7 มกราคม 2547 19:22 น.

ถ้า..สิ่งนี้เรียกว่ารัก 5

kp1

หลายครั้งที่เราคุยเรื่องนุ้เรื่องนี้กัน    บางเรื่องก็เถียงกัน บางเรื่อง

ก็คล้อยตามกัน  แต่ส่วนใหญ่จะเถียงกันมากกว่า 

เพราะฉันไม่ค่อยยอมใครเท่าไหร่  และอยากเอาชนะกระมัง   แต่ทุกครั้ง

เขาจะยอมทุกครั้งไม่เถียงสักนิด   นี่หล่ะที่ฉันชอบเขา ตรงนี้หล่ะ


      จำได้ว่าช่วงแรกๆ  เขาล่าว่า ทะเลาะกับแฟน  แล้วขอแยกกันอยู่สักพัก

น้ำเสียงเขาฟังดูไม่ดีเลย   เหมือนคนจะร้องไห้  แต่เขาบอกว่าไม่ได้ร้อง

แค่อยากจะร้อง   .....  กล้าบอกฉันว่าอยากจะร้อง

เป็นผู้ชายคนแรก  ที่กล้าบอกฉันแบบนี้   ....  

ฉันนี้ซิ รู้สึกสงสารไปใหญ่..เขาบอกว่า  แฟนเขาบอกว่าเขาไม่มีเวลาให้  ทำแต่

งานที่ร้าน   และเขาไม่ค่อยจะเทคแคร์เท่าไหร่

นิสัยของเขาหล่ะคิดว่า   ไม่ค่อยจะเทคแคร์  เขาเป็นคนง่ายๆ สบายๆ

ตามที่ฉันคิดน่ะ  

ในทางตรงกันข้าม  ผู้หญิงที่อยู่ในฐานะแฟน  ต้องการการดูแล  มันตรงกันข้าม

แบบนี้   ....กระมังเลยเป็นเหตุ

ฉันให้เขาใจเย็นๆ    ลองง้อดูก่อนที่จะแยกกัน   
    

เขาบอกว่า  ไม่ได้ผลหรอก  เป้นแบบนี้มานานแล้ว  ครานี้หล่ะ  เห็นทีจะหนักสุด

ตอนนี้ น้ำตาฉันซิ  คลอเต้มเบ้าตาแล้ว

รู้ตัวก็ตอนที่มันเริ่มไหลออกมา...เพราะฟังเรื่องราวจากคนที่อยากร้องไห้

ฝั่งนี้เลยร้องไห้ไปแล้ว

ไม่อยากให้เขารุ้  เอาใจช่วยแล้ววางสายโทรศัพท์ไป

....................................................................................

  แต่หลังจากที่เขาเรียนได้เกือบเทอม   เรื่งราวแบบนี้ก็เกิดขึ้นอีกก้เขาคนเดิมหล่ะ

ต่างก็ตรงที่  แฟนคนใหม่  องค์ประกอบอื่นยังเหมือนเดิม

เขา  คน พูดเรื่องราว  

ฉันฝ่ายรัปฟัง

ฉันไม่เคยรู้เลยว่าเขามีแฟนใหม่หลังจากที่เข้าเรียน   เขาไม่เคยบอกฉันเลย

มาบอกฉันอีกทีก็ตอนที่    ผุ้หญิงคนนั้น  เลือกคนอีกคนที่ไม่ใช่เขา

เขาบอกว่า  ก็ผู้หญิงคนนั้นน่ารักนิ  ใครๆมาจีบตั้งเยอะแยะ 

เขาตามจีบตั้งนานกว่าจะได้คบกัน   แล้วจู่ๆ  ผู้หญิงคนนั้นก็บอกว่าเป็นเพื่อนกัน

แต่ยังโทรมาหา ทำท่าทางเหมือนจะกลับมาคบกันอีก

     ฉันก็บอกให้เขา  คืนดีกัน  ไหนๆก็เขาจะมาคืนดีด้วยนี่นา   แต่ที่ไหนได้

เขากลับบอกว่าไม่    ....  ทีใครทีมัน   ...  

