น้ำฝนเหมือนน้ำพิษ น้ำกรดรดราดประหัตประหาร
ห่างลิบลับกับขอบฟ้านิทรากาล
บทเพลงสายฝนกังวานหวาน กล่อมนอน
รวดเร็วดังสายฟ้า คำสัญญาเลือนหาย
มีเขาแนบกาย เธอมีลมหายใจที่สวยงาม
เราพบกันในโลกแห่งความปรวนแปร
จะหวังแน่แท้กับสิ่งใด
ฝนพร่างพรมชโลมโลกเริ่มสร่างซา
แต่หยาดน้ำตาไม่สร่างซาเหือดหาย
คืนนี้ฝนตก เสียงฝนนอกหน้าต่างพร่างพราย
อาจมีเสียงฟูมฟาย เป็นคอรัสคลอไปกับสายฝนบรรเลง....
8 กันยายน 2547 11:06 น.
วิสกี้ เลอ ฟองเบียร์
เราสองเคยฝากซากดอกไม้
ประดับยอดปราสาททรายสดใส
แม้คลื่นซัดแตกร้างโรยรา
แต่ทรายยังละเอียด ละเมียดละไม
มีโลกเป็นครรภ์มารดา
น้ำทะเลดิ้นอยู่ทุกเวลา
ความรักเราไม่มีพรุ่งนี้
น้ำทะเลเหมือนมีน้ำตา
ฝากมวลดอกไม้นานา
ประดับปราสาททรายงามตา
ชีวิตคือนิยายแสนสั้น
ความรักนั่นสิสั้นกว่า
ไม่ต้องขอโทษต่อสวรรค์
ไม่ต้องขอโทษต่อนิรันดร์
ไม่ต้องขอโทษต่อยั่งยืน
ไม่ต้องขอโทษต่อหมื่นพัน
รักเขาสดใสคล้ายคลื่น
รอยยิ้มดวงตาเต็มตื่น
สดชื่นกว่าหยาดน้ำตา
ในสองตาของฉันทุกวันคืน
เต็มอิ่มซึ้งใจในคำลา
มีหยาดน้ำทิพย์ในพริบตา
มีรักก็ต้องมีร้าง
ฉันเห็นเป็นสิ่งธรรมดา
ทะเลเห่กล่อมรุ่งสาง
มองเห็นเงาจันทร์รางราง
ปราสาททรายแหลกสลาย
เห็นซากดอกไม้กลีบบาง
หาดทรายปลายทะเลเดือนหงาย
เกลียวคลื่นยังซบผืนทราย
เกลียวรักจากเธอไม่เคยหลง
มาซบผืนใจคนเดียวดาย
ปราสาททรายเปื่อยยุ่ยเป็นผุยผง
คือของขวัญจากความมั่นคง
ฉันเป็นดั่งทรายปลายทะเล
ว้าเหว่เมื่อยามน้ำลง...
7 กันยายน 2547 13:22 น.
วิสกี้ เลอ ฟองเบียร์
หม่น sky ในท้องฟ้า stars ระยับ
The sun ลับกับ mountain เย็นสดใส
แม้ไร้แสงแห่ง the moon ให้อุ่นไอ
ถึงอย่างไร my heart ยัง go on
แล้วหมู่ clouds ขาวสะอาดก็พลัดฟ้า
ประกาย stars ทอม่าน fog ละอองอ่อน
นอก window ดังภาพวาดจิตรกร
ดาวสะท้อนใน river ที่รวยริน
กระแสน้ำงามดังงูที่เลื้อยไหล
The young trees พลิ้วไหวเป็นลายศิลป์
Open eyes เห็น colors of the wind
พลันได้ยิน melody ที่เงียบงัน
Everyday ไม่มีเธอคอย Goodnight
Do you know? ฉันร้องไห้แม้ในฝัน
ยี่สิบสี่ชั่วโมงในหนึ่งวัน
เธอใช้คิดถึงฉันกี่นาที?
