28 พฤศจิกายน 2550 21:21 น.
kungsadarn
น้ำเคยใสไหลล่องสองฟากฝั่ง
ที่เคยนั่งรับลมชมมัจฉา
ลมเย็นพลิ้วพัดโชยโบกโบยมา
สะพานท่าคือสถานสำราญกาย
แต่เดี๋ยวนี้เปลี่ยนไปไม่เหมือนเก่า
กลิ่นน้ำเน่าโชยมาพาใจหาย
ยามลมโบกกลิ่นคลุ้งฟุ้งกระจาย
หมู่ยุงลายบินว่อนตอนกลางวัน
เศษขยะลอยฟ่องทั่วท้องน้ำ
เช้ายันค่ำสะดุดตาน่าโศกศัลย์
มันตอกย้ำที่เป็นเห็นทั่วกัน
จนเข้าขั้นน้ำเน่าช่างเศร้าใจ
เพราะมักง่ายไร้สำนึกจะตรึกตรอง
ไม่เหลียวมองดังว่าน่าขำไหม
ขว้างทิ้ง ทับถม จมลงไป
ไม่เป็นไรเช่นนั้นหรือจึงดื้อทำ?
รับผิดชอบมีไหมในใจนั้น
มิป้องกันเกรงกริ่งยิ่งถลำ
มัวปิดหูปิดตาพาระกำ
อาจชอกช้ำน้ำไม่พอจะดื่มกิน
ขอขมาทั่วกันคืนวันเพ็ญ
เหมือนล้อเล่น..จากลาค่าก็สิ้น
ปล่อยปละละเลยร้างสร้างมลทิน
เรื่องทรัพย์สินส่วนรวมไม่ร่วมใจ
คนละไม้คนละมือคือทางแก้
หมั่นดูแลรักษาดังว่าไว้
น้ำสะอาดปราศจากโรคและโพยภัย
ใกล้ไกลก็น่ายลทุกหนเอย
6 พฤศจิกายน 2550 13:17 น.
kungsadarn
ดอกไม้สวยรวยริน กลิ่น สีสรร
ดั่งเสกปั้นงดงามด้วยความหรู
จับเปลี่ยนแปลงแต่งตั้งหวังชื่นชู
จนควรคู่กระถางแก้วที่แวววาว
ไม่ช้านานกลับร่วงโรยระโหยแห้ง
สีสดแดงก็หมองหม่นจนซีดขาว
กลิ่นเคยหอมดอมดมชมชั่วคราว
ก็อับอ้าว..หายไปไร้ราคา
ไม้จะงามตามใจใช่กระถาง
ที่จับวางปกปักเพื่อรักษา
ต้องลงดินให้น้ำตามเวลา
ใส่ปุ๋ยคราถึงคราวเจ้าต้องการ
เมื่อแมลงแฝงเร้นเป็นภัยพิษ
คอยตามติดขัดขวางเข้าล้างผลาญ
วัชพืชเก่งกล้ามารังควาญ
ล่วงล้ำผ่านเร่งกำจัดตัดต้นตอ
เปรียบดอกไม้ไม่ต่างจากเด็กน้อย
ที่ต้องคอยใส่ใจในทุกข้อ
มิใช่บ้านหลังใหญ่ไว้คอยรอ
มิใช่ก่อเพลิดเพลินเพียงเงินทอง
แต่เป็นสิ่งหาได้จากใจผู้-
ที่เลี้ยงดูรักจริง..ใช่สิ่งของ
แม้วัตถุมากมายวางก่ายกอง
เขาก็ปองสายตาเอื้ออาทร
แบ่งเวลาหาเจ้าเฝ้าฟูมฟัก
เติมความรักห่วงใยในสมร
กอดสัมผัสปัดหนาวที่ร้าวรอน
แม้นไฟฟอนร้อนเร่าก็เบาบาง
ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานโรคร้าย
ที่แฝงกายพรายพลัดเข้าขัดขวาง
เขาเติบใหญ่ทานทนทุกหนทาง
แม้โลกกว้างก็ทายท้า..กล้าผจญ