นี่หล่ะ ผู้ชายคนนี้  แต่กลับอยากจะร้องไห้  ออกมา

บอกฉันอีกแล้วว่าอยากร้องไห้....ใจจริงฉันอยากบอกว่า

หยุด  หยุด  บอกซะที  นายจะร้องไห้  แต่น้ำตาฉันนี่ซิ    ไหลอีกแล้ว

ได้ล้างทำความสะอาดตา อีกแล้วซิเรา

ฟังเรื่องราว  ร้อยคำประโยค   

ชอบ  ประทับใจ  ประโยคนึงที่  ....

            " อยากนั่งเรือ  ออกไปทะเลไกล  ไม่อยากไปโรงเรียน   ไม่อยากเจอ  "

ฉันพูดออกไปบ้าง  อ้าว  ....แล้วเพื่อนคนนี้หล่ะ

ทิ้งไว้แบบนี้หรือ...

เขาตอบกลับมาว่า...ไม่  ก็เอาโทรศัพท์ไปด้วยซิ  ...

จะได้ติดต่อกัน.................


อืมๆ......จะทำจริงอย่างที่พูดมาหรือเปล่าน่ะ  ถ้าเป้นอย่างนั้นจริงๆ

น้ำตาไหล....แต่ได้อะไรบางอย่างกลับมา


เรือ่งราวเหล่านี้  ยังคงดำเนินอยู่   เพราะ  ยังมี  เขา  และ  ฉัน  บนโลกใบนี้

ติดตามเรื่องราว  ของเขา และ ฉัน ต่อไป				
7 มกราคม 2547 18:57 น.

ถ้า..สิ่งนี้เรียกว่ารัก 4

kp1

ฉันติดต่อไปหาเขาอีกแล้ว..........วันนั้นฉันดีใจอย่างบอกไม่ถูก

เกินที่จะบอกใครๆได้ว่า  ..ฉันรู้สึกอย่างไรในตอนนั้น

เขาบอกฉันว่า................

เขาจะเรียนต่อ  หลังจากที่เขาเคยบอกกับฉันว่า  เขาพักเรื่องเรียนมา

เกือบ 2-3 ปีเห้นจะได้  ..เขาเล่าว่าเหตุที่ต้องออกจากโรงเรียน

เพราะมีเรื่องกัน  ตามประสาวัยเลือดร้อน

ฉันจำเรื่องราวนี้ได้ดี " เขาเล่าว่า ..เพราะ ตัวเขาเอง หน้าตาน่ารัก  หน้าตาดี ไป

หน่อย  เป้นเหตุให้ตีกัน  ฉันอดขำไม่ได้..แต่ความจริงไมใช่หรอก  เป็นเพราะ

เพื่อนเขาต่างหากที่มีเรื่องกัน  เขาเลยโดนไปด้วย  ตามประสารักเพื่อนกระมัง "


เรื่องเรียนต่อ  ทำให้ฉันดีใจอย่างบอกไม่ถูก  เพราะไม่เคยคิดว่าเขาจะกลับมา

เรียนอีก 

แต่ที่ดีใจไปกว่า....คือเขาบอกฉัน   ฉันซึงเป็นใคร  มาจากไหน ที่ได้เจอกัน

แค่เพียงไม่กี่ ชั่วโมง 

สิ่งนี้หล่ะ  ที่ทำให้ฉัน  ดีใจอย่างบอกไม่ถูก  


                เขาเรียนที่โรงเรียนพาณิช ห่างจากบ้านของย่าของฉันไม่ไกลนัก   แต่

ฉันไม่เคยบอกเขาหรอก   ก็เขาไม่เคยถามนี่นา

................................................................................
   หลังจากที่เขากลับมาเรียน    เวลาฉันโทรไป  เรามีเรื่องคุยกันมากขึ้น  

