18 มิถุนายน 2554 22:46 น.
KIRATI
เสียงเคาะบ้าน มาขานเพรียก เรียกนายมั่น
อีนี่ฉาน...เองจ๊ะนาย...คนขายผ้า
นายอยู่หนาย ทำไมนาย ไม่ออกมา
โอ้นายจ๋า...นายหลบหน้า ฉานทำไม
นายมั่นยิน เสียงอาบัง มาเรียกเคาะ
รีบลัดเลาะ หลบเข้าฉาก ฝากลูกไว้
ไปบอกบัง ตังค์ไม่มี...ให้ลี้ไป
พ่อไปไหน เจ้าไม่รู้ อย่ากู่เลย
ลูกนายมั่น ฟังคำพ่อ จึงล้อกล่าว
บังส่ายหัว ก่อนเดินก้าว ไปเฉยเฉย
ลูกปิดม่าน บังชิดแนบ แอบแง้มเงย
ก่อนเอื้อนเอ่ย...ขึ้นถามพ่อ...เพราะก่อใจ
สงสัยพ่อ บอกอาบัง สามครั้งก่อน
เห็นพ่ออ้อน เอ่ยผัดผ่อน ก่อนผลักไส
พ่อบอกบัง ยังไม่มี ไม่หนีไกล.
ครั้งนี้ไย...พ่อยังหลอก บอกไม่มี
ก็ตะกี้ พ่อยังนับ จับเงินอยู่
เงินที่กู้...หนูก็รู้...ว่าพอหนี้
โกหกบัง...แถมยังหลบ...ไม่พบที
ทำแบบนี้...มีเหตุผล...กลใดกราย
พ่อมองซึ้ง...ดึงลูกยา มาหอมแก้ม
ก่อนกะแอม อย่างนี้เจ้า เล่าความหมาย
เมื่อบอกไป ว่าไม่มี อย่างเคลื่อนคลาย
ลูกผู้ชาย พูดคำไหน เป็นคำนั้น....
จำไว้...นะลูก...
เมื่อเจ้าพูดว่า...ไม่มี...ก็คือ ไม่มี...
ลูกผู้ชาย...คำไหน...คำนั้น ^_^
18 มิถุนายน 2554 19:27 น.
KIRATI
@ อุสาสางกระซ่างฟ้า ชะง่อนป่าวนาสณฑ์
ยะย่ำคล้อยชม้อยยล ชม้ายมั่นวลัญช์เมียง
@ อรุณแสงสุรีย์ผาด วลัญช์พาดพิลาสเพียง
จะเยื้องมองชะช่องเดียง วหาฝั่งจะนั่งชม
@ ประจงแหวกละแมกไม้ ครุเคลื่อนย้ายจะส้ายซม
พระพายพัดระบัดพรม ชระชุ่มชื่น สิ ฟื้นทรวง
@ ระวีแสงทุแรงส่อง บ่ พ้นช่อง ดะดื่นดวง
พิมานเมืองเมลืองสรวง สิ เขาว่า ณ ป่ามี
@ วยายาม จะสำเร็จ ตระการเกร็ด ศิลาสี
ประเจิดภพประสบที วิมานหมายฉงายงัน
@ ผิวะงามจะล้ำเลิศ รุจีเฉิดประเสริฐพลัน
ผิ รกชัฏประพัทธ์กัน จึ่งงามแม้น วิมานพรหม
15 มิถุนายน 2554 14:12 น.
KIRATI
สองตายายขายหนมครกอยู่โคกขาม
ยายชื่องาม ตาชื่อเทิด บรรเจิดศรี
วันหนึ่งตา ถามยายว่า พรรคไหนดี
ยายบอกมี พรรคเฝ้าดู อยู่ในใจ
ตาถามต่อ ก็แล้วมัน พรรคไหนเล่า
ตากระเซ้า ชี้จี้ยาย ว่าพรรคไหน
ยายหงุดหงิด คิดไม่ออก เลยบอกไป
จริงในใจ จะเลือกพรรค แต่รักเธอ
ตาได้ยิน ยิ้มสะแหยะ แคระหนมครก
ทำตลก ถ้าไม่รู้ ตรูเสนอ
พรรคเบอร์หนึ่ง ถนอมไว้ ในใจเธอ
อีกหนึ่งเบอร์ พรรคเบอร์สิบ กระซิบยาย
ยายบอกว่า ถ้าไม่โหวต แกโกรธป่ะ
โอ๊ย...ไม่ง่ะ...ถ้าโกรธแก ใครจะขาย
เรารักกัน...มาเนิ่นนาน...ผ่านสบาย
หลายเรื่องร้าย...เกินจะโกรธ ทำโทษลง.....ตาพูด..
