8 สิงหาคม 2551 12:43 น.
วิสกี้ เลอ ฟองเบียร์
พี่ก็รู้ว่าอั้มกลัวความอ้วน
พี่ไม่ควรจะทำอั้มคิดถึง
ทุกครั้งที่อั้มเผลอจิตคิดคำนึง
อั้มก็อ้ำไปคำหนึ่งพอเป็นยา
ลุกมาก่อนคนอื่นตื่นก่อนไก่
มาตั้งหม้อก่อไฟช่วยลุงป้า
ครึ่งหลับตื่นอยู่ข้างเตาเช้าคาตา
แล้วเปิดฝาเชื่อมน้ำต้มผสมน้ำตาล
ตั้มถั่วแดงถั่วเขียวเคี่ยวกะทิ
ฟังเข็มวิดีดเด้งเป็นเพลงหวาน
เสร็จเหนื่อยนั่งรอฤกษ์นกเบิกบาน
บินข้ามผ่านหลังคาไปหากิน
เหนื่อยที่อั้มทำของหวานนั้นจิ๊บจ๊อย
ยังเหนื่อยน้อยกว่าคอยชายคนใจหิน
ยิ่งคิดถึง ยิ่งรัก ยิ่งอยากกิน
รอพระบิณฑบาตเดินผ่านไป
ลูกค้าซื้อของหวานไปใส่บาตร
รอยใจบาดมีใครหนาหายาใส่
คนเคยชมว่าหุ่นพริ้งรักจริงใจ
ก็ห่างไกลเหลือเกินรอเนิ่นนาน
กินฝอยทองแพหนึ่งคิดถึงพี่
น้ำลายปรี่มองจวักตักของหวาน
กินบวดมันบวดกล้วยหลายถ้วยจาน
หมดแรงใจจะเผาผลาญให้ผอมเพรียว
ปากก็ซดลอดช่องจ้องสริ่ม
หอมปลากริมไข่เต่าใบเตยเขียว
ให้สะใจที่อั้มรักพี่ข้างเดียว
ยังไปเที่ยวทำเจ้าชู้นะผู้ชาย
เคี้ยวบัวลอยไข่หวานให้มันแหลก
ไข่แดงแตกรักที่คอยก็ลอยหาย
ตักกะทิราดของหวานมันกระจาย
แอบชะม้ายชายตาหาบางคน
พี่ก็รู้อยู่ว่าอั้มกลัวความอ้วน
อุ๊ย เต้าส่วน นั่นรวมมิตร จิตสับสน
มองแขนขาอวบอั๋นสังขารตน
หนีไม่พ้นเส้นเลือดจะตีบตัน
มองดูไขกะทิข้นเป็นมันย่อง
มันกำลังจะย่องเข้าท้องฉัน
หากพี่ชายปล่อยปละมาไม่ทัน
คงเร็ววันหุ่นอั้มไม่งามตา
เคยถูกชมว่าหุ่นเรียวเพรียวเหมือนหน่อย
คิดถึงบ่อย ก็กินบ่อย นั่งคอยหา
หากพี่เห็นหุ่นอั้มอีกสักครา
คงจะว่าหุ่นเหมือนหน่อย บุตรสุกร
มองชาวบ้านนิมนต์พระบิณฑบาต
หยิบทองหยอดในถาดใส่ปากป้อน
เคี้ยวจับจับทุนหายกำไรรอน
อั้มจะอ้วนเป็นหมูตอนให้พี่ตรม
รู้ทั้งรู้ว่าอั้มกลัวความอ้วน
หุ่นอั้มท้วนเป็นอึ่งยืนสุดขื่นขม
อยากเหมือนอั้ม พัชราภา น่าชื่นชม
ต้องตัวกลมอย่างนี้เพราะพี่ลวง
6 สิงหาคม 2551
7 สิงหาคม 2551 13:13 น.