เขาถามเรื่องที่เรียนของฉัน  ฉันถามเรื่องเรียนของเขา  เรื่องนาๆจิปาถะที่คุยกัน

ใช่ว่าอะไรๆ  จะดูดีอย่างนี้ทุกครั้งหรอก


บางครั้ง  ที่เขาอยู่กับเพื่อน  ฉันก็ไม่อยากคุยกับเขาเท่าไหร่   เพราะอะไรน่ะ 

บอกไม่ถูก  บางครั้ง  เขาอารมณ์ไม่ดี  ฉันก็ไม่อยากคุยกับเขาอีก  

เพราะฉันกลัวว่า  ถ้าฟังเรื่องของเขามากๆ   ฉันนี้ซิ  จะเป้นฝ่ายที่น้ำตาไหล


และก็น้ำตาไหล จริงๆซะด้วย


......เขาไม่มีทางรุ้หรอกว่า....ทำให้ใครน้ำตาไหล   ไม่มีทางรุ้

ต้นเหตุของน้ำตา...ที่ร่วงมาเพราะว่า............


ติดตามต้นเหตุของน้ำตา  ของคนคนหนึ่ง...ต่อไป				
27 กันยายน 2546 16:42 น.

ถ้า..สิ่งนี้เรียกว่ารัก 3

kp1

หลังจากที่ขลุกตัวอยู่ที่ร้านเกือบครึ่งวัน

เห้นทีฉันต้องขอลากลับ..ที่ร้านเด็กที่มาเล่นเกมค่อยๆน้อยลง

เพราะใกล้จะค่ำแล้ว...

ฉันบอกเขาว่าจะกลับเลย   เขาทำหน้า  รับฟัง

ฉันบอกว่า  จะไม่เดินไปส่งหน่อยหรือ   ..เขาเลยมาส่งฉันที่ใกล้ๆปากซอย

ฉันลาพี่ที่ร้านแล้วเดินออกมา

ไม่มีบทสนทนาใดๆ  ขึ้นมาระหว่างรอรถ 

แต่ฉันไม่ชอบบรรยากาศเงียบๆเลย ชวนคุยไปเรื่อยๆ  

มีประโยคนึง ที่หลุดพูดไปได้ไงน่ะ  ก็ยังไม่รู้....ตกลงว่าเราเป้นเพื่อนกันได้ป่าว....

เขายิ้มๆ   คล้ายจะหัวเราะ   เป้นฉันก็คงเป็นแบบนั้นหล่ะ   

มีอะไรจะพูดเยอะแยะ  แต่ดันขุดประโยคนี้ขึ้นมาได้..บ๋องจริงเรา

เขาพยักหน้า  แบบผู้ใหญ่ที่กำลังคุยอยู่กับเด็ก  ยังไงยังงั้น

รถมาพอดี  ฉันเลยขึ้นรถ    .....  เขาเดินกลับมาที่ร้าน  

.................................

เรื่องราวที่เกิดขึ้นวันนั้น   ยังอดแปลกใจไม่หาย

คนบนโลกมีมากมาย     ทำไมต้องเฉพาะไปเป้นนายคนนั้นด้วยน่ะ


....ฉันยังติดต่อเขาเป้นระยะๆ  บ้างก็ไปที่ร้าน

ฉันไปที่นั่นอีก 2 ครั้ง 

ครั้งแรก....แวะเอาไก่ทอดไปให้   หลังจากที่ฉันไปดูหนังจบ

ที่ร้านเงียบๆ

ครั้งที่ 2  ฉันไปอีก  เพราะเรื่องเครื่องคิดเลข  ใจจริงคงเพราะอยากไปที่นั่นด้วย

เลยหาเรือ่งไป    ที่ร้านกำลังวุ่น  เด็กก็เยอะๆ   ......ไปนั่งอยุ่เฉยๆ

ยังกับคนไม่มีตัวตน   หลังจากบทสนทนาที่ทักทายกัน  ก้ไม่มีคำพูดคุยอะไรอีกเลย

ทนภาวะนั้นไม่ไหว  อยากจะร้องให้  เวลา 30 นาที  แต่ยังกะ 1 ปีแสง

ทำให้ขอตัวกลับ   จำการไปรั้งนั้นอย่าไม่มีวันที่จะลืม

อะไรที่ฉันคิดแล้วคิดอีก  ว่าจะไม่ไปแล้วกลับไป   หรือ ทำไม่ทำ  มักจะให้อะไรที่แย่ๆ

กับฉันเสมอเลย  ครั้งนั้นก็อีก

แต่ฉันก็ดีใจน่ะ........ที่ฉันได้รุ้จักเขา    .....