ยาย.....งั้นฉันเลือก ไม่เลือกใคร ที่ไหนนะ
ตา.......เอาเลยจ๊ะ...แล้วแต่แก แน่ประสงค์
ส่วนตัวฉัน มั่นในจิต คิดมั่นคง
ฉันอยากลง สมัครขู่...ไปสู้มัน
เชอะ...
ยายว่า...หน้าอย่างแก อยู่แกตาย จะดีกว่า
เขาเรียกตา แกอายุ บรรลุฝัน
แง้มฝาโลง อย่าหลงไป ให้ใครมัน
หงอกแกนั้น จะโดนถอน ฉันสอนแก
ตา.......ก็ยายก็... ยายไม่เห็น รึไงเล่า
มีผู้เฒ่า ที่แก่กว่า...ยังกล้าแถ
แกกับฉัน แก่ป่านนี้ มีใครแล
ถ้าเราแก่ เป็นซือแป๋ ...คงแลเรา
ตาพูดต่อ ฉันนะฝัน ว่าวันนึง...ถึงวันหนึ่ง
ฉันจะดึง...อภิสิทธิ์ มาชิดเข่า
ข้างทักษิณ...แล้วชี้สั่ง...โน้นแน่ะเตา
โดยมีเรา สองตายาย...สบายมือ พูดพราง หัวร่อไปพราง
แคระหนมครก ยกหนมแคระ...กระแซะสั่ง
สองเรานั่ง...เก็บสตังค์ ...เล่นมือถือ
แชตอย่างโก้ โอบาม่า ...มาหารือ
มาร์คลงมือ แม้วคอยถือ ...กระทงรอง
รมต.ก็มากิน ขนมครก
รองนายก ก็มานั่ง สั่งไปสอง
เผลอเผลอนะ...แกน่ารัก ถูกพรรคจอง
ให้ไปลอง ยกมือนั่ง ฝั่งสภา
ยายขัดขึ้นมา...ตื่น ตา...ตื่น...ฉันไม่บ้า กะแกดอก
ถ้าถูกหลอก ให้ไปนั่ง ฟังมันบ้า
ฟังผู้แทน ให้แตนต่อย ดีกว่าตา
ช่วยยกกา กะทิหน่อย ค่อยค่อยแก
เดี๋ยวจะหก รองนายก จะอดแดก
คุณพระแหก!!! แตกจนได้ ไอ้ตาแถ
บอกให้ค่อย หน็อย...ไม่คิด จิตปรวนแปร
ท่านซือแป๋...ไปแปรรูป กะทิเลย
มาให้เร็ว ก่อนนักเรียน จะขึ้นรถ
เดี๋ยวก็อด ขายหนมครก...ให้หกเขย
นะพ่อสังข์...พ่อเนื้อทอง ของงามเฉย
รีบไปเลย...ก่อนทว่า...สภาวาย
ตาตลบ โสร่งวิ่ง จนลิงโผล่
วิ่งเขี้ยวโด่..น้ำหมากหล่น พ่นเป็นสาย
ยายคิดในใจ จริงของตา ว่าแก่เฒ่า เราคงตาย
หนมครกขาย ที่โคกขาม ไปตามกัน
ไม่มีใคร ที่ไหนแล้ว พ่อแก้วเทิด
ผู้ประเสริฐ สุดที่รัก มั่นของฉัน
ตื่นตอนนี้...มีแกอยู่ ดูตะวัน
เห็นพระจันทร์...เพียงโอบขวัญ ฉันกะแก
เสียงหืดหอบ สต๊อปหยุด ตรงจุดเดิม
พอตาเติม กะทิใส่ มิวายแถ
ฉันว่านะ เบอร์ห้าเห็น เป็นตัวแปร
ยายนิ่งแล...ฟังตาพูด...แล้วจูบตา...