วิสกี้ เลอ ฟองเบียร์
ใครใช้คุณเกิดมาเป็นแม่ฉัน
เป็นลิขิตของสวรรค์ ณ ชั้นไหน
ด้วยกงการเทวดานางฟ้าใด
คุณจึงให้ฉันเห็นเป็นมารดา
คุณรู้ไหมใครเกิดมาเป็นแม่ฉัน
ต้องแบกรับสารพันกับปัญหา
ฉันขี้โรคอ่อนแอแต่ลืมตา
คุณยังกล้าประคองประเคนจนเป็นคน
คนอย่างฉันควรดิ้นกินขี้เถ้า
คุณกลับเอาเลือดขาวอันเข้มข้น
บรรจงป้อนใส่ปากสู้ยากจน
บดพืชผลไข่กล้วยด้วยอาทร
เขาสาปฉันมาเกิดในโลกนี้
คุณยังมีน้ำใจให้ฟูกหมอน
อุ้มใส่อู่ไกวเปลกล่อมเห่นอน
เอาอกป้องหนาวร้อนที่ทำลาย
เรียนศัพท์แรกภาษาโลกคำว่า แม่
แปลกใจแท้สิ่งคุณทำให้ความหมาย
แอบซาบซึ้ง ถึงคุณตีจนฉันตาย
ก็ไม่คลายไปเรียกใครว่าแม่ตน
ฉันเติบโตอ่อนต่อโลกมลพิษ
เสี่ยงชีวิตหลงล้ำความสับสน
ลิ้นรักลวงหลอกเลียจนเสียคน
โลกมืดมนไม่เหลือใคร ฉันเหลือคุณ
น้ำใจคุณผ่องผุดพิสุทธิ์ใส
ขณะใครใจคล้ำแสนดำขุ่น
คำปลอบโยนจากรักแท้แปรเป็นทุน
ผลักให้โลกฉันยังหมุนไปอีกวัน
นางฟ้าควรสุขล้นอยู่บนฟ้า
ใครหนอดึงคุณลงมาจากสวรรค์
เพียงเพื่อมาหวังดีชั่วนิรันดร์
ฉุดดึงฉันพ้นทุกขเวทนา
ฉันจึงแอบเทิดทูนคุณเหนือหัว
ตราบวันตัวดับดิ้นดินกลบหน้า
รอดเป็นผู้อยู่เป็นคน คุณเมตตา
ขอบูชาเป็นพระเจ้าคุ้มครองใจ
เหนื่อยหน่อยนะที่ทนสู้เลี้ยงดูฉัน
แบกปัญหาสารพันไม่หวั่นไหว
ทุกครั้งที่ฉันก้มกราบพระรัตนตรัย
คุณรู้ไหมฉันกราบคุณไปพร้อมกัน
รู้ไหมฉันซึ้งในน้ำใจฟ้า
ที่วานคุณเกิดมาเป็นแม่ฉัน
เมื่อโลกลวงรุมรังแกจนแพ้มัน
ฉันอยากกลับไปหลับฝันในครรภ์คุณ
6 สิงหาคม 2551
คิดถึงแม่ที่สุดในโลก
2 สิงหาคม 2551 11:09 น.
วิสกี้ เลอ ฟองเบียร์
* ล่ะสายลำมูลหนอไหลโค้ง.... มาบรรจบลำโขง จั่งไหลโค้งลงทางใหม่
จุดระหว่างลาวไทย เมืองโขงเจียมเคยนั่งชี้ แนมสีน้ำที่แบ่งสอง...
โขงสีปูนมูลสีคราม ยังตำใจอีน้อง ยามได้ส่องดอกมองไกล
น้ำสองสีคือชาย ผู้แบ่งใจ....เป็นสองก้ำ....
มองดูสายแม่น้ำมูลที่ไหลโค้ง
มาบรรจบแม่น้ำโขงเป็นสองสี
โอ้ความรักไหลลับกับวารี
ผ่านเดือนปีสู่ทะเลแห่งเวลา
สาวอำเภอโขงเจียมเปี่ยมความเหงา
ตะวันเศร้าจมลับกับแผ่นหล้า
คิดถึงคนเคยเคียงทุกครั้งครา
บังเอิญมาประสบได้พบพาน
เพียงแรกพบสบตาคราประแป้ง
ดังฟ้าแกล้งให้หลงมนต์คนปากหวาน
เทใจรักจนหมดขันวันสงกรานต์
ใจเบิกบานชวนเที่ยวแคว้นแดนอุบลฯ
ชมแผ่นดินจูบแผ่นฟ้าที่ผาแต้ม
แล้วนั่งแนมน้ำสองสีพี่ใฝ่สน
สุริยนสนธยาช่างน่ายล
น้ำปริ่มล้นโขงเจียมเปี่ยมโขงใจ
เดินเลียบเลาะเกาะแก่งแห่งน้ำโขง
เห็นน้ำคดน้ำโค้งพาสงสัย
แม่น้ำเอ๋ยอยากเอ่ยพร่ำถ้อยคำใด