....................................................

เขาสอนอะไรสอนอะไรฉันเยอะแยะ   ....แบบที่เขาไม่รุ้ตัว

เขาเป้นแบบอย่างให้ฉันอีกด้วย..แบบที่เขาไม่รู้ตัว

ฉันห่างหายจากการติดต่อเขาไปสักระยะหนึ่ง......เพราะฉันเริ่มสังเกตว่าตัวเอง

มีอะไรบางอย่างที่  ไม่ใช่ตัวเองที่เคยเป้นมา

ฉันชักไม่แน่ใจเลย.......ต้องสำรวจตัวเองไหม่

แต่สุดท้ายวันนึง...ฉันก็แพ้ตัวเอง

ฉันติดต่อไปหาเขาอีกแล้ว..........วันนั้นฉันดีใจอย่างบอกไม่ถูก

เกินที่จะบอกใครๆได้ว่า  ..ฉันรุ้สึกอย่างไรในตอนนั้น

เขาบอกฉันว่า................



สิ่งเกิดขึ้น  อย่างน้อยมันก็ทำให้ฉันยิ้ม   ได้อีกวันนึง

เรื่องราวจะต้องดำเนินต่อไป.....				
16 สิงหาคม 2546 13:44 น.

ถ้า..สิ่งนี้เรียกว่ารัก 2

kp1

หลังจากที่ฉันได้เจอกับเขาคนนั้นแล้ว  ไปกินพิซซ่าจนอิ่มแล้ว

เวลา 2-3 ชั่วโมงผ่านไปเร็วแทบไม่รู้ตัว  จนเขาต้องกลับไปทำงานที่ร้านต่อ

ด้วยการที่เขามาอยู่ที่นี่ไม่นานนัก  เลยยังไม่รู้จักถนนหนทาง  ฉันเลยอาสาไปส่ง

เพื่อจะได้ไปรู้จัก  ร้านที่เขาทำงานอยู่ด้วย..แปลกจัง

ฉันไม่กลัวซักนิด  กลับสิ่งที่จะเกิดขึ้น  ทั้งที่ปกติ  แทบจะว่าได้ว่าเป็นคนกลัว  

ทั้งที่ไม่มีอะไรน่ากลัว


               ฉันติดสอยห้อยตามมาที่ร้าน  ร้านนี้ใกล้กับโรงพยาบาลเอกชนแห่ง

หนึ่ง  ที่ว่าได้ว่า  ฉันนั่งรถผ่านเป็นประจำ  .. ที่แท้  ฉันก็เคยได้อยู่ใกล้ๆเขาแล้ว