ตาสะดุด หยุดพูดลง เพราะโดนจูบ
เอามือลูบ หน้าผากแตะ แมะมือว่า
ไม่สบาย รึ ไงหนอ หยิบห่อยา
กินพารา...ก่อนเถอะว่า จะบ้าเป็น
แกจูบฉัน ทำไม ฤา รึเห็นเขี้ยว
แว๊บประเดี๋ยว เพียงเขี้ยวโผล่ โอ้โหเห็น
เกิดหวั่นไหว รึไรเล่า เจ้าผ่องเพ็ญ
นี้ก็เย็น รอค่ำก่อน...อย่าร้อนลา
ยายได้ยิน กระโดดถีบ หนีบผ้านุง
อย่ามายุ่ง...กะฉันนะ ไอ้แก่กล้า
ตัณหากลับ จะจับเจือน ให้เหมือนปลา
อ้าวยายบ้า มาจุ๊บฉัน มันยังไง
เออ...ก็ฉัน เห็นตามแก แถไปเรื่อย
คิดเรื่อยเปื่อย เลยเผลอตัว จูบเข้าให้
บ๊ะ..ว่าแล้ว แกก็คิด...ผิดประไร
คิดใช่ไหม...ว่าฉันคล้าย ใช่ผู้แทน
ยาย.....โถ...ตาแก่...แกชื่อเทิด บรรเจิดศรี
แกมีดี...แต่น้อยนิด...อย่าคิดแสน
ตา... .เออ...รู้แหละ ไม่เป็นแหละ ผู้ทงแทน
งั้นเป็นแตน...ต่อยพรรคน้อย...หน่อยนะยาย
ยาย.... มองตาเขียว...
เออๆๆๆ ขายของๆๆ ไอ้แก่บ้า แอบยิ้มจิ๊ดๆ...อิอิ
ต่ะแล่ม ๆๆๆ...
6 มิถุนายน 2554 07:16 น.
KIRATI
อยากโยนคำตำส้มต้มยี่หรา
ปรุงน้ำตาเติมตาลพอหวานหอม
เคล้าด้วยพริกจิกเม็ดเพียงเผ็ดกรอม
ปลอกเปลือกหอมหั่นเนื้อเถือย่างไฟ
โขกอารมณ์ต้มซุปยุบพองหนอ
หั่นความหล่อบดป่นคนให้ใส
สลัดรักหักเท็จเด็ดช้ำใจ
ใส่ลงไปกรองผ้าหาชามรอ
แล้วตักตรมต้มซุปสุกพอห่าม
แยกอีกชามตระเตรียมเจียมอกท้อ
ปุดเดือดพล่านหว่างเว้นเค้นคำยอ
เทใส่หม้อพรวดพุ่งปรุงน้ำมัน
แบกความหมองมองหาภาชนะ
พอวันพระต้มแพะแกะเย้ยหยัน
หยิ่งไหลเยิ้มเติมเหงาเคล้าเข้ากัน
โกรธเกลียดปั่นปรุงเด็ดเสร็จพอดี
แล้วตักเสิร์ฟคนกินให้สิ้นบท
เผื่อจะงด...บทบาทปราศวิถี
กลับเป็นเด็กเล็กก่อนตอนสุขมี
โลกสุขี...เรื่องดีที่ลดลง
"ใจ"ตัวเดียวเหนี่ยวไกให้เกิดอยาก
ความลำบากกระจายจากความหลง-
-ใหลร้อยเรื่องเปลืองใจไร้มั่นคง
ต้องกิน ปลง ซุปห่วย...ช่วยปรับทาง
ภาวนา...หาค่า...ชนะจิต
บรรลุสิทธิ์...รู้ทิศ..ที่รุ่งสาง
เสพสุขสมสุขศรีมีปล่อยวาง
รู้โลกกว้าง...ที่สุดคือจุดเดียว....
จุดเล็กๆ...ที่เห็น....บนรอยทางแห่งชีวิต...
"ชีวิต...ก็เหมือน...การทำกับข้าว...
โตมา...ทำไม่อร่อย...บางทีก็ทิ้ง....
ตอน...เล็ก...ๆ...
ต้มโน้นนี่นั้น...ทั้งดิน กิ่งไม้...ใบหญ้า...
กินไม่ได้...ก็ดันทะลึ่งอยากจะชิม...."
อยู่ที่ ใจ....จริงๆ...^_^