12 พฤศจิกายน 2547 15:07 น.
วิสกี้ เลอ ฟองเบียร์
เราจะโทษใครกันดีที่ผิดหวัง
น้ำตาจึงต้องรินหลั่งอย่างนี้
ฉันพยายามทำความเข้าใจในชีวิตที่มี
ต้องถูกเวนคืนวันคืนที่ดีด้วยเหตุใด
ฉันไม่เคยทำในสิ่งที่ไม่ได้เรียกว่า รัก
เพราะหายใจด้วยความรัก ชีวิตฉันจึงอยู่ได้
อวัยวะในร่างที่จะยกให้เธอคือหัวใจ
นอกจากนั้นจะฝังไว้ในผืนดิน
เส้นความรัก พระพรหมขีดไว้ แต่ไม่ยาว
หรือต้องโทษการโคจรของดวงดาวทั้งสิ้น
เสียงร้องไห้ของเรา พระเจ้าไม่ได้ยิน
เราจึงต้องหลั่งน้ำตาริน ล้างเศร้าให้เบาบาง
เป็นความน้อยเนื้อต่ำใจที่คุ้มค่า
ที่ชาตินี้เกิดมาเคยมีเธอเคียงข้าง
แต่เหมือนมหาสมุทรหล่นจากฟ้ามาตรงกลาง
เพื่อกั้นขวางความรักเราให้แสนไกล
จะโทษนรกหรือสวรรค์กันดี ที่รัก
จึงจะสาสมใจนักเมื่อเทียบกับความหมองไหม้
โทษตัวเองดีไหมเออ ที่ฉันและเธอเผลอใจ
ทั้งๆที่พระเจ้าไม่ได้อนุญาตให้เรารักกัน
16 ตุลาคม 2547
12 พฤศจิกายน 2547 15:00 น.
วิสกี้ เลอ ฟองเบียร์
ฉันจะโทรหาเธอที่เบอร์ไหน
ฉันจึงจะสะใจได้ไถ่ถาม
ผูกทั้งตัวและหัวใจไว้ติดตาม
เป็นมือสามท่ามกลางรักมั่นคง
เธอควงเขาเดินผ่านไปเธอไม่รู้
ว่าสายตาว่าที่ชู้แอบไหลหลง
ไม่กล้ารุกบุกรักไปโดยตรง
กลัวความงงจะถูกฉายในสายตา
เธอเป็นใครมาจากไหนก็ไม่รู้
แต่ปลุกปั่นสันดานชู้ให้คลั่งบ้า
ดิ้นพรวดพราดเหมือนเชื้อโรคโดนน้ำยา
ความชั่วช้าฉาวโฉดปรากฏกาย
สายตาฉันหลบแฟนเธอยามเผลอจ้อง
แต่ไม่นานก็หันมองจ้องความหมาย
เธอสดชื่นกับคนรัก ฉันอยากตาย
อยากทลายความถูกต้องไปครองเธอ
ไม่มีแววนอกใจให้ฉันเห็น
แต่ฉันยังใจเย็นรอเสมอ
ระวังนะ อย่าให้ชู้ล่วงรู้เบอร์
การฝันเพ้อจะถูกแทนด้วยความจริง
รู้ว่าบาปหยาบช้าแต่กล้าคิด
ดูเหมือนจิตดวงนี้ถูกผีสิง
ก็รู้ตัวแม้ชั่วช้าแต่จะชิง
แม้ถูกทิ้งชดใช้เวรไม่เป็นไร
ถ้าหากฉันคลั่งรักอยากเสนอ
ฉันจะโทรหาเธอที่เบอร์ไหน
ขอทานเพียงเศษกากซากหัวใจ
มาช่วยเสริมเติมไฟให้คนเลว...
8 พฤศจิกายน 2547 09:48 น.