ก่อนหน้านี้....เพียงแต่เราไม่เคย  ให้ตัวเองมารู้จักกัน


               ภายในร้าน  เป็นร้านอินเตอร์เนตเล็ก  มีเครื่องคอมพิวเตอร์  

ประมาณ 10 กว่าเครื่อง  มีเด็กชั้นประถม มัธยมหลายคน  ส่งเสียงดังกับการเล่น

เกมออนไลท์

               เขาแนะนำให้ฉันรู้จักกับพี่ที่ร้านคนนึง  ฉันจำได้ว่า  ตอนแรก  

ฉันเล่นเชทกับพี่คนนี้ก่อน   ที่จะเล่นกับนายคนนี้ซะด้วยซ้ำ

พี่เขาเป็นชายประมาณ ใกล้ๆ 30   หน้าตาธรรมดาๆ  อัธยาศัยดี  

ฉันพูดคุย แนะนำตัวเองเล็กน้อย  หลังจากนั้นพี่เขาก็ขอตัวทำงาน

ส่วน..นายคนนั้น  ก็หาที่นั่งให้ฉัน  เป็นที่นั่งตรงเครื่องคอมเครื่องหนึ่ง

ใกล้ๆกับที่เขานั่ง   เขาทำงานไป  เล่นเกมไปด้วย  พูดคุยกับฉันไปด้วย  

แต่นานๆครั้ง  ถึงจะมาสนทนา กับฉัน  ฉันจับได้ว่า  เขาแปลกไป  จากที่คุยกัน

ที่ศูนย์การค้า

           เขาพูดน้อยลง  จนแทบไม่พูด  ฉันรู้สึกว่า  เขากลัวว่าเด็กที่เล่นเกม

ในร้าน  จะแซวว่า  ฉันเป็นแฟนเขา   ฉันแทบจะหัวเราะออกมา  เวลาเด็กเล่น

พูดแซว..ฉันปล่อยให้เขาทำงาน  เพราะที่ร้านวุ่นมาก  ช่วงเย็นเด็กจะมาเล่น

เกมกันเยอะ

ฉันนั่งเงียบๆ  ดูเด็กเล่นเกมบ้าง  เขาสอนฉันเล่นเกมบ้าง  แต่หัวสมองไม่ไปทาง

นี้  เลยขอไม่เล่นดีกว่า

เขาให้ฉันเล่นอินเตอร์เนตที่ร้าน  ฉันทำได้ก็คงจะอ่านอะไรๆไปเรื่อยเปื่อย  

กับการเชคเมล  แล้วก็เล่นเชทเครื่องที่เขาเล่นอยู่

ฉันสนทนาโต้ตอบ  ใครต่อใครก็ไม่รู้ที่เขาเล่นไว้  จับได้ว่า  

คนที่เขาคุยส่วนใหญ่  จะคุยกันมานานแล้ว

เล่นไปเรื่อยๆ  คลายเบื่อไปได้หน่อย.....เรื่องราวของเรายังดำเนินไป

.

สิ่งที่จะเกิดขึ้น  ใช้เวลา				
7 สิงหาคม 2546 20:14 น.

ถ้า...สิ่งนี้เรียกว่ารัก

kp1

ในวันที่เป็นวันหยุด  ในขณะที่ใครๆวุ่นวายกับการทำงานส่งอาจารย์

แต่ฉันกลับอาบน้ำแต่งตัว  เพื่อไปพบใครคนนึง   ที่ฉันไม่เคยรุ้จักหน้าค่าตา

ฉันจำได้ว่า   สาเหตุที่ทำให้การนัดหมายครั้งนี้เกิดขึ้น

มันเริ่มจาก....วันนึงฉันได้เข้าไปเล่น  โปรแกรม เชท อันนึง

การสนทนาได้เกิดขึ้นโดยใช้ตัวหนังสือ  สื่อสารไปมาระหว่างกัน

เราพิมข้อความส่งไปมา  เพียงไม่กี่ตัวอักษร...แล้วเขาก็ทิ้งตัวเลขไม่กี่ตัวไว้

เป้นสิ่งที่ใช้ในการสื่อสาร

การพูดคุยทางโทรศัพท์..เกิดขึ้นโดยฉันโทรไปหาเขาคนนี้  เป็นระยะ

ตอนแรกฉันก็แค่เห็นเป็นเรื่องสนุกๆ  แต่พอคุยๆกันไป

ฉันรู้สึกว่า  เหมือนเขามีปัญหาอะไรบางอย่าง...บางครั้งเขาก็สดใส  สนุกสนาน

แต่บางครั้งกลับเงียบงัน....จนฉันสงสัยว่าเพราะอะไร.....