น้ำสองสีรินไหลไปลับลา
ชมเขาเขินเดินเที่ยวเราเกี่ยวก้อย
ยามค่ำคล้อยเที่ยวงานวัดถ้ำคูหาฯ
ไหว้หลวงปู่คำคะนิงอิงสัจจา
สาบานว่าจะรักกันตราบวันตาย
พอหนึ่งปีให้หลังความหวังวูบ
เห็นเถ้าธูปคราใดน้องใจหาย
เคยปักธูปกระถางนี้กับพี่ชาย
ธูปคับคล้ายอยากเอ่ยเผยวาจา
ลองเซียมซีเสี่ยงทายหัวใจพี่
อ่านเซียมซีแล้วมือสั่นขวัญผวา
ชายคนรักผู้ห่างไกลไร้สัจจา
ลืมสัญญาไปควงสาวผู้เยาว์วัย
รู้แล้วหนอที่สายน้ำร่ำวันนั้น
คงเตือนฉันว่าพี่ร้ายกว่าชายไหน
ธารสองสาย น้ำสองสี พี่สองใจ
ควงสาวใหม่เทียบชั้นขั้นนางงาม
ธูปสามดอกที่วัดคูหาสวรรค์
คงเตือนฉันว่ารักมีมือที่สาม
พี่ลืมสิ้นโขงสีปูนมูลสีคราม
ลืมถ้อยความที่กระซิบเสียดิบดี
มาถอนคำสัญญาหน้าหลวงปู่
หากท่านรู้พี่ใจดำน้ำสองสี
หลวงปู่คำคะนิง จุลมณี
คงไม่มีวันอภัยให้พี่ยา
ชื่อโขงเจียมบอกน้องเจียมกะลาหัว
ให้เจียมตัว เจียมชาติวาสนา
โขงสีปูนมูลสีคราม รองน้ำตา
สาวโขงเจียมที่คอยท่าริมวารี
มองดูสายแม่น้ำมูลที่ไหลโค้ง
มาบรรจบแม่น้ำโขงเป็นสองสี
สองธาราพยายามพร่ำวจี
เตือนน้องว่า น้ำสองสี - พี่สองใจ
1 สิงหาคม 2551
-------------------------------------------
*ท่อนเกริ่น จากกลอนลำ น้ำสองสีพี่สองใจ
ผลงานเพลงของราชินีหมอลำเสียงอ้อน ศิริพร อำไพพงษ์
29 กรกฎาคม 2551 11:24 น.
วิสกี้ เลอ ฟองเบียร์
ชื่นความหวังกลางกมลชนทั้งผอง
เมื่อหยาดฝนหล่นละอองลงนองหล้า
สิบสามปีที่สิบแปดกรกฎา
สมเด็จย่านิราศลับกลับดาวดึงส์
สานดำริมหิดลชนกนาถ
ข้าพระบาทสำนึกรำลึกถึง
เย็นศิระพระเมตตาอันตราตรึง
ปวงราษฎร์ซึ้งเทิดรักศรีนครินทร์
ด้วยได้รับน้ำพระทัยใสพิสุทธิ์
ความมืดหมองผองมนุษย์จึงสุดสิ้น
ลดพระองค์ลงจากฟ้ามาโปรดดิน
แม้ท้องถิ่นดินแดนแสนกันดาร
มูลนิธิศรีนครินทร์ แพทย์อาสา
ปวงประชาสิ้นทุกข์เปี่ยมสุขศานต์
ด้วยการแพทย์การรักษาพยาบาล
หทัยธารถึงทุกถิ่นสิ้นทุกข์ทน
โลกจารึกพระกรุณาหาที่สุด
งามผ่องผุดดุจเพชรในเม็ดฝน
พระราชกิจสฤษฏ์ไว้ในสากล
พื้นภูวดลจึงเย็นยิ่งเหนือสิ่งใด
ขอประทีปพระวิญญาณ์แม่ฟ้าหลวง
ณ แดนสรวงส่องหวังสว่างไสว
รอยพระสรวลสลักลงตรงหทัย
จะเก็บไว้ชื่นชีวิตนิจนิรันดร์
เย็นหยาดฝนหล่นละอองจากท้องฟ้า
สมเด็จย่ายังประทับในภาพฝัน
ร้อยหยาดฝนหยดน้ำตาข้าฯตื้นตัน
สิบสามวสันต์น้อมบูชาแม้ฟ้าไทย
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
ข้าพระพุทธเจ้า
นายภัทรลักษณ์ อัครกวินทร์
(บทอาเศียรวาทเนื่องใน "วันศรีนครินทร์" 18 กรกฎาคม)
28 กรกฎาคม 2551 22:02 น.