วิสกี้ เลอ ฟองเบียร์
เวลาชีวิตของฉันที่ยังหลงเหลือ
จะไม่แผ่เผื่อไปใช้ในชาติหน้า
กลัวว่าจะไม่มีโอกาสได้พบเธออีกครา
จึงคิดว่าจะใช้มันให้หมดในชาตินี้
ต้นไม้คือบ้านของดอกไม้
เธอคือบ้านของหัวใจยากหาใครแทนที่
ความรักของเธอคืออาหารหล่อเลี้ยงชีวี
เสียงเธอคือเสียงดนตรีที่ได้ยิน
เธอบอกผลไม้คือลูกของต้นไม้
เม็ดทรายคือลูกของก้อนหิน
ภูเขาคือเนื้องอกของแผ่นดิน
ผีเสื้อโบยบินคือนักมายากล
สิ่งที่ยืนค้ำพื้นดินกับเพดานฟ้า
เธอบอกว่ามันคือเสาแห่งสายฝน
สายรุ้งคือสะพานเชื่อมสวรรค์เบื้องบน
ทาเจ็ดสีเพื่อใช้เป็นถนนของคนดี
แม่น้ำดื่มน้ำอิ่มแล้วร้องเพลงหวาน
แสงแดดระบายดอกไม้บานหลายเฉดสี
เสียงใบไม้ไหวเอนเป็นดนตรี
หากมีเธออยู่ตรงนี้ ฉันคงไม่ตรม
เธอยังพายเรือวนอยู่ในความคิดฉัน
ฉันยังพร่ำเพ้อถึงวันแห่งความสุขสม
ฉันแอบหลบหน้า อายดวงตาแห่งสายลม
ความอ่อนไหวในอารมณ์คอยฉุดดึง
เวลาชีวิตของฉันที่ยังหลงเหลือ
กำลังตกเป็นเหยื่อความคิดถึง
ยามสายลมพัดฉ่ำเหมือนเสียงรำพึง
คนที่เธอคิดถึง กำลังคิดถึงเธอ
8 พฤศจิกายน 2547 09:37 น.
วิสกี้ เลอ ฟองเบียร์
ค่ำคืนนี้มีงานเลี้ยงฉลอง
วันเกิดของท้องฟ้า...คุณว่าไหม
ความมืดมิดปลิดเปลี่ยนจุดเทียนชัย
สว่างไสวแวววาวเป็นดาวงาม
ค่ำคืนนี้ใจฉันก็ฉลอง
จะเสี่ยงชิมลิ้มลองสิ่งต้องห้าม
ใจคุณมีเขาซ่อนซุกทุกโมงยาม
ขอสักห้องให้มือสามผู้ซมซาน
ค่ำคืนนี้มีโอกาสอันน้อยนิด
ให้เราร่วมดื่มยาพิษอันแสนหวาน
ความชั่วร้ายพรายเพริศระเบิดบาน
เราจะข้ามรัตติกาลสู่ดาวดึงส์
เราจะใช้ลิ้นเลียพระจันทร์เจ้า
ระเริงเมาราคีสีน้ำผึ้ง
เป็นรอยบาปหยาบช้าอันตราตรึง
ฉันจะเก็บไว้เสพซึ้งคิดถึงคุณ
ทุกลีลาคุณปลุกเพลิงลุกไหม้
ลมหายใจคุณโยกให้โลกหมุน
แสงเทียนงามอร่ามฟ้าอ่อนละมุน
สารภาพว่ามีคุณฉันอุ่นใจ
ค่ำคืนนี้มีงานเลี้ยงฉลอง
วันเกิดของท้องฟ้า...คุณว่าไหม
สัญญานะไปข้างนอกอย่าบอกใคร
ว่าเราไต่วันเกิดฟ้ามาพบกัน
4 พฤศจิกายน 2547 17:35 น.
วิสกี้ เลอ ฟองเบียร์
มีสิ่งใดฉันไม่กล้ายกให้เพื่อน
แต่ดูเหมือนสิ่งนี้มีความหมาย
มอบให้เพื่อนได้แม้แต่ความตาย
แสนละอายเพื่อนรักอยากกลับคำ
เพื่อนไม่รู้หรอกว่าฉันรักเขา
ตกหลุมเศร้าหัวใจไถลถลำ
เพื่อนมาเปลี่ยนความโชคดีเป็นสีดำ
แต่ฉันรู้ว่าเพื่อนทำด้วยจริงใจ
เพื่อนไม่รู้ว่าฉันเริ่มคิดคด
เป็นกบฎความซื่อสัตย์ที่ยิ้มได้
แต่มีสายน้ำตาหลั่งอยู่ข้างใน
เจ็บดวงใจคล้ายเพื่อนรักควักดวงตา
เขาเลือกเพื่อนเหมือนตอบว่าเขาเมินฉัน
ขอให้เธอผูกพันถึงชาติหน้า
แอบคิดอ่านเป็นคนรักนอกเวลา
วันนี้ฟ้าไม่เข้าข้างก็ช่างมัน
เพื่อนสงสัยทำไมฉันพูดหั่นเฉือน
รอยยิ้มเพื่อนเหมือนมีดกรีดใจฉัน
กามเทพตื่นสายมาไม่ทัน
เขาจึงเลือกผูกสัมพันธ์กับเพื่อนเรา
มีสิ่งใดที่ฉันไม่เคยให้เพื่อน
แต่ดูเหมือนที่หวงหรือก็คือเขา
ความรักเพื่อนจะมีฉันตามฝังเงา
เรื่องมันเศร้าเมื่อกบฏเลิกอดทน
4 พฤศจิกายน 2547