มีเพียงสายลมกล่าว Good morning
เธอทอดทิ้งให้ฉัน cry แล้วหน่ายหนี
ฉันอ่อนไหวไร้สุขทุกราตรี
Like young trees in the winter time
7 กันยายน 2547 13:09 น.
วิสกี้ เลอ ฟองเบียร์
ผลักฉันล้มไม่ต้องลุ้น - ขอบคุณมาก
ที่เอ่ยปากชัดแจ้งแจงความหมาย
ประโยคสั้นไม่ยืดเยื้ออธิบาย
กับข่าวร้ายที่เธอบอกมันออกมา
ต่างทนอยู่กันไม่ได้ต้องหน่ายหนี
เราต้องเรียกว่าข่าวดีจะดีกว่า
สมองเคยใช้คิดอิดระอา
จะเริงร่าคิดแลแต่สิ่งดี
ทิ้งก็เจ็บเก็บก็ปวดรักรวดร้าว
จึงต้องสาวเท้าทั้งสองออกวิ่งหนี
หันหลังให้กันและกันเสียวันนี้
ฝืนอยู่ไปก็ไม่มีดีขึ้นมา
เราไม่มีใครทิ้งหรือถูกทิ้ง
เพราะต่างคนต่างก็วิ่งต่างตั้งท่า
เพื่อไปพบชีวิตใหม่ไกลสายตา
ออกวิ่งด้วยสองขาของใครมัน
ความประพฤติ ความคิดและนิสัย
การกระทำเธอทำไว้ให้แก่ฉัน
เป็นเครื่องช่วยตัดใจง่ายเร็วพลัน
ในเร็ววันต้องลืมได้ไม่อาวรณ์
ฝืนทนอยู่ยิ่งตอกย้ำยิ่งย่ำแย่
จึงให้แผลที่มีอยู่เป็นครูสอน
ให้รักได้เลิกได้คลายอาทร
แล้วกลับย้อนมารักตนอย่างมั่นคง
เธอคิดหรือว่านี่คือข่าวร้าย
แค่น้ำเชื่อมเคลือบน้ำลายเคยใหลหลง
อยู่คนเดียวไม่ตายหรอกบอกตรงตรง
ว่าฉันลืมเธอได้ลงก็แล้วกัน
7 กันยายน 2547 13:03 น.
วิสกี้ เลอ ฟองเบียร์
ไม่มีคำว่าพรุ่งนี้สำหรับหัวใจอันเย็นชาของฉัน
หลังจากมันร้อนรนกระวนกระวายมานาน
ไม่มีคำว่าพรุ่งนี้สำหรับความรักของเรา
ความว่างเปล่าจะมาทดแทนความร้าวราน
ขอมอบพรุ่งนี้ให้แก่เขาและเธอ
ผูกพัน รักมั่นเสมอ ตลอดกาล
ดอกไม้สีชมพูจะเหลือเพียงความว่างเปล่า
ดอกไม้สีขาวจะเบ่งบาน
กาลเวลาก็เปรียบเสมือนสายฝน
ร่วงหล่นมาชะล้างหัวใจอันร้าวราน
ความทรงจำอันแสนขื่นขม
จะจ่อมจมอยู่ในโคลนตมแห่งวันวาน
เขาและเธอจะได้พบเช้าวันใหม่
ฟ้าสีชมพูจะโอบเธอไว้จวบจนนิทรากาล
ตลอดคืนวันแห่งการค้นหา
คือตลอดเวลาอันแสนทรมาน
ความรักของเราจะไม่มีคำว่าพรุ่งนี้
มันจะเหลือเพียงภาพทรงจำดีๆแห่งวันวาน
วันนี้ของความรักเราเดินทางมาถึงจุดจบ
และจะไม่มีวันได้พบ พรุ่งนี้ ตราบชั่วกาล
ดอกไม้สีชมพูจะเหลือเพียงความว่างเปล่า
ดอกไม้สีขาว...จะเบ่งบาน...