เขาบอกที่อยู่ที่เขาทำงานอยุ่ให้ฉันรู้...อย่างชัดเจน

เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับตัวเขาให้ฉันฟัง..ใช่ไม่สนใจหรอกว่ามันจะจริงหรือป่าว

จนฉันรุ้สึกว่า...ฉันควรจะรุ้จักกับเขา

.................................................
วันนั้น...ฉันจึงจะไปตามนัด  เรานัดกันว่าจะไปเจอกัน  แล้วก็ดูหนังซักเรื่อง

เรานัดกัน บ่ายโมง  ที่ศูนย์การค้าแห่งหนึ่ง  ฉันโทรไปหาเขาเมื่อไปถึงที่นั่น

แต่เขายังไม่ออกมา  ให้ฉันรออีก 15 นาที  ฉันมัวเพลินกับการอ่านหนังสือเลยเวลามา 5 นาที

ฉันไม่รุ้สึกตื่นเต้นแม้แต่น้อย....เพราะอะไรไม่รุ้ซิ

ฉันออกมาที่ข้างหน้าของศูนย์การค้า   ผุ้ชายเสื้อยืดแขนยาว ต้องใช่เขาคนนั้นแน่ๆ   ฉันรุ้สึกได้

ฉันโทรไปหาเขาอีก  ฉันเห็นทันทีที่เขารับโทรศัพท์  ใช่..ใช่เขาจริงๆด้วย
ในขณะที่เขายังไม่เห้นฉันด้วย    เขาเดินเข้าไปในศูนย์การค้า  เพราะคิดว่าฉันคงอยู่ข้างใน   ฉันบอกให้เขาออกมา.....

ในที่สุดเราก็เจอกัน........เราพูดคุยกัน  เหมือนกับคนที่รู้จักกันมาแล้ว
ซักถามเรือ่งราวของอีกฝ่าย     ส่วนใหญ่ฉันจะเป็นคนถาม

เราเดินไปดูโปรแกรมหนัง.....เรือ่งที่จะดูกัน....แต่....เรือ่งที่จะดูมีรอบเย็น

เขาต้องไปทำงานที่ร้าน  ..เลยล้มเลิกการดูหนัง

เดินๆวนๆจนเมื่อยขอนั่งแล้วกัน   .....เขาเดินเร้วมากจนฉันตามไม่ทัน

ประโยคที่ฉันว่า..เขาไป...ไม่เคยเดินกับแฟนมานานหรือไงถึงได้เดินเร็วขนาดนี้..เขามองฉัน  จนฉันรุ้สึกอายที่พูดออกไป

จนแล้ว....จนรอด  ก็ตัดสินใจกินพิซซ่ารองท้อง
เราเข้าไปในร้านพิซซ่า  คนในร้านค่อนข้างเยอะ  มีเฉพาะ โต๊ะกลมที่ว่าง

เลยได้นั่งโต๊ะกลมกลางๆร้าน   แต่มีคนที่นั่งโต๊ะมุมๆของร้านเชคบิลออกไปเลย

เขาเลย...บอกว่าไปนั่งตรงนู้ดีไหม
เลยได้เปลี่ยนที่นังอีกรอบ

หลังจากสั่งๆจนเสร็จ   รอเสริฟ  ช่วงนี้ซิ..จะพูดอะไรหล่ะฉัน

ดีน่ะ...ที่เค้าพูดออกมาว่า...อยากรู้อะไรก็ถามมา
ฉันเลยได้จังหวะ  ถาม

เขาตอบฉัน..มาทันทีที่ฉันถาม...ฉันยังสงสัยว่าเรื่องจริงหรือป่าวน่ะ
แต่ฉันก็ไม่สนใจกับเรือ่งจริงไม่จริงที่เขาเล่ามาหรอก
เพราะอย่างน้อย...ฉันก็ได้รู้จักคนเพิ่มขึ้นคนนึง

เราคุยกันถึงเรือ่งเพลงบ้าง   เรือ่งงานของเขาบ้าง  ส่วนใหญ่จะเป็นเรือ่งของเขาเป็นส่วนใหญ่

ฉันดีใจจัง...ที่ได้รู้จักเขา.........



หลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น....มีเพียงฉันเท่านั้นที่รู้				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟkp1
Lovings  kp1 เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟkp1
Lovings  kp1 เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟkp1
Lovings  kp1 เลิฟ 0 คน
  kp1
ไม่มีข้อความส่งถึงkp1