วิสกี้ เลอ ฟองเบียร์
มาแล้วจ้าเพื่อนพ้องและน้องพี่
วงดนตรีบ้านนอกกระจอกศิลป์
ออกเดินสายขายเสียงเพียงหากิน
เอาเสียงพิณเสียงแคนกล่อมแฟนเพลง
เลิกโรงเรียน มาแต่งหน้านั่งทาเล็บ
ไม่ออกเทปดอกอ้ายเดี๋ยวค่ายเจ๊ง
คิดค่าร้องค่าเต้นเป็นกันเอง
ถึงไม่เจ๋งแต่เรานี้มีน้ำใจ
จ้างมาสิบเราจะเล่นให้เป็นร้อย
จ้างมาร้อยเล่นไปพันไม่หวั่นไหว
จ้างมาพันเล่นให้หมื่นพาชื่นใจ
แฟนคลับขอเพลงไหน ร้องให้ฟัง
นักดนตรีบางคนไปค่ายลูกเสือ
ก็เลยเหลือแต่ ร.ด.พอให้หวัง
สาวหางเครื่อง ม.ปลายเต้นได้ตังค์
ค่อยไปนั่งเรียงความทำรายงาน
แฟนคลับเชียร์ดาวเต้น สาว ม.ต้น
ลูกคนจนบนเวทีเพลงอีสาน
เต้นเหงื่อชุ่มใจฉ่ำสุขสำราญ
มั่วหน้าฮ้านเฮฮาบ้านนาเฮา
แม่ยกคล้องมาลัยให้หนุ่มหล่อ
เหล่า สห. ยืนคุมกลุ่มขี้เหล้า
ขอบคุณท่านที่มาช่วยอำนวยเรา
ขอแบ่งเบาความจนด้วยดนตรี
นักร้องสาวเสียงหวานจัดเพลงให้
ปริญญาใจ ขับร้องกล่อมน้องพี่
แทนผ้าเย็นเช็ดเหงื่อใจด้วยไมตรี
ขอให้มีความหวังกำลังใจ
แล้วโยกย้ายใส่สเต็ปให้เล็บแหว่ง
กุหลาบแดง เพลงซิ่งนิ่งไม่ไหว
โบรักสีดำ เพลงฮิตดังติดไมค์
รักผัวเขา เขย่าใจคนร้าวราน
มา เปิดใจสาวแต เพื่อแก้เครียด
แม่เฒ่าเบียดฟ้อนรำกับลูกหลาน
สาวๆกรี๊ด รักสลายดอกฝ้ายบาน
ต่อด้วยเพลง ขึ้นคานเพราะการคอย
เหยียบเท้ากัน ขอโทษกัน ฉันพี่น้อง
หนุ่มแอบมองจ้องหมอลำสาวส่ำน้อย
น้ำค้างโรยสาวคนไหนนั่งใจลอย
มาเต้นให้เหงื่อย้อยค่อยอุ่นกาย
ขอบพระคุณดอกไม้มาลัยนี้
เงินใบร้อย ใบยี่ มีความหมาย
ค่าขนมน้อง ม.ต้น ไม่อดตาย
พี่ ม.ปลาย มีค่าเรียนกวดวิชา
หนูเก็บออมค่าแรงทั้งแบงก์เหรียญ
หลังเลิกเรียนเขียนฝันไว้ข้างฝา
จะช่วยแม่ซื้อปุ๋ยลุยทำนา
ซื้อตำรับตำราอ่านเข้า ม.
แบงก์น้อยน้อยแฟนเพลงให้ในคืนนี้
มันพอช่วยปลดหนี้ ธกส.
ก้มลงกราบรับน้ำใจ น้ำตาคลอ
ดึกแล้วหนอขอร้องฝากก่อนจากไกล
แด่แฟนเพลงที่มาเชียร์กันเนืองแน่น
กับเพลงฮิต ไม่ใช่แฟน ทำแทนไม่ได้
ถ้าคืนนี้วงบ้านนอกกระจอกไป
จะปรับปรุงครั้งใหม่ให้เด่นดี
กระจอกศิลป์อินคอนเสิร์ต ขอลาก่อน
ขออวยพรให้สุขสันต์จากวันนี้
หนุ่มคนไหนมีน้ำจิตมิตรไมตรี
หัวใจว่างหลังเวทีนี้ยังรอ
27 กรกฎาคม 2551
(วันเกิดวิสกี้เองครับ)